ขำขัน : ไม่อยากไป ร.ร.
สายภมร กำลังเตรียมอาหารเช้าอยู่ในครัว
เธอได้ยินเสียงเด็กส่งหนังสือพิมพ์โยนหนังสือพิมพ์เข้ามาในบ้าน
เช่นทุกเช้า เธอยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลา
มันเป็นเวลาประมาณเจ็ดโมงเช้าแล้ว เธอต้องรีบทิ้งงานในครัว
แล้วรีบกระวีกระวาดขึ้นไปปลุกบุญนทีลูกชายหัวแก้วหัวแหวนให้ตื่นนอน
เพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียน
สายภมร : ตื่นได้แล้วลูก เช้านี้ลูกต้องไปโรงเรียน เดี๋ยวมันจะสายนะ
บุญนที : ตอนนี้กี่โมงแล้วครับ ?
สายภมร : ตอนนี้เจ็ดโมงกว่าแล้ว มันสายมากแล้วลูก ลูกต้องรีบหน่อย
บุญนที : ผมไม่อยากไปโรงเรียนเลยครับ แม่
สายภมร : อ้าว ลูกจะไม่ไปโรงเรียนได้อย่างไรกัน ?
ไหน ลูกลองบอกเหตุผลกับแม่หน่อยซิว่าทำไมลูกจึงไม่
อยากไปโรงเรียน ?
บุญนที : ก็พวกนักเรียนมันพากันเกลียดผม บรรดาครูทั้งหลายก็ไม่ชอบผมด้วยเช่นกัน
สายภมร : โอ้ย นั่นมันเรื่องเล็กน้อย อย่างไรเสียลูกก็ต้องไปโรงเรียน
บุญทวั : ไหน แม่ลองบอกเหตุผลซิว่า ทำไมผมจึงต้องไปโรงเรียนล่ะครับ แม่ ?
สายภมร : ที่แม่บอกว่าลูกจะต้องไปโรงเรียนก็เพราะ
ประการที่หนึ่งลูกมีอายุตั้ง 51 ปีแล้ว และอีกประการ
หนึ่ง ก็ลูกเป็นครูใหญ่ของโรงเรียนนี้ด้วยนะซี
ขำขัน : เรื่องกล้วยๆ
บุญเผ่ากับบุญสง่า หนุ่มหูหนวกทั้งสองคนชอบมานั่งคุยในสวนสาธารณะของหมู่บ้านเป็นประจำ เขาทั้งสองใช้ภาษามือในการสื่อสารเรื่องชีวิตประจำวัน เรื่องสัพเพเหระอย่างออกรสชาติ
บุญเผ่า : เมื่อคืนผมไปเที่ยวดื่มเหล้าจนเพลินไปหน่อย พอเงยหน้าขึ้นดูนาฬิกาเห็นเป็นเวลาเที่ยงคืน ผมตกใจแทบแย่ คุณก็รู้อยู่แล้วว่าเมียผมดุมาก
บุญสง่า : แล้วคุณทำไง ?
บุญ เผ่า : ผมเหรอ ผมใช้วิชาตีนแมวย่องเข้าบ้าน ผมรู้ว่าเมียผมเข้านอนแล้วจึงได้ค่อยๆคลานขึ้นเตียงอย่างเงียบเชียบที่สุด จนเมียผมไม่รู้สึกตัวเลย ผมหัวถึงหมอนรีบหลับทันที
บุญสง่า : คุณนี้ยอดเยี่ยมมากเลย ส่วนผมน่ะโชคร้ายนิดหน่อย คือว่า...เมื่อสองคืนก่อนผมก็ไปเที่ยวดื่มเหล้าจนเพลินไปเหมือนกัน แต่ผมกลับถึงบ้านตอนตีสอง แย่จริงๆเมียผมนั่งตาถมึงทึงอยู่บนเตียง เขาใช้ภาษามือถามผมว่าไปไหนมา ผมตอบว่าไปดื่มเหล้าที่บาร์บุญขจร
บุญเผ่า : แล้วเธอว่าเชื่อคุณหรือเปล่าล่ะ ?
บุญ สง่า : เชื่อสิ แต่ว่าเธอก็ยังตั้งหน้าตั้งตาด่าผมอย่างสาดเสียเทเสียอยู่ดี ผมรำคาญมาก ผมบอกให้เขาหยุดเสียทีเพราะมันดึกมากแล้ว บอกอย่างไรเธอก็ไม่ยอมหยุดจนผมเหนื่อยใจ
บุญเผ่า : โธ่เอ๊ย....ของกล้วยๆ
บุญสง่า : กล้วยอย่างไรไหนบอกซิ
บุญเผ่า : คุณดับไฟเสียก็สิ้นเรื่อง การสนทนาก็จะจบไปเอง
ขำขัน : พึ่งนึกออก
บุญ ผาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเนื่องจากได้รับอุบัติเหตุบาดเจ็บที่ ขาข้างขวา จากการตรวจของหมอพบว่าขาของเขาหัก จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างถูกต้องหมอจึงต้องการทราบสาเหตุข องการบาดเจ็บ
หมอ : มันเกิดอะไรขึ้นกับขาของคุณ ?
บุญผา : คือว่า... เมื่อ ยี่สิบปีที่แล้ว...
หมอ : เรื่องที่ผ่านไปแล้วอย่าสนใจเลย เอาเป็นว่าที่ขาหักนี้เพราะอะไร ?
บุญผา : ก็มันเกี่ยวกับเรื่องเมื่อยี่สิบปีที่แล้วครับ ตอนนั้นผมเพิ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัยแล้วไปสมัครงานในฟาร์มแห่งหนึ่ง ผมต้องกินอยู่ในฟาร์มกับเจ้าของฟาร์ม ในคืนวันแรก ลูกสาวคนสวยของเจ้าของฟาร์มได้เข้ามาหาผมถึงที่ห้องนอน
เธอถามผมว่า " คุณต้องการอะไรไหม? "
ผมตอบเธอว่า " ไม่ครับ ขอบคุณ "
เธอถามผมว่า " คุณแน่ใจหรือ "
ผมตอบไปว่า " ผมแน่ใจ "
เธอถามผมอีกว่า " มีอะไรที่ฉันจะทำให้คุณได้บ้างไหม? "
ผมตอบว่า " ไม่มีครับ ขอบคุณ "
หมอ : เฮ้ย ไม่เห็นมันจะเกี่ยวกับเรื่องที่คุณขาหักเลยนี่
บุญผา : เกี่ยวซิครับ พอดีเมื่อเช้านี้ผมปีนขึ้นไปซ่อมเสาอากาศบนหลังคาบ้านของผม ผม คิดถึงเรื่องนี้พอดี โธ่เอ๊ยผมเพิ่งคิดออกว่าผมนี้โง่จริงๆ ผมเลยเอามือข้างหนึ่งมาเขกหัวตัวเอง มืออีกข้างหนึ่งหลุดจากการจับเสาผมเลยตกลงมาจากบนหลังคาทำให้ผมขาหักครับ
ขำขัน : รถผม
บุญเขตเข้าไปซื้อกับข้าวที่ห้างโลตัส
หลังจากชำระเงินแล้วเขาต้องหิ้วข้าวของพะรุงพะรังไปยังรถยนต์ที ่จอด
อยู่ลานจอดรถ ขณะที่เดินผ่านช่องแคบๆระหว่างรถสองคันที่จอดอยู่
บังเอิญถุงข้าวของไปสะกิดถูกด้านข้าง
ของรถคันหนึ่งซึ่งมีชายหนุ่มและหญิงสาวกำลังนั่งจู๋จี๋กันอยู่พอดี
ชายหนุ่มอยากโชว์ออฟให้แฟนสาวได้เห็น
จึงเปิดประตูรถลงมาดูร่องรอย
บุญเขต : ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะให้ถุงข้าวของไปโดนรถคุณ อย่างไรก็ตามผมไม่เห็นมีอะไรเสียหาย
ชายหนุ่ม : ไม่เสียหายให้เห็นก็จริง แต่มันเสียความรู้สึก
บุญเขต : ก็ผมขอโทษแล้วไง
ชายหนุ่ม : ขอโทษไม่พอหรอก
บุญเขต : งั้นถ้ามันจะทำให้คุณสบายใจขึ้นได้แล้วละก็ ผมให้คุณไปเตะรถผมคืนก็แล้วกัน นั่นรถผม !
บุญเขตพาชายหนุ่มเดินไปที่รถปิ๊กอัพคันหนึ่งที่จอดอยู่ในล็อกถัดไป ชายหนุ่มจัดการเตะรถปิ๊กอัพด้วยความเมามัน
สักครู่ต่อมา มีหนุ่มใหญ่คนหนึ่งเดินเข้ามาหาชายหนุ่ม
หนุ่มใหญ่ : คุณมาเตะรถผมทำไม ?
ชายหนุ่ม : อ้าว รถคุณเหรอ เมื่อสักครู่ผู้ชายคนนี้......
พอเขาหันไปหาบุญเขต ปรากฏเขาไม่เห็นบุญเขตเสียแล้ว แต่เขาเห็นรถโตโยต้าเก่าๆคันหนึ่งซี่งเมื่อสักครู่จอดแถวนั้นขับออกไปอย่างรวดเร็ว
ขำขัน :หูตึง
ชายชราคนหนึ่งเกิดมีความสงสัยว่า
ภรรยาของเขานั้นหูตึงหรือไม่
ดังนั้น คืนวันหนึ่ง เขาก็ลองทดสอบดู
โดยการแอบเข้าไปยืนอยู่ห่างๆ ข้างหลังเธอ
ขณะที่เธอนั้นนั่งสบายอารมณ์อยู่บนเก้าอี้
ชายชราถามเธอเบาๆ :: "ที่รัก เธอได้ยินฉันมั้ยจ๊ะ?"
เขาไม่ได้ยินเสียงตอบรับใดๆ
ชายชราขยับเข้าไปใกล้อีกนิด แล้วถามอีกครั้ง :: "ที่รัก เธอได้ยินฉันมั้ยจ๊ะ?"
เขาก็ยังคงไม่ได้ยินเสียงตอบรับใดๆ
ชายชราก็เลยขยับเข้าประชิด แล้วถามอีกครั้ง :: "ที่รัก เธอได้ยินฉันมั้ยจ๊ะ?"
ภรรยา :: "ฉันตอบเป็นครั้งที่สามว่า "ได้ยินจ้า" "
