ต่อไป »

[sexgenius]

แบบว่าผมพึ่งหัดทำ เว็บขายของครับ ตอนนี้ผมศึกษา joomla ecom ครับ ผมมีปัญหาบ้างอะไรบ้าง ผมก็ยังพยายามซื้อหนังสือเพื่อที่จะศึกษามันต่อ ผมอ่านจากในเวปนี้ทุกคนให้กำลังใจกันดีมากเลยครับ ทำให้ผมไม่ท้อ ตอนนี้ผมคิดว่าจะลองเสียตังหาเว็บสำเร็จรูปลองทำก่อน ผมจะ ขายของมือสอง แบบว่าผมทำให้ น้าที่บ้านครับ เขาขายของมือสอง เช่นเสื้อผ้าเด็กมือสอง มือสองในที่นี้ เป็นแบบว่า เป็นป้ายลิขสิทธิ์ แบบยีน หรือ พวก ลาครอส ผมไม่สามารถที่จะตั้งเป็นของใหม่ได้แล้ว ก็มีเสื้อพวก กระดุมมุขของเด็ก เสื้อคลุมหมี อะไรประมาณ นั้น ผมไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดี ทำเว็บเองก็มีปัญหาหลายอย่าง แบบว่า seo เนี่ยผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย ผมเคยเข้าหาอ่านหลายที ผมก็ไม่เข้าใจเลย หรือผมไม่ได้ศึกษามันจริงจังก็ไม่รู้ seo เนี่ยถ้าเราไม่ทำคนก็ไม่รู้จักเว็บเราเลยเหรอครับ  แล้วที่คนอื่น บอกว่าลง ประกาศกัน เขาลงที่ไหนครับ ผมก็อยากรู้ แบบพี่คนนี้อ่ะ ครับเขาบอกว่า

พอดีคุณพ่อของผมขายสินค้าตัวนึงอยู่นะครับ แล้วผมก็ทำเวบเกี่ยวกับสินค้าตัวนี้ให้พ่อ แล้วก็ไปโฟสถามขายของนะครับ โพสทุกวันเลย ที่ผ่านมาก็หลายเดือนแล้วครับ มีคนโทรมาน้อยมากๆๆ แต่ก็ขายได้สัก 4-5 รายแล้วอะครับ
อยากถามว่าสาเหตุที่ คนสนใจน้อยเพราะอะไรครับ

1.ความน่าเชื่อถือของเวบรึป่าว ถ้าทำหน้านี้เวบให้ดีกว่านี้คงมีความเชื่อถือมากกว่านี้
2.ลงประกาศน้อยไปรึป่าว (แต่ผมคิดว่าผมลงบ่อยแล้วนะมากๆด้วยครับ
3. --------------ผมไม่รุ้แล้วครับ รู้แต่ว่าตอนนี้ท้อมากๆๆ

คนเข้าเวบก็สัก 20-30 คนต่อวันเอง ตอนนี้กะทำ seo แต่ตอนนี้ท้อครับ หมดแรง ไม่มีกำลังใจเลย

อยากถามพี่ๆๆครับว่า เคยเป็นแบบนี้บ้างไหมครับ แก้ปัญหายังไงบ้าง

 
 
 ของคนเนี่ย ตรงที่บอกว่าลงประกาศน้อยไปรึป่าว  อยากรู้ว่าเขาประกาศยังไงประมาณไหน ผมจะได้พอไปเป็นความรู้ติดตัวครับ ผมจะเริ่มทำจริงจัง แต่ยังเริ่มต้นไม่ถูก ตอนนี้ ข้อ มูลในการขายของ พร้อม ผมก็เหลือ แต่โฆษณา  ที่ผมงง แต่ถ้าผมไปทำตามเว็บ welove tarad  KeepMarket เขาจะโฆษณาเว็บให้ผมหรือเปล่า ผมอยากรู้ แบบบางเว็บบอกว่า

Search Engine Optimization
100% Search Engine Friendly
Google Site Map
URL Rewrites give full control of URL's
Meta-information for products and categories
Support Site Map
Suport Keyword, Title and Description

 แบบนี้เขาช่วยเราโฆษณาเปล่าครับ แบบว่าตอนนี้ผมเป็นทหารอยู่ ผมเลยพอมีเวลาที่จะศึกษาอยู่ตลอด (นักเรียนจ่าที่สอบต่อจากพลทหาร) ขอรบกวนผู้รู้ด้วยครับ ขอคำปรึกษาครับ

[siamjung]

เห็นที่เขาทำเว็บขายของกัน จริงๆก็ไม่จำเป็นต้องเน้น SEO เป็นหลักก็ได้นี่ครับ ถ้าเน้นได้ก็ลดต้นทุนค่าโฆษณาเว็บเราไปได้ แต่จะทำ seo ก็ต้องใช้เวลาอีกนั่นแหละครับ แต่ถ้ามันเข้าที่ก็จะมีผลดีคือได้ traffic มาเรื่อยๆโดยที่เราไม่ต้องเหนื่อยโปรโมทหรือลงโฆษณาให้เสียเงินครับ

ส่วนที่เขาประกาศขายของกัน ผมเข้าใจว่าอาจจะหมายถึงไปโพสต์ตามเว็บ sanook classified , pantipmarket หรืออื่นๆที่เขาให้ลงประกาศขายของฟรี ซึ่งเราก็อาจโพสต์ขายของแล้วพ่วง url เว็บเป็นการแนะนำไปด้วย ซึ่งบางคนก็ขายได้นะครับ แต่ในแต่ละวันเราต้องเหนื่อย ต้องขยันโพสต์ซักหน่อย เพราะถ้าไม่โพสต์ให้เป็นเวลาอย่างเหมาะสม ข้อความโฆษณาสินค้าที่เราโพสต์ขาย(แบบฟรี) มันก็จะเลื่อนลงๆและอาจจะไปอยู่ page หลังๆ

แต่ถ้าทำ seo ได้ ก็คุ้มค่าในระยะยาวครับ ลองศึกษา seo อย่างจริงๆจังๆเสริมดูก็ดีครับ

[sexgenius]

เห็นที่เขาทำเว็บขายของกัน จริงๆก็ไม่จำเป็นต้องเน้น SEO เป็นหลักก็ได้นี่ครับ ถ้าเน้นได้ก็ลดต้นทุนค่าโฆษณาเว็บเราไปได้ แต่จะทำ seo ก็ต้องใช้เวลาอีกนั่นแหละครับ แต่ถ้ามันเข้าที่ก็จะมีผลดีคือได้ traffic มาเรื่อยๆโดยที่เราไม่ต้องเหนื่อยโปรโมทหรือลงโฆษณาให้เสียเงินครับ

ส่วนที่เขาประกาศขายของกัน ผมเข้าใจว่าอาจจะหมายถึงไปโพสต์ตามเว็บ sanook classified , pantipmarket หรืออื่นๆที่เขาให้ลงประกาศขายของฟรี ซึ่งเราก็อาจโพสต์ขายของแล้วพ่วง url เว็บเป็นการแนะนำไปด้วย ซึ่งบางคนก็ขายได้นะครับ แต่ในแต่ละวันเราต้องเหนื่อย ต้องขยันโพสต์ซักหน่อย เพราะถ้าไม่โพสต์ให้เป็นเวลาอย่างเหมาะสม ข้อความโฆษณาสินค้าที่เราโพสต์ขาย(แบบฟรี) มันก็จะเลื่อนลงๆและอาจจะไปอยู่ page หลังๆ

แต่ถ้าทำ seo ได้ ก็คุ้มค่าในระยะยาวครับ ลองศึกษา seo อย่างจริงๆจังๆเสริมดูก็ดีครับ

ขอขอบคุณครับกับ คำตอบที่มีให้ผมครับ และจัป็นประโยชน์กับคนที่เป็นแบบผมเหมือนกัน

[dognet]

ครับ มีประโยชน์กะคนอ่าน กำลังอยากทำ e shop พอดี

[PositiveThinking]

ถ้าทำให้คนเข้าได้วันละ 20-30 คน ถือว่าโอเคนะ ลองคิดดูนะครับ

สมมุติเราเปิดร้าน แล้วที่ร้านมีคนเข้าวันละ 20 - 30 คน ผมว่าเยอะนะ
แต่เข้ามาแล้วไม่ซื้อของเนี่ย ผมว่าคงไม่ต้องให้บอกนะว่าต้องแก้ไขอะไร
สินค้าเราน่าสนใจขนาดไหน
ถ้ามันเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้สินค้านั้นก็ ก็เพิ่มมูลค่ามันซะ

ส่วนเรื่องของคุณ จขกท จะเอาเห็นผลเลย ผมแนะนำให้โพสเว็บบอร์ดก่อนเบื้องต้น
แต่คำที่ใช้ควรคิดก่อน นึกถ้าเราเป็นลูกค้าจะหาซื้อสินค้านั้น เราเห็นเขียนว่าอะไร
เราถึงจะตัดสินใจซื้อ ถ้าคิดให้ดีนำไปใช้ ได้ลูกค้าแน่นอนครับ ผมทำมาแล้ว

[EThaiZone]

ของคนเนี่ย ตรงที่บอกว่าลงประกาศน้อยไปรึป่าว  อยากรู้ว่าเขาประกาศยังไงประมาณไหน ผมจะได้พอไปเป็นความรู้ติดตัวครับ ผมจะเริ่มทำจริงจัง แต่ยังเริ่มต้นไม่ถูก ตอนนี้ ข้อ มูลในการขายของ พร้อม ผมก็เหลือ แต่โฆษณา  ที่ผมงง แต่ถ้าผมไปทำตามเว็บ welove tarad  KeepMarket เขาจะโฆษณาเว็บให้ผมหรือเปล่า ผมอยากรู้ แบบบางเว็บบอกว่า

Search Engine Optimization
100% Search Engine Friendly
Google Site Map
URL Rewrites give full control of URL's
Meta-information for products and categories
Support Site Map
Suport Keyword, Title and Description

 แบบนี้เขาช่วยเราโฆษณาเปล่าครับ แบบว่าตอนนี้ผมเป็นทหารอยู่ ผมเลยพอมีเวลาที่จะศึกษาอยู่ตลอด (นักเรียนจ่าที่สอบต่อจากพลทหาร) ขอรบกวนผู้รู้ด้วยครับ ขอคำปรึกษาครับ

ตอบตรงนี้ก่อนนะครับ การทำ SEO แบ่งออกเป็นสองทาง
On page factor กับ Off page factor

On page factor หมายถึงส่วน html และข้อมูลต่างๆ โครงสร้าง link
พูดง่ายๆ คือปัจจัยที่อยู่บนหน้าเว็บและระบบเว็บเราที่เราเป็นเจ้าของเอง และแก้ไขได้ 100%
ซึ่งหลักก็คือการ optimize html และจัดโครงสร้างลิงค์ให้เป็นไปตามหลักที่ควรจะเป็น
โดยพวกนี้ กับเว็บที่บอกว่ามีการทำ SEO ให้อย่างที่คนยกตัวอย่างมา
นั้นแหละครับ เขาจะจัดการเรื่อง On page factor ให้อยู่แล้ว

ส่วน Off page factor นี้แหละครับ คือสิ่งที่คุณต้องทำเพิ่ม
โดยจะเกี่ยวกับปัจจัยภายนอกที่คุณต้องหามาเสริมเว็บคุณเอง
ซึ่งปัจจัยพวกนี้จะคาบเกี่ยวกับเว็บไซต์อื่นด้วย ซึ่งเจ้าของเว็บนั้นอาจไม่พอใจในบางกรณีก็มี
ปัจจัยพวกนี้ก็เช่น การหาลิงค์กลับมายังเว็บเรา backlink เช่นจากการไปโพสตามเว็บบอร์ด
แปะเข้าเว็บไดเรกทอรี่ ขอแลกเปลี่ยนแบนเนอร์ การซื้อตำแหน่งโฆษณา
และถ้าในขั้นสูง อาจมีการทำ link network ซึ่งผมไม่ขอพูดถึง (แค่นี้ก็ยาวล่ะ ^^")

ดังนั้น ถ้าเห็นเว็บไหนที่มีบอกเรื่องว่าจัดการ SEO ให้แล้ว นั้นหมายถึงในเรื่อง On page
ซึ่งเขาจัดการให้บางส่วนแล้ว และที่เราทำได้เพิ่ม ก็อาจเช่น
อาจเล่น <b> กับลิงค์สำคัญที่เราใส่ได้เพิ่ม เพื่อเน้นกับ SE ว่านี้เป็นลิงค์สำคัญ

อะไรประมาณนั้นครับ

[pugkung]

^
^
 
อะไรที่อยู่ในลายเซ็นคุณโจ้ อะ 

เอ่อแนะนำอีกนิดนะครับ ถ้าเรื่องเว็บนี้ ผมแนะนำพวก welove หรือ tarad น่าจะ work กว่าในช่วงแรก ๆ นะครับ

หรืออาจดีกว่า ทำ ecom เองก็ได้ เพราะส่วนมา ระบบพวกนี้มันจะคล้าย ๆ กัน แถมเรายังมีโอกาสได้ BlankLink จาก โดเมนที่มี Pr สูง ๆ อีกด้วย

ให้ลอง จินตนาการนะครับ ถ้าเราได้ไปขายของ บน TheMall กับ เปิดร้านขายเป็นของตัวเอง อาจเปิดที่บ้านหรือ เช่าตึกเปิด (เช่า Host)

แน่นอนว่าทั้งสอง อย่างนี้ มีข้อดีข้อเสียต่างกัน ทราฟฟิกจาก TheMall ก็น่าจะเยอะกว่าแต่ คุณภาพของ ทราฟฟิก อาจไม่สู้ เปิดร้านเอง

ก็ลองพิจารณาดูนะครับว่ายังไง

แต่ถ้าเป็นผม ผมเปิดกับ พวกนี้ครับ ระบบมันก็โอเคดี มีหลาย ๆ อย่าง ลงทุนไม่มากอย่างที่คิด 

[EThaiZone]

^
^
 
อะไรที่อยู่ในลายเซ็นคุณโจ้ อะ 

ไม่บอก วันนี้นั่งขุดโค้ดเก่าที่เคยเขียน แล้วดันเจอช่วงที่ของขึ้่นพักหนึ่ง
ผมลบเลขออกหมดแล้ว ก็ดูขำๆ ละกัน 

ปล. อย่างที่คุณ pugkung  พูดเลย การใช้พวกเว็บ welove หรือ tarad นี้
ต่อให้เป็นซัพโดเมนอย่างเรา เราก็ได้อานิสงค์ไปด้วย เครดิตเว็บจะไม่เริ่มจาก 0 เหมือนจดโดเมนใหม่

[TBZS]

งั้นต้องค่อยเป็นค่อยไปครับ

แนะนำให้ศึกษา seo ไปพร้อมกับ joomla เลย

ให้ได้เว้บมาก่อน แล้วค่อยคิดเรื่องโปรโมท


ที่ลืมไม่ได้คือ วิธีีขายของเราก็สำคัญมาก

ถึงคนเข้ามาเยอะ แต่เค้าอาจไม่ตัดสินใจซื้อก็ได้

เพราะเว็บคุณใช้ยากไม๊

 อยากทราบเงื่อนไข วิธีการต่างๆ ก็ง่ายไม่  งง ใช่ไม๊

ออกแบบได้ดี น่าเชื่อถือป่าว สินค้า ราคา ตลาดเป้นไง

[From Zero To Hero]

ขอมองออกเป็นสองส่วนดังนี้นะครับ

1.มองในตัวธุรกิจก่อน ว่าเราขายอะไร ต้นทุนเราคุมได้ไหม เนื่องจากว่าการทำหน้าร้านบนเน็ต ต้นทุนส่วนมากจะไปตกอยู่ตรงค่าขนส่งสินค้ามากกว่า (ไม่รวมการซื้อแบนเนอร์โฆษณา) นอกจากนี้ยังมีเรื่องความแตกต่าง ในส่วนของความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ เช่น ทำเว็บไซต์เองได้ กับทำเว็บไซต์เองไม่ได้ ต้องจ้างทำ ซึ่งเป็นต้นทุนของการทำธุรกิจเหมือนกันครับ ดังนั้นหากมองภาพรวมจะคำนวณคร่าวได้ว่า ต้นทุนต่อสินค้า 1 ชิ้นของเราจะแข่งขันกับผู้ที่ทำธุรกิจกลุ่มเดียวกันได้หรือไม่

2. ที่นี้พอเราเห็นภาพรวมได้แล้ว เราจึงจำเป็นต้องทำการตลาดบนอินเตอร์เน็ต รวมถึง SEO เพื่อ !!
   - เพื่อสร้างความรู้จัก ในชื่อยี่ห้อเว็บไซต์ของเรา เพิ่มโอกาสการเข้ามาเยี่ยมชม
   - เพื่อเกาะติดไปกับคู่แข่งในธุรกิจเดียวกันกับเรา คือ คู่แข่งเราไปโผล่ที่ไหน เราก็พยายามไปโผล่ที่เดียวกับเขา ตัวอย่างเช่น เว็บโปรโมทสินค้าฟรี เว็บบอร์ด เว็บไดเร็กทอรี
   - เพื่อเข้าไปอยู่ในกลุ่มคนที่มีความสนใจในสินค้าของเรา เช่น ถ้าเราปั่น เมาท์เทนไบค์ เวลาเราไปโพสต์ในเว็บบอร์ดของเมาท์เทนไบค์ โอกาสที่คนที่่มีความต้องการซื้อสินค้าของเราก็มีมากกว่า นอกจากนี้เรายังมีความเชี่ยวชาญในตัวสินค้าของเรา ที่สามารถอธิบายเป็นภาษาเดียวกันกับคนขี่เมาท์เทนไบค์ ก็จะทำให้ซื้อใจลูกค้าได้ง่าย ทำให้มี royalty เกิดขึ้นกับเว็บเรา เพื่อทำให้เกิดการซื้อซ้ำ
   - ภาษาที่ใช้ในการโปรโมทเว็บ ก็ต้องคิดหลายชั้นหน่อยนะครับ เนื่องจากว่าหากสินค้าเราเป็นสินค้ากลุ่มแบรนด์เนม หรือพวกผู้ดีหน่อย ก็จะต้องใช้ภาษาหรือคีร์เวอร์ดที่นอกจากโดนแล้ว ยังทำให้รู้สึกดีด้วย
   - นอกจากนี้ สินค้าบางอย่าง อาจเกี่ยวข้องกับ หน้าตาเว็บไซต์ ไม่ใช่ว่า มีบล็อกซ้าย บล็อกขวา มีตรงกลาง แล้วใส่สินค้าขายได้เลย แบบ shopping cart ทั่วไป ซึ่งบางอย่างอาจขายได้ บางอย่างอาจไม่มีคนซื้อ เพราะเ็ว็บหน้าตาไม่ดี รวมถึงการตั้งราคาก็เกี่ยวพันกับดีไซน์หน้าตาเว็บไซต์ด้วยครับ อย่าลืมว่า การแข่งขันกันขายของถูกหรือต่ำกว่าต้นทุน ยิ่งไม่มีอนาคต สักวันก็ต้องเลิก
   - ในระยะแรก โดยความคิดเห็นส่วนตัว ผมเสนอว่า ควรทำเว็บสองเว็บควบคู่กันไป คือ เว็บแรกอาจใช้เว็บสำเร็จรูป เช่น พวก tarad หรือ welove เพื่อเกาะกระแสคนเข้าเว็บสักหน่อย ในขณะเดียวกัน ก็พัฒนาเว็บของตัวเองควบคู่กันไปด้วย เพื่อสร้างแบรนด์ของตัวเอง เพราะตรงนี้จะสะดวกกว่าเว็บสำเร็จรูป หากในอนาคตเราต้องการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ หน้าตากราฟิก หรือเพิ่มตัวโปรแกรมอื่น ๆ เข้าไป
    - สำหรับ ecommerce ที่ผมแนะนำ ขอเป็น joomla vietuemart ครับ มีตัว support SEO แล้วสามารถปรับเปลี่ยนตีมได้ง่าย นอกจากนี้เราสามารถสร้างฟอร์มรับออร์เดอร์ได้ด้วย ตอบโจทย์ one stop service ได้เลยครับ
    - การทำการตลาดบนอินเตอร์เน็ต รวมถึง SEO อาจไม่ต้องตากแดด ตากฝน ก็จริง แต่ อัลกอริทึม หรือปัจจัยทางการตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้เสมอ มีทั้งอุปสรรค และโอกาส แต่การที่เรากล้าเริ่มต้น กล้าทำในสิ่งที่เราเชื่อว่าจะประสบความสำเร็จ อย่างน้อย เราก็เหนื่อยน้อยกว่า การไม่เชื่อว่าทำแล้วจะได้อะไร โดยเฉพาะ SEO การที่จะประสบความสำเร็จได้ มีวิธีเดียวคือ learning by doing เท่านั้น

    - ข้อสุดท้าย สำหรับการที่เราพบว่า มีลูกค้าเข้าเว็บน้อยนั้น มันอยู่กับว่าเราทำธุรกิจอะไร เศรษฐกิจช่วงนี้เป็นอย่างไร บางทีเข้า 20 -30 คน แต่ซื้อ 8 คน ก็ยังดีกว่าเข้าเป็นร้อย แล้ว ไม่ซื้อเลย
    - อีกเรื่องก็คือ อาจจะไปจดทะเบียนพานิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เืพื่อบ่งชี้ตัวตนของเรา จะได้เพิ่มความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้นโยบายการขาย การรับคืนสินค้า หรือการชำระเงิน ก็ต้องประักาศให้ชัดเจนในเว็บไปเลยนะครับ

ผมขอแนะนำเท่าที่ผมเจอมานะครับ ผมก็ได้อะไร ๆ จากที่นี่แหละครับ