Positioning Magazine ธันวาคม 2551
หมอนิด “กิจจา ทวีกุลกิจ” โหรชื่อดังที่ทำนายชะตาของบ้านเมืองปี 2552 ว่าเป็นปี “วัวบ้า” ดิถีบน และดิถีล่างอยู่ในธาตุดิน เศรษฐกิจย่อยยับ จากปีหน้าลากยาวถึงปี 2553 ผลพวงจากการเมืองในปี 2551
เศรษฐกิจย่อยยับ
ถ้าปี 2550 เป็นปีที่เรียกว่าเศรษฐกิจ “ย่ำแย่” ปี 51 ยับเยิน ปี 52 ต้องเรียกว่า “ย่อยยับ”เหมือนกับว่า ในปี 2550 เผาหลอก ปี 2551 เผาจริง ปี 2552 เก็บกระดูกลอยอังคาร
หมอนิด ฟันธงว่า ผู้ที่จะแก้วิกฤตของบ้านเมืองในปี 2552 ก็คือทหาร แต่เมื่อทหารยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เนื่องจาก “ทหารมีกำลังอยู่สองฝ่าย ฝ่ายทักษิณก็มีกำลังเขาอยู่ ตอนนี้กำลังหยั่งเชิงกันอยู่
แต่สุดท้ายแล้วระบอบทักษิณไม่เพียงแต่ไม่สมหวังที่จะกลับมายิ่งใหญ่ ท้ายที่สุดแล้วทักษิณทำอะไรไม่สำเร็จ
ส่วนวิกฤตการเมืองจะยุติโดยเร็ว ถ้าไม่ก่อนวันที่ 5 ธันวาคม 2551 ก็ต้องหลังวันที่ 5 ธันวาคมไป เพราะต้องมีงานพระราชพิธี งานมงคล ถ้าไม่จบก่อนวันที่ 2-3 ธันวาคม ก็ต้องเลยงานวันพ่อไปก่อน
วิกฤตการเมืองล่าสุด (ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2551) ถือว่าเป็นเกมวัดดวง เพราะ “เขา” ไม่มีอะไรจะเสีย และสงครามประชาชนยังไม่จบ ยังจะต้องมีอยู่ตลอด เหมือนกับกีฬาแพ้ คนดูคนเชียร์ไม่ยอมแพ้
มีนายกฯ คนกลางแน่ อักษรย่อ “พ”
สิ่งหนึ่งที่หมอนิดเชื่อมั่นก็คือ ในปี 2552 จะต้องมีผู้นำเป็นนายกรัฐมนตรีคนกลางขึ้นมา จะไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ 2552 นายกรัฐมนตรีที่มานั้นต้องเป็นคนกลาง โดยไม่ได้มาจากพรรคการเมืองไหน ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคเพื่อไทย ซึ่งตั้งขึ้นใหม่ก็ยังไม่ได้
นายกฯ คนใหม่นี้จะมีอักษรย่อ “พ” นำหน้า เป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิง
“ถึงแม้ว่าจะมีการวางตัวบางคนให้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อสนับสนุนให้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วก็ตาม หนึ่งในนั้นมีชื่อของ “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ” อยู่ด้วยก็ตาม “มิ่งขวัญเองก็ไม่มีโอกาสก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย”
แต่หลังจากมีผู้นำคนใหม่บ้านเมืองก็ยังไม่สงบทีเดียว เหมือนที่บอกว่า “กีฬาแพ้ คนดูคนเชียร์ไม่ยอมแพ้ จะมีก่อกวนกันไปเรื่อยๆ ผู้นำทั้งสองฝ่ายไม่ว่าจะเป็นฝ่ายพันธมิตรฯ หรือฝ่าย นปช. ระดับแกนนำต้องระวัง จะโดนลอบทำร้าย
ก่อนหน้านี้หมอนิดเคยทำนายว่าในปี 2553 อาจเป็นไปได้ว่าจะมีนายกผู้หญิงที่มีอักษรย่อ “พ” แต่หลังการถอนรากถอนโคนพรรคพลังประชาชนหรือเพื่อไทย ผู้หญิงที่ใช้ชื่อที่มีอักษรย่อ “พ” ก็ไม่สามารถมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้
ทักษิณไม่สมหวัง เสธฯ ด.ไม่รอดแน่
“ทักษิณไม่มีทางสมหวังแน่ เพราะเขาลงมือเร็วเกินไป คิดการเร็วเกินไป เขาไม่เชื่อคนอื่น เขามั่นใจตัวเอง และจากคนยุยงเขา เพราะทุกคนต้องการเงินจากเขา ทำให้เขาโดนหลอก”
ส่วนเสธฯ ด.ที่รับงานยิงเอเอสทีวี ก็ไปไม่รอด เพราะดวงของเขาปิด
“งานนี้ทหารต้องออกมา แต่ตอนนี้ออกบุ่มบ่ามไม่ได้ คุณต้องเข้าใจ เขาก็มีดี เขาไม่มีดีเขาไม่กล้าเล่นเกมวัดดวง ทีนี้คนของเราช้า มันก็เป็นวิบากกรรมของประเทศ”
ปัญหาส่วนหนึ่งมาจากข้าราชการหน่วยที่เกี่ยวข้องทำงานช้า นับตั้งแต่ กกต. ขึ้นมา มาถึงอัยการสูงสุด มาถึงศาล ที่ปล่อยให้ประชาชนตายก่อน ทางออกประเทศไทยต้องการวิ่งแบบสี่คูณร้อย
“ผมเขียนแนะนำมาตลอดต้องร่วมมือกัน กกต. ส่งสำนวนเสร็จ มาให้อัยการ ไม่ต้องไปดึงเรื่อง ให้รีบส่งศาลเพื่อให้ยุติ แต่ไม่มีใครทำ”
อุตฯ รถยนต์-สิ่งทอ-ส่งออกพินาศ
ปัญหาที่ตามมาหลังวิกฤตการเมืองก็คือเรื่องเศรษฐกิจ หมอนิดระบุว่า อุตสาหกรรมที่จะมีปัญหาหนักคืออุตสาหกรรมยานยนต์ ในปี 2552 ไม่ว่ารถมือสอง รถมือหนึ่งจะตายหมด รวมถึงธุรกิจส่งออก อุตสาหกรรมสิ่งทอ อุตสาหกรรมเหล็ก จะมีคนตกงานกันระนาว โรงงานจะมีการปิดตัว ปลดคนงาน เจ๊งกันระนาว หนักกว่า ปี 2551
คนระดับรากหญ้าจะอดอยาก ไม่มีจะกิน อาชญากรรมจะพุ่งแรงมาก คนขายตัว เด็ก เยาวชน นักศึกษา จะขายตัวกันเยอะ ยาบ้า ยาเสพติดต่างๆ จะเข้ามาระบาดมาก ปี 2552
น้ำมันขึ้น- ค่าเงินบาทผันผวน
ราคาน้ำมันจะขึ้น แต่ไม่ดุเดือดเหมือนปีที่แล้ว อย่างมาก 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ค่าเงินบาทจะผันผวนมากกว่า ตลาดหุ้นยังตกต่ำถึงขั้นต้องปิดตลาด จะตกต่ำกว่า 10-20 จุด ตกติดต่อกันตั้งแต่เดือนธันวาคม 2551 จนถึงเดือนมกราคม 2552 และหนักที่สุดเดือนกุมภาพันธ์
ใช้เวลาฟื้นอีก 2 ปี
หมอนิดบอกว่า กว่าที่ประเทศไทยจะใช้เวลาฟื้นฟูประเทศ อย่างน้อย 2-3 ปี คนที่มาเป็นรัฐบาลใหม่จะต้องเป็นคนที่สะอาดบริสุทธิ์ และต้องเป็นคนที่หาคณะรัฐมนตรีที่เก่งจริงๆ และเมื่อต้องสะอาด คนเหล่านี้หายาก
“ถือว่าปี 2551 เป็นปีที่วิกฤตสุดสำหรับทางการเมืองไม่ใช่ปี 2552 ถ้าล่าช้าออกไปก็ไม่เกินมกราคม 2552 แต่ปี 2552 เป็นปีวิกฤตเศรษฐกิจ จากนี้ไปมันก็ลากไปแล้วเป็นผลจากปี 2551”
รอดหรือไม่อยู่ที่ทหาร
ประเทศชาติจะรอดหรือไม่ต้องอยู่ที่ทหาร แต่ตอนนี้ทหารแตกเป็นสองกลุ่ม ต้องหาคนที่สามารถประสานทหารทั้งสองฝ่ายนี้ได้ ต้องเป็นผู้มีบารมี
ตรวจสอบคำทำนาย 4 เหตุการณ์แม่นในปี 2551
1. ผู้ที่จะขึ้นมานายกรัฐมนตรีคนใหม่ มีทั้งเฮงและซวย นั่นคือ เฮงที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ซวยที่ได้มาเป็นนายกรัฐมนตรีในยามที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังทรุดตัวอย่างหนัก เป็นเรื่องยากที่กู้ซากเศรษฐกิจให้ฟื้นคืนชีพ ผลสุดท้ายจะถูประชาชนโห่ไล่จนหลงป่า เสียผู้เสียคน และอาจเสื่อมเสียถึงพรรคต้นสังกัด
2. ปี 2551 เศรษฐกิจยิ่งทรุดหนัก มีอาการโคม่ายิ่งกว่าปีที่ผ่านมา เรียกว่าเป็นปีเผาผีจริงก็ว่าได้ นักลงทุนหรือผู้เล่นหุ้นมีโอกาสเจ๊งหมดตัวสูง
3. ธุรกิจโรงงานหลายแห่งยังย่ำแย่ ถึงขั้นปิดโรงงานอีกหลายแห่ง ปลดคนงานอีกจำนวนมาก ด้วยพิษจากค่าเงินบาท และราคาน้ำมันที่ยังผันผวนรุนแรงตลอดเวลา
4. ทักษิณและพจมานต้องเลิกกัน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2551 คนคิดว่าเขาเลิกเพราะการเมือง แต่จริงๆ แล้วคนคู่นี้ ตามดวงอยู่กันไม่ได้ ถึงแม้เข้าสังคมเขาเป็นคนดีรักครอบครัว แต่คู่นี้คุยกันแล้วจะขัดแย้งกัน นี่คือชีวิตคู่ของคู่นี้
อื่นๆ
