การเลือกสีให้กับแต่ละห้องเป็นขั้นตอนสำคัญในการแต่งบ้าน เพราะสีสามารถเปลี่ยนบรรยากาศ ความรู้สึก และทำให้พื้นที่ดูแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง การเลือกสีจึงควรคำนึงถึงปัจจัยหลายด้าน เช่น แสง ขนาดห้อง และสไตล์เฟอร์นิเจอร์
1) ประเมินแสงธรรมชาติและแสงไฟการประเมินปริมาณแสงเป็นขั้นตอนแรกที่ควรทำ
- ห้องที่แสงเข้าเยอะสามารถใช้สีเข้มหรือโทนจัดได้ดี เช่น เทาเข้ม เขียวเข้ม หรือกรมท่า
- ห้องที่แสงน้อยเหมาะกับสีอ่อน เช่น ขาว ครีม หรือพาสเทล เพื่อช่วยให้พื้นที่ดูสว่างขึ้น
ทิศของแสงก็มีผลเช่นกัน
- ห้องหันเหนือ แสงจะออกโทนเย็น ควรเลือกสีที่มีอุณหภูมิอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย
- ห้องหันใต้ แสงอบอุ่น สามารถใช้สีขาว เทา หรือโทนเย็นได้ดี
2) เลือกสีให้สัมพันธ์กับขนาดห้อง- ห้องขนาดเล็กเหมาะกับสีอ่อน เช่น ขาว ครีม เทาอ่อน เพื่อช่วยให้พื้นที่ดูกว้างขึ้น
- ห้องขนาดใหญ่สามารถใช้สีเข้มได้ เช่น น้ำเงินเข้ม เขียวหม่น หรือเทาสเลต ช่วยให้ห้องดูมีมิติ
หากกำลังดูวัสดุปูพื้นควบคู่ สามารถดูโทนกระเบื้องที่เข้ากับสีผนังได้ที่:
https://www.thaisoung.com/floor-tiles
3) ให้สีทำงานร่วมกับเฟอร์นิเจอร์ที่มีอยู่ผนังควรเข้ากับเฟอร์นิเจอร์ในห้อง
- เฟอร์นิเจอร์โทนเข้ม เหมาะกับผนังสีอ่อนเพื่อบาลานซ์ภาพรวม
- เฟอร์นิเจอร์โทนอ่อน สามารถใช้ผนังสีเข้มเพื่อสร้างคอนทราสต์
- ถ้าบ้านใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้จำนวนมาก สีอบอุ่น เช่น ครีม น้ำตาลอ่อน หรือเขียวหม่น จะเข้ากันได้ดี
4) เลือกสีตามอารมณ์และบรรยากาศที่ต้องการแต่ละสีให้ความรู้สึกต่างกัน
- ฟ้าอ่อน เหมาะสำหรับความผ่อนคลาย ใช้ได้ดีในห้องนอน
- เขียวโอลีฟ ช่วยโฟกัส เหมาะห้องทำงาน
- เหลืองหรือส้ม ให้พลังงาน เหมาะกับห้องครัวหรือพื้นที่กิจกรรม
- เทาอ่อนหรือขาว ใช้ได้ทุกห้องและให้ความรู้สึกสะอาดเรียบง่าย
5) ทดสอบสีจริงก่อนตัดสินใจควรทาสีตัวอย่างบนผนังจริง หรือใช้แผ่นทดสอบขนาดใหญ่ เพื่อดูว่าสีเปลี่ยนไปตามแสงเช้า กลางวัน และเย็นอย่างไร การทดสอบช่วยให้ตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น
สรุปการเลือกสีผนังที่เหมาะสมต้องคำนึงถึงหลายองค์ประกอบ ทั้งแสง ขนาดห้อง เฟอร์นิเจอร์ และอารมณ์ที่ต้องการสร้าง หากวิเคราะห์ครบทุกด้าน จะได้สีที่ช่วยเสริมบรรยากาศ ให้พื้นที่ดูกลมกลืนและสะท้อนสไตล์ของผู้อยู่อาศัยได้ดีที่สุด
ดูโทนกระเบื้องปูพื้นที่เข้ากับสีผนังเพิ่มเติมได้ที่:
https://www.thaisoung.com/floor-tiles 