ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

หน้า: [1]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: Moving Average (MA)  (อ่าน 1071 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Tradewithauntie
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 15



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2025, 16:15:48 »

MA คืออะไร

MA หรือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ คืออินดิเคเตอร์ที่คำนวณจากราคาย้อนหลัง มาตรฐานเพื่อช่วยระบุแนวโน้มหรือทิศทางของราคา, จุดแนวรับ-แนวต้าน และการกลับตัวของราคา.

MA ต่างจาก MACD อย่างไร
แม้ MA จะถูกนำมาใช้เป็นพื้นฐานของ MACD แต่ MACD ซับซ้อนกว่า เนื่องจากสามารถวัด momentum และแนวโน้มของราคาได้พร้อมกัน ขณะที่ MA นั้นเน้นที่แนวโน้มหรือแนวรับ-แนวต้านเป็นหลัก

MA มีประเภทไหนบ้าง-และนิยมใช้แบบไหน
มี 3 แบบหลัก ได้แก่: SMA (Simple Moving Average), EMA (Exponential Moving Average), TMA (Triangular Moving Average)

การประยุกต์ใช้งาน MA

ใช้ได้บนแพลตฟอร์มหลัก เช่น MT4/MT5, TradingView ฯลฯ
ใช้เพื่อช่วยวิเคราะห์แนวโน้ม, แนวรับ-แนวต้าน, จุดกลับตัวของราคา

ข้อควรระวัง
- MA เป็นเครื่องมือช่วย ไม่ได้รับประกันความแม่นยำ 100% — ควรใช้ร่วมกับเทคนิคอื่น เช่น Price Action, RSI และอย่าลืมตั้ง Stop Loss / Take Profit
- เนื่องจาก MA เป็นการเฉลี่ยย้อนหลัง จึงมี “ความล่าช้า” (lag) ในการตอบสนองต่อตลาด ซึ่งอาจทำให้พลาดจังหวะ. (อ้างอิงจากความรู้ทั่วไปของ MA และเสริมจากแหล่งอื่น)

สรุป
MA คืออินดิเคเตอร์พื้นฐานยอดนิยมสำหรับเทรดเดอร์สายเทคนิค ที่ช่วยให้มีมุมมองชัดเจนขึ้นว่า ราคากำลังเดินไปทางไหน แต่ต้องเข้าใจว่าไม่ได้เป็นสูตรเวทย์มนตร์ — การวางแผน และการใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นเป็นสิ่งจำเป็น

ที่มา: https://www.tradewithauntie.com/get-to-know-moving-average/
บันทึกการเข้า
artemis3
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 11
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 831



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2025, 17:28:44 »

ขอบคุณครับ  wanwan017
บันทึกการเข้า

helloweentz
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 44
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,836



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2025, 18:42:40 »

เรื่องเกี่ยวอะไรครับ   Tongue
บันทึกการเข้า

tesla
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 10
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 118



ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2025, 02:36:08 »

เรื่องเกี่ยวอะไรครับ   Tongue

ใช้ในการวิเคราะห์ กราฟหุ้น กราฟคริปโต กราฟทองคำ กราฟค่าเงินตรา(forex) กราฟน้ำมัน etc. ครับ อนาคตที่ผมเห็นชัดๆ เลยนะ ผมเข้ากลุ่มดิสคอร์สของฝรั่ง ปัจจุบันเขาใช้ AI ทำตัวอินดิเคเตอร์(indecator:ตัวชีวัด) แล้วแปลผลเป็น ลูกดาวต่างๆ แบบ 3 มิติ ซึ่งดาวทุกดวงมันหมุน มันร้อน เย็น ขยายตัว หดตัว หรือแตกๆ เป็นตัวชีวัด(indicator) ระบบ AI ของเขาจะสร้างดาวบิทคอยน์ ดาวอีทีเรียม และดาวอื่นๆ ขึ้นมาบนจอหรือกลายเป็นจักวาล เพราะฉนั้นะ ตัวชีวัดทั้งหมด 110 ตัวจะถูก AI เปลี่ยนเป็นระบบดาว กาแลกซี่และ จักวาลในหน้าจอใหญ่จอเดียว
ถ้าอยากเจาะลึกว่าทำไมดาวดวงนี้ถึงดีอย่างนั้น ก็คลิกเข้าไป AI จะขึ้นกราฟ อีก 110 อย่างให้ดู และ AI บอกได้เลยว่า ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น  สรุปคือ การวิเคราะห์กราฟสินทรัพย์ต่างๆ ในแบบเดิมๆ ไม่ทำกำไรได้หรอก คนที่ทำเงินได้เยอะๆ นอกจากทุนหนาแล้วต้องฉลาดมากๆ ด้วย ซื้อเร็ว-ขายเร็ว รวมถึงต้องมีเครือข่ายในการเทรดด้วย เพราะแต่ละสินทรัพย์ทั่วโลกไม่ได้เปิดกว้างให้ซื้อขายง่ายๆ ที่สำคัญต้องรู้จักรวยแบบเงียบๆ

->> แถมให้ครับ การลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ มีแนวทางการวิเคราะห์ 2 อย่าง
1. วิเคราะห์พื้นฐาน ตัวธุรกิจ ผู้บริหาร วิสัยทัศน์ งานวิจัย เทคโนโลยี งบการเงิน เศรษฐกิจ เงินทุนเข้า-ออก ข่าวสาร
2. วิเคราะห์ด้วยกราฟ คือ อาศัยการคำนวณทางคณิตศาสตร์อย่างเดียว เรียกว่า อินดิเคเตอร์ (indecator:ตัวชี้วัด) ไม่ต้องไปสนใจพื้นฐานใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งตัวชี้วัดเหล่านี้มีได้หลายร้อยตัว แล้วแต่เราจะนำกราฟไปวิเคราะห์แบบใด ตามมาด้วยการสร้างบอทเพื่อเทรดแบบเข้าซื้อขายเร็วๆ
กราฟส่วนใหญ่มักได้มาจาก วิชาแคลคูลัสและเศรษฐศาสตร์การเงิน แล้วอาศัยตำรา ผู้เชี่ยวชาญ มากำหนดว่า ตัวชี้วัดนี้ สูตรใคร สูตรมัน แต่ส่วนใหญ่มักลอกนักลงทุนชื่อดังมา การซื้อขายสินทรัพย์ต้องทำอย่างรวดเร็ว หรือเรียกว่าเก็งกำไรรายนาที บางครั้ง ก็ใช้บอท หรือใช้ AI สร้างบอทหลายร้อยตัว เพื่อเทรดมันทุกวินาที เงินไม่หนา เครือข่ายไม่เยอะ เทคโนโลยีไม่ล้ำยุค หรือเท่าคนอื่น อาจขาดทุนได้ง่ายๆ

สรุปก็คือ นี่คือ การวิเคราะห์ด้วยกราฟ มันจะได้ตัวชี้วัดมา แล้วตัดสินใจตามสูตร ที่ลอกๆ กันมาครับ
บันทึกการเข้า
HyperLoop
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2



ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 09 พฤศจิกายน 2025, 17:36:13 »

เรื่องเกี่ยวอะไรครับ   Tongue

ใช้ในการวิเคราะห์ กราฟหุ้น กราฟคริปโต กราฟทองคำ กราฟค่าเงินตรา(forex) กราฟน้ำมัน etc. ครับ อนาคตที่ผมเห็นชัดๆ เลยนะ ผมเข้ากลุ่มดิสคอร์สของฝรั่ง ปัจจุบันเขาใช้ AI ทำตัวอินดิเคเตอร์(indecator:ตัวชีวัด) แล้วแปลผลเป็น ลูกดาวต่างๆ แบบ 3 มิติ ซึ่งดาวทุกดวงมันหมุน มันร้อน เย็น ขยายตัว หดตัว หรือแตกๆ เป็นตัวชีวัด(indicator) ระบบ AI ของเขาจะสร้างดาวบิทคอยน์ ดาวอีทีเรียม และดาวอื่นๆ ขึ้นมาบนจอหรือกลายเป็นจักวาล เพราะฉนั้นะ ตัวชีวัดทั้งหมด 110 ตัวจะถูก AI เปลี่ยนเป็นระบบดาว กาแลกซี่และ จักวาลในหน้าจอใหญ่จอเดียว
ถ้าอยากเจาะลึกว่าทำไมดาวดวงนี้ถึงดีอย่างนั้น ก็คลิกเข้าไป AI จะขึ้นกราฟ อีก 110 อย่างให้ดู และ AI บอกได้เลยว่า ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น  สรุปคือ การวิเคราะห์กราฟสินทรัพย์ต่างๆ ในแบบเดิมๆ ไม่ทำกำไรได้หรอก คนที่ทำเงินได้เยอะๆ นอกจากทุนหนาแล้วต้องฉลาดมากๆ ด้วย ซื้อเร็ว-ขายเร็ว รวมถึงต้องมีเครือข่ายในการเทรดด้วย เพราะแต่ละสินทรัพย์ทั่วโลกไม่ได้เปิดกว้างให้ซื้อขายง่ายๆ ที่สำคัญต้องรู้จักรวยแบบเงียบๆ

->> แถมให้ครับ การลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ มีแนวทางการวิเคราะห์ 2 อย่าง
1. วิเคราะห์พื้นฐาน ตัวธุรกิจ ผู้บริหาร วิสัยทัศน์ งานวิจัย เทคโนโลยี งบการเงิน เศรษฐกิจ เงินทุนเข้า-ออก ข่าวสาร
2. วิเคราะห์ด้วยกราฟ คือ อาศัยการคำนวณทางคณิตศาสตร์อย่างเดียว เรียกว่า อินดิเคเตอร์ (indecator:ตัวชี้วัด) ไม่ต้องไปสนใจพื้นฐานใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งตัวชี้วัดเหล่านี้มีได้หลายร้อยตัว แล้วแต่เราจะนำกราฟไปวิเคราะห์แบบใด ตามมาด้วยการสร้างบอทเพื่อเทรดแบบเข้าซื้อขายเร็วๆ
กราฟส่วนใหญ่มักได้มาจาก วิชาแคลคูลัสและเศรษฐศาสตร์การเงิน แล้วอาศัยตำรา ผู้เชี่ยวชาญ มากำหนดว่า ตัวชี้วัดนี้ สูตรใคร สูตรมัน แต่ส่วนใหญ่มักลอกนักลงทุนชื่อดังมา การซื้อขายสินทรัพย์ต้องทำอย่างรวดเร็ว หรือเรียกว่าเก็งกำไรรายนาที บางครั้ง ก็ใช้บอท หรือใช้ AI สร้างบอทหลายร้อยตัว เพื่อเทรดมันทุกวินาที เงินไม่หนา เครือข่ายไม่เยอะ เทคโนโลยีไม่ล้ำยุค หรือเท่าคนอื่น อาจขาดทุนได้ง่ายๆ

สรุปก็คือ นี่คือ การวิเคราะห์ด้วยกราฟ มันจะได้ตัวชี้วัดมา แล้วตัดสินใจตามสูตร ที่ลอกๆ กันมาครับ


สรุปได้ดีมากครับ ผมอ่านแล้วเข้าใจเลยว่า โลกการเงินมันช่างไปเร็ว เต็มไปด้วยเทคโนโลยี การหลอกหลวง และโหดมาก
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์