ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comอื่นๆCafe10 กันยายน โลกใกล้ถึงจุดจบ เซิร์น เดินเครื่องสร้างหลุมดำ
หน้า: 1 ... 9 10 [11]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: 10 กันยายน โลกใกล้ถึงจุดจบ เซิร์น เดินเครื่องสร้างหลุมดำ  (อ่าน 18746 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Hanma
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 283
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,343



ดูรายละเอียด
« ตอบ #200 เมื่อ: 10 กันยายน 2008, 21:54:00 »

น่าจะทำ keyword นี้นะเนี่ยะ หุหุ
บันทึกการเข้า

►► บันทึกการทำ Amazon Affiliate ด้วย Nichesite
กลุ่ม Amazon Affiliate Thailand https://www.facebook.com/groups/1866661123572353/
(สงวนสิทธิ์รับเฉพาะคนใช้ account facebook จริงเท่านั้น)
tinnoi
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 90
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,957



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #201 เมื่อ: 11 กันยายน 2008, 00:30:52 »

เค้าว่ากันว่า UFO เนี่ยก็คือมนุษย์เราเองนั่นแหละ ที่ย้อนอดีตมา โดยผ่านไทม์แมชชีน ไม่รู้จะจริงป่าว Embarrassed

คิดเหมือนผมเลยอ้ะ
บันทึกการเข้า

mai-a651
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 265



ดูรายละเอียด
« ตอบ #202 เมื่อ: 11 กันยายน 2008, 00:34:35 »

ตามเวลาประเทศไทยประมาณ 14.15 น. ของวันที่ 10 ก.ย.51 เซิร์น (CERN) หรือ องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศในทวีปยุโรปเพื่อวิจัยและพัฒนาทางด้านนิวเคลียร์ (European Center for Nuclear Research) กำหนดเดินเครื่องเร่งอนุภาคแอลเอชซี (Large Hadron Collider) เป็นครั้งแรก ทั้งนี้เครื่องเร่งอนุภาคแอลเอชซี นับเป็นเครื่องเร่งอนุภาคอันทรงพลังที่สุดในโลก โดยมีพลังงานมากกว่าเครื่องเร่งอนุภาคที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ถึง 7 เท่า
       
       ขณะที่ความน่าตื่นเต้นของการทดลองทางฟิสิกส์กำลังจะเริ่มขึ้น ผู้จัดการวิทยาศาสตร์ได้สอบถามไปยัง ดร.อรรถกฤต ฉัตรภูติ อาจารย์ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้ให้ความเห็นว่า การทดลองเดินเครื่องครั้งแรกของเซิร์นนั้น ยังไม่น่าตื่นเต้นเท่าใด เพราะยังเดินเครื่องไม่เต็มที่ โดยเดินเครื่องที่ระดับพลังงาน 0.4 เทราอิเล็กตรอนโวลต์ (TeV) เท่านั้น ซึ่งเซิร์นสามารถเดินเครื่องไปได้ถึง 14 เทราอิเล็กตรอนโวลต์
       
       "ครั้งแรกนี้ยังต้องเก็บข้อมูลอีกเป็นเดือน การทดลองวันที่ 10 (ก.ย.) ระดับพลังงานอยู่ที่ 0.4 เทราอิเล็กตรอนโวลต์เท่านั้น แล้วจะเพิ่มเป็น 14 เทราอิเล็กตรอนโวลต์ในปีหน้า ระหว่างนี้ก็ต้องเก็บข้อมูลอยู่พอสมควร ประมาณปีละ 15 ล้านกิกะไบต์ ซึ่งคงมีข้อมูลออกมาพอสมควร แต่คงยังไม่เจออะไรใหม่ ถือเป็นการอุ่นเครื่อง เหมือนเครื่องยนต์ทั่วไป" ดร.อรรถกฤตกล่าว
       
       ทั้งนี้นักฟิสิกส์ทฤษฎีจากรั้วจามจุรี อธิบายว่า ตามทฤษฎีแล้วจะเกิดอะไรใหม่ ที่ระดับพลังงานขนาดเทราอิเล็กตรอนโวลต์ขึ้นไป ซึ่งคงต้องค่อยๆ เดินเครื่อง และคาดว่าต้องใช้เวลาเป็นเดือน โดยต้องใช้เวลาอีก 3-5 ปี จึงจะมีผลการทดลองที่ฟันธงได้ว่ามีอนุภาค "ฮิกก์ส" (Higgs) หรือหลุมดำหรือไม่ ขณะเดียวกันคาดว่าจะมีการพิสูจน์ทฤษฎีอีกหลายๆ ทฤษฎี
       
       ด้าน นายนรพัทธ์ ศรีมโนภาษ นิสิตปริญญาเอก ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเคยได้รับทุนระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและเซิร์น วิจัยเกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูลของเซิร์น อธิบายกับผู้จัดการวิทยาศาสตร์ว่า หลักการทำงานของเครื่องเร่งอนุภาคแอลเอชซีนั้น คล้ายกับเครื่องซินโครตรอน แต่มีความแตกต่างคือ เครื่องซินโครตรอนจะส่งอนุภาคให้เคลื่อนที่เป็นวงกลม และนำคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ออกมาไปใช้ประโยชน์ ขณะที่เซิร์นสนใจที่ตัวอนุภาค และการจับอนุภาคชนกันหรือชนเป้า
บันทึกการเข้า

นู๋ใหม่
mai-a651
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 265



ดูรายละเอียด
« ตอบ #203 เมื่อ: 11 กันยายน 2008, 00:36:42 »

 Kiss Kiss Kiss Kiss
บันทึกการเข้า

นู๋ใหม่
jonu2528
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,273



ดูรายละเอียด
« ตอบ #204 เมื่อ: 11 กันยายน 2008, 01:32:42 »

 Tongue Tongue ใครมีภาพตอนทดลองมั่งเอามาดูหน่อยสิครับ
บันทึกการเข้า

anivox
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 51
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,012



ดูรายละเอียด
« ตอบ #205 เมื่อ: 11 กันยายน 2008, 01:40:42 »

ลำปางหนาวมาก
บันทึกการเข้า
A-LAND
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 120
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,145



ดูรายละเอียด
« ตอบ #206 เมื่อ: 11 กันยายน 2008, 03:26:58 »

เย้... จะได้ดูหนังฟอร์มยักษ์อีกแร้ว  Smiley
บันทึกการเข้า
Akiyama
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 65



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #207 เมื่อ: 11 กันยายน 2008, 09:00:21 »

แล้วตอนนี้ ผลทดสอบเป็นยังงัยบ้างอ่ะ ไม่ได้ตามข่าวเลย

เคยได้ยินเรื่องนี้มานานละ พวกที่ทำคงเดินทางปายอดีต อนาคตสบายเลย

ส่วนคนที่ไม่รู้ก้อดักดานอยู่เหมือนเดิม  Grin
บันทึกการเข้า


ต่ำกว่า 18 ห้ามคลิก-->
http://www.linkbucks.com/link/92f81de9
D-N-A
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 498
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,293



ดูรายละเอียด
« ตอบ #208 เมื่อ: 11 กันยายน 2008, 13:47:06 »

ทดลองวันแรก ไขปริศนาจักรวาล

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความสามารถของมนุษย์เพื่อค้นคว้ากำเนิดของจักรวาลว่า เมื่อช่วงบ่ายวันพุธที่ 10 ก.ย. ตามเวลาประเทศไทย

องค์การวิจัยนิวเคลียร์แห่งยุโรป (เซิร์น) ในสวิตเซอร์แลนด์ ประสบความสำเร็จกับการทดลองครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ด้วยการ เดินเครื่องเร่งความเร็วอนุภาคที่ใหญ่ที่สุดในโลก (Large Hadron Collider-LHC) เพื่อยิงอนุภาคโปรตอนให้ชนกันอย่างรุนแรง จนเกิดความเร็วเท่ากับความเร็วของแสง เพื่อค้นคว้าหาที่มาของปรากฏการณ์ “บิ๊กแบง” หรือการชนปะทะของอนุภาคเล็กๆอย่างรุนแรงตามทฤษฎี การก่อกำเนิดของจักรวาลเมื่อ 13,700 ล้านปีก่อน อันเป็นก้าวสำคัญของโลกวิทยาศาสตร์อีกขั้นหนึ่งที่ต้องการศึกษาไขปริศนาหลายอย่างของจักรวาล   

ทั้งนี้ นายลิน อีวานส์ หัวหน้าโครงการกล่าวว่า กระบวนการเร่งความเร็วอนุภาคเกิดขึ้นภายในอุโมงค์ ขนาดยักษ์ ที่มีลักษณะเป็นท่อใต้ดินวนเป็นวงกลมยาว 27 กม.

โดยอุโมงค์นี้ฝังอยู่ใต้พื้นดินลึกลงไปประมาณ 100 เมตร หรือประมาณ 300 ฟุต มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่บริเวณพรมแดนฝรั่งเศสกับสวิตเซอร์แลนด์ โดยขั้นตอนเริ่มด้วยการยิงลำแสงโปรตอนเข้าไปในอุโมงค์ดังกล่าว แล้วเร่งความเร็วของอนุภาคจนใกล้ระดับความเร็วแสงถึง 99.99 เปอร์เซ็นต์ หมุนวนด้วยความเร็ว 11,245 ครั้งต่อวินาที อยู่ภายในอุโมงค์ในรูปแบบตามเข็มนาฬิกาและทวนเข็มนาฬิกา จนก่อให้เกิดสนามแม่เหล็กพลังสูง ลักษณะเดียวกับทฤษฎีกำเนิดจักรวาล เพื่อปล่อยให้สองอนุภาคชนกัน เปรียบเทียบง่ายๆ คล้ายกับการยิงกระสุนปืนหลายๆนัด กระสุนบางนัดที่ทะลุทะลวงอากาศอาจพลาดเป้าหมาย แต่ก็จะมีหนึ่งนัดโดนเป้าหมายที่เล็งไว้ ซึ่งจะเกิดขึ้นเพียงช่วงเสี้ยววินาที และระหว่างดำเนินการก็จะเกิดความร้อน มีอุณหภูมิสูงกว่าแกนกลางของดวงอาทิตย์เกิน 100,000 เท่า กระนั้น ระบบหล่อเย็นรอบวงแหวนแอลเอชซี ประกอบด้วยสารเหลวซุปเปอร์ฮีเลียม จะคอยรักษาระดับอุณหภูมิของเครื่องแอลเอชซีไว้ที่ -271.3 องศาเซลเซียส คาดว่าการชนกันครั้งแรกจะเกิดขึ้นในอีกหลายสัปดาห์   Shocked



ขณะเดียวกัน นายโรเบิร์ต ไอยมาร์ ผู้อำนวยการทั่วไปของเซิร์น เปิดเผยว่า คณะนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร และช่างเทคนิค ร่วมโครงการนี้มีอยู่ราว 5,000 คน จากกว่า 30 ประเทศ

เริ่มโครงการศึกษาชิ้นนี้มานานเกือบ 20 ปี ใช้งบประมาณมากกว่า 5,460 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 185,640 ล้านบาท) นับเป็นการค้นคว้าทดลองในเชิงวิทยาศาสตร์ที่ใช้งบประมาณสูงสุดติดอันดับโลก และถือเป็นงานวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อนมากที่สุดในโลก ก่อนการทดลองทางฟิสิกส์ครั้งใหญ่สุดของโลกครั้งนี้จะเริ่มขึ้น ได้เกิดข่าวลือมากมายและส่งต่อๆกันไปในโลกอินเตอร์เน็ต ส่วนใหญ่จะออกมาในทางลบ จนสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชน โดยหลายฝ่ายระบุว่าโครงการแอลเอชซีกำลังพยายามสร้าง “หลุมดำ” (Black Hole) หรือปรากฏการณ์อุโมงค์พิศวงขนาดเล็ก ที่มีพลังดึงดูดดาวเคราะห์ต่างๆให้หายไปจากจักรวาลได้ อย่างง่ายดาย รวมถึงดาวโลก ถึงขั้นทำลายล้างโลก หรือที่รู้จักกันว่า วันมหาวิปโยค (Doom's Day) ซึ่งเปลี่ยนขั้วแม่เหล็กโลกให้เหลือข้างเดียวได้ อย่างไรก็ดี นักวิทยาศาสตร์ผู้เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ ได้ประเมินความเสี่ยงแล้ว พบว่าเป็นไปไม่ได้ และไม่พบหลักฐานว่าจะก่อให้เกิดอันตรายแต่อย่างใด 

ด้านนักวิทยาศาสตร์ไทย นายสุทัศน์ ยกส้าน นักทฤษฎีฟิสิกส์ ที่ปรึกษาด้านวิชาการศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ได้แสดงความคิดเห็นถึงการทดลองจำลองการเกิดปรากฏการณ์บิ๊กแบง โดยใช้เครื่องเร่งอนุภาคความเร็วสูงเกือบเท่าแสงหรือ แอลเอชซี ว่า โอกาสการเกิดหลุมดำจากการทดลองมีเพียง 1 ใน 50 ล้านเท่านั้น และหากเกิดหลุมดำจริง จะเป็นหลุมดำที่จะมีขนาดเล็กได้ถึงระดับพิโคเมตร หรือ 10-15 เมตรเท่านั้น


นายสุทัศน์ได้อธิบายอีกว่า ทั้งนี้เพราะตามทฤษฎีการเกิดหลุมดำขนาดใหญ่ในเอกภพโดยทั่วไป เกิดจากการยุบตัวด้วยแรงโน้มถ่วงของดาวฤกษ์

กล่าวคือ โดยปกติดาวฤกษ์ในเอกภพจะอยู่ในสภาพสมดุล คือต้องมีแรงผลักออกซึ่งเกิดจากการปล่อยแสงสว่างหรือรังสีที่เกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ และแรงดึงดูดที่เกิดจากแรงโน้มถ่วง เมื่อดาวฤกษ์ได้เผาผลาญพลังงานนิวเคลียร์ ภายในตัวจนหมด จะทำให้ไม่มีแรงผลักออก เหลือเพียงแรงดึงเข้าสู่จุดศูนย์กลาง จนเกิดการยุบตัวกลายเป็นหลุมดำ  “สิ่งสำคัญที่ควรสนใจคือหากเกิดหลุมดำขนาดจิ๋วจริง ทุกคนจะเห็นว่าหลุมดำรูปร่างเป็นอย่างไร อีกทั้ง ทฤษฎีของฮอว์กิ้งยังค้นพบว่า หลุมดำไม่ได้เป็นสีดำ เพราะในช่วงการสลายตัวจะมีการปล่อยรังสีฮอว์กิ้ง (Hawking  radiation) ออกมา จึงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากหากได้เห็น” นายสุทัศน์กล่าว 


ทั้งทฤษฎีการปล่อยรังสีฮอว์กิ้ง มีต้นกำเนิดมาจากนักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ ศาสตราจารย์คณิตศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์

แม้จะมีสภาพเป็นคนพิการ แต่ ก็ได้ชื่อว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะของโลก ผู้พยายามถอดรหัสจักรวาล โดยผลงานวิจัยที่สำคัญที่สุดของอัจฉริยะพิการผู้นี้ น่าจะได้แก่ งานวิจัยเกี่ยวกับ “หลุมดำ” และ ผลงานเขียนหนังสือที่โด่งดังมากได้แก่ประวัติย่อของเวลา

บันทึกการเข้า

ลงประกาศฟรี
tarad2u
ตลาดซื้อขายสัตว์เลี้ยง
thaipet2u
ตลาดพระเครื่อง
พระเครื่อง
ซื้อขายรถยนต์มือสอง
buycar4u
ตลาดมอเตอร์ไซค์
bike2hand

ขาย youtube แชนแนล พระเครื่อง 70k follow ทำเงินได้หลายทาง
T.086-9165783,line:taladpra
cmbuy
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 8
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 556



ดูรายละเอียด
« ตอบ #209 เมื่อ: 11 กันยายน 2008, 13:52:48 »

ถ้าเกิดหลุมดำดูดโลกขึ้นมาจริง ๆ  ก็......

แม้ไม่ได้เกิดวันเดือนปีเดียวกัน
แต่ได้ตายวันเดียวกันกับคนอีกหลายพันล้านคน
ก็นับเป็นเกียรติยิ่งแล้ว
บันทึกการเข้า

- -!
หน้า: 1 ... 9 10 [11]   ขึ้นบน
พิมพ์