และนี่ข่าว furbyหลอกลวงเงิน มหาศาล กำลังดังเลย ใครจะขายก็รีบๆขายให้หมดน่าจะดีครับ

คนซื้อหนาวๆกันทั่วประเทศ
บทเรียนจากเฟอร์บี้ “ตุ๊กตาน่ารัก และน่าโดนหลอกที่สุด!”ในช่วง 2 - 3 เดือนที่ผ่านมา กระแสฮิตติดลมบนจนเป็นที่พูดถึงกันไปทั่วคงจะหนีไม่พ้นตุ๊กตาสัตว์เลี้ยง - เฟอร์บี้ จากกระแสในอินสตาแกรมดาราที่พากันอัปรูปกอดก่ายเจ้าตุ๊กตาขนปุยเหล่านี้ สู่กระแสความต้องการที่ถาโถมของผู้คนในโลกอินเทอร์เน็ตจนมีบริการรับสั่งซื้อผุดขึ้นมามากมาย
กระทั่งเกิดกรณีโกงเฟอร์บี้ขึ้นจากการขายเฟอร์บี้ต่อกันเป็นทอดๆ โดยมีผู้เสียหายกว่า 52 รายและมูลค่าความเสียหายสูงถึง 6-7 ล้านบาท การมาถึงของเฟอร์บี้ฟีเวอร์ครั้งนี้คงไม่ใช่เพียงของเล่นเด็กอีกต่อไปแล้ว กระแสการบริโภคที่รุนแรง การปั่นราคา และความปลอดภัยของผู้บริโภคโลกอินเทอร์เน็ต เฟอร์บี้ฝากบทเรียนอะไรไว้กับเราบ้าง?
เฟอร์บี้ฟีเวอร์
ในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปี 2555 ยอดขายเฉพาะร้านตัวแทนจำหน่าย(ไม่รวมขายทางอินเทอร์เน็ต) อยู่ที่ประมาณ 50 ล้านบาท หรือขายได้มากกว่า 6,000 ตัว โดยราคาปกติซึ่งปัจจุบันตัวแทนจัดจำหน่ายในเมืองไทยตั้งราคาอยู่ที่ตัวละ 3,995 บาท มีขายตามเว็บไซต์มีราคาหลากหลายตั้งแต่ 3,000 - 5,500 บาท ตามสีที่นิยมโดยสีขาวจะราคาแพงที่สุด
ทั้งนี้ ในอเมริกาเฟอร์บี้มีราคาอยู่ที่ 59.99 เหรียญ ตีเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1,800 บาท (อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 30 บาทต่อ1 เหรียญสหรัฐ)
อย่างไรก็ตาม จากกระแสความนิยมที่ทำให้เฟอร์บี้อยู่ในสภาพขาดตลาด ขณะที่ความต้องการยิ่งกลับถี่ตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ทำให้เกิดการเกร็งกำไร ลูกค้านักเล่นเฟอร์บี้หลายคนต้องการเป็นเจ้าของเฟอร์บี้ในปัจจุบันทันด่วน ทำให้ราคาในเว็บไซต์ตั้งสูงไปถึง 5,500 ได้ทั้งที่ราคาขายในห้างอยู่ที่ 3,995 บาท
อ.ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด ชี้ถึงปัจจัยที่จุดกระแสเฟอร์บี้อย่างเด็ดขาดว่า “มาจากดารากับพวกเซเลบ” ที่ถ่ายรูปตัวเองคู่กับเฟอร์บี้ลงอินสตาแกรม เมื่อจุดกระแสให้คนมาหันหาเฟอร์บี้ได้ เจ้าตุ๊กตาช่างพูดเหล่านี้ก็ไม่ใช้โอกาสไปโดยเปล่าประโยชน์ การเป็นสัตว์เลี้ยงคลายเหงา การเป็นเพื่อนที่สามารถเชื่อมโยงกับแอปพลิเคชันในมือถือสมาร์ทโฟน เป็นคุณสมบัติที่ตอบโจทย์คนในยุคปัจจุบันอย่างยิ่ง
“คนไทยอยากมีอยากเป็นเหมือนดารา กระแสแบบนี้ในทางการตลาดมันเคยมีมาแล้ว อย่างตุ๊กตาบลายธ์หรือไอศครีมแม็กนั่ม แล้วตัวเฟอร์บี้เองมันก็ตอบโจทย์ในพฤติกรรมของคนยุคใหม่ที่เหงาง่าย อยู่ในโลกโซเชียลมีเดีย ติดสมาร์ทโฟน อยากมีสัตว์เลี้ยงเล่นด้วยแต่อยู่คอนโดและไม่อยากวุ่นวายกับการเลี้ยงสัตว์ เฟอร์บี้มันตอบโจทย์คนยุคใหม่ได้อย่างดี”
จนเมื่อมีข่าวกรณีโกงเฟอร์บี้ก็ยิ่งทำให้มันเป็นที่รู้จักมากขึ้น หากมองในเชิงการตลาดอ.ธันยวัชร์ชี้ว่า สินค้ากระแสแบบนี้จะมีธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว
“เดี๋ยวนี้สื่อที่สามารถสร้างกระแสให้มันขึ้นไวตกไวมันมีเยอะ แล้วพอมีอินสตาแกรมคนไทยไม่ชอบอ่าน ชอบดูภาพเลย พวกนักข่าวก็อยู่ในโซเชียลมีเดียมากขึ้น ก็นำเอาสิ่งที่อยู่ในสื่อรองมาอยู่ในสื่อหลัก แก่ - สปอต - ใจดี - กทม. คือเคยเป็นกระแส มันเป็นกระแสแบบไฟไหม้ฟางที่หายไปอย่างรวดเร็ว มันเป็นกระแสแต่จะอยู่ได้ขนาดไหนอยู่ที่บริษัทว่าจะมีการจุดกระแสต่อได้อย่างไร? มีการจัดประกวดให้คนถ่ายภาพต่อหรือเปล่า? เล่นกับคนได้มั้ย? อัพเดทแอปพลิเคชันเรื่อยๆมันก็อยู่ได้นาน กระแสแบบนี้มันต้องจุดต้องจุดตลอด”
อ.ธันยวัชร์มองถึงการตลาดของการทำกระแสในสังคมยุคปัจจุบันว่า จากลักษณะของคนสมัยนี้เป็นไปตามกระแสได้ง่าย รักง่ายหน่ายเร็ว ลักษณะกระแสกับลักษณะคนจึงเหมือนกัน ความต่อเนื่องของการทำการตลาดจึงเป็นสิ่งจำเป็น
สิ่งที่เป็นที่นิยมสำหรับคนไทยนั้นมักจะตามมาด้วยธุรกิจ เขายกตัวอย่างจตุคามรามเทพที่พอกระแสหายบางองค์บางรุ่นจากมูลค่าหลักหมื่นอาจตกลงเหลือไม่กี่บาท หรือไม่มีใครเอา
เจอมาจาก
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9560000017783