ถ้าหากคุณใช้ว่า "เล่นหุ้น" แทนคำว่า "ลงทุนในตลาดหุ้น" ผลลัพธ์ที่คาดได้เลยก็คือ เจ๊งครับผม

การลงทุนในตลาดหุ้นไม่ใช่แค่เพียงซื้อหุ้นตัวใดตัวนึงมา แล้วภาวนาให้มันราคาของมันสูงขึ้นไป
แต่ว่าถ้าหากคุณอยากเป็นนักลงทุนตัวจริง คุณต้องวิเคราะห์ถึงปัจจัยพื้นฐานของหุ้นตัวนั้น
1. คุณต้องวิเคราะห์แนวโน้มกลุ่มอุตสาหกรรมว่า ช่วงไหนกลุ่มอุตสาหกรรมใดกำลังรุ่ง ยกตัวอย่าง ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว หุ้นกลุ่ม โรงแรม + สายการบิน รุ่ง หรือ ช่วงรัฐบาลจะมี เมกะโปรเจ็ค หุ้นกลุ่ม ก่อสร้าง รุ่ง
2. คุณต้องวิเคราะห์ตัวเลขทางบัญชีของบริษัทที่คุณจะลงทุน(สำคัญที่สุด) ว่าฐานของการเงินที่มั่นคงหรือเปล่า มีหนี้เท่าไรต่อสัดส่วนของผู้ถือหุ้นเท่าไร มีกำไรต่อหุ้นเท่าไร มี Book value เท่าไร และอื่นๆอีกเยอะ
3. คุณต้องรู้จัก สินค้า หรือ บริการ ของบริษัทที่คุณจะลงทุน อย่างถ่องแท้ ว่ามีคู่แข่งในตลาดเท่าไร ตลาดถึงจุดอิ่มตัวหรือยัง (ยกตัวอย่างเขียวโออิชิ)
4. ถ้าเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดีแล้ว คำถามต่อไปก็คือ มันมีราคาแพงไปหรือเปล่า ? (คำถามนี้ต้องใช้กำลังภายในพอสมควร)
5. ใจเย็นๆ ถ้าหากคุณได้วิเคราะห์ตาม 4 ข้อที่ผ่านมา แล้วราคาหุ้นมันร่วงลงไป ก็อย่าตกใจรีบขาย (แน่นอนว่าการที่ราคามันลดลงมีหลายสาเหตุที่อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐาน)
วิเคราะห์หุ้นแต่ละตัวให้ถ่องแท้ แล้วคุณจะไม่มีทางเสียเงินกับตลาดหุ้น
การลงทุนที่เสียงที่สุด คือ การลงทุนที่ขาดความรู้ - Warren Buffetปล. ผมสามารถทำกำไรได้มากกว่า 30% จากตลาดหุ้นภายในเวลาประมาณ 6 เดือน จากการทำตามขั้นตอนที่ผมได้พูดไป และผมแนะนำไปหาหนังสือเรื่อง "Inteligent Investor" ที่เขียนโดย Benjamin Greham เค้าเอามาแปลเป็นไทยแล้ว แต่เล่มหนาสักหน่อย ผมอยากจะบอกว่า คนที่เขียนหนังสือเล่มนี้เป็น ครูของ warren buffet