
ภัยน้ำท่วมคงทำให้ผู้ประกอบการ หลายคนยิ่งกว่าเซ็งไม่น้อย เพราะน้ำซัดเอากิจการที่เพียรสร้างมาเสียหายไปด้วย
เรียกว่าการกลับไปทำธุรกิจอีกครั้งแทบจะนับหนึ่งใหม่เลยก็ว่าได้
นิวบิซ-ประชาชาติธุรกิจ ขอแนะนำตัวอย่างโมเดลผู้เริ่มต้นธุรกิจใหม่ อาศัยไอเดียและความคิดสร้างสรรค์สูงแต่ต้นทุนต่ำ เริ่มต้นกิจการด้วยทุนเพียง 4,000 บาท ภายใน 7 เดือนก็สามารถสร้างรายได้เฉลี่ยต่อเดือนเกือบแสนบาท
เขาทำได้อย่างไร
เทพสวรินทร์ ตะเพียรทอง หรือมิ้งค์ เจ้าของสินค้าแฮนด์เมดภายใต้ แบรนด์เดียวกับชื่อเจ้าของร้าน "Mink′s" จำหน่ายสินค้าแฮนด์เมด โดยนำความสวยงามเรียบง่ายแต่โดดเด่นของไม้มา สร้างสรรค์งานออกแบบ อาทิ โคมไฟ แอ็กเซสซอรี่ และที่ขายดีที่สุดคือ นาฬิกาแฮนด์เมด ซึ่งจัดเป็นรายได้ของร้านถึง 85 เปอร์เซ็นต์
มิ้งค์เล่าว่า ร่วมทำธุรกิจกับ เอกชัย กล่อมเจริญ แฟนหนุ่มผู้มีความรู้ด้านการออกแบบจากการเรียนโปรดักต์ดีไซน์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เริ่มต้นจากความชอบสินค้าที่มีความเรียบง่ายเป็นทุนเดิม ใช้เงินลงทุน 4,000 บาทในการทำสินค้าตัวอย่าง
ด้วยงบฯลงทุนที่น้อยและยังไม่มีหน้าร้าน มิ้งค์อาศัยการสร้างชื่อผ่านหน้าร้านอย่างเฟซบุ๊ก
www.facebook.com/minkislove 
ใช้การถ่ายรูปแล้วแปะลงในหน้าเฟซบุ๊ก ของตัวเองเน้นภาพ แสง สี รูปสวย แต่ไม่ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง
ภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือน ปรากฏว่ามีคนเข้ามาดูเพจและเกิดการแชร์รูปต่อ ๆ กัน มิ้งค์เล่าว่า "เรา โปรโมตเหมือนไม่ได้โปรโมต เพราะเฟซบุ๊กและลูกค้ากลายเป็นระบบเข้ามาช่วยโปรโมต เกิดการแชร์ภาพต่อ ๆ กัน ลูกค้าเข้ามาติดแท็กรูปเราให้เพื่อน ทีนี้ก็ขยายวงออกไปอย่างรวดเร็วและมีออร์เดอร์เข้ามา"
มิ้งค์กล่าวต่อว่า เพราะเป็นธุรกิจใหม่ไม่มีกำลังพอสต๊อกสินค้า แต่ใช้วิธีการผลิตของตามออร์เดอร์เป็นหลักตัดปัญหาสินค้าค้างสต๊อก ความเป็นสินค้าทำด้วยมือและพนักงานมีกัน 2 คน ลูกค้าจะเข้าใจว่าต้องรอจะใช้เวลาประมาณ 7 วันนับแต่ชำระเงินจึงจะได้รับสินค้า
"เราจัดส่งสินค้าผ่านทางไปรษณีย์ อีเอ็มเอส คิดราคา 50 บาท แต่ถ้าสั่งมากกว่า 1 ชิ้นก็สามารถตกลงราคากันได้"
ทำมา 7 เดือน เรียกว่ามีการเติบโตแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ยอดขายเฉลี่ยต่อเดือนเกือบถึง 6 หลัก เกินคำว่าคุ้มทุนซะอีก
นอกจากนี้ยังส่งจำหน่ายให้กับร้าน Pipat zakka ร้านจำหน่ายด้านดีไซน์ในมาเลเซีย เริ่มต้นมาได้ประมาณ 2-3 เดือน สัดส่วนเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ของยอดขาย รายได้หลักยังเป็นการสั่งของจากทางเฟซบุ๊ก 80 เปอร์เซ็นต์
จุดเด่นของสินค้าคือ ดีไซน์ ความเรียบง่าย จับเอาดีไซน์มาทำให้เกิดความเรียบง่าย ใครก็ใช้ได้ กลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่ม Niche Market ชื่นชอบดีไซน์ เน้นขายวัยรุ่นตอนปลายจนถึงกลุ่มคนทำงาน แต่ช่วงหลัง ๆ จะมีเด็กมัธยมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ราคาจำหน่ายของนาฬิกาแฮนด์เมดอยู่ที่ 900-1,200 บาท ขึ้นอยู่กับแบบของผลิตภัณฑ์ ซึ่งมิ้งค์เห็นว่าเป็นราคาระดับกลาง อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ลูกค้าเอื้อมถึง จับต้องได้
มิ้งค์บอกกับเราว่า ในอนาคตหากเข้าที่เข้าทางกว่านี้ก็อยากเปิดร้านเป็นของตัวเอง เพราะมีลูกค้าขาประจำที่ยังเข้ามาดูเฟซบุ๊ก ซื้อสินค้าไปแล้วจะถ่ายรูปคู่กับสินค้านำมาแชร์กันกับเพื่อน ติดแท็ก ตรงนี้ถือเป็นการช่วยโปรโมตให้มิ้งค์เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ก็ไม่อยากให้หายไป
"มองไว้อีก 2-3 ปี อยากให้ร้านเป็นเหมือนโชว์รูมรูปแบบคล้ายเฟซบุ๊ก คือมีกิจกรรมร่วมกัน เปิดให้ลูกค้ามาสร้างสรรค์ศิลปะร่วมกันในแบบดีไอวาย (D.I.Y.) ลูกค้าเก่าเป็นกลุ่มที่เราต้องรักษาไว้ ในขณะที่ลูกค้าใหม่เราก็ต้องเพิ่มทางเข้าถึงสินค้าให้เขาด้วย"
หนึ่งโมเดลธุรกิจโดดเด่นด้วยความคิดสร้างสรรค์ ใช้เงินลงทุนเพียงนิดเดียว กลายเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้มหาศาล เป็นไกด์ไลน์ให้ผู้ประกอบการสร้างสรรค์ธุรกิจแปลกใหม่เพื่อรีเซตตัวเอง หลังน้ำลด
Credit :
http://www.prachachat.net/news...id=09&catid=&subcatid= 