ต่อไป »

[CyberNet]

ธุรกิจการโฆษณาบนเว็บไซต์เสิร์ชเอนจิ้นเติบโตต่อเนื่อง ล่าสุดกูเกิลประกาศผลประกอบการไตรมาสสามปีนี้สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยตัวเลขกำไรสุทธินั้นเพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้วเกือบหนึ่งเท่าตัว
       
       อิริค ชมิดท์ (Eric Schmidt) ประธานบริหารของกูเกิล (Google) ให้ข้อมูลว่า ผลกำไรสุทธิในไตรมาสสาม (กรกฎาคม-กันยายน 2549) ที่เพิ่มขึ้นนั้นได้รับอานิสงส์โดยตรงจากรายได้ค่าโฆษณาแบบอิงคีย์เวิร์ดที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นค่าโฆษณาที่นักการตลาดจ่ายให้กูเกิลเพื่อให้กูเกิลแสดงลิงก์เว็บไซต์ของตัวเองเมื่อมีการสืบค้นคำคีย์เวิร์ดนั้นๆ
       
       "ธุรกิจโฆษณาแบบอิงคีย์เวิร์ดนั้นไปได้ดีมากที่Google ผลประกอบการไตรมาสนี้ของเราออกมาดีทุกส่วนงาน ในทุกสาขาทั่วโลก" ชมิดท์กล่าว พร้อมระบุว่าตลอดไตรมาสที่ผ่านมา จำนวนผู้ใช้งานกูเกิลนั้นมีมากขึ้น ขณะที่กูเกิลเองก็มีการพัฒนาคุณภาพของผลสืบค้นและการขายโฆษณาอย่างต่อเนื่อง
       
       ข่าวนี้ส่งให้มูลค่าหุ้นของกูเกิลเพิ่มขึ้นอีกราว 8 เปอร์เซ็นต์
       
       มูลค่ากำไรสุทธิของกูเกิลในไตรมาสนี้คือ 733 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 2.36 เหรียญต่อหุ้น (ประมาณ 87 บาทต่อหุ้น) โดยในไตรมาสสามของปีที่แล้ว กูเกิลสามารถทำได้ 381.2 ล้านเหรียญ หรือ 1.32 เหรียญต่อหุ้น (ประมาณ 49 บาทต่อหุ้น) ถือว่าเพิ่มขึ้นจากเดิมเกือบหนึ่งเท่าตัว
       
       สำหรับกำไรก่อนหักภาษี กูเกิลสามารถทำได้ 812 ล้านเหรียญ หรือ 2.62 เหรียญต่อหุ้น (ประมาณ 97 บาทต่อหุ้น) บนรายรับรวม 2.62 พันล้านเหรียญ
       
       ตัวเลขรายรับรวม 2.62 พันล้านเหรียญที่กูเกิลทำได้ในไตรมาสสามนี้ เป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจาก 1.58 พันล้านเหรียญที่ทำได้ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นราว 70 เปอร์เซ็นต์
       
       การสำรวจความเห็นจากนักวิเคราะห์ในตลาดที่รวบรวมโดยบริษัทวิจัยทอมป์สันไฟแนนเชียล (Thomson Financial) พบว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ตัวเลขกำไรของกูเกิลไว้ที่ 2.42 เหรียญต่อหุ้น และรายรับรวม 1.81 พันล้านเหรียญ สิ่งที่เกิดขึ้นคือกูเกิลสามารถทำได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
       
       ตัวเลขผลประกอบการของกูเกิลในไตรมาสนี้จะไม่ได้รับผลจากการซื้อกิจการเว็บไซต์ให้บริการวิดีโอออนไลน์ชื่อดัง "YouTube" เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพราะเป็นการจ่ายชำระด้วยหุ้นกูเกิลมูลค่ารวม 1.65 พันล้านเหรียญ เป็นผลให้ YouTube และกูเกิลมีลักษณะเป็นพันธมิตรกันมากกว่าการซื้อขายเป็นบริษัทลูก
       
       ด้านเสิร์ชเอนจิ้นอันดับสองอย่างยาฮู (Yahoo) กลับระบุว่าสามารถรายได้ในไตรมาสสามไม่ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ เมื่อเทียบกับรายได้ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดนยืนยันว่ารูปแบบธุรกิจโฆษณาแบบใหม่ "Panama" ที่ยาฮูเลื่อนกำหนดการเปิดใช้ไปนั้น จะยังมีคิวเปิดให้บริการอย่างแน่นอน
       
       ส่วนแบ่งการตลาดของกูเกิลในตลาดเสิร์ชออนไลน์ของสหรัฐฯในขณะนี้อยู่ที่ 44 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้นจาก 37 เปอร์เซ็นต์ที่ทำได้ในปีที่แล้ว ขณะที่ส่วนแบ่งของยาฮูลดลงกว่าเดิมเหลือ 28.7 เปอร์เซ็นต์จาก 28.7 เปอร์เซ็นต์ ตามข้อมูลจากบริษัทวิจัยคอมสกอร์ (ComScore)
       
       สำหรับอัตราการเติบโตของค่าโฆษณาในสหรัฐฯ กูเกิลคาดว่าจะทำได้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วราว 65 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ยาฮูวางเป้าหมายให้ตัวเองน้อยกว่าราว 17.5 เปอร์เซ็นต์

[wongsak]

มีเงิน ผม อยุ่ในนั้น นิดนึง หุหุ

[blogger]

แล้วทำไมมาลดตังค์เราช่วงนี้อ่ะ

[browser]

เป็นเพราะมีคนทำมากขึ้นไงครับ
จะไม่ได้กำไรได้อย่างไร

[kazama]

ยิ่งคนทำ adsense เยอะมากขึ้น  แต่ทำไม่สำเร็จ  google ก็ได้กำไร

สมมุติว่ามีคนทำไม่สำเร็จล้านนึง  ทำได้ไม่ถึงร้อยเหรียญ ได้ซักสามสิบสี่สิบเหรียญ  google ก็ได้ตรงนี้ฟรี ๆ รวมกับส่วนของตัวเองอีก  ประมาณว่าให้คนทำ adsense หกสิบเปอร์เซ็นต์  เมื่อมีคนที่ไม่ต้องจ่ายสามสิบสี่สิบล้าน เท่ากับจริง ๆ google ก็ได้ไปไม่น้อยกว่าหกสิบเจ็ดสิบล้านรวมส่วนของตัวเอง

[antitrust]

       ส่วนแบ่งการตลาดของกูเกิลในตลาดเสิร์ชออนไลน์ของสหรัฐฯในขณะนี้อยู่ที่ 44 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้นจาก 37 เปอร์เซ็นต์ที่ทำได้ในปีที่แล้ว ขณะที่ส่วนแบ่งของยาฮูลดลงกว่าเดิมเหลือ 28.7 เปอร์เซ็นต์จาก 28.7 เปอร์เซ็นต์ ตามข้อมูลจากบริษัทวิจัยคอมสกอร์ (ComScore)

มันลดลงตรงไหนอ่ะ งง

[amaudy]

การหยุดอยู่กับที่ คือการถอยหลังลักษณะหนึ่ง