แค่ความคิดเห็นส่วนตัวผมนะครับ ผมคิดว่าบางครั้ง เราต้องแยกออกจากกันระหว่าง ผู้ให้บริการฟรี กับความเป็นคนดี หรือ ไม่หวังผลตอบแทน ออกจากกันก่อนนะครับ เพราะสองอย่างนี้ไม่ใช่ของที่มาคู่กัน ไม่จำเป็นว่าบริการฟรีจะต้องเป็นคนดีและไม่เห็นแก่เงิน ทำเพื่อสังคม เสมอไปนะครับ แยกให้ออกก่อน เพราะจริงๆแล้ว ฟรี เป็นเพียงกลยุทธ์ทางการตลาดเท่านั้น ที่จำเป็นต้องใช้ ทั้งๆที่อยากเก็บเงิน แต่ต้องกัดฟันแจกฟรี บางทีก็ไม่ได้เกี่ยวกับความเป็นคนดีอะไรเลย ลองดูตัวอย่างนะครับ ว่าทำไมผมคิดแบบนั้น
ตัวอย่างเช่น Google กับ Facebook ถามว่าเค้าให้คุณใช้ฟรีไหมครับ แน่อยู่แล้วว่าให้ใช้ฟรี แล้วธุรกิจเค้าไม่หวังผลกำไรเหรอ ไม่เลยครับ เพราะธุรกิจเค้าโครตจะกำไร แล้วเค้าใจดีไหมที่ให้ใช้ฟรี อันนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องเลยครับ ธุรกิจคือธุรกิจ มีแต่ผลประโยชน์ ไม่เกี่ยวกับใจดีเลย จริงไหม 55+ สมมุตินะครับว่า Google Facebook เรียกเก็บเงินจะมีกี่คนที่จ่ายครับ คุณจะจ่ายไหม หรือย้ายไปเล่นที่มันฟรี นี่หล่ะครับทำไมถึงต้องฟรี เพราะผู้ใช้ สามารถย้ายไปหาคู่แข่งได้ตลอดเวลา
งั้นกลับมาเรื่องเดิมนะครับ แล้วรายได้ของ Google กับ Facebook ล่ะมาจากไหน? ก็มาจากที่พวกคุณใช้ฟรีกันไงครับ ยิ่งคนใช้ฟรีมากๆ มูลค่าของเว็บไซต์ก็จะเพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างนะครับ ถ้า Google มีคนใช้งานวันล่ะ 100 คน/วัน จะมีมูลค่าเว็บเท่าไหร่ครับ แล้วตอนนี้ล่ะ ใช้งานวันล่ะ หลายร้อยล้านคน ต่อวัน มีมูลค่าเว็บเท่าไหร่ล่ะ ต่างกันมากใช่ไหมครับ เพราะ Google สามารถแปลงจำนวนคนเข้าเว็บเพื่อไปหารายได้ในรูปแบบอื่นได้ เพราะฉนั้นมูลค่าของเว็บไซต์ขึ้นอยู่กับจำนวนคนใช้งาน และ Free คือกลยุทธ์ทางธุรกิจเท่านั้น
แล้วจากที่กล่าวไปด้านบนเนี่ย Google ควรจะขอบคุณคนมาใช้งานฟรี หรือ คนใช้งานฟรี ควรจะขอบคุณ Google ครับ? จริงๆก็ ไม่ต้องขอบคุณกันและกันก็ได้ครับ เพราะได้ผลประโยชน์ทั้งคู่ win-win ไม่มีใครเป็นหนี้ใคร ต่างคนต่างก็ได้ส่วนของตัวเอง
ถ้า Google ปิดก็ต้องย้ายไปใช้งาน Bing หรือ Yahoo ก็เป็นเรื่องปรกตินะครับ หรือใครจะรอจนกว่า Google จะเปิดแล้วกลับมาใช้งานครับ ในเมื่อคุณต้องใช้ Search Engine ค้นหาข้อมูลทุกวัน คู่แข่งก็มีตลอดเวลา ลูกค้าก็มีตัวเลือกมากมาย
ผมสรุปได้ว่า ไม่มี ใคร ถูก ผิด หรอกครับ มีแค่ทำถูกใจ หรือไม่ถูกใจ ผมสรุปได้ประมาณนี้นะครับ
หมายเหตุ: เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ แค่อยากบอกว่าคิดไง ไม่อยากมาม่ากับใครครับ