จุดเริ่มต้นคนขายแก้วกาแฟ
สวัสดีครับ ผมชื่อ เค เป็นคนรักอิสระในการใช้ชีวิตรวมทั้งเรื่องการงานพื้นฐานอาชิพ(วิชาหนึ่งตอนเรียนสมัย ม. ต้น ) ผมก็มีชีวิตเหมือนคนอื่นๆเรียนจบหางานทำ ได้ทำงานสมใจ มีเงิน มีงาน แต่สิ่งที่ขาดหายไปในชีวิตคือ เวลา วันจันทร์-วันศุกร์ วันเสาร์ทำบ้างบางอาทิตย์ ตื่นเช้ากลับมืดบางวันเอางานมาทำต่อที่บ้าน (งานเขียนแบบ ลูกค้าเร่งอ่ะ) เป็นแบบนี้อยู่2-3ปีจนวันหนึ่งมานั่งคิด ระหว่าง เงินกับเวลาอันไหนสำคัญกว่ากัน (ผมรู้ว่าคุณคงคิดว่าก็มีเงินและเวลาไง) ครับใครๆก็คิดอย่างนั้นแต่ในทางปฏิบัตินั้นยากกว่าความคิดเยอะเลยนอกจากคนที่มีเงินทองเหลือๆไม่ต้องทำไรก็ถือว่าคุณโชคดีเหลือแค่ใช้เวลากับชีวิตของคุณให้มีความสุข แต่หลายๆคนก็มีเวลามากมายแต่ ไม่มีเงิน ดูแล้วมันน้อยคนนะที่จะมีทั้งเงินและเวลา
แต่ผมเองในตอนนั้นเริ่มคิดว่าเวลานั้นสำคัญกว่าเงินมากมาย อยู่ที่ว่าคุณจะใช้เวลาไปกับเรื่องอะไรในชีวิต เงินใช้หมดไปแต่ก็หาใหม่ได้ เวลาใช้หมดไปไม่มีทางที่จะย้อนกลับมาได้ เราหาเวลาเพิ่มขึ้นไม่ได้ มีแต่น้อยลงทุกวันแก่ขึ้นทุกวันแถมจะตายวันไหนก็ไม่รู้
ยมบาลกำหนดอายุของแต่ละคนไว้แล้วแต่ก็น่าแปลกที่ไม่บอกให้พวกเราได้รู้ว่าเราเองจะหมดอายุวันไหน ทำงานเก็บเงินมาตั้งนานเดินสะดุดมดตกท่อตาย เซ็งเลยเหมือนเหนื่อยฟรีแถมตายไปเงินเอาไปไม่ได้อีก และที่สำคัญเราทุกคนต้องตาย เฮ้ย จิงอ่ะ จิงดิ คนเราชอบลืมว่ามันต้องเกิดขึ้นกับทุกคน คนที่เรารัก คนที่เราเกลียด คนที่เราไม่รู้จัก และก็ตัวเราเอง (พูดงี้ไปบวชเลยดีไหม – ยังคับกิเลสยังหนาอยู่คับ ) ทั้งหมดนี้ผมก็รู้ว่าทุกคนรู้กันอยู่แล้วแล้วแต่ใครจะเลือกใช้ชีวิต ไม่มีใครถูกใครผิด
แต่ผมเลือกที่จะใช้เวลามากกว่าที่จะทุ่มเททำงานหาเงินจนไม่มีเวลาเหลือเพราะผมกลัวสะดุดมดตกท่อตายอย่างที่กล่าวมา และผมก็เริ่มหาวิธีหาเงินที่เหมาะกับผมและมีเวลามากพอที่จะใช้ชีวิตตามความฝันของตัวเอง ได้มีเวลาอยู่กับคนที่เรารัก ได้ไปพูดคุยทานข้าวกับพ่อแม่ เพราะเราไม่รู้ว่านาฬิกาชีวิตของพ่อแม่เราจะหยุดเดินไปวันไหน ผมจึงใช้ช่วงเวลาที่มีให้คุ้มค่าที่สุดแบ่งปันประสบการณ์และความคิดกับพวกท่าน ผมเชื่อว่ามันจะเป็นช่วงความทรงจำที่มีค่าสำหรับผมในอนาคตตอนที่ท่านไม่อยู่แล้ว นี่เป็นการใช้เวลาที่คุ้มค่าที่สุดกับคนที่เรารัก หลังจากเริ่มมีความคิดแบบนี้ ผมจึงตัดสินใจลาออกจากงานที่เงินดีแต่ไม่มีเวลา มาหาหนทางทำงานส่วนตัวที่มีเวลามากขึ้น แต่สวนทางกับเงินเลย มีเวลามากขึ้นแต่เงินน้อยลง เพื่อนบางกลุ่มก็มาชักชวนทำขายตรงมาตื้อหลอกไปให้ฟังนู้นนี่บ้าง (ไม่ต้องบอกนะคับว่าบริษัทไรคิดว่าเพื่อนๆคงผ่านมาเกือบทุกคน) แต่ผมคิดว่าผมคงไม่ถนัดงานแบบนั้นและหาหนทางของตัวเองต่อไป
จนในที่สุดเริ่มพอเห็นทางอยู่บ้านแต่ก็ติดต่อกับคนอื่นๆได้ด้วย internet เลยเริ่มสนใจค้าขายทางอินเตอร์เน็ตด้วยความที่ไม่มีความรู้ด้านนี้เลยจึงมั่วไปมั่วมา(ปัจจุบันก็ยังมั่วอยู่) หาหนังสือมาอ่านบ้างลองผิดลองถูก ก็พอถูๆไถ่ๆไปได้บ้าง จนเริ่มมีลูกค้ามากขึ้น (ขายต่างประเทศ ebay + อื่นๆ) แต่ก็มีปัญหาบ้างเป็นเรื่องธรรมดาและแล้วก็
มาเจอปัญหาหนักเล่นเอาผมเป๋เหมือนนักมวยโดนเตะก้านคอ ลูกค้าคนนึงที่ทำการค้าด้วยกันมานานซึ่งผมค่อนข้างไว้ใจ เขาจะสั่งซื้อสินค้าแก้วกาแฟ Big Lot โดยมีการทดลองสั่งซื้อแก้วกาแฟเพื่อนำไปทดลองตลาดก่อนซึ่งการซื้อขายสินค้าอื่นๆมาก็ไม่เคยมีปัญหาผมจึงสั่งผลิตสินค้าแก้วกาแฟโดยรับเงินมาจากลูกค้า 50%เป็นเงินมัดจำผมก็นำไปมัดจำต่อกับโรงงานผลิตแก้วกาแฟ โดยมีเงินทุนผมเองด้วยบางส่วน
ผมสั่งผลิตสินค้าเดือน ธ.ค 53 สินค้าแก้วกาแฟเสร็จพร้อมส่ง 27 ม.ค 54 นี่สินค้าแก้วกาแฟทดลองตลาดก่อนที่จะผลิต lot ใหญ่ในอนาคต เพราะเขานำสินค้าแก้วกาแฟไปกระจายเพื่อรอการสั่งซื้อมาอีกที ดูๆไปก็เหมือนไม่มีอะไร แต่ปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นที่ตัวลูกค้า ปลายเดือน ธ.ค 53 ผมไปดูความคืบหน้าของสินค้าแก้วกาแฟ ที่ผลิตสังเกตเห็นว่ามีการย้ายข้าวของและสินค้าในสต็อกของเขาก็หายหมด ผมจึงไปพูดคุยว่าเกิดอะไรขึ้น ปกติมีสินค้าโชว์เพียบ
ได้รับคำตอบจากพนักงานฝ่ายขายที่ผมติดต่อว่า โรงงานกำลังจะปิด ตอนแรกผมก็นึกว่าปิดหยุดงานปีใหม่ แต่ไม่ใช่ เขาปิดกิจการ ซวยแล้วผมคิดในใจ แล้วผมถามว่าทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกที่ผมยังไม่สั่งผลิตว่าโรงงานจะปิดกิจการ พนักงานขายบอกว่า ตอนนั้นยังไม่มีความชัดเจนเรื่องนี้เลยยังรับ orderอยู่ สินค้าแก้วกาแฟของคุณเราก็ผลิตให้เสร็จตามกำหนดไม่มีปัญหา
บริษัทได้ขายกิจการให้กับหุ้นส่วนแล้วย้ายฐานการผลิตไปจังหวัดลำปาง พนักงานที่นี่ก็จะออกกันหมดหลังหมด รายการสั่งซื้อ ก็น่าจะหมดเดือน ก.พ 54 แล้วตัวพนักงานขายเองก็ออกปลายเดือน ม.ค 54 ผมถึงกับเหงื่อตก เพราะคุยกับลูกค้าไว้จะทำกันระยะยาวแล้วปลายเดือนก็จะบินมาดูโดรงงานผลิตด้วย แล้วนี่ก็พึ่งเป็น lot ทดลองด้วย
ที่สำคัญเงินยังเก็บมาไม่ครบด้วย มัดจำมา 50% ค่าสินค่าและผมออกไปก่อนอีกส่วนหนึ่ง ถ้าลูกค้าไม่จ่ายกินแกลบแน่ๆ(หลายแสน)
เป็นหนี้อีกต่างหากไม่อยากจะคิดเลยตอนนั้น เครียดๆเลย นอนคิดหาทางแก้อยู่หลายคืนยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งกดดัน วันรุ่งขึ้นผมไปคุยกับทางโรงงานผู้จัดการเรื่องการผลิต เขาให้คำตอบว่าทางเราได้ขายกิจการไปแล้ว ทางนี้ไม่มีอำนาจตัดสินใจแล้ว เขาย้ายการผลิตไปที่ลำปาง (อย่างไกลเลยผมอยู่ปทุม) เขาคงผลิตให้ได้แต่กว่าจะผลิตได้คงต้องใช้เวลาหลายเดือนเพราะกว่าจะลงตัว มาถึงตรงนี้ผมถอดใจแล้วครับ คงต้องคุยกับลูกค้าตรงๆเพราะจะให้โรงงานอื่นๆผลิตก็ไม่ได้ เพราะงานต้องใช้ความชำนาญ เป็นงาน Handmade วาดด้วยมือ ต่างจากงานทั่วไปไม่คุ้มเสี่ยงเดี๋ยวจะหนักกว่าเดิม ผมจึงแจ้งข่างให้ลูกค้าทราบทาง Email แล้วไม่นานก็ได้รับ Email ตอบกลับ เป็นการเปิดเมลทีตื่นเต้นสุดๆ และผมก็นั่งแปลได้ความว่า เขาขอยกเลิกการสั่งซื้อทั้งหมด ถ้าคุณผลิตไม่ได้ผมจะเอาสินค้าพวกนี้ไปทำอะไร
ถึงตอนนี้ผมเหมือนโดนหมัดเสยเข้าคางไปอีกดอก ทำไรไม่ถูกคิดไรไม่ออกเพราะเงินที่ค้างจ่ายนั้นยังเป็นเงินอีกหลายบาท
หลังจากนั้นทั้งอาทิตย์ ผมไปคุยกับโรงงานหลายรอบ คุยกับลูกค้าหลายครั้ง ทั้งขอความเห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย สุดท้ายลูกค้ายอมจ่ายเงินบางส่วน ทางโรงงานลดราคาบางส่วนเท่าที่ลดได้ ผมลดความเสียหายจากการซื้อขายครั้งนี้ลงได้ 80 % แต่ 20 % ที่เหลือมันก็มากพอที่จะทำให้บ้านของผมเต็มไปด้วย แก้วกาแฟคลาสสิคหลากหลายรูปแบบ เป็นประสบการณ์ที่จะต้องจำไปอีกนาน แต่ถ้าคิดในแง่ที่ดี เราก็ได้เรียนรู้จากความผิดพลาด เพื่อให้เราแกร่งขึ้น (ปลอบใจตัวเอง) แล้วมานั่งดูแก้วกาแฟที่เหลือเต็มสต็อก ว่าจะทำไงดีเนี้ย งาน Handmade ต้นทุนสูงไว้ขายกับฝรั่ง จะขายคนไทยได้ไง จะขายปลีกใน Ebay ก็โดนค่าธรรมเนียมกับค่าส่งกินหมดเพราะมันหนัก พอดีนึกขึ้นมาได้ว่าเคยเปิดบริการเว็บไว้แห่งหนึ่งแต่ไม่ได้ใช้งานเลย คิดคำนวณราคา+ค่าส่งลดราคาสุดๆก็ได้ประมาณเนี้ย ว่าแล้วก็นั่งถ่ายรูปลงข้อมูลทำเว็บอยู่ 5 วัน เสร็จซักที แต่ยังไม่มีคนประเดิมซื้อเลย ยังไงก็แวะเข้ามาเยี่ยมชมกันได้นะคับ
http://www.skythailandshop.com 
ขอบคุณครับ :'( :'( :'( :'( :'(
เป็นเรื่องเล่าประสบการณ์ของการค้าขายอาจจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยให้กับเพื่อนๆ
นี่แหละครับเป็นที่มาของ คนขายแก้วกาแฟ
แก้วกาแฟซักใบไหมครับ เค.
ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็น คำแนะนำ และคำติชม