ต่อจากโพส ก่อนหน้านี้คือ Marketing Strategy - >
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,166937.0.html 
ใครยังไม่ได้อ่าน SWOT , การกำหนด STP , Marketing Strategy กลับไปอ่านก่อนนะครับเดี๋ยวไม่รู้เรื่องนะ
Marketing Objective หรือการกำหนดวัตถุประสงค์ ทางการตลาดเมื่อเราได้ทำการวิเคราะห์ SWOT ของตัวเองได้เเล้ว เลือก STP ตำเเหน่งทางการตลาดของตัวเราลงเป็นที่เรียบร้อยคร่าวๆ ไตร่ตรอง กลุยุทธ์ที่เราจะเลือกใช้ ในตัว Business Model ถัดไปของเราเป็นที่เรียบร้อยโดยที่ไม่ลืมที่จะวิเคราะห์ Trend เเละ Macro & Micro (มหภาค เเละ จุลภาค) ทั้งในตลาด US เเละ ตลาดไทย ดูสถิติย้อยหลังต่างๆ เพื่อช่วยในการวิเคราะห์เป้าหมายของเรา เเละ วัตถุประสงค์
เป้าหมายเเต่ละท่านไม่เหมือนกันบางคนเพื่อยอดขาย บางคนเพื่อขาย BL บางคนขาย Banner บางคนเป็น Ads บลาๆ ไม่เหมือนกัน เเต่ทำเงินได้มากที่สุดย่อมดีที่สุดไม่ใช่หรือ? ใช่ครับ มากๆย่อมดีกว่าน้อยๆ เเน่ๆ เเต่การตั้งเป้าหมายนั้น ทำให้เรา Goal หรือ จุดสิ้นสุดทางของ Project นั้นๆ ไม่ใช่ทำไปเรื่อยๆ ๆ ๆ ไม่มีวันจบซักที เมื่อไม่มีวันจบ ก็คือไม่มีวันเสร้จ เมื่อไม่เสร้จ เมื่อไหร่จะได้ทำเพิ่มกันซักทีล่ะครับ(การตั้งเป้าหมาย อาจจะเเบ่งเป็น 3 ช่วง ระยะ สั้น - กลาง - ยาว ได้นะครับ)
เมื่อได้เป้าหมายที่ชัดเจนเป็นที่เรียบร้อย ก็กำหนดวัตถุประสงค์ เช่น
เพื่ออันดับ ในผล Search Results เว็บนี้ ติดหน้าเเรก ถือว่าโอเค หรือ ต้อง ที่ 1 เท่านั้น
เพื่อ Traffic เช่น เว็บนี้ Traffic 100 คน / วัน ก็ถือว่าปิดโครงการ
เพื่อจำนวนปริมาณ เช่น อยากเปิด 100 เว็บก็เปิดไปให้ครบ
เพื่ออื่นๆ เช่น รายได้ ต้องได้มากกว่า $xxxx / วัน ถือว่าปิด Job
เมื่อได้วัตถุประสงค์ในการทำงานเเล้ว ก็นำมาออกเเบบ
Marketing Plan หรือ แผนการทำงาน ในการทำงานเราจำเป็นต้องมีแผนที่เดินทางในการทำงาน หรือที่พวกเราขอบเรียกกับว่า RoadMap นั้นล่ะครับ
เมื่อได้ RoadMap มาเเล้ว ไตร่ตรองดูให้ดีนะครับ ว่าเราได้ทำบางสิ่งบางอย่างมากเกินไป หรือน้อยเกินไปอยู่หรือไม่?
ใหม่ๆ นั้นเราอาจจะยังไม่คุ้นเคย การตั้งเป้าหมายเพื่อกำหนดวัตถุประสงค์อาจจะมีผิดพลาด ไม่ครบถ้วนบ้าง ขาดนู่นนี้ หรือ มากเกินไป ทำเก้อเสียเเรงเปล่าผิดวัตถุประสงค์ ( ตั้งเป้าว่าจะหา WP Theme ให้ได้ 10 อัน หาไปหามาเพลิน หามาเป็นร้อย สรุปใช้จริงๆ เเค่ 10 อัน เจอใหม่ก็ถูกใจๆ ไปเรื่อยๆ ) ในทุกๆ ครั้งที่เราเดินออกนอกทาง นั่นคือเวลาที่เสียไป บางทีอาจจะคุ้มที่เดินออกนอกทาง บางทีอาจจะไม่คุ้มที่เดินออกนอกทาง มือใหม่หลายท่าน จนบางครั้งใน Marketing Plan เราอาจจะจำเป็นต้องกำหนดขอบเขต ต่างๆ เอาไว้ประกอบด้วย (รู้ครับว่าอยากทำออกมาดีที่สุด เเต่ถ้าทำไปเเล้วไม่ถึง Goal ซักที ค่าโฮสเราก็สูบเราไปเรื่อยๆ น่ะครับ ลองชั่งน้ำหนักดูว่า Goal กับ ที่สุดๆๆๆๆ ในเเต่ละอย่าง เราอยากได้อันไหนมากกว่ากัน ส่วนใหญ่จำพวกค่านามธรรมต่างๆ จะทำให้เราเสียเวลามากกว่าที่ควรจะเป็นครับ เช่น ความสวย ความเนียน ความพอดี ความเหมาะสม ฯลฯ <<<< เมื่อถึงงานต่างๆ เหล่านี้ต้องระวังให้ดีนะครับ สวยที่สุด เนียนที่สุด ดีที่สุด เหมาะสมที่สุด อาจจะไม่ได้ทำเงินให้มากที่สุดก็ได้นะครับ
RoadMap ที่ดี จะต้องใช้เวลาน้อยที่สุด ใช้ทรัพยากรณ์น้อยที่สุด เพื่อให้ได้งานมากที่สุด เเละเปลี่ยนเป็นเงินได้มากที่สุดครับ
Marketing Action Plan หรือแผนการดำเนินงาน
เมื่อได้ RoadMap ที่เราต้องการเเล้ว จากนั้นก็วางแผนงานในการดำเนินการกันเลย
แผนการดำเนินงาน ที่ดีจะต้องมีเงื่อนไขของเวลามาเกี่ยวข้องด้วยเป็น Schedule(ตารางเวลา) เพื่อให้เราทำงาน
เพื่อนๆทราบกันหรือไม่ว่า.. การที่เรามาทำงานนี้กัน เพื่อนๆ ทุกคนโดนต้นทุนค่าเสียโอกาสด้วยกันทั้งสิ้น เช่นผมเองถ้าไม่ทำงานนี้ต้องไปทำงานที่ไหน ค่าเสียโอกาสที่ผมเสียไปต่อวันเป็นจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งเเต่ละคนไม่เท่ากัน ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ผมจะเรียนจบ โท เงินเดือน น่าจะประมาณ 35,000-40,000 โบนัสสำหรับบริษัทในภาคอสังหาริมทรัพย์ในปีที่ ผ่านมา 7-10 เดือน เเปลง่ายๆ ว่า ปีนึง ผมควร มีรายได้จาก IM ให้ได้ ปีละ (40,000*12เดือน)+(40,000*โบนัส 10 เดือน) = 880,000.- หารกลับมาเป็นเดือนก็เท่ากับ เดือนละประมาณ 75,000 ที่ต้องหาให้ได้เป็นยอด Amazon + Ads + อื่นๆ ไม่งั้นถือว่าไม่คุ้มค่าเสียโอกาส (ตัวอย่างคร่าวๆนะครับ บางคนอาจจะบวกกลบลบนู่นนี่ค่าเสียโอกาสต่างๆ เเต่ละคนเพิ่มลดมากกว่านี้อีกเยอะเเยะ)
จากด้านบนมีบริษัทเค้ายินดีจ้างผมไปทำงานเดือนละ 40,000.- ทำงานเเค่ 22 วัน ลองคิดออกมาเป็นต่อวันดู วันละ 1,800.- ที่มีบริษัทยินดีจ่ายให้ผมไปทำงานให้เค้าอยู่ด้วย เเต่ว่า.. ณ ตอนนี้พนักงานที่ชื่อ Giftrin นั้น ไม่ได้ไปทำงานให้เค้า เเต่ทำงานอยู่ที่บ้าน ผมถามตัวเองทันทีเลยว่า วันนี้คุณ Giftrin ทำงานคุ้มค่าเเรงวันละ 1,800.- เเล้วหรือยังครับ?? ถ้ายังไม่คุ้มช่วยทำให้คุ้มด้วยนะครับ เพราะกิจการส่วนตัวนี้ เรือลำนี้ มีคุณคนเดียวที่เป็นคนพาย ถ้าชีวิตของผมวันนี้เป็นเจ้านายตัวเองไม่ได้ ก็ขอไปสมัครเป็นพนักงานรับใช้บริษัทอื่นก็ได้ครับ เพราะเราเองนั้น ไม่มีความสามารถในการบริหารบุคคลากร(นั้นคือตัวเอง) ครับ ส่วนคนที่ทำงาน IM เป็น Part-time ก็ลองหารเวลาออกมาเป็น ชม.ดูนะครับ ว่าขณะที่เรากลับมาทำงานต่อที่บ้าน จากงานประจำที่ทำ ที่ทำงานประจำเราเค้าให้ OT เราเท่าไหร่? ก็เอา ค่า OT มาคิดเเทนค่าเเรงเราเลยครับ ว่าเราทำงานคุ้มมั้ยวันนี้
แผนการดำเนินงานรวมไปถึงขั้นตอนการเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ รวมอยู่ในแผนไปด้วยเลยนะครับ เช่นวันที่ 1 เช่าโฮส วันที่ 2 จดโดเมน วันที่ 3 ...
การวางแผนงานที่ดี ต้องเหมาะสมทั้งการทำงานเเละการพักผ่อนด้วยนะครับ วางแผนให้ดีเเละปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด การเป็นเจ้านายตัวเองที่ดีให้ได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับมือใหม่เลยทีเดียว เเต่ก็ไม่ใช่เพื่อใคร ก็เพื่อตัวเราเอง เเละ อนาคตของเราเองด้วยเช่นกันนะครับ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบ 6 ภาค
1.SWOT Analysis วิเคราะห์ จุดเเข็ง จุดอ่อน โอกาส อุปสรรค
2.STP หรือ การวางตัวเอง ลงในตำเเหน่งที่เหมาะสมในธุรกิจ หรือว่าในภาษาเราๆ ก็คือ เลือก Keyword ให้เหมาะกับ SWOT นั่นเองครับ
3.Marketing Strategy การเลือกใช้กลยุทธ์ทางการตลาดให้เหมาะสมกับตัวเอง
4.Marketing Objective การกำหนดวัตถุประสงค์ วางเป้าหมายในการทำการตลาด เช่น อับดับ หรือ ปริมาณ Traffic
5.Marketing Plan แผนการทำการตลาดเพื่อที่จะตอบสนองวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจไว้
6.Marketing Action แผนการลงมือปฏิบัติ การเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือ โฮส,โดเมน,Tool รวมไปถึงระบบการจัดการต่างๆให้เหมาะสม
ขอให้ทุกท่านเป็นนัก IM มืออาชีพที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ทุกท่านเลยครับ
Giftrin
