อ่านคอมเม้นแล้ว อนาจแท้
ตกลงเค้าไม่ช่วยแล้วใช้ไม่ครับ อะไรกันวะเนี๊ย
บริษัทของลูกเรือบอกให้หยุดอ่ะครับ
ตายเท่าไหร่ผมไม่รู้ ผมจึงไม่อยากเสี่ยง
คมชัดลึก : ภารกิจของ “หมู่เรือปราบปรามโจรสลัด” ที่ออกปฏิบัติการในน่านน้ำอ่าวเอเดน ได้ถอนสมอเรียบร้อยแล้ว หลังจากปฏิบัติการนานกว่า 4 เดือน โดยเฉพาะการติดตามไล่ล่ากลุ่มโจรสลัดที่จับกุม 27 คนไทย เมื่อรับทราบว่าปลอดภัยแล้ว โดยให้ทางบริษัทกับโจรสลัดเป็นผู้เจรจาต่อรองกัน ปฏิบัติการทางทหารจึงถอนสมอเพื่อเดินทางกลับสู่มาตุภูมิทันที
พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ อธิบายถึงการปฏิบัติภารกิจในการช่วยเหลือลูกเรือคนไทย 27 คนที่ถูกกลุ่มโจรสลัดจับกุมตัวในระหว่างเดินเรือบริเวณอ่าวเอเดน ว่า ปฏิบัติการอะไรที่เสี่ยง หรือทำให้เกิดความสูญเสียเราจะพยายามไม่ทำ ถ้าหาก 27 คนไทยกลับบ้านได้โดยปลอดภัยนั่นคือจุดประสงค์สุดยอดของเรา หรือว่าบรรลุภารกิจของกองทัพเรือไทยที่ออกไปปฏิบัติภารกิจน่านน้ำอ่าวเอเดน อีกทั้งการถอนสมอในครั้งนี้เนื่องจากบริษัทของลูกเรือคนไทยทั้ง 27 คน บอกให้หมู่เรือปราบปรามโจรสลัดหยุดปฏิบัติการทางด้านทหาร เพราะไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสีย
“เมื่อบริษัทดังกล่าวบอกให้เรายุติ แล้วเราไปดำเนินการหากเกิดสูญเสียคงไม่คุ้ม ทั้งนี้เหตุการณ์ที่คนไทยทั้ง 27 คนถูกจับ บริษัทเรือไม่ได้แจ้งให้เราได้รับทราบ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราอยู่ห่างราว 350 ไมล์ทะเล หรือ ประมาณ 600 กิโลเมตร กลุ่มโจรสลัดจับกุมคนไทยไปตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม ที่ผ่านมา ขณะที่หมู่เรือปราบปรามโจรสลัดมารู้เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม โดยที่เขาก็ไม่ได้แจ้งให้เราทราบ เพียงแต่มันผิดสังเกตและเข้าไปตรวจสอบจึงรู้ว่ามีคนไทยถูกจับกุมไป หากเกิดเหตุซึ่งหน้าเราก็คงไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น”พล.ร.อ.กำธร บอกว่า หมู่เรือปราบปรามโจรสลัดได้ให้ความช่วยเหลือเรือในบริเวณน่านน้ำหลายลำ ซึ่งถือว่าการปฏิบัติงานได้ผลดีมาก แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสุดวิสัย กลุ่มโจรสลัดใช้ปืนจี้หัวตัวประกันที่เป็นลูกเรือคนไทยทั้ง 27 คนซึ่งไม่มีโอกาสได้เข้าไปอยู่ในเซฟรูม เพื่อปกป้องตัวเอง ตามปกติเรือทุกลำจะมีอยู่แล้ว และปล่อยให้เรือเดินไปตามอัตโนมัติ ทั้งนี้เรามีขั้นตอนหลายอย่าง หากลูกเรือได้เข้าไปในเซฟรูมแล้ว เรือเดินไปอีกสักพักกดปุ่มเพื่อตัดน้ำมัน เขาก็ทำอะไรไม่ได้ มันมีหลายวิธีนอกเหนือจากกำลังทางทหาร
ผู้บัญชาการทหารเรือ บอกด้วยว่า บริษัทเรือจะต้องมีมาตรการในการดูแลเรือของตัวเองด้วย ตนได้พูดคุยกับเอกอัครราชทูตสเปน ถึงกฎหมายในการปฏิบัติการ ซึ่งทางสเปนบอกว่า เขามีการแก้กฎหมายภายในของเขา โดยเรือสินค้าของเขาสามารถจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัย หรือติดอาวุธบนเรือ เพราะเขาให้เหตุผลว่า มีเรือในการดูแลคุ้มกันอยู่ในพื้นที่ 2 ลำ คุ้มครองได้ไม่หมด เพราะมันพื้นที่กว้าง และปีหนึ่งอาจจะมาอยู่ได้แค่ 3-4 เดือน หลังจากนั้นถึงจะเดินทางกลับมาใหม่ ไม่สามารถอยู่ได้ 365 วัน วิธีการที่ดีที่สุดคือการแก้ไขกฎหมายให้มีอาวุธบนเรือสินค้าได้ หรือให้มีหน่วยรักษาความปลอดภัย
“เรื่องจะขัดกฎหมายระหว่างประเทศหรือไม่ เพราะเป็นการดำเนินการประกอบกิจการสุจริต เขาก็ควรที่จะมีสิทธิในการป้องกันตัว ทั้งนี้จะต้องศึกษากฎหมายของไทยว่าจะสามารถทำแบบนี้ได้หรือไม่ ถ้าทำได้ก็จะเป็นมาตรการหนึ่งในการช่วยเหลือตัวเอง หากเกิดกรณีที่ไม่มีเรือของชาติไหนอยู่ในพื้นที่ ส่วนจะค้านกับกฎหมายระหว่างประเทศอย่างไรจะต้องศึกษาว่าจะคุ้มหรือไม่คุ้ม ซึ่งถือเป็นแนวคิดที่หลายชาติทำแบบนี้ หากไม่มีเรือรบ หรืออยู่ห่างไกลจะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างไร”
หลังจากมีการถอนกำลังออกมาแล้วจะมีนายทหารอยู่อีก 2-3 จุด คอยช่วยเหลือเจรจากับบริษัทเรือไทยที่ประกอบธุรกิจในน่านน้ำดังกล่าว ส่วนจะส่งเรือไปอีกหรือไม่ ถ้าจะไปก็จะต้องไปในช่วงทะเลเรียบ เพราะกลุ่มโจรสลัดจะมาในช่วงดังกล่าว แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับงบประมาณของประเทศว่าจะสนับสนุนได้หรือไม่ จะคุ้มค่าหรือไม่ แต่ที่ผ่านมาการปฏิบัติถือว่าได้รับคำชมเชยจากหลายชาติ และขอบคุณที่ประเทศไทยเข้าไปมีส่วนร่วมในครั้งนี้
“หมู่เรือปราบปรามโจรสลัดทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกเรือคนไทยทั้ง 27 คนได้รับความปลอดภัย แต่เราเสียเปรียบ ถ้าลูกเรืออยู่ในเซฟรูมทุกคน โจรสลัดเข้าไปจี้ไม่ได้ ลูกน้องของผม คือ หน่วยปฏิบัติการสงครามพิเศษทางเรือ (นสศ.) มีขีดความสามารถสูงในการปฏิบัติการ แต่ว่าไม่มีใครรับประกันว่ามีปืนจี้หัวตัวประกันหรือไม่ ดังนั้นการปฏิบัติการจะต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา ครอบครัวเขาจะต้องบอกว่ากองทัพเรือมีสิทธิ์อะไรที่จะไปตั้งกฎเกณฑ์ว่าจะให้คนไทยทั้ง 27 คนมีชีวิตอยู่หรือไม่มีชีวิตอยู่ การกระทำการใดที่ทำให้เสียชีวิตโดยเราเป็นคนตัดสินใจ มันจึงต้องคิดว่ามีหนทางใดที่เราได้เปรียบ ถ้าทำทำได้ แต่ตายเท่าไหร่ผมไม่รู้ ผมจึงไม่อยากเสี่ยง”พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า มีบริษัทเรือไทยที่เดินอยู่ในบริเวณน่านน้ำดังกล่าวเดือนละประมาณ 30-60 เที่ยว รวมถึงเรือประมง เขาบอกว่าถ้ามีเรือรบของไทยอยู่ก็อุ่นใจ ตนเคยคุยกับบริษัทเรือไทยเขาบอกว่ามีนายหน้าของกลุ่มโจรสลัดโทรมาเจรจาต่อรอง ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะต้องเสียเท่าไหร่ แต่เรามีกำลังพลที่ปฏิบัติการทางจิตวิทยาในการให้คำแนะนำต่อรองอยู่ ทั้งนี้เราทำอะไรไปเมื่อตกลงกันแล้ว และมีการตกลงกันใหม่ หรือคูณเข้าไปอีก 3-4 เท่า บริษัทจะเอาที่ไหนจ่าย และลูกเรือที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้กว่า 50 คน จะได้เดินทางกลับเมื่อไหร่ พอรู้อีกทีก็จับไปหมดแล้ว ซึ่งเรื่องนี้เกิดก่อนที่เราจะเดินทางไปปฏิบัติการ
"
เขาลดราคากันเรียบร้อยแล้ว หากไปทำอะไรมาแล้วเขาต้องเจรจานับศูนย์ใหม่ มันจะไม่เป็นผลดี จะถูกกล่าวหาว่าเป็นเพราะกองทัพเรือทำให้การเจรจาต้องเริ่มจากศูนย์ใหม่ ดังนั้นหากมองมุมเดียวก็จะบอกว่ากองทัพเรือไม่ได้ทำอะไร แต่ถ้ามองอีกแง่คนรู้จะเห็นว่ากองทัพเรือทำแบบมีเหตุมีผล และถ้าผมทำอะไรไปให้คนไทยตายไปมันจะไม่เป็นผลดี ผมยังไม่พูดถึงลูกน้องผมเลยนะ ลูกน้องผมก็มีสิทธิ์ตายได้ แต่ถือว่าเป็นหน้าที่ของทหาร แต่เราก็ห่วงเหมือนกัน แต่ผมห่วงประชาชนมากกว่า ทหารยินดีช่วยทุกอย่าง ถือเป็นอาชีพของเรา”พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า เห็นมีข้อความว่าหมู่เรือปราบปรามโจรสลัดได้ส่งเรือโจรสลัดกลับเข้าบ้านแล้ว ซึ่งถือว่ามีบางส่วนไม่เข้าใจ ตนบอกกับลูกน้องว่า บางอย่างไม่ได้ทำอะไรได้ดั่งใจ ดังนั้นทุกอย่างจะต้องอดกลั้น ถ้าทหารไม่มีวินัยเขายิงกันแล้ว ถามว่าประเทศไทยจะได้อะไร ครอบครัว 27 คนไทยจะทำอย่างไร หากเกิดเหตุการณ์รุนแรงแบบนั้น
“เราพยายามกดดันทุกอย่าง เพียงแต่เราเข้าใกล้เขา เขาก็บอกว่าจะทำร้ายตัวประกัน เขาบอกว่าเขาไม่เคยทำร้ายตัวประกันเลย หากเข้ามาเขาจะปฏิบัติการกับตัวประกันทันที เราจึงต้องดูแลให้ดีที่สุด แต่เมื่อลูกเรือทั้งหมดถึงฝั่งแล้ว เราก็ทำอะไรไม่ได้ จึงต้องปล่อยให้บริษัทดังกล่าวเจรจากับกลุ่มโจรสลัด ทั้ง 27 คนไทยเขามีสิทธิ์มีทางรอด ปัจจุบันมีเรือกว่า 29 ลำที่ถูกโจรสลัดยึดเอาไว้จาก 10 ประเทศ ซึ่งทุกประเทศเขาก็ให้ความสำคัญกับลูกเรือของประเทศเขาทั้งหมด”
ทีมข่าวความมั่นคง
http://goo.gl/jzivE 
