ไฮโดรเจน มันไม่ได้เป็นเชื้อเพลิงครับ
แนวคิดของผู้ผลิตคือ แยกไฃส่วนประกอบ ของ ไฮโดรเจน ออกจาก ออกไซด์ ที่อยู่ในน้ำ
ต้องการทำให้ระบบการเผาผลาญน้ำมันได้ดีขึ้น หรือต้องการให้ใช้น้ำมันได้คุ้มมากขึ้นนั่นเอง
เผาไหม้ได้เป็นเชื้อเพลิงนะครับเพิ่งแต่ ที่ยังไม่มีใครนำมาใช้ในเชิงพานิชย์อย่างเป็นรูปธรรมก็เนื่องมาจาก มันยังเสียเปรียบในด้านเชิงกลอยู่นั้นเองครับ
ยืนยันครับ คุณสามารถทำให้น้ำติดไฟได้
คุณเคยเล่นมังกรพ่นไฟไหม
หากน้ำได้รับความร้อนสูงและรวดเร็ว
(สูตรของน้ำ H2O ) ไฮโดรเจน 2 อะตอม ออกซิเจน 1 อะตอม
คุณสมบัติของสาร
-ไฮโดรเจน ติดไฟได้ แต่ไม่ช่วยให้ไฟติด
-ออกซิเจน ไม่ติดไฟ แต่ช่วยให้ไฟติด
ดังนั้น ธาตุสองตัวนี้จะส่งเสริมกันครับ
ดังนั้นหากแยกจากกันได้
เราสามารถทำให้มันติดไฟได้ครับ
วิธีแยกน้ำ
-แยกด้วยไฟฟ้า
-แยกด้วยความร้อน(ไม่ใช่ให้มันเดือดนะครับ)
จากเด็กวิทย์
อิอิ (ไม่รุ้ถูกไหม จำได้แค่นี้)
จากข้อความ ของท่าน Kuroroman
ถ้าบอกว่าไม่ใช่เชื้อเพลิงหลัก ยังพอ จะเข้าใจนะ
แต่มาบอกว่าไม่ใช่เชื้อเพลิิงมันไม่สมเหตุผล เพราะมันติดไฟได้และไวไฟมากด้วย
ข้อแนะนำการเลือกซื้อเครื่องผลิต ก๊าซไฮโดรเจนจากน้ำ ด้วยไฟฟ้า เพื่อใช้ร่วมกับเชื้อเพลิงของรถยนต์
1. การทำงานภายใต้อุณหภูมิภายนอก (Ambient Temperature) ควรทำงานได้ในขณะที่อุณหภูมิรอบๆตัวมันเกินกว่า 75 ํC เนื่องด้วยในห้องเครื่องจะมีอุณหภูมิประมาณนี้ ตัวเครื่องผลิตก๊าซเมื่อทำงานไปสักพักหนึ่งแล้วจะต้องมีอุณหภูมิต่ำกว่าอุณหภูมิภายนอก ไม่เช่นนั้นจะไม่มีการระบายความร้อน เกิด over heat อายุการทำงานของเครื่องไม่ยืนยาว หากเครื่องของท่านทำงานแล้วร้อนถึง 70 ํC ท่านไม่สมควรติดตั้งไว้ในห้องเครื่อง ทางที่ดีอย่าซื้อเครื่องแบบนี้จะดีกว่า
2. ขนาดของเครื่อง ขึ้นอยู่กับการออกแบบของผู้ผลิตก็จริง สำหรับรถยนต์สี่ล้อทั่วๆไปปริมาตรรวมของตัวเครื่องน่าจะอยู่ในช่วง 1 ถึง 1.5 ลิตรก็เพียงพอจะไม่เกะกะมากเกินไป บางยี่ห้อเทียบได้กับโทรศัพท์รุ่นกระดูกหมาคือใหญ่มาก บางยี่ห้อ บางถ่ายรูปได้ อันนี้แล้วแต่ชอบไม่ว่ากัน
3. การกินพลังงานหรือกินกระแสไฟฟ้า เป็นข้อสำคัญลำดับแรกในการตัดสินใจเลือกซื้อ หากท่านเลือกซื้อเครื่องที่กินกระแสมาก ๆ เช่น 10Amps. เท่ากับท่านเปิดเครื่องเสียงขนาด 138 Watt ตลอดเวลาไดชาร์ตของท่านจะทำงานหนัก แปรงถ่านจะสึกหรอเร็ว และหากท่านเดินทางสั้น ๆ คือ start เครื่องบ่อย Battery อาจหมดเร็ว หรือเสื่อมเร็วเป็นเงาตามตัว ยิ่งพวกที่กินกระแส 15 ถึง 30 Amp. เปิดไปสักพักจะใช้พลังงานเท่ากับ 30 A. x 13.8 V. = 414 Watts เท่ากับเปิดไฟหน้า 8 ดวงตลอดเวลาหากกินกระแสเกิน 10 Amp. ก็ไม่น่าเลือกซื้อแล้ว ปัญหาจะตามมาแน่ ๆ
4. การเติมน้ำบ่อย ๆ เมื่อใช้ไปก็จะเกิดความรำคาญความรู้สึกจะต่างกับการเติมน้ำมัน เพราะเราต้องเป็นคนเติมเอง เหมือนการเติมน้ำหม้อน้ำในรถรุ่นเก่า ๆ ต้องคอยตรวจดูเสมอ ๆ แต่รุ่นใหม่ ๆ เติมทีหนึ่งแทบลืมไปเลย ข้อนี้ขึ้นอยู่กับความชอบแต่ละท่าน ทางที่ดี เลือกพวกที่เติมครั้งหนึ่ง วิ่งได้ 5,000 ถึง 10,000 กม. ขึ้นไปจะสะดวกกว่ามาก
5. การใช้สารละลาย เป็นที่ทราบกันดีว่าใช้ได้ทั้ง กรด ด่าง และเกลือ ขึ้นอยู่กับการออกแบบและวัสดุภายในของแต่ละยี่ห้อ แต่ขอแนะนำให้เลี่ยงพวกที่ชอบขายสารเคมีให้เรา จะเป็นทาสเขาไปตลอด ให้เลือกแบบที่ไม่จำเป็นต้องไปของ้อบ่อย ๆ เอาแบบซื้อครั้งเดียวช่วยเหลือตัวเองได้ตลอดกาลจะดีที่สุด เติมแต่น้ำอย่างเดียวสบายกว่า
6. น้ำที่ใช้เติม ถ้าเขาบอกว่าน้ำอะไรก็เติมได้เช่นน้ำประปา แสดงว่าเขารู้ไม่ลึกซึ้งก็ทำเครื่องออกขายแล้ว เครื่องเหล่านี้จะมีปัญหาคล้าย ๆกับกาต้มน้ำที่มีตะกรันเกาะ หากเอาน้ำกระด้างไปต้มบ่อย ๆ ทางที่ดีน่าจะเป็นน้ำ Reverse Osmosis หรือR.Oพอไหว เป็นน้ำกลั่นบริสุทธิ์ จะดีที่สุดเพราะเครื่องแยกไฮโดรเจนนี้เหมือนอุปกรณ์ห้อง Lab. เคมี ของที่ใส่ลงไปควรต้องรู้ว่าเป็นอะไรบ้าง ไม่ใช่ มีคลอรีนบ้าง และเกลือแร่ต่าง ๆ มากน้อยเท่าไรก็ไม่รู้ ซึ่งจะทำให้ elements ภายในเสื่อมเร็ว
7. ควรมีRemote Control เพื่อแสดงสภาวะการทำงานและสัญญาณแสดง Diagnose(ข้อบ่งบอกความผิดพลาด) เช่น ระดับน้ำมากน้อย เครื่องยังทำงานอยู่ หรือหยุดทำงานแล้ว ด้วยเหตุต้องการล้างทำความสะอาด หรือ ระบบไฟจ่ายไม่ครบ เช่น fuse ขาด ฯ เมื่อมีRemote ก็ย่อมมีตัวควบคุมหรือControl ตัวควบคุมนี้ บางผลิตภัณฑ์ อาจเป็นชนิดลอกฝรั่งมาเป็นแบบ PWMหรือ Pulse Width Modulation พวกนี้ทำไม่ดีจะปล่อยคลื่นรบกวนมากมายหลายความถี่ เพราะฝรั่งเขาบอกมาไม่ครบหรอกต้องไปเติมวงจรป้องกันที่เรียกว่าfilterเอาเอง อาจกวนมือถือ หรือระบบกันขโมย ตลอดจน ECU ของรถ ทำให้ปวดหัวได้หลายที หากติดแล้วเกิดปัญหาก็ลองปิดเครื่องไว้จะสังเกตได้ ก่อนซื้อก็ถามดูหรือเลี่ยงได้ก็เลือกยี่ห้ออื่นมีถมไป
8. ถ้ายี่ห้อไหนติดตั้งแล้วจะมาปรับเครื่องยนต์ของเรา อย่าไปซื้อของเขาจะดีกว่าขอบอก เพราะระบบแบบนี้ไม่ต้องการการปรับจูนเครื่อง ตอนปิดเครื่องหรือเลิกใช้ เครื่องยนต์ของเราต้องทำงานเหมือนเดิมทุกประการ เขาจะมี Mass Air Flow Enhancer หรือ Oxygen Enhancer แยกต่างหากเพื่อหลอก ECU ตามแต่ชนิดของเครื่องยนต์เมื่อไม่ใช้ก็ By pass เสีย ไม่ก็ถอดออก ทำให้รถของเรากลับสู่สภาพเดิมได้ทันที่ไม่พึ่งช่าง ซื้อมาแก้ปัญหาไม่ใช่เอามาสร้างปัญหาจริงไหม ถ้าเขาไม่มีแสดงว่าเขาศึกษาไม่หมด ให้เขาเข้าใจถ่องแท้หรือกลับไปหาความรู้ให้มากขึ้นก่อนค่อยซื้อของเขา
9. ราคา ขึ้นอยู่กับการให้บริการและระบบการขาย แต่ไม่ควรเกินสองหมื่นขอบอก กล่าวมาทั้งแปดข้อรวมติดตั้งยังหมื่นต้น ๆ เลย
ให้ไว้ดูเพื่อพิจารณา
ผมเคยดู vdo ของต่างประเทศกินไฟ แค่ 12v 0.2A ได้ไฮโดรเจนเยอะพอสมควร มาลองประกอบเอง ทำไม่ได้เท่าเขา
ไม่รู้ว่า น้ำที่เขา เอามาใช้ มีคุณสมบัติยังไง หรือใส่ สารเคมีอะไร บ้าง ทำไม่ได้ เหมือนเขา
ผมลองทำต้องใช้ไฟ 12v 1-5A ยิ่งแอมเยอะำได้ไฮโดรเจนเยอะ