ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comอื่นๆCafeเรื่องเล่าจากลานประหาร
หน้า: [1]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องเล่าจากลานประหาร  (อ่าน 4100 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
RICHEST
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 354
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,233



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 21 ธันวาคม 2010, 13:05:04 »

การประหารชีวิต ถือเป็นบทลงโทษที่รุนแรงที่สุดในทุก ๆ ประเทศ ที่มีมาตั้งแต่อดีต
ซึ่งถ้าหากใครได้อ่านหรือศึกษาเรื่องราวเหล่านี้ซักครั้ง คงจะรู้สึกไม่ต่างกันหรอกค่ะว่า
แม้ว่าในแต่ละประเทศจะมีเครื่องมือประหารชีวิตที่แตกต่างกันออกไป
แต่ความรุนแรง หรือความซาดิสม์นั้นไม่ได้ต่างกันเลย เพราะไม่ว่าจะใช้เครื่องมือไหน ๆ
ก็ล้วนแล้วแต่มีจุดประสงค์เดียวกัน นั่นคือทรมานคนผิดอย่างเลือดเย็นแล้วปล่อยให้เจ็บปวดตายไปในที่สุด
ไม่ว่าจะด้วยการฉีกจ้วงเนื้อหนังด้วยของมีคม ลวกหรือต้มด้วยน้ำร้อน เผาทั้งเป็น
หรือแม้แต่การบีบทุบให้เจ็บปวดจนตายกันไปข้างหนึ่ง เหล่านี้ถือเป็นวิธีพื้นฐานที่ทั่วโลกทำกันทั้งนั้นค่ะ

และสำหรับในประเทศไทยก็เช่นกัน โทษประหารที่เคยทำกันมาตั้งแต่อดีตนั้นขึ้นชื่อว่าโหดใช่ย่อย
เริ่มตั้งแต่สมัยก่อนกรุงรัตนโกสินทร์ วิธีการประหารชีวิตจะเน้นความทรมานชนิดที่ได้ยินแล้วยังขนลุก
ไม่ว่าจะเป็นการเอาน้ำมันเดือดราดหัวจนตาย เอามีดและขวานผ่าอกแหวกตับไตไส้พุงทั้งเป็นจนตาย
เอาเบ็ดใหญ่เกี่ยวเนื้อให้หลุดทีละส่วนจนตาย เอามีดคม ๆ แล่เนื้อลอกหนังออกทีละนิดจนตาย
เอาหอกค่อย ๆ ทิ่มแทงจนตาย หรือฝังดินครึ่งตัวแล้วเผาส่วนบนจนทรมานตาย โอ้ นรกดี ๆ นี่เอง

ซึ่งโทษแสนทรมานในสมัยนั้น ก็จะตัดสินจากความผิดที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่นถ้าใครเผาบ้านเมือง
ก็จะถูกประหารด้วยการเอาผ้าชุบน้ำมันพันรอบตัวแล้วจุดไฟเผาทั้งเป็น อย่างงี้เป็นต้น และที่สำคัญ
การประหารชีวิตทุกรูปแบบก็จะต้องทำกันแบบโจ่งแจ้งต่อหน้าชาวบ้านมากมาย เพื่อให้คนเกรงกลัว
และมันก็ได้ผลดีเลยล่ะค่ะ เพราะเวลาที่มีการประหารนักโทษซักคน บ้านเมืองก็สงบสุขไปพักใหญ่ทีเดียว
เพราะไม่มีใครกล้าทำความผิด ไม่มีใครอยากถูกลงโทษอย่างทรมานอย่างที่ตัวเองไปเห็นมา
 



แต่พอมาถึงสมัยอยุธยาตอนปลายและรัตนโกสินทร์ การประหารด้วยวิธีทรมานสารพัดก็เริ่มค่อย ๆ หายไป
เหลืออยู่แค่วิธีเดียวง่าย ๆ นั่นคือ การตัดคอหรือกุดหัวเท่านั้น เป็นวิธีฉับเดียวดับ ไม่ทันได้ทรมานก็ตายแล้ว
แถมก่อนหน้าวันประหารก็ยังมีการเลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำอย่างดีอีก และพอถึงวันประหารนักโทษก็ถูกปิดตา
ไม่ต้องเห็นบาดแผล ไม่ต้องรู้ว่าใครกำลังจะทำอะไรเรา ไปแบบสบาย ๆ เลยทีเดียว
ส่วนถ้าใครอยากรู้เรื่องการประหารด้วยการตัดคออย่างละเอียด ย้อนกลับไปอ่านได้ เอนทรี่นี้ ค่ะ

และหากใครกำลังสงสัยว่า ถ้าหากฉับเดียวไม่ดับ นั่นจะไม่เรียกว่าทรมานได้อย่างไร
โอโห จะบอกว่าไม่มีเลยค่ะ เพราะเพชฌฆาตทุกคนนั้นถูกฝึกปรือมาเป็นอย่างดี และที่สำคัญ
ในการประหารนักโทษ 1 คน เค้าจะใช้เพชฌฆาตถึง 3 คน ซึ่งโดยปกติแล้ว ถ้าเพชฌฆาตดาบ 1 จะพลาด
ก็พลาดมากที่สุดแค่ตัดคอแล้วตายแต่คอดันไม่ขาด ซึ่งแบบนี้เพชฌฆาตดาบ 2 ก็จะรีบเข้ามาฟันให้ขาดทันที
ถ้ายังไม่ขาดอีกก็มีดาบ 3 สำรองไว้อีก ต้องเอาให้ขาดอย่างแท้จริงเพื่อที่จะเอาหัวไปเสียบประจานนั่นเอง
ส่วนร่างกายก็มอบให้ญาตินำไปทำพิธีต่อไป



ส่วนในกรณีที่นักโทษเป็นเชื้อพระวงศ์หรือกษัตริย์ ก็จะมีวิธีเฉพาะคือการทุบด้วยท่อนจันทน์
ที่ถือเป็นไม้หอม เป็นการให้เกียรตินักโทษ โดยการประหารด้วยท่อนจันทน์นี้ จะใช้วัดปทุมคงคาเป็นลานประหาร
ส่วนวิธีการ ก็คือ จะนำร่างของผู้ถูกประหารสวมด้วยถุงแดงแล้วรัดถุงให้แน่น เพื่อไม่ให้ใครแตะต้องพระวรกาย
และไม่ให้ใครเห็นพระศพด้วย จากนั้นเพชฌฆาตที่ได้รับนามเฉพาะว่า "หมื่นทะลวงฟัน"
ก็จะใช้ไม้จันทน์ขนาดใหญ่รูปร่างคล้ายสากตำข้าวทุบลงไปสุดแรงบริเวณพระเศียรหรือพระนาภี
เสร็จแล้วก็นำไปฝังในหลุม 7 คืนเพื่อให้มั่นใจว่าสิ้นพระชนม์แล้วจริง ๆ ก่อนขุดขึ้นมาประกอบพิธีต่อไป
และหากใครสงสัยว่าทำไมไม่ใช้วิธีเปิดผ้าดูว่าสิ้นแล้วหรือไม่ ก็อย่างที่บอกไปค่ะว่าไม่ว่าจะอย่างไร
หลังจากนำนักโทษใส่ถุงแดงแล้วก็ห้ามเปิดให้ใครเห็นหรือแตะต้องพระวรกายโดยตรงได้เป็นอันขาด

วิธีการประหารชีวิตด้วยท่อนจันทน์ เลิกล้มไปในสมัยรัชกาลที่ 5 หลังจากมีการประกาศใช้กฎหมาย ร.ศ. 127
ว่า ให้ประหารชีวิตเชื้อพระวงศ์ด้วยวิธีเดียวกันกับสามัญชน ไม่มีการแบ่งแยกชนชั้นนักโทษ
และในที่สุด ในปี 2477 ก็ได้ล้มเลิกการประหารชีวิตด้วยการตัดหัวไป เปลี่ยนเป็นการใช้ปืนยิงแทน
โดยวิธีการยิงปืนประหารนี้ ก็จะมีขั้นตอนคล้ายกับการประหารชีวิตด้วยการตัดหัว ต่างที่การยิงปืนประหาร
จะทำในห้องประหารมิดชิด ไม่มีการเรียกประชาชนมามุงดูเหมือนกับการประหารชีวิตด้วยการตัดหัวอีกต่อไป

การประหารชีวิตด้วยปืนทำกันมาได้ไม่นานนัก เพราะเมื่อปี 2545 ได้เปลี่ยนวิธีการประหารชีวิตด้วยปืน
มาเป็นการฉีดยาแทน ซึ่งการฉีดยาจะมี 3 ขั้นตอน คือ ขั้นแรกจะฉีดยาให้นักโทษสลบก่อน
จากนั้นค่อยฉีดยาหยุดการทำงานของปอดและกระบังลม และสุดท้ายก็จะฉีดยาที่ทำให้หัวใจหยุดเต้น
เป็นอันเสร็จพิธี เรียกว่าสบายกว่าวิธีไหน ๆ ไม่ต้องตื่นเต้นว่าจะถูกสับหัวหรือยิงปืนเมื่อไหร่
และวิธีนี้ก็ยังเป็นวิธีที่ใช้กันมาจนถึงปัจจุบัน

ทั้งหมดนี้คือวิวัฒนาการของการประหารชีวิตในสยาม ที่ดูเหมือนจะลดความทรมานลงทุกวัน ๆ
ขณะเดียวกันที่สถิติการประหารชีวิตก็ค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ ทั้งในไทยและหลายประเทศทั่วโลก
ซึ่งที่เป็นอย่างนั้นก็ไม่ใช่เพราะว่าคนเรามีคุณธรรมกันมากขึ้นแต่อย่างใด
แต่เป็นเพราะบทลงโทษในสังคมทุกวันนี้มันเบาลงเรื่อย ๆ ต่างหาก..

ยิ่งไปกว่านั้น ในยุคที่บทลงโทษในสังคมเบาลงทุกวัน ขณะที่โจรผู้ร้ายมีมากขึ้นแบบนี้
ก็ยังมีคนในหลายประเทศออกโรงต่อต้านการประหารชีวิตกันอย่างมากมาย เพราะเห็นว่ามันโหดร้าย
ก็ไม่แน่ว่า.. บางที โทษประหารอาจถูกล้มเลิกไปในอีกไม่เกิน 10 ปีข้างหน้าก็เป็นได้


และถ้าวันนั้นมาถึงเมื่อไหร่ สังคมก็คงวุ่นวายขึ้นน่าดู

 wanwan017


credit http://nongza.exteen.com/
บันทึกการเข้า

mija
Verified Seller
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 107
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,089



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2010, 13:18:36 »

คงต้องให้เกิดเหตุการณ์ร้าย ๆ กับคนใกล้ชิดพวกนักวิชาการ นังสังคมสงเคราะห์ นักสิทธิมนุษยชน ก่อนกระมังมั้งคะ

ไม่ถ้ามีอำนาจก็ต้องศาลเตี้ยจัดการกันไป
บันทึกการเข้า

NineTua
Administrator
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*****

พลังน้ำใจ: 139
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,683



ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2010, 13:25:24 »

บล๊อกนี้เนื้อหาน่าอ่านทั้งนั้นเลย
บันทึกการเข้า


เบื่อพวกอวดเก่ง เบื่อพวกมีแต่ราคาคุย เบื่อพวกขี้โม้ เบื่อพวกทำไมไม่ได้แล้วอ้างนู่นอ้างนี่..

เบื่อพวกก๊อปเว็บ อย่าคิดว่าตามไม่เจอนะฮะ Smiley
galaxy
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 226
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,099



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2010, 13:34:40 »

ประหารกันเอง ง่ายดี
บันทึกการเข้า

รับทำหนังสือพอคเก็ตบุ๊คส ขายบนซีเอ็ด B2S ร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป
ขาย Ebook สอนสุดยอดเคล็ดลับ(ที่คนทำหนังสือไม่เคยบอกคุณ)
แต่ผมจะสอนให้รวยด้วยการทำหนังสือขายบนซีเอ็ด  Ebook สอนเคล็ดลับ ราคา เพียง 5,000 ฿
(หนังสือผมวางขายอยู่บนซีเอ็ดกว่า 10 เล่ม) PM

ขายบัญชี Adsense อายุ 4 ปี 10,000 บาท มีเงินค้างอยู่ 15$  เหลือ 1 บช. **หมดแล้ว
zern
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 117
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,244



ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2010, 13:40:16 »

ผมอยากให้ลงโทษด้วยการทำงานนะ และหากทำไม่ได้ค่อยประหารหรืออะไรก็ว่ากันไป
เช่น สมมติคนหนึ่งคนต้องกินข้าววันละ 500 กรัม ก็จับนักโทษมา 10 คน จับไปทำนาเลย ทำได้เท่าไรครึ่งนึงเข้า่ประเทศ อีกครึ่งนึงเอาไปกินก้นเอง ไม่ทำก็ไม่มีกิน ใครถนัดอะไรก็เอาไปทำอย่างนั้น ทำนาอาจจะคุมลำบาก เอาไปทำงานโรงงานหรืออะไรก็ได้ ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศน่ะ
โทษหนักก็หาร 3 หาร 4 ก็ว่ากันไป ใครโทษหนักมากก็ต้องทำงานหนักมากเป็นเงาตามตัว ถ้าขี้เกียจทำเองก็ปล่อยให้อดตายไปเอง
บันทึกการเข้า

สูงสุด ที่สุดก็คืนสู่สามัญ
SeO_ToshI
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 151
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 862



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2010, 13:40:42 »

ประหารบ้างก็ดีครับ สมัยนี้ ขนาดมันทำผิดอยู่ในคุกยังค้ายาได้อยู่ พ้นโทษก็กลับไปขายอีก อยู่ไปก็หนักเปล่าๆ
บันทึกการเข้า

sevenr
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 65
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,236



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2010, 14:09:26 »

เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยกลัวโทษประหารกันเลย หรือว่าฉีดยามันตายง่ายไปแถมแอบเอาไปประหารอีกต่างหาก พวกทำชั่วมันเลยไม่เสียว wanwan010

 พวกชอบข่มขืนต้องให้มันตายคาอกซะให้เข็ด  wanwan035
บันทึกการเข้า

saradee
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 56



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2010, 16:14:38 »

 wanwan035
เป็นการหารที่โหดมาก ถ้าเอามาใช้ปัจจุบันน่ะ  สุดยอดเลยอ่ะ
บันทึกการเข้า
2live
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 13
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 394



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2010, 20:42:34 »

โอยย น่ากลัวมากๆครับ  wanwan009
บันทึกการเข้า

Legolas
Global Moderator
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*****

พลังน้ำใจ: 889
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,116



ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2010, 20:44:13 »

เคยดูของพวกฝรั่งโหดไม่แพ้กันเผลอๆจะโหดว่าอีก  Tongue
บันทึกการเข้า




ตอนนี้มีโปร $29.99 Creative Fabrica ถูกที่สุดสำหรับทำ POD,KDP
ขาย License wp theme 5 ธีมจา่ก Themeforest Newspaper, KALLYAS, Puzzle, Valenti, Jarida ราคาถูกมาก pm มาได้เลยครับ
รับทำ vdo avartar สำหรับนำเสนอ aff ต่างประเท
room1081009
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 108



ดูรายละเอียด
« ตอบ #10 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2010, 21:05:12 »

เนื้อหาดีครับ การลงโทษ บางทีไม่ใช่แค่การประหารโชว์ แต่เป็นการขมขู่ ข่มขวัญ ไม่ให้คนกล้าทำผิด  wanwan007
แต่ปัจจุบัน โทษอ่อนลงมากจริง ฆ่าคน ข่มขืน ค้ายา ไม่ถึงตายตกตามกัน ขนาดออกจากคุกมาทำผิดอีก  wanwan010
โทษก้อยังไม่ถึงชีวิต แถมยังมีนักเรียกร้องสิทธิ์(นักโทษ)มาช่วยพวกนี้อีก  wanwan031
เลยไม่รู้ว่า กฎหมายนี่ น่าจะคุ้มครองคนดีๆ หรือจะคุ้มครองโจรกานแน่  Shocked
บันทึกการเข้า
chewpong
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 160
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,065



ดูรายละเอียด
« ตอบ #11 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2010, 21:07:12 »

ชอบสมัย จอมพลผ้าขะม้าแดง วางเพลิง ยิงเป้าที่สนามหลวงเลย ผมยังไปปีนต้นมะขามดูกะเค้าด้วย wanwan021
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์