Uzumaki Naruto
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 515
ออฟไลน์
กระทู้: 5,875
|
 |
« ตอบ #80 เมื่อ: 17 พฤศจิกายน 2010, 14:46:02 » |
|
Dell ขายแท็บเล็ต 2 หน้าจอ 23 พ.ย.นี้ เดลล์ ขยับอีกครั้ง ประกาศเตรียมความพร้อม จับมือไมโครซอฟต์ วางจำหน่ายแท็บเล็ต 2 หน้าจอ "Inspiron Duo" อังคารหน้านี้ ก่อนหน้านี้เดลล์เคยใช้เวที Intel Developer Forum โชว์ "Inspiron Duo"คอมพิวเตอร์พกพาขนาด 10 นิ้วที่สามารถ"พลิกหน้าจอ"เพื่อแปลงร่างไปมาระหว่างคอมพิวเตอร์เน็ตบุ๊กและ แท็บเล็ตหน้าจอสัมผัสได้ ซึ่งในขณะนั้นเดลล์ระบุว่ายังไม่มีกำหนดเปิดตัวเป็นที่แน่ชัด จนเมื่อวานนี้ (16 พ.ย.) แหล่งข่าววงการอุตสาหกรรมออกมาระบุว่า เดลล์พร้อมเปิดตัว และวางจำหน่ายคอมพิวเตอร์ตัวดังกล่าว ในวันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน ที่ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา "Inspiron Duo" นั้นเป็นคอมพิวเตอร์ลูกผสมระหว่างเน็ตบุ๊กและแท็บเล็ต ที่มีหน้าจอขนาด 10 นิ้ว ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 และซีพียู Intel Atom N550 Dual-core และรองรับการเล่นวิดีโอความละเอียด HD 1080p ผลิตออกมาเพือตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เช่น ดูหนัง ฟังเพลงขอบคุณข้อมูลจาก: MGO Cyber Biz
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Uzumaki Naruto
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 515
ออฟไลน์
กระทู้: 5,875
|
 |
« ตอบ #81 เมื่อ: 17 พฤศจิกายน 2010, 17:19:35 » |
|
Samsung เล็งออก Google TV ต้นปีหน้า และแล้ว Sony ก็ไม่ได้เป็นผู้ผลิตทีวีเพียงรายเดียวที่ใช้แพลตฟอร์ม Google TV กับทีวีของบริษัท เนื่องจากรายงานข่าวล่าสุด Samsung มีแผนที่จะรันซอฟต์แวร์ Google TV เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถท่องเว็บ และจัดการกับระบบบันทึกวิดีโอดิจิตอล ตลอดจนคุณสมบัติอื่นๆ อีกเพียบบน HDTV รุ่นใหม่ของทางบริษัทที่จะวางตลาดในต้นปีหน้าข้อมูลดังกล่าวเปิดเผยโดย Yoon Boo Keun ผู้บริหารฝ่ายธุรกิจทีวีของซัมซุง ซึ่งนักข่าวของ Bloomberg รายงานว่า นอกจากการระบุถึงผลิตภัณฑ์ใหม่แล้ว ทางผู้บริหารยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดอะไรมากนัก อย่างไรก็ตาม Samsung กำลังจะเป็นบริษัทผู้ผลิตทีวีรายที่สองที่กระโดดเข้ามาเล่นในสังเวียน Google TV โดยจะประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนมกราคม 2011 ก่อนหน้านี้ Sony ได้ออก HDTV ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติของ Google TV โดยมีขนาดของจอให้เลือกตั้งแต่ 24 นิ้วไปจนถึง 46 นิ้ว ซึ่งราคาเริ่มต้นที่ 600 - 1,400 เหรียญฯ (ประมาณ 18,000 - 42,000 บาท) นอกจากแพลตฟอร์ม Google TV จะมีให้เลือกใช้ในรูปแบบของทีวีแล้ว ยังมีในแบบอุปกรณ์เสริมการใช้งานทีวีอีกด้วยอย่างเช่น Logitech Revue เซตทอปบ๊อกซ์ที่สามารถเปลี่ยนทีวีของคุณเป็น Google TV ได้ขอบคุณข้อมูลจาก: [เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th ]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Uzumaki Naruto
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 515
ออฟไลน์
กระทู้: 5,875
|
 |
« ตอบ #82 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2010, 16:30:36 » |
|
Adobe ปล่อย Reader X ให้ดาวน์โหลดแล้ว Adobe ประกาศ พร้อมให้ดาวน์โหลด Reader X เวอร์ชั่นแจกฟรี (อ่านไฟล์ได้อย่างเดียวไม่สามารถสร้างเอกสาร PDF ได้) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่้เวอร์ชั่น PRO สามารถอัพเกรดจากเวอร์ชั่นเดิมได้ในราคา 199$ US (ประมาณ 5,900 บาท) โดยจุดน่าสนใจของ Adobe Reader X อยู่ที่ความสามารถในการเข้าถึงไฟล์ PDF ที่เพิ่มมากขึ้นเพราะนอกจากความสามารถในการเข้าถึงไฟล์เอกสารที่ Reader รุ่นทั่วไปสามารถทำได้แล้วในเวอร์ชั่น 10 หรือจะเรียก X ตามภาษาโรมัน สามารถเข้าถึงเอกสารที่เป็นไฟล์ Video Flash (FLV, F4V) รวมถึงความสามารถในการอ่านไฟล์ CAD และการรองรับ Multiplatform ด้วย อีกทั้งอีกหนึ่งจุดสำคัญที่ทาง Adobe เพิ่มลงไปในเวอร์ชั่น 10 ก็คือ ความสามารถในเรื่อง Protected Mode ชึ่งจะช่วยป้องกันเอกสารจากการถูกผู้ไม่ประสงค์ดีขโมยข้อมูลสำคัญไปได้ด้วยขอบคุณข้อมูลจาก: MGO Cyber Biz
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Uzumaki Naruto
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 515
ออฟไลน์
กระทู้: 5,875
|
 |
« ตอบ #83 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2010, 19:01:05 » |
|
กูเกิลย้ำ ไม่ได้ขายเสื้อผ้าบน Boutiques.com Boutiques.com เว็บไซต์อีคอมเมิร์ชสินค้าแฟชั่นในเครือกูเกิล ซึ่งกูเกิลยืนยันว่าไม่ได้ลงมาขายสินค้าเองด้วยความหวังว่าจะเป็น"สถานีแรก"สำหรับนักชอปสินค้าสวยงามบนโลกออนไลน์ กูเกิลจึงเปิดตัวเว็บไซต์อีคอมเมิร์ชสินค้าแฟชั่นนาม Boutiques.com โดยย้ำว่าไม่ได้มีจุดประสงค์ขายสินค้าเอง แต่จะเป็นการใช้ทั้งคนและเทคโนโลยีในการวิเคราะห์เพื่อแนะนำสินค้าให้แก่ขา ชอปอย่างตรงใจ เท่ากับนักชอปจะไม่ต้องเหนื่อยไล่มองหาสินค้าตามเว็บไซต์เองอย่างที่เคยทำมา ความเคลื่อนไหวนี้ของกูเกิลสอดรับกับการขยายตัวของตลาดค้าสินค้า แฟชั่นออนไลน์ ซึ่งเป็นตลาดที่ Amazon.com Inc. และ eBay Inc. ประกาศปรับนโยบายให้สามารถรุกตลาดนี้ได้ดียิ่งขึ้นแบบไม่มีใครยอมใคร โดยตลาดสินค้าแฟชั่นเครื่องประดับออนไลน์นั้นถูกประเมินว่ามีมูลค่าตลาดสูง ถึง 19,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2009 ตามการสำรวจของ comScore Inc. และคาดว่าจะมีมูลค่าสูงขึ้นต่อไป โดยสรุป Boutiques.com จะไม่จำหน่ายสินค้าแฟชั่นโดยตรง แต่จะเป็นสื่อกลางนำขาชอปไปสู่เว็บไซต์ที่จำหน่ายสินค้าโดนใจ เพื่ออำนวยความสะดวกให้การซื้อสินค้าแฟชั่นสามารถทำได้ง่ายและเพลิดเพลิน ยิ่งขึ้น จุดนี้ Munjal Shah ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของกูเกิล ให้ข้อมูลว่ากูเกิลได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่นกว่า 100 คน ทั้งที่เป็นเซเลบฯมีชื่อเสียง สไตลิส และดีไซเนอร์หลากหลาย ซึ่งคนกลุ่มนี้จะเป็นผู้คัดเลือกเสื้อผ้ามีสไตล์ที่มองว่าควรค่าแก่การซื้อ โดยนักชอปจะสามารถติดตามความเคลื่อนไหวว่าคนกลุ่มนี้ได้เลือกสินค้าลักษณะใด ไปแล้วบ้าง นอกจากนี้ กูเกิลยังเตรียมอัลกอลิธึมเพื่อทำดัชนีสไตล์และประเภทสินค้า เพื่อแนะนำสินค้าที่คาดว่าจะตรงกับรสนิยมนักชอป โดยพันธมิตรของกูเกิลในโครงการนี้มีตั้งแต่นักออกแบบแฟชั่นชื่อก้องโลก Oscar de la Renta จนถึงบริษัทค้าปลีกในสหรัฐฯอย่าง Scoop NYC นักชอปจะสามารถติดตามความเคลื่อนไหวว่าเซเลบฯ นักออกแบบ หรือสไตลิสต์ที่ชื่นชอบ ได้เลือกสินค้าชิ้นใดไปแล้วบ้างรายงานระบุว่า กูเกิลมีแผนดึงผู้ใช้เสิร์ชเอนจิน Google.com ให้หันไปใช้ Boutiques.com แทนเมื่อต้องการค้นหาสินค้าแฟชั่นออนไลน์ จุดนี้ Shah ระบุว่าเป็นไปตามนโยบายของกูเกิลที่เริ่มให้ความสำคัญกับการสร้างบริการค้น หาสินค้าโดยเฉพาะมากขึ้น เช่นบริการค้นหาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ที่ผ่านมา บริการเหล่านี้ของกุเกิลได้รับอานิสงส์เต็มที่จากทราฟฟิกจำนวนมหาศาลที่กู เกิลมีอยู่แล้ว นำไปสู่อัตราการเติบโตต่อเนื่องตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แต่ยังได้รับความนิยมไม่เท่า Amazon และ eBay ซึ่งครองใจนักชอปมาหลายยุคหลายสมัย ผู้ใช้ Boutiques.com จะสามารถเรียกดูสินค้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่นได้เลือกไว้แล้ว ทั้งชุดเดรสหลากสีและรองเท้าส้นสูงหลายแนว รวมถึงนานาสินค้าที่ระบบอัลกอริธึมของกูเกิลวิเคราะห์ให้จัดอยู่ในกลุ่ม รสนิยมเดียวกัน จากนั้นนักชอปจะสามารถสร้างบูติคส่วนตัวและรับทราบข้อมูลสินค้าแนะนำได้ อย่างเพลิดเพลิน หลักการทำงานของ Boutiques.com ถูกมองว่ามีความคล้ายคลึงกับ Like.com ซึ่งไม่น่าแปลกใจเพราะ Like.com คือเว็บไซต์ค้นหาข้อมูลสินค้าซึ่ง Shah เคยสร้างไว้อำนวยความสะดวกนักชอป ก่อนที่กูเกิลจะตัดสินใจกินรวบซื้อกิจการมา คาดว่าเป็นการซื้อขายกิจการในราคาสูงถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ แนวคิดค่าบริการใน Boutiques.com จึงไม่ต่างจาก Like.com โดยผู้ค้าจะจ่ายค่าบริการแก่กูเกิลเมื่อนักชอปคลิกเข้าไปชมหรือซื้อสินค้า ผ่านลิงก์ของกูเกิล ซึ่งค่าใช้จ่ายที่กูเกิลเรียกเก็บในกรณีคลิกชมสินค้าจะต่ำกว่ากรณีมีการซื้อ ขายสินค้า จุดนี้ Shah ระบุว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต Scot Wingo ซีอีโอบริษัท ChannelAdvisor Corp. ซึ่งเป็นที่ปรึกษาผู้ค้าสินค้าแฟชั่นบนเว็บไซต์อย่าง Amazon และ eBay ให้ความเห็นว่า Boutiques.com คือความพยายามในการบุกตลาดแฟชั่นอย่างจริงจังครั้งแรกของกูเกิล มองว่าความมีอิทธิพลในโลกแห่งการค้นหาข้อมูลของกูเกิลถือเป็นคำขู่ที่ยักษ์ ใหญ่อย่าง Amazon และ eBay ไม่ควรวางใจ "Amazon สามารถเป็นเบอร์หนึ่งในวงการอีคอมเมิร์ชได้เพราะนักชอปมองอเมซอนว่าเป็น แหล่งเริ่มต้นที่สามารถค้นหาสินค้าที่ต้องการได้ง่าย" จุดนี้เองที่กูเกิลสามารถสร้างแรงกดดันให้กับ Amazon มากที่สุด เบื้องต้น Boutiques.com ยังเป็นเบตาเวอร์ชันที่ทดลองให้บริการใรขณะนี้ โดยจะสามารถใช้งานกับผู้ประกอบการในสหรัฐฯเท่านั้น และรองรับสินค้าเฉพาะสำหรับสตรี ก่อนจะขยายบริการไปรองรับพื้นที่อื่นต่อไปขอบคุณข้อมูลจาก: MGO Cyber Biz
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Uzumaki Naruto
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 515
ออฟไลน์
กระทู้: 5,875
|
 |
« ตอบ #84 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2010, 15:22:56 » |
|
3DMark 11 ได้ฤกษ์วางจำหน่ายสิ้นเดือนนี้ เป็นข่าวดีสำหรับพวกฮาร์ดคอร์พีซีทั้งหลาย หลังจาก Futuremark ปล่อยให้แฟนๆ 3DMark รอเวอร์ชั่นที่มีชื่อว่า "11" มานาน เพราะล่าสุดทาง Futuremark ประกาศวันวางจำหน่าย 3DMark 11 แล้วในวันที่ 30 พฤศจิกายน หรือสิ้นเดือนนี้ โดยทาง Futuremark ได้กำหนดชุดวางขายและราคาของ 3DMark 11 ไว้ 3 รุ่น เช่นเดียวกับตัวก่อนหน้า (3DMark Vantage) คือ Basic Edition (สามารถดาวน์ได้ฟรี), Advanced Edition และ Professional Edition ซึ่งในส่วนของรายละเอียดสามารถดูได้ที่ตารางด้านล่าง จากตารางจะเห็นว่า 3DMark 11 แต่ละรุ่นจะมีราคาที่แตกต่างกันตามความสามารถ โดยถ้าผู้ใช้ต้องการแค่นำไปทดสอบกราฟิกการ์ดเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ต้องการนำผลคะแนนที่วัดได้ไปใช้เพื่อทำบทความต่างๆ ก็สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ในรุ่น Basic Edition ส่วน Advanced Edition ซึ่งมีความสามารถในการปรับความละเอียดหน้าจอรวมถึงสามารถทดสอบประสิทธิภาพ กราฟิกการ์ดในโหมด Extreme Preset ได้จะมีราคาอยู่ที่ 19.95$ US (ประมาณ 600 บาท) และสุดท้ายสำหรับรุ่น Professional Edition ที่มาพร้อมการรองรับทุกฟังก์ชันของโปรแกรมจะมีราคาอยู่ที่ 995$ US (ประมาณ 29,900 บาท) โดยในวันนี้ทาง Futuremark ได้เปิดให้สั่งจองแล้วที่เว็บของตนสำหรับ 3DMark 11 เป็นโปรแกรมทดสอบกราฟิกการ์ดและสามารถคำนวณผลคะแนนเป็นตัวเลขได้ ซึ่งสำหรับในเวอร์ชั่น 11 จะรองรับชุดคำสั่ง DirectX 11 เต็มรูปแบบ โดยสเปกคอมพิวเตอร์ที่ตัวโปรแกรมรองรับ ในส่วนของระบบปฏิบัติการณ์จะต้องใช้ Windows Vista และ 7 เท่านั้น สำหรับซีพียูที่โปรแกรมรองรับจะต้องเป็นซีพียู Dual Core มีความเร็วมากกว่า 1.8GHz ขึ้นไป และโปรแกรมจะใช้เนื้อที่ในการติดตั้ง 1.5GB สุดท้าย 3DMark 11 จำเป็นต้องใช้กราฟิกการ์ดที่รองรับชุดคำสั่ง DirectX 11 ในการรันโปรแกรม เพราะฉะนั้นผู้ใช้ที่มีกราฟิกการ์ดที่รองรับชุดคำสั่งตั้งแต่ DirectX 9 - 10 มีความเป็นไปได้สูงที่จะไม่สามารถรันโปรแกรมนี้ได้ขอบคุณข้อมูลจาก: MGO Cyber Biz
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Uzumaki Naruto
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 515
ออฟไลน์
กระทู้: 5,875
|
 |
« ตอบ #85 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2010, 18:30:41 » |
|
RIM โดนมือดีปล่อยดาวน์โหลด BlackBerry OS 6 ล่าสุดสำหรับ Curve และ Bold หลังจาก BlackBerry OS 6.0 ได้เปิดตัวไปแล้วอย่างเป็นทางการพร้อมการรองรับคุณสมบัติใหม่อย่าง Universal Search, Social Feeds รูปแบบใหม่ รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพและความเสถียรให้ดียิ่งขึ้น ล่าสุดมีมือดีนำอัปเดตไฟล์ BlackBerry OS เวอร์ชั่นล่าสุด 6.0.0.358 จาก RIM มาเผยแพร่สู่สาธารณะชนอย่างไม่เป็นทางการแล้ว โดยไฟล์ดังกล่าวเป็นอัปเดตไฟล์ขนาด 155MB แบ่งเป็นรุ่นที่รองรับ 2 รุ่นได้แก่ Curve 9300 และ Bold 9700 *แต่ทั้งนี้ ก่อนจะเข้าสู่การดาวน์โหลดทางผู้จัดการไซเบอร์ขอเตือนก่อนว่า ตัว OS ที่นำมาบอกกล่าวนี้ ยังไม่ใช่ตัว OS ที่ทาง RIM ตรวจสอบความถูกต้องมาเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นใครที่อยากอัปเดตควรศึกษาวิธีการติดตั้งรวมถึงรายละเอียดตาม เว็บบอร์ดหรือเว็บไซต์ต่างๆ ให้ละเอียดถี่ถ้วนเสียก่อน ขอบคุณข้อมูลจาก: MGO Cyber Biz
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Uzumaki Naruto
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 515
ออฟไลน์
กระทู้: 5,875
|
 |
« ตอบ #86 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2010, 20:39:18 » |
|
NEC Casio Mobile ขยับแข้งลงตลาดแอนดรอยด์โฟน ดูเหมือนว่าคู่แข่งระบบปฏิบัติการณ์ไอโอเอส (iOS) คนสำคัญอย่าง แอนดรอยด์ (Android) จะอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างมาก เพราะล่าสุดทาง NEC Casio Mobile ได้ขอเซ็นต์ชื่อเข้าเป็นผู้ปกครองหุ่นกระป๋องเขียวอีกหนึ่งราย โดยตอนนี้ทาง NEC Casio Mobile ซึ่งนำทีมโดย นาย ยามาซากิ ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารยังไม่มีการกล่าวถึงตัวผลิตภัณฑ์นอกจาก เรื่องความคาดหวังในส่วนของการขาย ที่ทางนาย ยามาซากิตั้งเป้าไว้ว่าจะขายสาร์ทโฟนในนาม NEC Casio Mobile ได้ 6 ล้านเครื่องในปี 2012 โดยจะเน้นขายนอกประเทศญี่ปุ่น 60% อีกทั้งทางบริษัทยังตั้งเป้าในเรื่องของกลุ่มเป้าหมายในการขายไว้ที่กลุ่ม ผู้ใช้งานระดับเริ่มต้นและผู้ใช้งานที่มีทุนทรัพย์ไม่มากเป็นหลัก ซึ่งงานนี้ถือเป็นความใจกล้าของ NEC Casio Mobile อย่างมาก ที่กล้าเสี่ยงในตลาดสมาร์ทโฟน ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่เคยมีประสบการณ์ทางด้านนี้มาก่อน โดยงานนี้จะหมู่หรือจ่าปีหน้าฟ้าใหม่คงได้รู้กันแน่นอนขอบคุณข้อมูลจาก: MGO Cyber Biz
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Uzumaki Naruto
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 515
ออฟไลน์
กระทู้: 5,875
|
 |
« ตอบ #87 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2010, 21:32:12 » |
|
Google Docs แก้ไขเอกสารบน iPad ได้ ในที่สุด Google Docs เวอร์ชันโมบายก็คลอดออกมาจนได้ ซึ่งประโยชน์ทีผู้ใช้จะได้รับก็คือ คุณสามารถแก้ไขเอกสารของคุณได้ทั้งในขณะที่อยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือขณะเดินทาง โดยแก้ไขผ่านมือถือ Android หรือแม้แต่ iPad เรียกได้ว่า อัพเดตเอกสารของคุณได้ทุกที่ทุกเวลาทุกเวลานั่นเองในขณะที่ระบบปฏิบัติการ Android และ iOS ทำให้ผู้ใช้ยุ่งยากในเรื่องของการแชร์ไฟล์ เพื่อวิว หรือแก้ไข แต่ด้วย Google Docs เวอร์ชันโมบายจะทำให้ปัญหานี้ของคุณหมดไป เพราะมันจะทำให้คุณสามารถแก้ไขไฟล์เอกสารเดียวกันนี้ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะขณะอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่บนมือถือ ตลอดจน iPad แม้เครื่องมือแก้ไขเอกสารบน Google Docs เวอร์ชันโมบายจะไม่ได้หวือหวามากนัก แต่การตอบโจทย์ความสะดวกข้างต้นจะทำให้คุณลืมข้อจำกัดดังกล่าวได้ อย่างไรก็ดี Google Docs เวอร์ชันบนมือถือ Android ผู้ใช้จะสามารถแทรกข้อความเข้าไปในเอกสารด้วยเทคโนโลยีรู้จำเสียง (voice recognition) หรือใช้เสียงพูดของคุณแทนการพิมพ์ด้วยนิ้วสัมผัสได้อีกด้วย ปัจจุบัน Google Docs จะสนับสนุนอุปกรณ์บนแพลตฟอร์ม Android ที่ทำงานด้วย Froyo และ iOS 3.0 ขึ้นไป (รวมถึง iPad) เล่าให้ฟังอาจจะไม่เห็นภาพชัดเจน ลองชมคลิปแนะนำ Google Docs (เวอร์ชันโมบาย) ข้างล่างนี้ดีกว่าครับ รับรองว่า คุณต้องอยากใช้กันแน่ๆขอบคุณข้อมูลจาก: [เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th ]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Uzumaki Naruto
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 515
ออฟไลน์
กระทู้: 5,875
|
 |
« ตอบ #88 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2010, 04:37:32 » |
|
คาด "iPad 2" ลุยตลาดเมษายนปีหน้า iPad แท็บเล็ตยอดฮิตจากแอปเปิลซึ่งคาดว่าจะมีรุ่นที่ 2 ตามมาในเดือนเมษายน ปี 2011ท่ามกลางข่าวลือมากมายเกี่ยวกับ "iPad 2" แท็บเล็ตรุ่นใหม่ในตระกูล iPad ของแอปเปิลที่ยังไม่รู้แน่ชัดว่าแอปเปิลจะใช้ชื่อใดในการทำตลาด ล่าสุดนักวิเคราะห์จากบริษัท Gleacher & Company ประกาศว่าได้รับข้อมูลวงในที่ชี้ว่า แอปเปิลจะเปิดตัว iPad รุ่น 2 ได้ในเดือนเมษายน 2011 หรืออีกประมาณ 5 เดือนข้างหน้า การคาดการณ์นี้เป็นของไบรอัน มาร์แชล (Brian Marshall) นักวิเคราะห์ของบริษัท Gleacher & Company ซึ่งให้สัมภาษณ์ต่อนิยสาร Computerworld จนกลายเป็นข่าวทั่วอินเตอร์เน็ต เพราะความเห็นครั้งนี้สวนทางกับรายงานข่าวในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งสื่อออนไลน์ในช่วงเวลานั้นเชื่อว่า แอปเปิลจะแจ้งเกิด iPad 2 เพื่อจำหน่ายในช่วงเทศกาลจับจ่ายปลายปีนี้ อย่างไรก็ตาม ความเห็นของมาร์แชลกลับไปสอดคล้องกับรายงานล่าสุดจากสำนัก Digitimes ที่เชื่อว่า iPad 2 จะยังไม่ถึงกำหนดคลอดในปีนี้ โดยระบุว่าบริษัทซัปพลายเออร์ 3 รายใหญ่ Ibiden, Tripod และ TTM นั้นเพิ่งได้รับใบรับรองจากแอปเปิลในฐานะผู้ผลิตชิ้นส่วนเพื่อให้เริ่มเปิด สายพานการผลิตแผงวงจร HDI สำหรับจัดส่งภายในเดือนธันวาคมนี้ แต่จะเป็นการผลิตชิ้นส่วนแผงวงจรที่ยังมีจำนวนไม่มาก ทำให้เชื่อว่า iPad2 จะผลิตไม่ทันปลายปีแน่นอน Digitimes ยังอ้างแหล่งข่าววงในอีกว่า แอปเปิลมีแผนเพิ่มสายการผลิตในโรงงานเพิ่มอีก 4 แห่งช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า นี่คือสัญญาณที่ชี้ว่าแอปเปิลกำลังเตรียมพร้อมเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์เต็มรูปแบบ ในไตรมาสแรกปีหน้า ซึ่งเมื่อคำนวณร่วมกับข่าวลือเรื่องการผลิตหน้าจอที่เชื่อกันว่าเป็นส่วน ประกอบของ iPad รุ่นใหม่ ก็จะเป็นไปในกรอบเวลาที่สอดคล้องกัน สำหรับคุณสมบัติใหม่ใน iPad2 เชื่อกันว่าจะเป็นการใส่กล้องดิจิตอลด้านหน้าและหลังสไตล์เดียวกับ iPhone 4 เพื่อให้ผู้ใช้ iPad 2 สามารถสื่อสารผ่านวิดีโอได้บนโปรแกรม Facetime ขณะ เดียวกัน หลายเสียงเชื่อว่าแอปเปิลจะเพิ่มเซ็นเซอร์ gyroscopic มาให้คอเกมสามารถเล่นเกมได้หลากหลายบนความสามารถในการตรวจจับความเคลื่อนไหว ของเครื่องได้อย่างอัจฉริยะยิ่งขึ้น รวมถึงกระแสข่าวว่า แอปเปิลอาจจะเปลี่ยนใจมาใช้พอร์ท mini-USB แทนพอร์ตเชื่อมต่อแบบเข็ม 30-pin ที่แอปเปิลใช้กับ iPad รุ่นแรก บนน้ำหนักเครื่องที่คาดว่าจะเบาบางยิ่งขึ้นขอบคุณข้อมูลจาก: MGO Cyber Biz
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Uzumaki Naruto
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 515
ออฟไลน์
กระทู้: 5,875
|
 |
« ตอบ #89 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2010, 19:43:42 » |
|
มะรุมมะตุ้ม เตือนภัยเฟซบุ๊ก ดูเหมือนว่ายิ่งเครือข่ายสังคมยอดฮิตอย่างเฟซบุ๊กเพิ่มคุณสมบัติ ใหม่มากขึ้นเท่าใด ผู้เชี่ยวชาญหลายวงการหลากสาขาก็จะออกมาเตือนภัยการใช้งานเครือข่ายสังคมยอด ฮิตอย่างเฟซบุ๊กมากขึ้นเท่านั้น ล่าสุด ทันทีที่เฟซบุ๊กเปิดตัวระบบข้อความใหม่เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสก็ออกประกาศเตือนให้ผู้ใช้ระวังการถูกขโมยตัวตน ตามหลังการประกาศเตือนของกองทัพสหรัฐฯ ที่เรียกร้องให้พลทหารอเมริกันระวังการเปิดเผยตำแหน่งกองกำลังบนเฟซบุ๊กโดย ไม่ได้ตั้งใจ เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อการปฏิบัติงานของกองทัพพญาอินทรี โซโฟส (Sophos) บริษัทรักษาความปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประกาศเตือนชาวไอทีให้ระวังตัวก่อนจะ ลงชื่อใช้บริการระบบข้อความใหม่ในเฟซบุ๊ก เนื่องจากพบโอกาสและช่องโหว่มากมายที่นำไปสู่ภัยถูกขโมยตัวตน ในบริการที่เฟซบุ๊กเพิ่งเปิดตัวเมื่อวันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพิ่งประกาศว่าได้เพิ่มความสามารถในการรวมข้อความแชต ข้อความสั้น เครื่องมือสื่อสารเรียลไทม์อื่นๆ เข้ากับอีเมลดั้งเดิม โดยมีแผนให้สิทธิ์ผู้ใช้เฟสบุ๊กสามารถมีชื่อบัญชีอีเมลแอดเดรสลงท้ายว่า @facebook.com ได้เพื่อจัดการการรับส่งข้อความทุกประเภทแบบครบวงจร ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ถูกเรียกรวมว่าโครงการ "Titan" และจะพร้อมให้บริการแก่ผู้ใช้เฟซบุ๊กใน 2-3 เดือนข้างหน้า เกรแฮม คลูลีย์ (Graham Cluley) ที่ปรึกษาอาวุโสด้านเทคโนโลยีของโซโฟสระบุว่า ผู้ ใช้จำเป็นต้องทราบว่าคุณสมบัติใหม่ของเฟซบุ๊กมีส่วนเพิ่มความเสี่ยงในการถูก แอบอ้างชื่อบุคคลบนแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กมากขึ้น เพราะการเชื่อมโยงบัญชีเฟซบุ๊กเข้ากับผู้ใช้ในวงกว้างจะทำให้นักเจาะระบบมี โอกาสและมีแรงบันดาลใจในการก่อการร้ายมากขึ้น โซโฟสฟันธงว่านับจากนี้ นักเจาะระบบจะก่อการแอบอ้างชื่อบัญชีเฟซบุ๊กเพื่อส่งข้อความขยะ (บนระบบข้อความใหม่ของเฟซบุ๊ก) มากกว่าการส่งสแปมเมลในระบบอีเมลดั้งเดิมแน่นอน เนื่องจากระบบข้อความของเฟซบุ๊กนั้นเหนือกว่าอีเมลที่สามารถในการเรียกความ เชื่อถือจากผู้รับ ว่าเป็นข้อความที่ส่งมาจากเพื่อนฝูงคนรู้จัก เหนืออื่นใด คลูลีย์ย้ำว่าผู้ใช้ต้องตระหนักให้ดีว่าเฟซบุ๊กจะเก็บข้อมูลการสื่อสารทั้ง หมดไว้ หากผู้ใช้วางใจเฟซบุ๊กแล้วทำการสื่อสารข้อความครบวงจรบนเฟซบุ๊กจะสร้างความ เสี่ยงอย่างมาก โดยเฉพาะการนำข้อมูลการสื่อสารไปใช้ในทางมิชอบทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา ทั้งหมดนี้ โซโฟสเรียกร้องให้เฟซบุ๊กพัฒนาระบบคัดกรองและรักษาความปลอดภัยในเฟซบุ๊กอ ย่างเข้มงวดยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้ผู้ใช้เฟสบุ๊กตกเป็นเหยื่อของวงจรรับส่งข้อความขยะ ภัยแอบอ้างบุคคล รวมถึงกลลวงฟิชชิ่งซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายด้านการเงิน ส่วนด้านผู้ใช้ โซโฟสย้ำให้สาวกเฟซบุ๊กทุกคนดูแลตัวเองด้วยการตั้งรหัสผ่านที่ยากต่อการคาด เดา อัปเดทซอฟต์แวร์ระบบการรักษาความปลอดภัยให้ทันสมัยอยู่เสมอ และหมั่นตรวจตราความผิดปกติของนานาแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับชื่อบัญชี เฟซบุ๊กอย่างสม่ำเสมอ ข้อมูลล่าสุดระบุว่า ระบบข้อความของเฟซบุ๊กนั้นถูกใช้งานเป็นประจำโดยผู้ใช้เฟสบุ๊กมากกว่า 350 ล้านคน (จากทั้งหมด 500 ล้านคน) สถิติการส่งข้อความคือ 4,000 ล้านข้อวามต่อวัน การประกาศเตือนภัยของโซโฟสเกิดขึ้นตามหลังแถลงการณ์จากกองทัพสหรัฐฯ ที่เตือนพลทหารอเมริกันไม่ให้ประมาทต่อการใช้บริการเฟซบุ๊กและเครือข่าย สังคมออนไลน์อื่นๆ เนื่องจากอาจเป็นการเปิดเผยฐานที่มั่นให้ศัตรูรู้โดยไม่เจตนา โดยเป็นการประกาศเตือนหลังจากที่เฟซบุ๊กเพิ่มความสามารถใหม่ให้ผู้ใช้สามารถ ระบุพิกัดตำแหน่งที่อยู่ได้โดยไม่ต้องเข้าสู่บริการอื่นให้ยุ่งยาก แถลงการณ์ดังกล่าวถูกโพสต์และส่งไปยังผู้บังคับบัญชาหน่วย งานต่างๆในกองทัพสหรัฐฯ โดยแสดงความกังวลต่อเทคโนโลยีใหม่ที่อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถกำหนดจุดที่อยู่ บนแผนที่ออนไลน์ได้อย่างสะดวก เนื้อความโดยสรุประบุว่าการใช้เทคโนโลยีระบุตำแหน่งในเครือข่ายสังคมอย่าง ขาดความรอบคอบของพลทหาร อาจนำไปสู่ความเสียหายร้ายแรงต่อปฏิบัติการความมั่นคงของประเทศ ซึ่งไม่เพียงเฟซบุ๊ก สมาร์ทโฟนแบล็กเบอรี (บีบี) และอุปกรณ์อื่นที่มีระบบระบุพิกัดจีพีเอส รวมทั้งการใช้บริการที่มีความสามารถในการระบุพิกัดทั้งโฟว์สแควร์ ล้วนมีความเสี่ยงต่อการปฏิบัติการของกองทัพสหรัฐฯทั้งสิ้นขอบคุณข้อมูลจาก: MGO Cyber Biz
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Uzumaki Naruto
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 515
ออฟไลน์
กระทู้: 5,875
|
 |
« ตอบ #90 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2010, 20:37:07 » |
|
iPad รุ่นใหม่ ฝังซิมการ์ดในตัว แม้ที่ผ่านมาแอปเปิลจะออกมาประกาศว่าบริษัทจะล้มเลิกความคิดการฝัง ซิมการ์ดลงใน iPhone แต่ล่าสุดมีข่าวลือออกมาว่าบริษัทกำลังเตรียมผลิต iPad ที่มาพร้อมซิมการ์ดในตัว หนังสือพิมพ์ The Telegraph เมืองผู้ดีรายงานว่า แอปเปิลเตรียมผลิต iPhone 4 และ iPad ที่มีการฝังซิมการ์ดไว้ภายในตัวออกมาวางจำหน่ายบนท้องตลาด โดยให้เหตุผลว่าต้องการให้ผู้ซื้อใช้งานบนเครือข่ายผู้ให้บริการตนโดยตรง แทนการซื้อเครื่องเปล่ามาใส่ซิมการ์ดเครือข่ายอื่น โดยแอปเปิลมีแผนจะเปิดตัว iPad รุ่นใหม่ก่อนเทศกาลคริสมาสต์ที่จะมาถึง หรืออย่างช้าช่วงต้นปี 2011 หลังจากเคยเปิดตัว iPad รุ่นแรกในช่วงปลายเดือนมกราคม 2010ขอบคุณข้อมูลจาก: MGO Cyber Biz
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Uzumaki Naruto
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 515
ออฟไลน์
กระทู้: 5,875
|
 |
« ตอบ #91 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2010, 21:44:38 » |
|
ลือหึ่ง Google เสนอซื้อทวิตเตอร์ 2.5-4 พันล.ดอลล์ หลังจากมีข่าวว่าGoogle (Google) ต้องการซื้อบริการรับส่งบล็อกสั้นทวิตเตอร์ (Twitter) ตั้งแต่ช่วงก่อนสงกรานต์ ล่าสุด แหล่งข่าวนิรนามรายหนึ่งระบุว่าGoogleเสนอราคาซื้อหุ้นทวิตเตอร์สูงถึง 2,500 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 75,000 ล้านบาท ขณะที่อีกรายหนึ่งระบุว่าGoogleใจป้ำเสนอราคาถึง 4,000 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 120,000 ล้านบาท รายงานจากซิลิกอนวัลเลย์อินไซเดอร์ย้ำว่า ราคาเสนอซื้อหลายพันล้านเหรียญนี้ยังไม่มีความชัดเจนและยังไม่ใช่ราคาเสนอ ซื้ออย่างเป็นทางการแน่นอน เนื่องจาก 2 ตัวเลขนี้มีความต่างกันมาก โดยตัวเลข 2,500 ล้านเหรียญมาจากแหล่งข่าวที่เป็นผู้บริหารซึ่งอ้างว่าเป็นผู้รู้เห็นในการ เจรจา ขณะที่ตัวเลข 4,000 ล้านเหรียญเป็นตัวเลขจากแหล่งข่าวผู้ถือหุ้นทวิตเตอร์ ซึ่งระบุว่าทวิตเตอร์ไม่ยอมรับข้อเสนอ 4 พันล้านเหรียญเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว (กรกฏาคม 53) โดยที่แหล่งข่าวไม่มีข้อมูลว่าเป็นการเสนอซื้อโดยใคร แหล่งข่าวทั้ง 2 คาดว่าไมโครซอฟท์ได้ร่วมเสนอราคาซื้อทวิตเตอร์ด้วย จุดนี้รายงานวิเคราะห์ว่าเป็นเรื่องสมเหตุสมผล เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่Googleต้องการปกป้องไม่ให้ทวิตเตอร์ตกไปอยู่ใน มือไมโครซอฟท์ จึงเสนอราคาซื้อไว้แทน ก่อนหน้านี้ ทวิตเตอร์เคยประกาศว่ากำลังอยู่ระหว่างการเพิ่มทุนปฏิบัติการอีก 3,000 ล้านเหรียญ ใกล้เคียงกับตัวเลขเสนอซื้อกิจการ 4,000 ล้านเหรียญ ข่าวการแย่งกันเสนอซื้อทวิตเตอร์ของบริษัทยักษ์ใหญ่ถือเป็นสัญญาณ ความสำเร็จของบริษัทเกิดใหม่อย่างทวิตเตอร์ บริการที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถบอกเล่าความเป็นไปใน ขณะนั้นได้ในรูปเว็บล็อกความยาวไม่เกิน 140 ตัวอักษรแก่เพื่อนในกลุ่ม ผู้ใช้สามารถส่งข้อความว่ากำลังทำอะไรที่ไหนอย่างไรไปยังคอมพิวเตอร์ของ เพื่อนที่ออนไลน์อยู่ในขณะนั้น ได้รับความนิยมมากเนื่องจากความสะดวกในการติดต่อข่าวสารระหว่างคนในกลุ่มแบบ รวดเร็วทันใจและไม่มีค่าใช้จ่าย เว้นแต่จะเป็นการส่งข้อความสู่โทรศัพท์มือถือ อย่างไรก็ตาม การเจรจาระหว่างGoogleและทวิตเตอร์อาจไม่ใช่การซื้อขายบริษัทก็ได้ และเป็นไปได้ว่าทั้งสองอาจสนใจทำงานร่วมกันเพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจของกัน และกัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ร่วมก่อตั้งทวิตเตอร์อย่างบิซ สโตน (Biz Stone) เคยกล่าวเมื่อกุมภาพันธ์ 53 ว่าต้องการเป็นพันธมิตรกับหลายบริษัท และยังไม่มีความคิดที่จะขายบริษัทในขณะนี้ขอบคุณข้อมูลจาก: MGO Cyber Biz
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 พฤศจิกายน 2010, 21:45:07 โดย Uzumaki Naruto »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Uzumaki Naruto
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 515
ออฟไลน์
กระทู้: 5,875
|
 |
« ตอบ #92 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2010, 02:08:31 » |
|
LG กิมจิปั้นแท็ปเล็ตวินโดวส์ 7 ราคาแรง! แอลจี ประเทศเกาหลีเปิดตัวคอมพิวเตอร์กระดานชนวนรุ่น H1000B โดยให้ชื่อว่า "E-Note" (อี-โน้ต) ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7 "E-Note" มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 7 Starter Edition, หน้าจอแสดงผล Capacitive แบบสัมผัส ขนาดกว้าง 10.1นิ้ว (ความละเอียด 1366 x 768พิกเซล), ใช้หน่วยประมวลผล Intel Atom Z510 หรือ Z530 ความเร็ว 1.6GHz, RAM 1GB, ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ความจุ 16GB รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ 3.0 ไวไฟ 802.11b/g/n ตัวอ่านเอสดีการ์ด และช่องต่อยูเอสบี 2.0 จำนวน 2 ช่อง และมีน้ำหนัก 850กรัม น่าเสียดายที่แอลจีไม่ใส่กล้องถ่ายรูปมาให้ ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติหลักที่แท็บเล็ตแบรนด์อื่นๆ มี แม้คุณสมบัติที่ให้มาอาจดูไม่โดดเด่นเท่าที่ควร แต่แอลจียังคงยืนยันจะเปิดตัวแท็บเล็ต "E-Note" H1000B ในไม่ช้านี้ โดยจะวางจำหน่ายในราคา 850 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 25,500 บาทขอบคุณข้อมูลจาก: MGO Cyber Biz
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Uzumaki Naruto
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 515
ออฟไลน์
กระทู้: 5,875
|
 |
« ตอบ #93 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2010, 03:17:31 » |
|
ลือ!!! หนังสือพิมพ์ iPad ใกล้คลอดแล้ว รายงานข่าวล่าสุด News Corp ยักษ์ใหญ่ทางด้านสื่ออาจจะกำลังทำงานร่วมกับ Apple เพื่อสร้างหนังสือพิมพ์ขึ้นมาใหม่สำหรับใช้อ่านบน iPad โดยเฉพาะ โดยมีกำหนดการเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างนี้ด้วยค่าบริการแค่ 99 เซนต์ (ประมาณ 30 บาท) ต่อสัปดาห์เท่านั้นข่าวลือดังกล่าวเล็ดลอดออกมาจากหนังสือพิมพ์ข่าวแฟชั่น Women's Wear Daily ที่อ้างว่า Rupert Murdoch ซีอีโอของ News Corp กับ Steve Jobs ซีอีโอ Apple ได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดสำหรับโครงการพิเศษ ซึ่งเรียกว่า "The Daily" โดยกล่าวว่า Jobs และ Murdoch อาจจะปรากฎตัวร่วมกัน เพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ ไม่เพียงเท่านั้น The Guardian ใน U.K. ยังรายงานข่าวในเชิงลึกยิ่งกว่า โดยระบุว่า โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่าง News Corp กับ Apple ในเรื่องของแท็บเล็ตเท่านั้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ว่านี้จะไม่ใช่สิ่งพิมพ์ หรือเว็บ แต่เป็นการพัฒนาแอพพลิเคชันที่ได้รับความช่วยเหลือจากวิศวกรของ Apple อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะไม่ได้ใช้กับ iPad เท่านั้น The Daily ของ News Corip จะมีบนแท็บเล็ตอื่นๆ ด้วย แต่เนื่องจาก Murdoch เชื่อว่า iPad เป็นกลไกหลักของการเปลี่ยนเกมครั้งนี้ เนื่องจากครอบครัวส่วนใหญ่ใช้มันรับข้อมลข่าวสาร ตามรายงานอ้างว่า แผนก The Daily จะทำงานอยู่บนชั้นที่ 26 ของสำนักงาน News Corp ใน New York โดยมีการว่าจ้างนักข่าวถึง 100 คนสำหรับงานนี้ คาดว่า The Daily จะถูกประกาศตามหลังแผนการให้บริการสมัครรับหนังสือพิมพ์ของ Apple ที่กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินงาน นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่า Apple กำลังสร้างแอพพลิเคชันเฉพาะขึ้นมา เพื่อสนับสนุนการใช้บริการ Digial Newsstand (แผงหนังสือดิจิตอล) สำหรับนิตยสาร และหนังสือพิมพ์อีกด้วย ลักษณะคล้ายกับ iBook ที่เป็นแอพฯตัวหนึ่งบน iPadขอบคุณข้อมูลจาก: [เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th  ]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Uzumaki Naruto
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 515
ออฟไลน์
กระทู้: 5,875
|
 |
« ตอบ #94 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2010, 12:42:04 » |
|
ได้เวลา "นสพ.เพื่อ iPad" กลายเป็นข่าวที่สื่อน้อยใหญ่ในสหรัฐฯให้ความสนใจอย่างมากสำหรับโป รเจกต์ "The Daily" โครงการใหม่ที่มีการอ้างว่าเป็นความร่วมมือระหว่างสตีฟ จ็อบส์ ซีอีโอแอปเปิลผู้ผลิต iPad กับรูเพิร์ต เมอร์ดอช ซีอีโอนิวส์คอร์ปซึ่งเป็นสื่อยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกัน เนื้อข่าวระบุว่าผลผลิตจากโครงการคือหนังสือพิมพ์รายวันเวอร์ชันเฉพาะสำหรับ ชาว iPad ที่จะสามารถอ่านได้ทุกวันในราคา 99 เซนต์ต่อสัปดาห์ หรือประมาณ 4-5 บาทต่อวัน รายงานจากนิวยอร์กไทมส์ชี้ว่า The Daily จะเป็นหนังสือพิมพ์รายวันชนิดแรกที่มาพร้อมมัลติมีเดียและภาพที่ออกแบบมา เพื่อการแสดงบนคอมพิวเตอร์พกพาทรงกระดานชนวนของแอปเปิลโดยเฉพาะ ซึ่งจะเหนือกว่าหนังสือพิมพ์ออนไลน์ดั้งเดิมที่การจัดวางและลูกเล่นในการนำเสนอที่รองรับการสัมผัสหน้าจอมากกว่า นิวยอร์กไทมส์ระบุว่า The Daily จะถูกพัฒนาในสำนักงานนิวส์คอร์ปสาขาแมนฮัตตัน บนตัวเลขการลงทุนมากกว่า 30 ล้านเหรียญ ท่ามกลางทีมงานราว 100 คน ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีความสามารถหลากหลายทั้งด้านดนตรี การผลิตทีวี งานข่าว และนานางานคอนเทนต์ สำนักข่าวอเมริกันอ้างแหล่งข่าววงในว่า ผู้ ใช้ iPad จะสามารถรับบริการหนังสือพิมพ์รายวันเวอร์ชันพิเศษในราคาค่าบริการราว 0.99 เหรียญต่อสัปดาห์ หรือประมาณ 4.25 เหรียญต่อเดือน (ราว 30 บาทต่อสัปดาห์ และ 130 บาทต่อเดือน) โดยเบื้องต้น เชื่อว่า The Daily เวอร์ชันทดลองจะสามารถเริ่มชิมลางสู่มือผู้บริโภคในเดือนธันวาคมนี้ ข้อมูลจากสำนักข่าว Women's Wear Daily ระบุว่า The Daily จะมีเนื้อหาครอบคลุมข่าวในประเทศสหรัฐอเมริกา ลักษณะเด่นจะเหมือนหนังสือแท็บลอยด์ดิจิตอลที่อ่านง่ายและสนุกเพลิดเพลิน โดยอาจมาในรูปแอปพลิเคชันแยกเดี่ยวให้ผู้บริโภคดาวน์โหลดไปใช้งาน คาดว่า The Daily เวอร์ชันเต็มจะสามารถเปิดตลาดได้ในปี 2011 ก่อนหน้านี้ เมอร์ดอชเคยให้สัมภาษณ์ว่า The Daily คือโครงการที่น่าตื่นเต้นอันดับ 1 ซึ่งจะเป็นโครงการเรือธงสำหรับนิวส์คอร์ป ความเห็นนี้ไม่น่าแปลกใจหากนิวส์คอร์ปจะมอง iPad เป็นเค้กก้อนใหญ่ที่นำรายได้จากกระเป๋าผู้บริโภคมาสู่ธุรกิจงานข่าว เนื่องจากที่ผ่านมา แอปเปิลสามารถพิสูจน์ตัวเองให้วงการสื่อมวลชนเห็นว่าสามารถทำเงินได้จริง ตัวอย่างเช่นแอปพลิเคชันของหนังสือพิมพ์วอลสตรีทเจอร์นอล (Wall Street Journal) บน iPad ที่สามารถสร้างเม็ดเงินจากโมเดลสมัครสมาชิกได้เป็นกอบเป็นกำ ขณะเดียวกัน นิวส์คอร์ปก็มีสัมพันธ์อันดีกับแอปเปิล โดยรายงานก่อนหน้านี้ชี้ว่าเมอร์ดอชตกลงให้แอปเปิลจำหน่ายรายการทีวีโชว์ของ สถานี Fox TV บนร้าน iTunes ในราคา 99 เซ็นต์ต่อ 1 ตอนแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่า The Daily จะรองรับเฉพาะ iPad อย่างเดียวหรือไม่ โดยสื่อต่างประเทศเชื่อว่า The Daily น่าจะสามารถใช้งานกับอุปกรณ์แท็บเล็ตค่ายอื่นได้ด้วย ในเบื้องต้นเชื่อว่าจะสามารถโกยผู้ใช้งานในสหรัฐฯมากกว่า 100,000 คนในเวลาไม่นาน บนยอดเม็ดเงินสะพัดมากกว่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐ เหนืออื่นใด The Daily จะทำให้ iPad กลายเป็นอุปกรณ์ที่ทวีความท้าทายเครื่องอ่านอีบุ๊กอย่าง Kindle หรือ Nook ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ไม่สามารถแสดงภาพเคลื่อนไหวได้ยิ่งขึ้น และหาก The Daily ประสบความสำเร็จ วงการสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทั้งในอเมริกาและทั่วโลกจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แน่นอนขอบคุณข้อมูลจาก: MGO Cyber Biz
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Uzumaki Naruto
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 515
ออฟไลน์
กระทู้: 5,875
|
 |
« ตอบ #95 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2010, 16:04:06 » |
|
ไมโครซอฟท์ งัดข้อแฮกเกอร์ ส่งระบบตรวจสอบลิขสิทธิ์ ลง "วินโดว์โฟน 7" ผู้ใช้หลายท่านที่ชอบใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ที่เป็นแผ่นละเมิดลิขสิทธิ์ คงเคยเห็นหน้าตา Genuine Software ปรากฏขึ้นมาในบางครั้งที่เผลอไปอัปเดตตัวระบบปฏิบัติการจนอาจทำให้เกิดปัญหา กับตัววินโดว์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ขึ้น ซึ่งในวันนี้เมื่อไมโครซอฟท์คลอดวินโดว์โฟน 7 ออกมาและมีมือดีพยายามแฮกระบบของวินโดว์โฟน 7 ให้ไปใช้งานบนสาร์ทโฟน HTC HD2 ทำให้ทางไมโครซอฟท์ต้องของัดข้อกับเหล่าแฮกเกอร์ด้วยการนำระบบ Genuine Checker หรือระบบตรวจสอบซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ ติดตั้งลงไปในวินโดว์โฟน 7 โดยหลักการทำงานคือ เมื่อผู้ใช้เปิดโทรศัพท์เพื่อใช้งานวินโดว์โฟน 7 ระบบจะทำการดึง PVK (Private Keys) ซึ่งจะถูกเก็บไว้บน Mainboard ของสาร์ทโฟนแต่ละแบรนด์ มาทำการ Activate ระบบ โดยถ้าผู้ใช้ที่กำลังรันวินโดว์โฟน 7 บน custom ROM ซึ่งแน่นอนว่า PVK จะไม่ถูกเก็บค่าตามมาด้วย จะทำให้ตัวระบบปฏิบัติการไม่สามารถเข้าใช้เซอร์วิสต่างๆ อาทิเช่น Marketplace, XBOX Live Windows Live หรือ Zune ได้ อีกทั้งในส่วนของการพยายามแฮก XBOX Live บนวินโดว์ 7 ให้สามารถลงซอฟต์แวร์หรือเกมละเมิดลิขสิทธิ์ ทางไมโครซอฟท์ได้ตั้งมาตราการ "ระงับ" บัญชีรวมถึงตัวเครื่อง โดยจะมีข้อความแจ้งเตือน "This phone has been banned from Xbox LIVE for violating the Xbox LIVE Terms of Use. To protect the Xbox LIVE service and its members, Microsoft does not provide details about phone bans. There is no recourse for Terms of Use violations." ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้แฟน XBOX360 คงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีจากการที่ไมโครซอฟท์เคยมีการล้างบาง ระงับบัญชีรวมถึงตัวเครื่องของผู้ใช้ XBOX360 ที่ทำการดัดแปลงให้สามารถเล่นเกมที่ละเมิดลิขสิทธิ์จำนวนกว่า 1 ล้านยูสเซอร์ในปี 2009 มาแล้วขอบคุณข้อมูลจาก: MGO Cyber Biz
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Uzumaki Naruto
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 515
ออฟไลน์
กระทู้: 5,875
|
 |
« ตอบ #96 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2010, 19:20:20 » |
|
Facebook กำลังยึดครอง"อินเทอร์เน็ต" Facebook กำลังจะครองแทรฟฟิกบนอินเทอร์เน็ตไปแล้ว เมื่อสถิติล่าสุดพบกว่า เพจวิวประมาณ 25% เป็นของโซเชียลเน็ตเวิร์กอันดับหนึ่งแห่งนี้ โดยสถิติในช่วงเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วเทียบกับปี 2010 พบว่า แทรฟฟิกของเว็บไซต์มีการเติบโตสูงถึง 60% เลยทีเดียวExperian Hitwise เว็บไซต์ที่ตรวจจับสถิติการใช้งานบนอินเทอร์เน็ตเปิดเผยว่า Facebook กำลังจะครอบครองอินเทอร์เน็ตแล้ว โดยเพจวิว 1 ใน 4 เป็นของเว็บไซต์แห่งนี้ และมีส่วนแบ่งของผู้เยี่ยมชม 10% ในขณะเดียวกัน Google ตกเป็นที่สองอยู่ที่ 7% ตามด้วย YouTube (ของ Google) 3% อย่างไรก็ดี หากรวม Google กับ YouTube จะได้เพจวิวทั้งหมดคิดเป็น 11.7% อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในเดือนกันยายน Google ก็ได้เคยพ่ายแพ้ให้กับ Facebook มาแล้ว  วันนี้ Facebook มีผู้เข้าชมคอนเท็นต์สูงกกว่า YouTube โดยมีแทรฟฟิกจาเพจวิว 24.27% เทียบกับ YouTube 6.93% ในขณะที่ Google มีแทรฟฟิกของเพจวิวแค่ 4.13% เท่านั้น ตามด้วย Yahoo ที่ครองส่วนแบ่งเพจวิว 0.54% ปัจจุบันผู้ใช้ส่วนใหญ่เลือกที่จะตั้งให้ดีฟอลต์เพจเป็น Facebook ของตนเอง ประกอบกับล่าสุด ทางบริษัทได้เริ่มแนะนำให้ผู้ใช้บางรายด้วยการถามว่า ต้องการตั้งให้ Facebook เป็นโฮมเพจ หรือไม่? เพื่อจะได้เข้าถึงง่ายกว่า และเร็วขึ้นกว่าเดิม เพราะแค่เปิดบราวเซอร์ก็จะเข้าสู่ Facebook ทันที ด้วยวิธีนี้ ทางทีมงานของ Facebook มั่นใจว่า จะทำให้แทรฟฟิกของตนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงการเติบโตที่คาดว่าจะสามารถถึง 1 พันล้านได้ภายในปี 2011ขอบคุณข้อมูลจาก [เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th ]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
RiceX
Verified Seller
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 46
ออฟไลน์
กระทู้: 1,132
|
 |
« ตอบ #97 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2010, 19:28:54 » |
|
ข้อมูลจาก เอ.อาร์.ไอ.พี มีลิงค์
แล้วข้อมูลจาก MGO Cyber Biz ไม่มีลิงค์หละ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Uzumaki Naruto
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 515
ออฟไลน์
กระทู้: 5,875
|
 |
« ตอบ #98 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2010, 22:55:46 » |
|
Google Connect ปันใจผู้ใช้ Office รายงานข่าวล่าสุด Google เสิร์ชเอ็นจิ้นยักษ์ใหญ่เปิดให้บริการ"ปลั๊กอิน" (Plug-in)ใหม่ Google Connect ซึ่งถือได้ว่าเป็น"อาวุธลับ"ในการที่จะดึงผู้ใช้ให้ถอนตัวจาก Microsoft Office หันไปใช้ Google Docs นับเป็นกลยุทธ์ที่ฉลาดมากทีเดียวGoogle Cloud Connect เป็นปลั๊กอินตัวใหม่ที่ออกแบบให้ดาวน์โหลด และติดตั้งได้ง่ายมาก เพียงแค่ 30 วินาทีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกทาง Google จะเปิดให้สมาชิกบางรายที่เป็น tester ได้ดาวน์โหลดปลั๊กอินเวอร์ชันทดลองตัวนี้ไปใช้ ส่วนการจะเปิดให้ผู้ใช้ทั่ว ไปเมื่อไรนั้นยังไม่มีการเปิดเผยออกมาแต่อย่างใด สำหรับการทำงานของปลั๊กอิน Google Connect จะเป็นการแทรกหน้าต่างเล็กๆ เข้าไปบนทูลบาร์หลักของโปรแกรม Office โดยผู้ใช้สามารถส่งก็อปปี้ของไฟล์เอกสาร Word, Excel หรือ Powerpoint ไปยังบัญชีผู้ใช้ Google ซึ่ง Connect จะสร้างลิงค์เชื่อมโยงก็อปปี้ของเอกสารที่เก็บบนเซิร์ฟเวอร์ในระบบ Cloud ของ Google ได้ หลังจากส่งไฟล์เอกสาร Office ขึ้นไปบน Google Cloud แล้ว ผู้ใช้จะสามารถเข้าถึงเอกสารดังกล่าวได้จากบราวเซอร์จากพีซี หรือเน็ตคาเฟ่ต่างๆ ตลอดจนสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตด้วยบริการของ Google Docs ได้แล้ว นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถแชร์ลิงค์ของเอกสารให้กับผู้ใช้ Google คนอื่นๆ ได้ด้วย ทำให้สามารถแก้ไขเอกสารตัวเดียวกันได้พร้อมกันอีกต่างหาก ปลั๊กอิน Google Connect สามารถติดตั้งเป็นทูลบาร์ใน Word, Excel และ PowerPoint ของชุด Office 2003, 2007 และ 2010 นั่นหมายความว่า ผู้ใช้สามารถเข้าถึงไฟล์เอกสาร Office เวอร์ชัน Web ด้วยอินเตอร์เฟซของโปรแกรม Office ที่คุ้นเคยได้ทันที หรือจะแก้ไขผ่าน Google Docs บนคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ก็ได้ Google Connect จะเหมาะสำหรับ SMEs ที่ต้องการควบคุมงบประมาณ โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้ Office เวอร์ชันเก่า ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับ Google Connect เพื่อใช้บริการผ่าน Internet Cloud ของ Google ทำให้เกิดความคล่องตัว และประหยัดงบประมาณในการอัพเกรดได้อีกด้วย คงต้องติดตามกันดูต่อไปว่า แผนเปลี่ยนใจผู้ใช้ Office ให้หันมาสนใจ Google Docs ที่ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่มความคล่องตัวในการใช้งานจะประสบความสำเร็จ หรือไม่?ขอบคุณข้อมูลจาก [เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th ]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Uzumaki Naruto
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 515
ออฟไลน์
กระทู้: 5,875
|
 |
« ตอบ #99 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2010, 04:17:18 » |
|
หนอน Koobface อาละวาดอีกบน Facebook, Twitter บริษัท Intego และ SecureMac บริษัทจำหน่ายซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยบนระบบคอมพิวเตอร์แมคอินทอช ประกาศเตือนภัยผู้ใช้คอมพิวเตอร์ 3 ระบบปฏิบัติการทั้งแมคอินทอช ลินุกซ์ และวินโดวส์ ให้ระวังการกลับมาอาละวาดของหนอนคอมพิวเตอร์นาม Koobface ซึ่งแพร่กระจายตัวเองผ่านเครือข่ายสังคมยอดฮิตทั้ง Facebook, MySpace และ Twitter หนอน Koobface เวอร์ชันใหม่ถูกให้ชื่อว่า "Boonana" โดยถูกระบุว่าเป็นหนอนที่มุ่งโจมตีผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ Mac OS X หลัก การทำงานคือ Boonana จะแฝงตัวไปกับข้อความในเว็บไซต์เครือข่ายสังคมที่เรียกร้องความสนใจให้ เหยื่อคลิกเปิดลิงก์อันตราย เช่นข้อความ "Is this you in the video?" เมื่อเหยื่อหลงเชื่อคลิกลิงก์เพื่อชมว่าเป็นวิดีโอใด โปรแกรม Java ฝังไวรัสก็จะเข้าสู่เครื่องโดยที่เหยื่อไม่ทันรู้ตัว นี่ถือเป็นการกลับมาอีกครั้งของหนอน Koobface ซึ่งเคยมุ่งโจมตีเฉพาะผู้ใช้พีซีระบบปฏิบัติการวินโดวส์ช่วงปี 2009 โดยชื่อ Koobface นั้นเป็นการกลับตัวอักษร Facebook ขณะที่ชื่อ Boonana มาจากชื่อบัญชีปลอมที่เป็นต้นตอการกระจายข้อความลวง ซึ่งล่าสุด ประชาสัมพันธ์ Facebook ระบุว่าบริษัทรับรู้ถึงการระบาดของหนอนคอมพิวเตอร์ที่เกิดขึ้นแล้ว พร้อมยืนยันว่าเป็นการโจมตีที่จำกัดในวงแคบเท่านั้นขอบคุณข้อมูลจาก: Manager Online 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 39 ขึ้นบน |
|