ขอแชร์ประสบการณ์ตัวเองแล้วกัน
เคยทำงานได้เงินเดือน 5 หลัก แต่ไม่มีความสุขเลย เพราะปัญหาการเมืองเรื่องที่ทำงาน และเราต้องรับผิดชอบงานอีก 2-3 อย่างบริษัทบอกว่าจะจ้างคนเพิ่ม แต่ผ่านมา 7 เดือน เราก็ทำงานนั้นตลอด เริ่มทำ ebay โดยการใช้เวลาว่างในวันเสาร์หาของ
วันอาทิตย์ ถ่ายรูปและ pack ของเพราะไม่อยากจะให้กระเทือนงานประจำ
จากนั้นงานนั้นหมดสัญญาจ้าง เรามาลุย ebay เต็มตัว แม่ก็ห่วงเพราัะคิดว่างานประจำมันมั่นคงกว่า เราก็คิดว่า บ้านก็มี รถก็มีแล้ว ไม่มีหนี้ ได้เงินเฉลี่ย 2-3 หมื่น คงอยู่ได้ ขอพักสมองสัก 1 ปีก่อน ช่วงนั้นขาย ebay เป็นอาชีพเสริม กำไร หมื่นห้าถึงสามหมื่นต่อเดือน ก็ยิ่งมีกำลังใจมากขึ้น
ตอนนี้เกิดวิกฤตน้ำท่วม บริษัทจัดหางานไม่ค่อยจะเรียกตัว เพื่อนที่ทำงานอยู่ที่บริษัทญี่ปุ่นที่โดนน้ำท่วมที่อยุธยา กลุ้มใจมากเพราะเจ้านายญี่ปุ่นเก็บกระเป๋ากลับบ้านและไม่จ่ายเงินเดือน เขาบอกว่าญี่ปุ่นไม่เหมือนตนไทย ลืมยาก
เราก็บอกให้เพื่อนสู้ต่อไปบอกตัวเองอีกเหมือนกัน ว่าเราคงฝ่าฟันวิกฤติไปได้
ของที่ขายในอีเบย์เป็นพวกของเก่าหรือทำเลียนแบบของเก่า เครื่องประดับ Style Vintage รู้สึกว่าตลาดจะดีมาก แต่เราต้องมีความรู้ด้วยนะคือ ต้องรู้ว่าอันไหนเป็นของเก่าจริงอันไหนของปลอม หรือของเลี่ยนแบบ อย่าไปโกหกลูกค้่า
มีเนื้อเงินผสมกี่ % ในงานของเรา
ความโชคดีของเราคือสามารถหา Product ที่ตลาดต้องการ ร้านค้าที่เรานำสินค้าเขาไปขาย ให้ราคาที่เราสามารถนำไปแข่งขันได้อันนี้เราควรจะจดราคาไว้นะคะ เพราะบางร้านพอขายได้ก็บอกอีกราคาหนึ่ง ร้านที่ต้องการยอดขายเพิ่มเขาอนุญาตให้เราถ่ายรูปและไม่ต้องStock สินค้า อีกอย่างคือที่สำคัญ หาลูกค้่ารายใหญ่ที่มีกำลังซื้อเยอะต่อเดือน
ส่วนใหญ่คนที่ซื้อของเราเปิดร้าน Antique Shop หรือ Dhamma Shop ในประเทศอเมริกา มีเรื่องตลกมาเล่าคือ เราซื้อกำไลหยกจากเมืองจีนเมื่อ 10 ปีที่แล้วในราคา 150 บาทใส่ไม่ได้ก็เลยลง ขายใน Ebay ได้ประมาณ 3500 บาทดีใจมากแล้วนะ แต่คนที่ประมูลชนะนำมันไปขายต่อได้ราคาอีก 12300 บาท :

:เขาเขีบนบรรยายรายละเอียดของสินค้าได้ดีกว่าเรา
ตอนนี้ร้านที่เราไปเอาของก็แย่เหมือนกันมีสองสามร้าน ที่อยู่ที่จตุจักร JJ mall อาทิตย์ก่อน รีบไปซื้อของมาตุนและบางชิ้นมีคนประมูลแล้ว เพราะน้ำมันมาถึงห้าแยกลาดพร้าว พอเราซื้อของเสร็จร้านก็ปิดเลย เขาก็ขอบคุณเราใหญ่ที่ช่วยให้เขามีรายได้ ซื้อของหมดประมาณ 8 แปดหมื่น กำไรเท่าตัว
ถ้าใครที่ทำ อีเบย์ จะสังเกตว่า เดือนที่ขายดีที่สุดสำหรับ Product ของเราและของพวกของขวัญต่างๆ จะเป็นเดือนนี้ถึงกลางเดือนธันวา เพราะคนมีกำลังซื้อ หรือใช้จ่ายเป็นค่าของขวัญ จากนั้นเดือนมกราก็ค่อนข้างเงียบ เดือนกุมภาตลาดก็ดีขึ้น ควรจะผูกสัมพันธ์กับ Supplier ไว้ ให้เขาถ่ายรูปสินค้าใหม่ให้เราเพราะเราไม่สะดวกที่จะถ่ายรูปให้ เนื่องจากน้ำท่วม ตกลงราคาเท่าไหร่ นัดวันรับสินค้าจะเจอกันตรงไหน อย่าให้เราเสียโอกาสทางธุรกิจแล้วกัน
ตอนนี้เราก็เริ่มตุนสินค้าที่จะขายแล้วมันต้องใช้การสังเกตและอ่านหาความรู้เยอะๆ หาสินค้าขายใหม่ๆ แต่
สิ่งที่ห่วงตอนนี้ก็คืออยากให้ ไปรษณีย์ สามารถส่งของถึงลูกค้าให้ตลอด สนามบินสุวรรณภูมิ น้ำไม่ท่วม ตอนนี้ก็รีบเก็บ เงินกับลูกค้า 3 วันจ่ายเราไม่แน่ใจว่ารัฐบาลจะประกาศวันหยุดราชการเพิ่มหรือไม่
ยังไงขอให้ทุกคนสู้ๆนะคะ
