ผมเชื่อเสมอว่าสมัยก่อนงานเสริมคือทางเลือก สมัยนี้งานเสริมคือทางรอด ผมสนับสนุนให้ทุกคนหาทางใช้ชีวิตให้รอดโดยไม่ต้องกินเงินเดือน เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่การทำงานประจำเป็นรายได้เพียงทางเดียวที่ค่ำจุนชีวิตคุณได้มันหายไป ถึงวันนั้นหายนะจะคลืบคลานเข้ามาเยี่ยมเยียนแบบไม่ทันตั้งตัว และตอนนี้วันนั้นใกล้มาถึงแล้ว เศรษฐกิจกำลังพังทลาย หนี้ครัวเรือนในประเทศสุงที่สุดเป็นประวัติการณ์เกือบ 100% ไม่มีใครสนว่าคุณรักหรือไม่รักที่จะทำอะไร เพราะเมื่อองค์กรขาดทุน นโยบายการรัดเข็มขัดต้องเกิดขึ้นเพื่อเอาตัวรอด วันนั้นมนุษย์เงินเดือนที่เคยเป็นทรัพย์สินจะกลายเป็นหนี้สินสำหรับบริษัททันที ไม่ว่าค่าตัวจะมากหรือน้อย ไม่มีใครรู้สึกได้ว่าตัวเองปลอดภัย...!!!

บริษัทผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ยี่ห้อดัง แจ้งว่า order ส่งออกลดลงมาก
Subcontract ให้ออกหมด พนักงานประจำจ่าย 70 % ไปก่อน 1 เดือน ให้พักผ่อน + หาลู่ทางอาชีพต่อไป
จากกระทู้
http://pantip.com/topic/33397815 

ในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้...อะไรก็เกิดขึ้นได้
ถ้าแฟน สามี ภรรยา คู่รัก (ของคุณ)
ต้องออกจากงาน กะทันหัน เพื่อนๆมีวิธีรับมือ
กับอุบัติเหตุ "ทางการงาน การเงิน ชีวิตคู่" ยังไงครับ
แชร์เรื่องผมก่อน...
ผมได้ออกจากงานกะทันหัน เนื่องจากยุบสาขา !! อยู่ในกลุ่มธุรกิจการเงินการธนาคาร
แบบไม่ทันตั้งตัวเลยครับ รับมือโดยการรัดเข็มขัดให้แน่น หางานใหม่ให้ได้เร็วที่สุด
ที่สำคัญอย่าเก็บตัวอยู่คนเดียว ออกไปคุยกับเพื่อนๆบ้าง เผื่อมีลู่ทางที่เราพอจะทำได้
และที่ผมเจ็บปวดที่สุด เวลาเจอคนรู้จัก ตอนตกงานคือ "เฮ้ย ! เป็นไงบ้าง ทำงานที่ไหน"
(Goo ทำ 4-5 ปี ก็ไม่เคยเจอเลยย พอตกงานวันเดียว วันต่อมา เจอเมิงงงงเลยยย เศร้าแป๊บ T_T)
ส่วนเรื่องแฟน ถ้าคุณได้คู่รักเกื้อหนุนกัน เค้าจะเป็นกำลังใจให้คุณได้ดี ในยามทุกข์ยากครับ
ถ้าได้คู่รักตัวใครตัวมัน คุณจะรู้คำตอบด้วยตัวเอง ก็งาน...นี่แหละ...(วัดใจกันไปเลย)
จากกระทู้
http://pantip.com/topic/33408833 

Newsmania
Al-Futtaim Group เตรียมปิดห้างสรรพสินค้าในสิงคโปร์ชี้แดนลอดช่องมีห้างมากและเหมือนกันเกินไปจนขาดความน่าสนใจ ชี้คนช้อปปิ้งน้อยลงไม่ส่งผลดีต่อธุรกิจค้าปลีกในระยะยาวโดยเฉพาะในประเทศเล็กๆอย่างสิงคโปร์ นอกจากนี้ยังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน ค่าเช่าแพง พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปหันไปซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น และแบรนด์ต่างๆยังหันไปเปิดช็อปในประเทศใหม่ๆ เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย เมื่อคิดแล้วไม่คุ้มค่าในการลงทุนอีกต่อไปจึงประกาศปิดตัว
ปล. ตามเนื้อข่าวด้านบนจะเห็นว่าส่วนหนึ่งเกิดจาก พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปครับ รวมไปถึงประเทศไทยมีแต่สินค้าระดับล่างแข่งขันง่ายเราจึงเจอสินค้าราคาถูก แรงงงานราคาถูกมาตัดตอนห่วงโซ่อุปทานออกไปหลายอย่าง สภาพคล่องเงินในกระเป๋าเลยน้อย การจับจ่ายก็ไม่เกิด แต่จะไปกระจุกที่ธนาคารเยอะ แต่ธนาคารก็ไม่ปล่อยเพราะกลัวหนี้เสีย หากเกาไม่ถูกที่ แก้ไขไม่ถูกจุด คงลำบากกันไปอีกนานสำหรับคนที่ไม่มีทางเลือกมากนัก

ขอแชร์นะ เราพึงโดนมา บ.ที่เคยทำอยู่เป็นออฟฟิศเล็กๆ (ธุรกิจหนังสือ) พนักงานมี30 กว่าคน ดูเหมือนครอบครัวเล็กๆ เราทำงานมา 3 ปี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ บ.ขาดทุนมากกว่า 3 ล้านบาท เค้าไม่ปลดพนักงานออก แต่ใช้วิธีลดตำแหน่งพนักงาน โบนัสจากที่เคยได้ทุกปี ก้อโดนลดอย่างไม่มีเหตุผล แต่แต่ละคนได้ไม่เท่ากัน จากที่เคยได้เท่ากันทุกคน 1 เดือน ซึ่งเราคนเดียวที่โดน อายุน้อย แต่ก่อนเราเคยเป็นแอดมินและปรับขึ้นเปนเจ้าหน้าที่ประสานงานร้านค้า และก้อต้องกลับมาเป็นแอดมินใหม่ คำถาม เราไม่เคยผิดกฎบริษัท ไม่เคยมาสาย ไม่เคยลาป่วยแบบไม่มีใบรับรองแพทย์ แล้วทำไมต้องเป็นเรา สุดท้ายก้อมาค้นพบว่า ที่เป็นแบบนี้เพราะ เราอาจทำผลกำไรให้กับบริษัทน้อย สุดท้ายเลยตัดสินใจลาออก เพื่อทำตามความรู้ที่เรียนมา ตอนนี้ได้งานที่ใหม่แล้วมีความสุขดี การตกงานทำให้รู้เส้นทางใหม่มันอาจจะเป็นทางที่ขุรขระสักหน่อย แต่สิ่งที่สำคัญคือการพัฒนาตนเอง ไม่ใช่การย้ำอยู่กับที่
จากกระทู้
http://pantip.com/topic/33397815 

เป็นกระทู้ ที่อ่านแล้ว เหมือนเป็นการเตือนว่าตอนนี้เศรษฐกิจกำลังวิกฤติ
บริษัทที่แฟนทำงานอยู่ (เย็บชุดกีฬาส่งออกแถวนนท์) พนักงานก็ลาออกเยอะ ขนาดพม่ายังลาออก เพราะรายได้ไม่ดี
ประกาศรับก็ไม่มีมาสมัคร เพราะรายได้มันน้อย ไม่พอค่าครองชีพ
ลาออกไปเย็บผ้าโหลบ้าง กลับไปทำงานบ้านเกิด ย้ายไปตามจังหวัดอื่นบ้าง
จากกระทู้
http://pantip.com/topic/33397815 

เพื่อนเราโดนมาเหมือนกันค่ะ อายุ 34 แล้ว อยู่ในวัยกำลังสร้างตัว ตอนนี้วิ่งสมัครงานที่ไหนก้อยังไม่มีที่ไหนรับ เศรษฐกิจตอนนี้ ต้องระวังตัวระวังเงินในกระเป๋าให้มาก บริษัทน้อยๆ ถึง ปานกลางขาดสภาพคล่องอย่างหนัก ไม่อยากจะคิดค่ะ ว่าอีกไม่นานเศรษฐกิจไทยจะเป็นอย่างไร
จากกระทู้
http://pantip.com/topic/33397815 

ยังไม่ได้อ่าน เดี๋ยวมีเวลาค่อยทยอยอ่าน อยากจะบอกว่ามันเป็นเรื่องปกติสำหรับผมครับ เพราะ...
ปี 28 แม่ผมโดนเลิกจ้างเพราะพิษเศรษฐกิจ... อายุงาน 22 ปี
ปี 40 พ่อผมโดนเลิกจ้างเพราะพิษเศรษฐกิจ... อายุงาน 34 ปี
ปี 58 เม.ย. เมียผมกำลังจะถูกเลิกจ้าง เพราะพิษเศรษฐกิจ... อายุงาน 22 ปี
ทั้ง 3 คนทำงานในโรงงานไต่เต้าตั้งแต่พนักงานระดับล่างจนสูงสุดถึงรองผจก.ใหญ่ (พ่อ)
ผมถึงบอกว่ามันเป็นเรื่องปกติครับ เค้าให้ออกจ่ายครบก็จบครับ มีขีวิตรอดต่อไป จากประสบการณ์ของทั้ง 3 คนเหมือนกันคือ ดันเป็นที่ทำงานที่แรกและเันอยู่นานเกิน ทักษะด้านอื่นน้อย โดนเลิกตอนแก่หมดไฟหางานต่อกันแล้ว ผมก็เลยเริ่มเข้าใจว่าอาชีพรับราชการรับเงินไม่เคยพอกินนี่มันดีก็ตรงนี้นี้เอง
สู้ต่อไปครับ...
จากกระทู้
http://pantip.com/topic/33397815
อย่ากลัวการตกงานครับ มันเป็นแค่การเปลี่ยนแปลง เป็นโอกาสที่จะทำให้คุณได้ถามใจและเลือกเส้นทางให้ชีวิตตัวเองใหม่อีกครั้ง ทุกวิกฤตก่อให้เกิดฮีโร่กับคนที่ต้องพึ่งพิงฮีโร่ ในเมื่อออฟฟิตไม่ใช่ผู้ที่จะปกป้องคุณได้อีกต่อไป คุณต้องปกป้องตัวเอง...!!!
จำไว้เลยนะครับ ยามอนาคตของบริษัทไปไม่รอด ไม่มีนายจ้างคนไหนจะขายบ้านขายรถ ให้ครอบครัวตัวเองซุกหัวนอนใต้สะพานลอยเพื่อเอาเงินมาจ่ายให้พวกคุณได้ใช้ชีวิตมีเงินเดือนเหมือนเดิม นายจ้างไม่ใช่เทวดา คุณต้องดูแลตัวเอง และความจริงนี้จะคงอยู่ตลอดไปไม่ว่าวันนี้จะดูมั่นคงแค่ไหนก็ตาม
ความมั่นคงไม่เคยมีในโลกตราบใดที่ชีวิตคุณยังอยู่บนมือของผู้อื่น อย่ากลัว อย่าท้อ อย่ายอมแพ้ ผมแค่อยากจะส่งต่อกำลังใจและบอกว่าคนเราทุกคนคือนายตัวเองครับ
วิชญ์
www.Startyourway.com