สมาชิกท่านใดทำลายเซ็นต์ไว้ ระวังด้วยนะครับ

ที่มาของข่าว hxxp://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9500000082924
ตำรวจพร้อมที่จะดำเนินคดี หรือเรียกผู้ที่ทำและส่งภาพล้อเลียน “กัณฑ์พิทักษ์ ปัจฉิมสวัสดิ์” ไปตามอีเมลต่างๆ มาสอบสวน หากเจ้าตัวหรือญาติที่เห็นว่าจะทำให้เกิดการเสื่อมเสียมาแจ้งความดำเนินคดี
วันนี้ (16 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากมีผู้คิดประดิษฐ์ภาพล้อเลียนพฤติกรรมของนายกัณฑ์พิทักษ์ ปัจฉิมสวัสดิ์ ที่ขับรถเบนซ์พุ่งชนผู้โดยสารรถปรับปรับอากาศของ ขสมก. จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บนั้น ภาพล้อเลียนดังกล่าวถูกฟอร์เวิร์ดเมลเป็นจำนวน 2 ภาพ โดยภาพแรกเป็นภาพวงกลม มีเครื่องหมายห้ามคล้ายป้ายงดสูบบุหรี่ เป็นพื้นสีแดง วงกลมด้วยสีดำ รอบวงกลม มีตัวหนังสือสีขาวตัวใหญ่ เขียนคำว่า “หงิกไม่ขับ” ไว้ด้านบน ขณะที่ด้านล่างรอบวงกลมเขียนตัวหนังสือตัวเล็กลงมา ระบุข้อความ “รู้ว่าหงิก ก็อย่ามาขับ เวลาโดนจับ อย่าทำเป็นหงิก” โดยตรงกลางวงกลมเป็นพื้นสีเหลือง มีรูปการ์ตูนเป็นรถเบนซ์ และบนรถเบนซ์มีภาพใบหน้าตัวการ์ตูนในลักษณะงงงวย โดยทั้ง 2 ข้างของภาพใบหน้า เป็นภาพวาดนิ้วมือในลักษณะหงิกงอ
ภาพที่ 2 เป็นสี่เหลี่ยม คล้ายป้ายบอกกฎจราจร พื้นสีเหลือง รอบขอบสี่เหลี่ยมเป็นสีน้ำเงินวงรอบ 2 ชั้น ตรงกลางเป็นภาพล้อเลียนตัวการ์ตูนครึ่งตัวที่ถูกมองจากด้านข้าง ในลักษณะสั่นเทา มือหงิก เหงื่อตก 1 เม็ด ใต้ตัวการ์ตูนดังกล่าว มีตัวหนังสือทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษระบุคำว่า “หงิก in car”
เกี่ยวกับการล้อเลียนพฤติกรรมของนายกัณฑ์พิทักษ์ หรือหมูแฮม ดังกล่าว พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.5 เปิดเผยว่า คดีหมิ่นประมาทเป็นเรื่องส่วนตัว ต้องให้เจ้าตัวเข้ามาแจ้งความก่อนจึงจะดำเนินคดีในข้อหานี้ได้ เนื่องจากผู้เสียหายที่ถูกพาดพิงจะต้องเห็นภาพหรือข้อความนั้นก่อน แล้วรู้สึกว่าได้รับความเสี่อมเสีย ตำรวจจึงจะสามารถดำเนินคดีได้
ด้าน พ.ต.อ.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ เจ้าของท้องที่และเจ้าของคดีที่เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีใครเข้ามาแจ้งความในข้อหาหมิ่นประมาท หรือรูปภาพที่ล้อเลียนนายกัณฑ์พิทักษ์ ซึ่งโดยส่วนตัวก็ยังไม่เห็นภาพดังกล่าว แต่ในส่วนของการดำเนินคดี เจ้าตัว หรือผู้ที่คิดว่าได้รับผลกระทบทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เช่น ญาติ หรือพ่อแม่ ต้องเข้ามาแจ้งความกับทางตำรวจไว้ก่อนจึงจะสามารถดำเนินคดีได้ ส่วนจะเข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่นั้น หลังจากมีการแจ้งความแล้ว ทางตำรวจจะต้องตรวจสอบรูปภาพหรือข้อความนั้นก่อน รวมทั้งต้องเรียกผู้ที่ส่งข้อความหรือภาพนั้นมาสอบสวน เพื่อดูว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่