เอเยนซี-GoDaddy ผู้ให้บริการจดทะเบียนโดเมนเนมรายใหญ่ของโลก แถลงวันพุธ (24 มี.ค.) ว่ามีแผนจะเลิกรับจดโมเมนเนมในจีนแล้ว เพื่อร่วมประท้วงกับGoogle ต่อการเซ็นเซอร์และคุกคามไซเบอร์
คริสติน โจนส์ ที่ปรึกษาทั่วไปของ Go Daddy Group Inc กล่าวกับคณะกรรมาธิการสภาคองเกรส เมื่อวันพุธว่า ตลอดสามเดือนของปีนี้ Godaddy ได้ถูกบุกรุกจากฐานปฎิบัติในจีนหลายสิบครั้งแล้ว
"จากประสบการณ์ที่มี เราพบว่าจีนเอาแต่ตรวจสอบควบคุมกิจกรรมของประชาชน มากกว่าที่จะตรวจสอบเอาอาชญากรอินเทอร์เน็ตมาลงโทษ" โจนส์ กล่าว
นอกจากนี้รัฐบาลจีนยังได้ออกกฎใหม่ว่า ผู้ที่จดโดเมนเนม .cn ต้องเข้มงวดให้ข้อมูลส่วนตัวเพิ่ม ต้องใช้เอกสารที่ได้รับรองจากรัฐบาลจีน ใช้รูปถ่ายในการจดโดเมนเนมด้วย ซึ่ง GoDaddy มองว่ากฎใหม่นี้ทำให้รัฐจับตาดูตรวจสอบและเซ็นเซอร์เว็บไซต์ได้สะดวกขึ้น ซึ่งส่งผลเสียต่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้า
ทางด้าน ไบรอน ดอรแกน วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นประธานของ กรรมาธิการคองเกรส กิจการด้านสิทธิมนุษยชนฯ กล่าวชื่นชมGoogle และ โกแด้ดดี้
คริส สมิท สมาชิกสภาฯ จากพรรคริพับลิกัน ก็กล่าวว่า นี่คือการแสดงพลังของบริษัทไอที อเมริกันในการจะยืนหยัดทำสิ่งที่ถูกต้อง
Googleได้กล่าวกับคณะกรรมาธิการว่า เว็บที่ย้ายจากแผ่นดินใหญ่ไปฮ่องกง ก็เริ่มถูกเซนเซอร์แล้วเช่นกัน อลัน เดวิดสัน ผู้อำนวยการนโยบายสาธารณะของGoogle บอกว่า เรา รู้ดีว่าอย่างไรเสีย รัฐบาลจีนก็คงจะปิดกั้นการให้บริการของเราทุกวิถึทาง ซึ่งก็เริ่มพบเห็นแล้ว ทั้งใน google.com.hk และ google.com
ทั้งนี้ การเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ต เริ่มกลายเป็นประเด็นใหญ่ระหว่างประเทศเมื่อบรรดาสส.ของสหรัฐฯ และฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศได้ออกมาตอกย้ำสนับสนุนเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ต โดย เท็ด คอฟมัน ประธานของ Global Internet Freedom Caucus ของวุฒิสภา ยืนยันว่านี่เป็นนโยบายการต่างประเทศลำดับต้นๆ ของสหรัฐฯ
เดวิดสัน ยังได้สะท้อนเสียงเรียกร้องของ เซอร์ไก บริน ผู้ร่วมก่อตั้งGoogle ในการปรับเพิ่มกฎและข้อตกลงทางการค้าใหม่ๆ สำหรับโลกออนไลน์
เมื่อวันพุธ บรินได้ให้สัมภาษณ์ต่อ หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน ของอังกฤษว่า การควบคุมของรัฐบาลจีน ทำให้บริษัทอื่นๆ เสียเปรียบในการที่จะแข่งขันด้วย ซึ่งทางการจีนควรจะรู้ว่า นี่คือ “กำแพงกีดกันการค้า” อย่างหนึ่งเหมือนกัน
บริน กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จำเป็นต้องพัฒนากฎการค้า ข้อตกลงฯ หรือเครื่องมือทางการค้าใหม่ๆ ไปจนถึงการทูตพาณิชย์ เพื่อรองรับกับกำแพงใหม่ๆ เหล่านี้ หากต้องการสนับสนุนให้เกิดเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ตอย่างเป็นรูปธรรม
ที่มา
http://manager.co.th/China/Vie...News.aspx?NewsID=9530000041703 