ttuunn
Verified Seller
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 59
ออฟไลน์
กระทู้: 1,324
|
 |
« ตอบ #60 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2009, 12:40:07 » |
|
ตอนเรียนก็สอนแค่พื้นฐานๆ นอกนั้นหาความรู้เองทุกวัน แกะสคริป หาหนังสือมาอ่าน ถามผู้รู้ ไปเว็บนอกดูอะไรใหม่ๆ  ทำบ่อย ทำทุกวัน พยายามๆ ใจรักๆๆๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ayeweb
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 321
ออฟไลน์
กระทู้: 5,205
|
 |
« ตอบ #61 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2009, 12:43:05 » |
|
กำลังเรียนอิ้งอยู่ครับ จะไหวไหมน้อ :-\ :-\
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
trvoy
Verified Seller
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 21
ออฟไลน์
กระทู้: 2,927
|
 |
« ตอบ #62 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2009, 13:01:48 » |
|
มาเล่าประสบการณ์ ตอนเรียนหมอ ปี 5 ปี 6 ออกมาใหม่ๆ ก็ไม่ค่อยประสีประสาอะไรหรอกครับ.. ยังอาศัยเปิดตำรารักษาคนไข้อยู่เลย เพราะช่วงอยู่ ปี5-6 น่ะ เรียนในโรงเรียนแพทย์ ซึ่งโรคที่เจอโคตรยาก+ซับซ้อน เป็นโรคที่เจอได้น้อย เวลาเจอปัญหาทีก็ตัดสินใจเองไม่ค่อยได้ ต้องปรึกษาพี่แพทย์ประจำบ้านหรืออาจารย์แพทย์ไป แถมการทำงานการเรียนไม่เอื้ออำนวยในการเรียนรู้อีก เช่น ตื่นตี 5 มาราวน์วอร์ด สมองก็ตื้อตัน กลับหอตอน 5 ทุ่ม ... เขียนรายงานจนตี 2 ก็นอน แล้ววันต่อมาก็ตื่นตี 5 ใหม่ ... ได้นอนวันละ 3-4 ชั่วโมง สมองมันจะรับความรู้ไหม.. คิดเอา  จะพอเป็นหมอเป็นตัวเป็นตน ก็ตอนใช้ทุนปีที่ 1 นั่นแหละครับ ถึงจะเจอเคสที่เป็นผู้เป็นคนหน่อย ตอนนั้นทำได้หลายอย่างมาก คิดว่าได้วิชาหากินมากที่สุดก็ช่วงนั้นแหละครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
... ตั้งใจหาเงิน ...
|
|
|
pizad_sura
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 108
ออฟไลน์
กระทู้: 5,623
|
 |
« ตอบ #63 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2009, 13:16:42 » |
|
อ่านความคิดเห็นได้แค่หน้าแรก เดี๋ยวไปอ่านหนังสือต่อก่อน ไว้สอบเสร็จจะมาอ่านต่อ พรุ่งนี้สอบ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mixture
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 73
ออฟไลน์
กระทู้: 1,844
|
 |
« ตอบ #64 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2009, 13:24:34 » |
|
คืออยากบอกว่า ป.ตรี ไม่ได้การันตีความสามารถนะครับ บางคนก็เรียนไปงั้น ๆ ก็จบได้ แต่บางคนเรียนเพราะความชอบ หมั่นฝึกฝน ซึ่งคุณจะเจอแบบหลังน้อยกว่าแบบแรกครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
TG_Min
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 164
ออฟไลน์
กระทู้: 1,522
|
 |
« ตอบ #65 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2009, 13:28:26 » |
|
ผมว่า ถ้าต้องการคนมาทำงาน เอางานบางส่วนที่ต้องทำนั่นแหละ ให้เค้าไปทดสอบทำเลยดีกว่าซัก 20 นาที ถ้าทำได้หรือทำได้70% โอกาสที่เค้าจะทำได้ก็สูง ยกเว้นต้องการระดับเทพ ทำได้หมด ครอบจักรวาล ส่วนใหญ่ก็ยังมีพวกรับสมัครอยู่อย่างนั้น แถมให้เงินต่ำมากๆ คุยกับคนในนี้เข้าใจ แต่ออกจากเว็บนี้ไปมันคนละเรื่องกันเลย
คนที่เข้าใจในความสามารถของคนอื่น และใช้ให้ถูกต้อง มีน้อย
ผมขอมอบ นิทานอีสปให้อ่านกันหนุกๆ (อาจไม่เกี่ยวกับกระทู้ ต้องขอโทษด้วย) เพราะผมเอง จำเป็นต้องออกจากที่เก่าเพราะเหตุผลเดียวกันคือผมเป็นมด
--- **การบริหารคน เป็นศิลปะ ลึกซึ้งเกินกว่าจะมองเพียงด้านเดียว** นิทานอีสปเรื่องจริงที่พบได้ในองค์กรคุณ ผมเป็นนักทรัพยากรมนุย์ก็หลายปี เห็นอะไรขำขำ มาก็มาก ผ่านการพัฒนาองค์กรมานับครั้งไม่ถ้วน แก้ปัญหาด้านแรงจูงใจของพนักงานมาก็มากมาย แต่ทราบมั้ยครับว่าอะไรเป็นปัญหาหนึ่งที่ทำให้พนักงานหมดศรัทธากับองค์กร จนเป็นคนที่หมดไฟ เป็นไม้ตายซาก (Deadwood) ขององค์กร ลองดูนิทานอีสป เรื่องนี้กันครับ
ทุกๆวัน มดตัวน้อยมาทำงานแต่เช้า และลงมือทำงานทันที เธอสร้างผลงานมากมาย และเธอก็มีความสุขกับงานดี สิงโตที่เป็นหัวหน้า ก็รู้สึกแปลกใจที่เธอทำงานได้ดีโดยไม่ต้องมีการควบคุม สิงโตเลยคิดใหม่ทำใหม่ โดยใช้แนวคิดว่าขนาดไม่มีหัวหน้าดูแลยังทำงานดีเช่นนี้แล้วถ้ามีหัวหน้า เธอต้องทำงานดีขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
สิงโตจึงจ้างแมลงสาบ มาเห็นหัวหน้ามด และแมลงสาบมีความสามารถมากในเรื่องการเขียนรายการ แมลงสาบ เริ่มด้วยการตั้งระบบลงเวลาทำงาน โดบการตั้งเครื่องตอกบัตร แมลงสาบต้องการเลขามาช่วยเขียนและพิมพ์รายงาน แมลงสาบจึงจ้าง แมงมุมมาเป็นเลขาส่วนตัว
สิงโตปลื้มกับการทำงานของแมลงสาบมากที่ให้รายงาน และแนวโน้มต่างๆจากรายการที่ส่งทำให้สิ่งโตได้หน้า เพื่อการนี้ แมลงสาบจึงขอซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์เพื่อการทำงานให้สิ่งโต แน่นอนตั้งมี แผนก IT เขาจึงจ้างแมลงวันมาเป็น IT manager
แต่มดเบื่อกับระบบงานแบบใหม่มากเพราะมัวแต่รายงาน งานเอกสารมากมาย และการประชุมที่แสนเสียเวลา
และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องเลือกหัวหน้าแผนกที่มดทำงานอยู่ แต่ตำแหน่งนี้ตกเป็ของ จั๊กจั่น จั๊กจั่นทำงานชิ้นแรกคือ สั่งซื้อ พรม อุปกรณ์การยศาสตร์ เช่นเก้าอี้ใหม่ในสำนักงานของเขาเอง จั๊กจั่นต้องการเครื่องใช้สำนักงานและผู้ช่วยจากแผนกเดิมเพื่อเตรียมงบประมาณ และแผนกที่มดทำงานก็เป็นแผนกที่โศกเศร้า ไร้เสียงหัวเราะ ทุกคนในแผนกก็หัวเสียง่าย จั๊กจั่นของบทำการสำรวจ ศึกษา สภาพการทำงานที่เหมาะสม
สิงโตก็เห็นด้วยว่าที่แผนกมด ทำงานได้แย่ลง จึงจ้างนกฮูกเข้ามาเป็นทีปรึกษาเพื่อศึกษาวิธีการที่จะเพิ่มประสิทธิภาพ ผลผลิต นกฮูกสรุปว่า ที่แผนกของมดมีการจ้างคนมากเกินไปเลยทำให้ประสิทธิภาพไม่ดี เดากันนะครับว่าใครจะถูกปลดออกเป็นคนแรก
มดนั่นเอง เพราะที่ปรึกษาบอกว่า มดเป็นคนที่ไร้แรงจูงใจ และทัศนคติไม่ดี ตัวละครทั้งหมดล้วนแต่สมมุติขึ้นทั้งนั้นครับ คงคุ้นๆนะครับ เรื่องนี้ มีจริงในหลายองค์กร ระบบงานที่ดูเหมือนดี และน่าจะมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล แต่คนดำเนินการไม่มีความคิดรวบยอดเข้าสู่เป้าหมายหลักขององค์กร จนทำให้คนที่ตั้งใจทำงานจริงๆ กลายเป็นจำเลยไปในที่สุด ถ้าเป็นพนักงานขาดแรงจูงใจด้วยสาเหตุดังนิทานข้างต้น มันแก้ยากครับ ถ้าอยากให้มดกลับมาทำงานดีดังเดิม ก็ต้องให้สิงโต พิจารณาตัวเองครับ
ว่าแต่ท่านเป็นสัตว์ชนิดไหนในนิทานครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13 สิงหาคม 2009, 13:35:29 โดย TG_Min »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Citylife95
ก๊วนเสียว
พลังน้ำใจ: 5
ออฟไลน์
กระทู้: 261
|
 |
« ตอบ #66 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2009, 13:31:58 » |
|
บริษัทไหน ครับเดียวไปสมัครบ้าง 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aseptic
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 79
ออฟไลน์
กระทู้: 1,811
|
 |
« ตอบ #67 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2009, 13:35:49 » |
|
+1 thanks อย่างน้อยก็แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
morizaki
ก๊วนเสียว
พลังน้ำใจ: 45
ออฟไลน์
กระทู้: 499
|
 |
« ตอบ #68 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2009, 13:39:10 » |
|
ผมว่า ถ้าต้องการคนมาทำงาน เอางานบางส่วนที่ต้องทำนั่นแหละ ให้เค้าไปทดสอบทำเลยดีกว่าซัก 20 นาที ถ้าทำได้หรือทำได้70% โอกาสที่เค้าจะทำได้ก็สูง ยกเว้นต้องการระดับเทพ ทำได้หมด ครอบจักรวาล ส่วนใหญ่ก็ยังมีพวกรับสมัครอยู่อย่างนั้น แถมให้เงินต่ำมากๆ คุยกับคนในนี้เข้าใจ แต่ออกจากเว็บนี้ไปมันคนละเรื่องกันเลย
คนที่เข้าใจในความสามารถของคนอื่น และใช้ให้ถูกต้อง มีน้อย
ผมขอมอบ นิทานอีสปให้อ่านกันหนุกๆ (อาจไม่เกี่ยวกับกระทู้ ต้องขอโทษด้วย) เพราะผมเอง จำเป็นต้องออกจากที่เก่าเพราะเหตุผลเดียวกันคือผมเป็นมด
--- **การบริหารคน เป็นศิลปะ ลึกซึ้งเกินกว่าจะมองเพียงด้านเดียว** นิทานอีสปเรื่องจริงที่พบได้ในองค์กรคุณ ผมเป็นนักทรัพยากรมนุย์ก็หลายปี เห็นอะไรขำขำ มาก็มาก ผ่านการพัฒนาองค์กรมานับครั้งไม่ถ้วน แก้ปัญหาด้านแรงจูงใจของพนักงานมาก็มากมาย แต่ทราบมั้ยครับว่าอะไรเป็นปัญหาหนึ่งที่ทำให้พนักงานหมดศรัทธากับองค์กร จนเป็นคนที่หมดไฟ เป็นไม้ตายซาก (Deadwood) ขององค์กร ลองดูนิทานอีสป เรื่องนี้กันครับ
ทุกๆวัน มดตัวน้อยมาทำงานแต่เช้า และลงมือทำงานทันที เธอสร้างผลงานมากมาย และเธอก็มีความสุขกับงานดี สิงโตที่เป็นหัวหน้า ก็รู้สึกแปลกใจที่เธอทำงานได้ดีโดยไม่ต้องมีการควบคุม สิงโตเลยคิดใหม่ทำใหม่ โดยใช้แนวคิดว่าขนาดไม่มีหัวหน้าดูแลยังทำงานดีเช่นนี้แล้วถ้ามีหัวหน้า เธอต้องทำงานดีขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
สิงโตจึงจ้างแมลงสาบ มาเห็นหัวหน้ามด และแมลงสาบมีความสามารถมากในเรื่องการเขียนรายการ แมลงสาบ เริ่มด้วยการตั้งระบบลงเวลาทำงาน โดบการตั้งเครื่องตอกบัตร แมลงสาบต้องการเลขามาช่วยเขียนและพิมพ์รายงาน แมลงสาบจึงจ้าง แมงมุมมาเป็นเลขาส่วนตัว
สิงโตปลื้มกับการทำงานของแมลงสาบมากที่ให้รายงาน และแนวโน้มต่างๆจากรายการที่ส่งทำให้สิ่งโตได้หน้า เพื่อการนี้ แมลงสาบจึงขอซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์เพื่อการทำงานให้สิ่งโต แน่นอนตั้งมี แผนก IT เขาจึงจ้างแมลงวันมาเป็น IT manager
แต่มดเบื่อกับระบบงานแบบใหม่มากเพราะมัวแต่รายงาน งานเอกสารมากมาย และการประชุมที่แสนเสียเวลา
และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องเลือกหัวหน้าแผนกที่มดทำงานอยู่ แต่ตำแหน่งนี้ตกเป็ของ จั๊กจั่น จั๊กจั่นทำงานชิ้นแรกคือ สั่งซื้อ พรม อุปกรณ์การยศาสตร์ เช่นเก้าอี้ใหม่ในสำนักงานของเขาเอง จั๊กจั่นต้องการเครื่องใช้สำนักงานและผู้ช่วยจากแผนกเดิมเพื่อเตรียมงบประมาณ และแผนกที่มดทำงานก็เป็นแผนกที่โศกเศร้า ไร้เสียงหัวเราะ ทุกคนในแผนกก็หัวเสียง่าย จั๊กจั่นของบทำการสำรวจ ศึกษา สภาพการทำงานที่เหมาะสม
สิงโตก็เห็นด้วยว่าที่แผนกมด ทำงานได้แย่ลง จึงจ้างนกฮูกเข้ามาเป็นทีปรึกษาเพื่อศึกษาวิธีการที่จะเพิ่มประสิทธิภาพ ผลผลิต นกฮูกสรุปว่า ที่แผนกของมดมีการจ้างคนมากเกินไปเลยทำให้ประสิทธิภาพไม่ดี เดากันนะครับว่าใครจะถูกปลดออกเป็นคนแรก
มดนั่นเอง เพราะที่ปรึกษาบอกว่า มดเป็นคนที่ไร้แรงจูงใจ และทัศนคติไม่ดี ตัวละครทั้งหมดล้วนแต่สมมุติขึ้นทั้งนั้นครับ คงคุ้นๆนะครับ เรื่องนี้ มีจริงในหลายองค์กร ระบบงานที่ดูเหมือนดี และน่าจะมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล แต่คนดำเนินการไม่มีความคิดรวบยอดเข้าสู่เป้าหมายหลักขององค์กร จนทำให้คนที่ตั้งใจทำงานจริงๆ กลายเป็นจำเลยไปในที่สุด ถ้าเป็นพนักงานขาดแรงจูงใจด้วยสาเหตุดังนิทานข้างต้น มันแก้ยากครับ ถ้าอยากให้มดกลับมาทำงานดีดังเดิม ก็ต้องให้สิงโต พิจารณาตัวเองครับ
ว่าแต่ท่านเป็นสัตว์ชนิดไหนในนิทานครับ
นิทานแจ่มๆ ครับชอบๆ  เก็บไว้เป็นเรื่องเล่าอีกเรื่อง ผมเป็นตัวละครไหนเหรอ... อืม....เป็นหมัดที่อยู่ที่สิงโตครับ  (สิงโต เนี่ยไม่ใช่เจ้านักร้องน้า เดี๋ยวโดนพาดพิง  ) คอยยุแยงให้สิงโต ทำนู่นทำนี่อ่ะครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
MrWebmonster
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 124
ออฟไลน์
กระทู้: 2,922
|
 |
« ตอบ #69 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2009, 14:28:05 » |
|
อืม ทท่าจะรุ่งนะ ลองไปเขียนบล็อก เล่าเรื่องดูครับ  มันก็เป็นแบบนี้ซะส่วนใหญ่แหล่ะครับ ในโรงเรียน หรือมหาลัย เขาก็สอนแต่พื้นฐาน หรือไม่ก็วิชาการแทบจะล้วนๆ อย่างผมก็จบวิทย์-คอมฯ มา สมัยเรียนมีแต่ text book แล้วเรียนแต่พวก algorithm ล้วนๆ ไม่ได้เขียนหรอกโปรแกรม หรืออาจจะมีเขียนบ้าง ก็นิดๆหน่อยๆ เท่านั้นเอง จบมานั่นแหล่ะ ถึงได้เขียนโปรแกรมจริงๆจังๆ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Kobsoft
Verified Seller
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 255
ออฟไลน์
กระทู้: 2,574
|
 |
« ตอบ #70 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2009, 15:24:39 » |
|
นิทาน แจ่มดีคับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
morizaki
ก๊วนเสียว
พลังน้ำใจ: 45
ออฟไลน์
กระทู้: 499
|
 |
« ตอบ #71 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2009, 15:33:27 » |
|
อืม ทท่าจะรุ่งนะ ลองไปเขียนบล็อก เล่าเรื่องดูครับ  มันก็เป็นแบบนี้ซะส่วนใหญ่แหล่ะครับ ในโรงเรียน หรือมหาลัย เขาก็สอนแต่พื้นฐาน หรือไม่ก็วิชาการแทบจะล้วนๆ อย่างผมก็จบวิทย์-คอมฯ มา สมัยเรียนมีแต่ text book แล้วเรียนแต่พวก algorithm ล้วนๆ ไม่ได้เขียนหรอกโปรแกรม หรืออาจจะมีเขียนบ้าง ก็นิดๆหน่อยๆ เท่านั้นเอง จบมานั่นแหล่ะ ถึงได้เขียนโปรแกรมจริงๆจังๆ  หมายถึงผม เหรอครับ  หรือคุณ TG_Min 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
yingnohng
คนรักเสียว
พลังน้ำใจ: 7
ออฟไลน์
กระทู้: 110
|
 |
« ตอบ #72 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2009, 16:31:51 » |
|
เคยเป็น HR รับคนอยู่หลายปีเลยจะบอกว่าที่เจอนั่นปกติค่ะ อะไรที่ไม่ได้เรียน หรือเรียนแล้วไม่ได้ใช้คนเราจะเก่งหรือไม่เก่งก็ลืมกันทุกคนนะคะ ถ้าเรียนโปรแกรมไหนสักเทอมนึงหลังจากนั้นทั้งชีวิตไม่จับอีกกHลืมเป็นของธรรมดา โดยเฉพาะเดHกจบใหม่ เพราะเวลาเรียนกับทำงานมันต่างกันงัยคะ ทำงานเราก็จะรู้แต่สิ่งที่เราทำอีก ถามอย่างอื่นไม่ได้ใช้ตอบไม่ได้หรอกค่ะ ทำใจ ที่เดHกยังเรียนหนังสือทำโน่นนี่ได้ก็เพราะเด็กประถม มัธยมเค้าเรียนกันหลายวิชาทุกเทอมนี่คะ เรียนซ้ำไปมาต่อยอดไปมาทุกวันก็ทำได้สิ ไอ้เราเรียนคณะอะไรมันก็ไม่ได้เรียนเรื่องเดิมซ้ำเท่าไรหรอกค่ะ ลืม อย่าคิดมาก เน้นCompetenciesด้านการเรียนรู้กับAttitudeแล้วมาสอนใหม่ ความรู้ในการทำงานในบริษัทมันต้องcustomize อยู่แล้วนี่นา อย่าเครียดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆจบที่ไหนก็ลืมเหมือนกัน 555 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
bigpop
สมุนแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 67
ออฟไลน์
กระทู้: 654
|
 |
« ตอบ #73 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2009, 16:44:24 » |
|
ผมเรียนคอม เวลาครูสอนก็ให้เด็กทำตาม แล้วให้คะแนนใครจะเอาเท่าไหร่ก็ได้เต็ม10 แค่ครูทำให้ดูทีละคลิก แล้วเด็กคลิกตามอย่างช้าๆ ประมาณ 1 นาที จึงจะคลิกต่อไป ต้องรอให้เด็กทำก่อน เพราะเล่นแต่ hi5 MSN QQ ถ้าผมเป็นอาจารย์จะลบ MSN ในเครื่อง ลบ QQ บล็อค hi5.com ครูสอนไม่ดีเลย ถ้าใครคิดจะเรียนผมว่าซื้อหนังสือศึกษาด้วยตนเอง ง่ายดี ผมพึ่งเรียน ม.3 วิชาคอม พึ่งรู้ว่าโปรแกรมที่อาจารย์ให้ทำเว็บจะเป็น Web page V2.0 เน่ามาก มีแบนเนอร์ด้วยถูกใส่ในเว็บเราอัตโนมัติ อาจารย์บอกว่าใช้ ดรีมยาก ลำบากมาก แต่ใช้ Webpage ง่าย แค่ลากไปวาง สอนง่ายๆ จะใส่ภาพก็เลือกภาพก็จะแสดง แล้วเราลากวางได้ตามใจชอบ จะใส่ตัวหนังสือก็วางยังใงก็ได้ก็ลากไป 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
homekung
Verified Seller
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 52
ออฟไลน์
กระทู้: 1,840
|
 |
« ตอบ #74 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2009, 16:59:23 » |
|
ผมเข้าใจครับ ผมเป็นคนนึง ที่จบ คอมมาโดย ที่ไม่ชอบเขียนโปรแกรม จริงๆ ผมชอบเลข ครับ แต่สุดท้ายก็ดันมาเรียน วิศวะ คอม เพราะ เรียนเลข ไม่รู้จะจบมาทำอะไร เพิ่งเขียนโปรแกรมครั้งแรก ตอนปีหนึ่ง เขียนเป็นแบบงูงู ปลาปลา ยอมรับครับ ว่า ถ้าให้นั่งเขียนอย่างเดียว ไม่เปิดเน็ท เปิด ตำรา แทบเขียนอะไรไม่ได้เลย ทั้งหมดนี้ มันมาจากระบบการศึกษาไทยครับ ตอนเอ็น ผมไม่ได้ใช้ คอมเอ็นเข้าวิศวะ คอม ใช้ แค่เลข ฟิสิก จบมา พอทำได้ แต่ก็ไม่ดี......แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงครับ จะไปเริ่มเรียนใหม่ มันก็คงไม่ดีครับ...... 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ขัน
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 167
ออฟไลน์
กระทู้: 2,257
|
 |
« ตอบ #75 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2009, 17:06:44 » |
|
ผมเคยสัมภาษณ์คนที่จบ ป.โท ด้วยนะครับ ย้ำว่า ปริญญาโท
เขียนคำสั่งง่ายๆก็ไม่ได้ อธิบายคอนเซปต์ก็ไม่รู้เรื่อง อธิบาย Diagram ยังกุกๆกักๆเลยครับ วางแผนระบบงานก็แบบงงๆ ให้ตายเถอะ เขาเอาใบ cer มาจากใหนเยอะแยะ ส่วน ป.ตรี นะหนักกว่านี้ครับ เป็นแทบทุกสถาบัน งงจริงๆ มาตรฐานใกล้เคียงกันมาก
น้องในทีมผมคนนึงมันจบ ปวส. ตอนนี้มันรับทำโปรเจคต์จบของพวก ป.โท ด้วยอ่ะ งงอีก ต้องทำเอกสาร System Manual ให้ด้วยอ่ะ สุดๆ
เลยไม่เข้าใจว่าสมัยผมเรียนนี่มันยากสุดๆ กว่าจะจบออกมาได้ แล้วสมัยนี้เรียนแล้วได้อะไรติดตัวออกมาบ้าง จบกันง่ายจริงๆ เข้าใจว่าเรียนมหาวิทยาลัยคือต้องศึกษาค้นคว้าเอง แต่ก็น่าจะรักษามาตรฐานสถาบันกันหน่อย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pajudhai
Verified Seller
สมุนแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 30
ออฟไลน์
กระทู้: 886
|
 |
« ตอบ #76 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2009, 17:08:37 » |
|
เป็นทุกที่อะครับ เรียนมั่วซั่วมาก หลายภาษาจนมึนไปหมด วิชานั้นยังไม่ทันจะเป็นงาน ก็มาใหม่อีกละ แล้วก็ไม่เก่งจริงๆ ซักอย่าง บางเทอมผมเรียน java c++ ในเทอมเดียวกัน บอกตรงๆว่าเมาครับ แปปเดียว .net มาอีกละ  ใครขวนขวายหน่อยก็เก่งไปซักด้านนึง เห็นอาจารย์ว่าหลักสูตรมันมาแบบนี้ สรุปแล้วที่เรียนมาได้ใช้ไม่เยอะเท่าไหร่ครับ มาเป็นงานจริงๆตอนที่ทำเองนี่แหละครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ฮารุมิจิ
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 71
ออฟไลน์
กระทู้: 1,553
|
 |
« ตอบ #77 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2009, 17:28:47 » |
|
จริง ๆ ถ้าจบใหม่ซิง ๆ เลยผมว่าต้องเรียนรู้ใหม่เกือบหมดแหละครับ แต่หลังจากเริ่มต้นไปแล้วนั่นแหละค่อยมาวัดกันอีกที  อย่างที่บอกตอนเรียนกับตอนทำงานมันคนละโลกกันเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
PAGE
Verified Seller
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 104
ออฟไลน์
กระทู้: 2,367
|
 |
« ตอบ #78 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2009, 18:09:10 » |
|
อืม ว่ากันตามเนื้อผ้า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตคือความสงบ
|
|
|
arabanaki
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 37
ออฟไลน์
กระทู้: 1,820
|
 |
« ตอบ #79 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2009, 18:52:08 » |
|
ผมก็เจอแบบนี้มากมายจนเหนื่อยละ ถ้าบริษัทมีตังซักหน่อยจะตั้งแผนกสรรหาบุคลากร ขึ้นมาซะเลย เหมือนกัน scout ของทีมฟุตบอลน่ะ ครับ ไปสอดส่องให้เด็กเก่งๆ เอาไว้ตั้งแต่มัธยมโน้น ถ้าให้ทุนได้ให้ทุนไปเลย แต่จบมาให้ทำงานที่บริษัทใช้ทุน หรือไม่ก็คัดนักศึกษาฝึกงานเก่งๆมาคุยกันเลยว่า ถ้าทำผลงานได้ดีจะบรรจุเป็นพนักงานไว้รอเลย เรียกได้ว่าไม่ต้องรอให้มีคนอย่างที่ต้องการครับ สร้างขึ้นมาเองตั้งแต่แบเบาะเลยดีกว่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 ขึ้นบน |
|