พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ให้ความคุ้มครองแก่งานสร้างสรรค์ 9 ประเภท
1. งานวรรณกรรม (หนังสือ สิ่งเขียน สิ่งพิมพ์)
2. งานนาฎกรรม (ท่าเต้น ท่ารำ)
3. งานศิลปกรรม (ภาพเขียน ภาพวาด)
4. งานดนตรีกรรม (เนื้อเพลง ทำนองเพลง)
5. งานโสตทัศนวัสดุ (ดีวีดี วีซีดี)
6. งานสิ่งบันทึกเสียง (เทป ซีดี)
7. งานภาพยนตร์
8. งานแพร่เสียงแพร่ภาพ (งานที่นำออกสู่สาธารณชนโดยทางวิทยุ โทรทัศน์)
9. งานอื่นใดในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
ซึ่งได้รับความคุ้มครองทันทีโดยไม่ต้องจดทะเบียน
งานที่ถือว่าไม่เป็นงานมีลิขสิทธิ์
1. ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
2. รัฐธรรมนูญและกฎหมาย
3. ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือตอบโต้ของกระทบวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐ หรือของท้องถิ่น
4. คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
5. คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตามข้อ 1-4 ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือ หน่วยงาน อื่นใดของรัฐ หรือของท้องถิ่นจัดทำขึ้น
สรุป ถ้าเขาไม่ให้ ถึงจะกราบขอบพระคุณยังไงก็ผิดครับ
แต่ทุกวันนี้ที่ไม่ค่อยมีปัญหา เพราะเจ้าของเขาได้ประโยชน์ที่เราช่วยเผยแพร่เนื้อหาของเขาครับ
:

เรื่อง Copy ยังไงก็น่าจะผิด ยกเว้นขออนุญาติจากเจ้าของบทความ
เรื่องกฏหมายเนี่ยขอบอกครับ คุ้มครองไม่เคยได้เลย

ผมเขียนหนังสือเพื่อใช้การเรียนการสอนในหลักสูตรผมเอง
(เขียนแบบให้เรียนรู้ได้ง่าย ซึ่งเมื่อก่อนยังไม่มีใครทำขาย มีแต่เพียงแต่ลอก Text Book มาแปล)
พอผมทำใช้ในการสอน.... เกิดอะไรขึ้น... มีพวกค่ายทำหนังสือเหล่านั้นได้ไป
ไม่นานนัก... ออกมาเหมือนเปี๊ยบ แทบจะทุกหัวข้อ แต่ใช้วิธีเปลี่ยนรูปตัวอย่าง เปลี่ยนข้อความนิดหน่อย

สรุปผมก็เอาผิดไม่ได้ เพราะแค่เขาเปลี่ยนคำ กะเปลี่ยนรูปตัวอย่าง ก็ถือว่าไม่เหมือนกันแล้ว

แต่คนไทยก็ทำแบบนี้กับทุกวงการ ดูอย่างนักร้อง ดูก็รู้แล้ว copy มากันเด๊ะๆๆ
แล้วเมืองไทยเมื่อไหร่จะพัฒนาน้อ

ถ้าทุกคนคิดแต่จะ copy!!!!!!

(บ่นไปเยอะ เพราะโดนเองจึงเข้าใจ)
