ทั้งสองครับ
เงินที่หาได้จาก IM นำไปออมในหุ้นซึ่ง ถ้าหากเรื่อง บ ที่เราคิดว่าจะทำกำไรได้ในระยะยาวนั้นเเล้ว (ซึ่งทุกครั้งที่ทำกำไรเค้าก็จะจ่ายปันผลให้เราตามนโยบาย)
นำปันผลนั้นไป ลงทุนต่อเเบบนี้ไปเรื่อยๆ ครับ
ลงทุนกับหุ้นไม่จำเป็นต้องมีเงินหนาครับ ผมออมเรื่อยๆ ทีละ ห้าพัน (ถ้าหากหุ้นละห้าบาทกว่า ซื้อได้ทีละ พันหุ้น ถ้าหากหุ้นละ ห้าสิบบาทก็สามารถซื้อร้อยหุ้นได้) ซื้อไปเรื่อยๆ ครับ ไม่ต้องขาย
จะขายก็ต่อเมื่อ
1 ราคาตลาด มีราคาสูงเกินจริงเอามากๆ ที่ว่าเกินจริงนี้ พูดถึง 300% เป็นขึ้นไป (ไอนี้เเล้วเเต่ความคิดของเเต่ละคนนะครับ)
2 หลักเกณฑ์เปลี่ยนไป หลักที่ว่านี้ คือ ตอนที่เราจะซื้อธุระกิจอะไร เราต้องมี หลักเกณฑ์ที่ทำไมเราถึงซื้อ ถ้าหากหลักเกณฑ์นั้นเปลี่ยนไป ก็ขายซะ ไปหาหุ้นที่เข้ากับหลักเกณฑ์ของเราใหม่
3 เมื่อรู้ตัวว่าหลักเกณฑ์ที่เราใช้ในการคัดเลือกนั้นผิดไป
ออมไปเรื่อยๆ เด่วมันก็โตครับ โตจากปันผลนี้เเหละครับ
ส่วนความเสี่ยง นั้นสำหรับผมเเล้วก็เหมือนกับ
ยกตัวอย่างว่า ถ้าคุณขับจักรยานไม่เป็น ถ้าเค้าให้คุณไปขับ คุณคิดว่านั้นเสี่ยงรึป่าวครับ
เเล้วคุณคิดว่าคนที่ขับเป็นเค้าคิดว่า มันเสี่ยงเท่าคุณรึป่าวครับ
ความเสี่ยงจริงๆเเล้ว คือการไม่รู้ครับ ดังคำว่า
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
คำๆนี้ สำหรับผมเเล้ว เค้าบอกว่า ถ้าไม่ศึกษาก่อนลงทุน!! นั้นเเหละคือความเสี่ยงหลักๆสำหรับผม ก็ประมาณนี้เเหละครับ