ไอเดีย บรรเจิดนะครับ
แต่ผมยังติดใจอยู่อย่าง ถ้าเขียนยาวๆแล้วคนอื่นก๊อบไป เราจะทราบได้อย่างไรว่าเขามาก๊อบไปเพื่อไปใส่เครดิตตัวเอง
หรือว่าก๊อบไป rewrite แบบนี้มันก็เสียความรู้สึกอ่า แค่ติดใจเฉยๆนะ
ผมขอเล่าให้ฟังไปเลยนะครับ เรื่องนี้หลายคนกังวลกันอยู่ ผมก็กังวลแต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว...
อย่างบทความของผมนั้นมีคนก็อปไหม มีแน่นอนครับ มีสองแบบ
1. เอาโดยไปไม่ใส่เครดิตและไม่ใส่ลิงค์ให้ อันนี้ถ้าเอาคำค้นไปหาใน search engine บางครั้งจะหาไม่เจอบล็อกของคนที่ก็อปเช่นกัน แม้แต่เอา Title ทั้งดุ้นไป search ก็อาจไม่เจอแต่จะเจอบล็อกของผมแสดงมาเป็นอันดับหนึ่งแทน ซึ่งสันนิษฐานได้ว่า Google ก็ไม่ให้อันดับแก่คนที่ก็อปไปครับ (ที่ผมรู้เพราะแฟนเพจไปเจอมาบอกครับ)
2. การนำทั้ง format ของบทความไปแชร์ในบล็อกแล้วใส่เครดิตให้และใส่ลิงค์ให้ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสอง ซึ่งมีทั้งมาขออนุญาติก่อนและไม่ได้ขออนุญาติ อันนี้จะรู้ได้จากการตรวจ backlink (ถ้าเขาใส่ link ให้)
เวลาเจอแบบนี้ผมก็ไม่ได้ทำอะไร ถ้าคนขอผมก็ให้ ไม่ขอแต่ใส่เครดิตให้ผมก็ให้ หรือเอาไปเลยไม่อ้างอิงอะไรเลยผมก็ให้ (ก็เอาไปแล้วนี่หว่า 55)
การก็อปปี้มีทุกวงการ แม้แต่เสื้อผ้ากระเป๋าเฟอร์นิเจอร์ก็ก็อปกันกระจาย เจ้าของธุรกิจหลายท่านจะสอนคล้ายๆกันว่า ที่เขาก็อปเพราะของเราดี ถ้าไม่มีใครก็อปของเรานั่นแหละน่าจะพิจารณาตัวเอง 555 เอ้อมันก็จริงแฮะ
สิ่งที่ผมประสบมาคือ การเขียนบทความยาวๆแบบนี้เจ้าของบล็อกจะมี Authority ในบล็อกตนเองสูงมาก กล่าวคือคนที่เข้ามาบล็อกจะมาเพราะชื่อเสียงของคุณไม่ได้อาศัย Search Engine เป็นหลักเหมือนบล็อกที่มุ่งบทความเพื่อ SEO ...อย่างที่ Behind02 บอกคือ Authority site จะมีคนเข้ามาหาอันเกิดจากการบอกต่อพอสมควร
แต่คนที่ก็อปบทความไป เขาจะไม่มี Authority นั่นหมายความว่าเขาได้แต่ content แต่เขาจะไม่สามารถพัฒนาจาก Blog ไปสู่ Business ขั้นสูงกว่า
บล็อกที่เอาแต่ก็อปบทความผู้อื่น อาจทำเงินจาก Ads ต่างๆ แต่ก็จะอยู่แค่นั้นและต้องอาศัย traffic จาก search engine เป็นเส้นเลือดใหญ่ มีโอกาสหายไปจาก search ได้เมื่ออัลกอเปลี่ยนแปลงหนักๆ นอกจากนั้นถ้าคนจับได้ว่าก็อปก็จะเสื่อมความนิยมไป บางกรณีแฟนบล็อกผมก็เป็นคนไปบอกในบล็อกนั้นเองก็มีว่าบทความนี้มาจาก The CEO Blogger นะ ฯลฯ
บล็อกที่เป็นตัวของตัวเองและมีคุณภาพดี ไม่ต้องพึ่ง search engine อย่างเดียว, แต่ยังอาศัย social network, email list และ viral ไปพร้อมกัน รายได้สามารถพัฒนาไปสู่การเขียนหนังสือ, เปิด class สอน, จัดสัมมนา ลงหนังสือ ออกทีวี ฯลฯ เพราะงานที่ทำมาจาก Skill จริงๆของเจ้าของบล็อก ซึ่งตัวผมเองที่ผ่านมาเคยมีรายการหนึ่งใน True Channel มาติดต่อขอสัมภาษณ์ไปลงสื่อในเครือ แต่เวลาไม่ตรงกันเลยไม่ได้ทำ ไม่งั้นทุกคนคงได้เห็นผมลงสื่อแหละ อิๆ
สรุป...การถูกก็อปบทความเป็นเรื่องเหนื่อยใจ แต่การตามไล่ตามล่าคนก็อปเหนื่อยกว่ามาก เลือกใช้ทรัพยากรทางเวลาไปพัฒนาผู้อ่านให้แข็งแกร่งคือทางเลือกที่ดีที่สุดครับ