ต่อไป »

[QuickHostBiz]

ถ้าไม่มีผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง!
สงฆ์ทั้งหลายที่ท่านๆ รู้จัก จะมาออกสื่อมั้ย?

เห็นทั้ง Facebook Twitter และ Social อื่นๆ
หนังสือก็มี รายการทีวีก็ด้วย แม้กระทั่ง App บนมือถือ

ก็อย่างที่ว่า ถ้าไม่มีเรื่องปัจจัย(เงิน) มาเกี่ยวข้อง
ท่านๆ เหล่านั้น จะออกมาเผยแพร่ศาสนาอย่าที่พูดๆ กันไว้รึเปล่า?

เข้าใจถึงความตั้งใจ แต่จำเป็นด้วยหรอที่ต้องเอ่ยชื่อสงฆ์เหล่านั้น

ไม่ได้มีเจตนาเสียหายครับ แค่รู้สึกไม่ดีเลย เวลาเห็นสงฆ์ออกสื่อ

*ในที่นี่ผมหมายถึงสงฆ์ที่ปฏิบัติว่าตนคือดาราคนหนึ่ง ซึ่งปัจจุบัน มีเยอะมาก

[QuickHostBiz]

ที่มันสุดๆ ก็คือ
เมื่อกี้เข้า 7-11 เจอหนังสือเล่มหนึ่ง มีปกเป็นแม่ชี ที่เขียนคิ้ว(ชัดมาก)
รับไม่ได้

[undeath13]

ถ้าเล่น แล้วตอบคำถามธรรม หรือเผยแพร่ธรรมมะ สนทนาธรรมมะ ผมว่าก็ไม่ได้ผิดอะไรหรอกครับ การทำหนังสือถ้าหนังสือนั้นเข้าข่ายหนังสือธรรมะ ก็ไม่ว่ากัน

แต่ถ้าเล่นแล้วแชทกับสีกา หรือ เล่นเลยเวลาตี 1-2 ยังไม่นอน แบบนี้ก็ไม่ไหวครับ

แม่ชีเขียนคิ้วผมยังไม่เห็นนะ คนออกแบบปกใช้PSแต่งเติมให้แกป่าว แต่ถ้าแกเขียนเองยืนยันว่าผิดครับ ขนาดเครื่องหอมยังห้ามใช้เลย ศีล 310 ข้อนะ

[wat_google]

ดูใจตนเองให้เป็นกุศล ดีสุด ค่ะ

[itsales]

 

จุดหมายของการบวช คือการปฏิบัติธรรมเพื่อการหลุดพ้น

[นายเอ(นามสมมติ)]

การที่พระมาออกสื่อ ไม่จำเป็นต้องมีเรื่องผลประโยชน์ครับ ต้องดูที่เจนตา เรื่องการออกสื่อมันเป็นเพียงองค์ประกอบเท่านั้น
ผมเองก็ผ่านมาบวชมาไม่นานเวลาพระจะไปไหน ส่วนมากต้องได้รับการนิมนต์ไปก่อน
การที่ออกสื่อแล้วเผยแพร่ธรรมมะมันเป็นเรื่องที่ดี อย่างน้อยประชาชนที่ไม่มีโอกาศเข้าวัด ก็ยังได้อะไรจากการดูผ่านสื่อเหล่านั้น
การที่พระบางท่านมีเฟสบุ้คก็ไม่แปลก มันเหมือนเป็นช่องทางหนึ่งที่ไว้เผยแพร่คำสอน ที่ให้เยาวชนและวัยรุ่นได้รับรู้
และเชื่อว่าหลายๆคนต้องเข้าใจกับความหมาย
เรื่องแบบนี้ถ้าเราไม่คิดบวกซะเอง ต่อให้มีพระแบบในการ์ตูนหรือในจินตนาการ ใจเราก็คิดดีไม่ได้ครับ

ส่วนเรื่องแม่ชีลงปก ผมเองไม่เห็น แต่ให้ลองสังเกตุดีดี สมัยนี้ PS มันเดินทางไปไกลนะครับ ถ้าใช่ก็คือประชาชนตัดสินการกระทำเอง

แต่ตอนนี้ผมสงสัยท่านเฉยๆ ไม่ได้ว่าอะไรนะ คือท่านไปอัดอั้นกดดันมาจากไหน อยู่ๆถึงมากระทู้แนวนี้ก็เท่านั้น
ไหนจะชื่อท่านอีก munk ยังแอบแปลว่าสงฆ์ได้เหมือนกัน รูปดิสเพลท่านอีกมองผ่านๆมันก็คล้ายๆแต่ก็ไม่รุ้ใช่ไหม แต่มันคงไม่ใช่
ตรงนี้คือแค่สงสัยนะ ถ้าไม่มีอะไรก็คือไม่มีครับ เพราะก็ งง กับประเด็นกระทู้ ว่าอยู่ๆทำไมถึงคิดอะไรแบบนี้
พอมองแวดล้อมมันทำให้ผมต้องสังเกตุ คงไม่ว่ากันนะครับ

อยากฝากอีกนิด สมัยนี้ยุคก็เปลี่ยนไป วัดไหนมีชื่อเสียงพระก็จะยิ่งมีสิ่งต่างๆมารบกวน ผลกำไรก็จะเข้าวัก บำรุงวัดศาสนา
ถ้าจะคิดด้านลบ อยากบอกว่าไม่ต้องไปถึงสื่อหรอกครับ เรื่องผลประโยชน์

ผมเพิ่งบวชมา จากวัดหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ได้มีชื่อเสียงหรือคนมาเที่ยวเท่าไร การปฏิบัติตนเลยทำได้สบายใจในหลายส่วน
ส่วนอีกวัดใกล้ๆกันเป็นวัดมีชื่อเสียง แต่สิ่งที่ต้องพบเจอคือการป่าวประกาศของ มคทายก(พิมพ์แบบนี้ป่ะ)ที่พูดแนะนำนู่นนั่นนี่
กุฏิพระก็อยุ่ในวัดนั่นแหละ ความสงบมันจึงไม่เกิด ของแบบนี้ต้องดูที่แวดล้อมครับ

อย่าตัดสินอะไรจากสิ่งที่เห็น ง่ายๆคือคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ เวลาใครทำดี ยังมองว่าเสรแสร้งกันได้เลย

เพิ่มเติมอีกนิด ย้อนกลับไปเจอ

ก็อย่างที่ว่า ถ้าไม่มีเรื่องปัจจัย(เงิน) มาเกี่ยวข้อง
ท่านๆ เหล่านั้น จะออกมาเผยแพร่ศาสนาอย่าที่พูดๆ กันไว้รึเปล่า?

คำตอบ การที่มีคนบวช 1 คน เท่ากับได้เผยแพร่ศาสนา คุณลองมองให้ออก คำว่าเผยแพร่มุมมองความหมายคืออะไร
เราอย่ามีอคติกับเรื่องปัจจัย ไม่งั้นความคิดจะหาดีไม่ได้ครับ เพราะเราจะมองว่ามีเรื่องเงินปัจจัยมาเกี่ยวข้องตลอด

ตรงนี้ผมมองแบบกลางๆ ไม่ได้ให้เชื่อแต่ให้ลองคิดดูนะครับ

[MiithRanDir]

ก็คนมันไม่ไปหาพระให้พระสอนไงพระเลยต้องออกสื่อมาสอน

[waluka]

ที่มันสุดๆ ก็คือ
เมื่อกี้เข้า 7-11 เจอหนังสือเล่มหนึ่ง มีปกเป็นแม่ชี ที่เขียนคิ้ว(ชัดมาก)
รับไม่ได้

ความเห็นส่วนตัวผม นะครับ

แม่ชีท่านนี้ อาจจะเขียนคิ้วถาวร หรืออะไรสักอย่างในสมัยที่ยังไม่เป็นแม่ชี เมื่อเป็นแม่ชีแล้ว คิ้วถาวรที่เขียนไว้มันแก้ไขไม่ได้
แต่ใจท่านบวชเต็มร้อยแล้ว

[pyramide]

แม่ชีถือศีล 8 นะจ๊ะ

[wat26]

ไม่ทราบจริง ๆ เพราะไม่ได้ติดตาม
แต่อยากกล่าวว่า
คำว่าได้เงิน
กับเพื่อเงินต่างกัน
การที่ท่านทำแล้วได้เงิน  ไม่ได้หมายความว่าท่านทำเพื่อเงินเสมอไป

เหมือนเคยได้ยินพระท่านว่า "กินเพื่ออยู่"  ไม่รู้ว่าคำนี้ยังใช้ได้กันไหม
เมื่อมีการอยู่  ก็ต้องกิน  แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอยู่เพื่อกิน

[หนุกหนาน]

อยู่ที่เราจะเลือกรับแบบไหนครับ
มีบทกลอนท่านพุทธทาสบทหนึ่งที่ผมพอจำได้
เพียงแต่ถ้าผิดเพี้ยนไปบางคำต้องขออภัย

โค๊ด:

ไอ้จ๋อหนึ่ง กัดมังคุด ทั้งเปลือกฝาด
อาละวาด ขว้างทิ้ง กลิ้งหลุนๆ
อีกจ๋อหนึ่ง มีปัญญา รู้ค่าคุณ
เก็บมาดุน กินเนื้อใน ชื่นใจลิง

[pongweb]

ถ้าเล่น แล้วตอบคำถามธรรม หรือเผยแพร่ธรรมมะ สนทนาธรรมมะ ผมว่าก็ไม่ได้ผิดอะไรหรอกครับ การทำหนังสือถ้าหนังสือนั้นเข้าข่ายหนังสือธรรมะ ก็ไม่ว่ากัน

แต่ถ้าเล่นแล้วแชทกับสีกา หรือ เล่นเลยเวลาตี 1-2 ยังไม่นอน แบบนี้ก็ไม่ไหวครับ

แม่ชีเขียนคิ้วผมยังไม่เห็นนะ คนออกแบบปกใช้PSแต่งเติมให้แกป่าว แต่ถ้าแกเขียนเองยืนยันว่าผิดครับ ขนาดเครื่องหอมยังห้ามใช้เลย ศีล 310 ข้อนะ

แม่ชีศีลแปดครับ เหมือนอุบาสกและอุบาสิกาทั่วไป

ศีล 310 ไม่มีนะครับ มีแต่ภิกษุณีศีล 330 ข้อ แต่ไม่มีแล้ว มีแต่ของเถื่อน

[pjumpod]

ผมเพิ่งรู้ว่า แม่ชี ไม่ใช้ ภิกษุณี

ถ้าเล่น แล้วตอบคำถามธรรม หรือเผยแพร่ธรรมมะ สนทนาธรรมมะ ผมว่าก็ไม่ได้ผิดอะไรหรอกครับ การทำหนังสือถ้าหนังสือนั้นเข้าข่ายหนังสือธรรมะ ก็ไม่ว่ากัน

แต่ถ้าเล่นแล้วแชทกับสีกา หรือ เล่นเลยเวลาตี 1-2 ยังไม่นอน แบบนี้ก็ไม่ไหวครับ

แม่ชีเขียนคิ้วผมยังไม่เห็นนะ คนออกแบบปกใช้PSแต่งเติมให้แกป่าว แต่ถ้าแกเขียนเองยืนยันว่าผิดครับ ขนาดเครื่องหอมยังห้ามใช้เลย ศีล 310 ข้อนะ

แม่ชีศีลแปดครับ เหมือนอุบาสกและอุบาสิกาทั่วไป

ศีล 310 ไม่มีนะครับ มีแต่ภิกษุณีศีล 330 ข้อ แต่ไม่มีแล้ว มีแต่ของเถื่อน

[kanutsanan]

เท่าที่ผมดูมีทั้งท่านที่ตั้งใจเผยแผ่ธรรมะจริงและท่านที่ต้องการโภคทรัพย์นั้นก็มีอยู่
แต่ถ้าจะไปเหมาว่าอย่างไหนสมควรไม่สมควรนั้นผมว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะต้องไปรับความทุกข์นั้นไว้
ความจริงถ้าเราอ่านใจท่านออกเราก็คงจะรู้ว่าใครยังโลภอยู่และใครวางแล้ว
แต่ความจริงก็คือเราไม่รู้ว่าท่านคิดพูดทำเพื่ออะไรนั้นสิ
แล้วไปปรุงแต่งเอาดื้อๆว่าท่านต้องเป็นอย่างนั้น ก็ปรุงแต่งความคิดไปตามนิสัยวาสนาของเราแต่ละคน
และคนที่กำลังมีอกุศลดลใจ มักปรุงแต่งให้ตัวเองเป็นทุกข์นั้นสิ

[Hoyato]

ดูใจตนเองให้เป็นกุศล ดีสุด ค่ะ

ว๊าววว ที่แห่งนี้ยังมีคนคิดอย่างนี้ด้วย 

จากข้างบน... คือความจริงที่สุด

[Saphera]

นิดนึงนะ

เท่าที่เคยศึกษาเรื่องของศาสนามาบ้างเล็กน้อย

สงฆ์ ในไทย มีสองนิกายหลักๆ นะครับ คือ ฆราวาส กับ ธรรมยุต (สะกดไม่น่าจะถูกนะ ใครแน่ใจเรื่องตัวสะกด ช่วยแก้ไขด้วยนะครับ)

สายฆราวาส เรียกกันทั่วไปว่า พระบ้าน สังเกตุง่ายๆ พระนิกายนิ จะห่มจีวรสีเหลืองสด ออกไปทางส้มๆ กิจหลักๆ คือการเป็นผู้นำชุมชนเข้าสู่ศาสนา คือมีกิจกรรมต่างๆ ให้คนเช้าวัด ให้คนทำบุญครับ

ส่วนอีกสาย เรียกกันทั่วไปว่า พระป่า สายนี้ จะเน้นปฏิบัติ เพื่อเข้าถึงพระนิพพาน ไม่ค่อยออกมาทำกิจกรรมกัน สังเกตสีจีวร จะออกไปทางเข้มๆ ออกสีน้ำตาล เพราะว่าจะต้องเอาเปลือกไม้มาย้อมจีวรเอง ทุกวันนี้ก็ยังย้อมเอง (ผมบวชกับสายนี้ ยังได้ย้อมจีวรเองอยู่ครับ)

ในเมื่อพระสายฆราวาส จะต้องปฏิบัติหน้าที่ คือเผยแพร่ศาสนาให้มากที่สุด การออกสื่อ ก็เป็นทางนึงที่จะเผยแพร่ศาสนา

ถ้าการออกสื่อต่างๆ ทำเพื่อเผยแพร่ศาสนา ผมมองว่าไม่ผิด

ผมเองยัง follow พระมหาสมปอง ใน facebook เลย

[seoโออิชิ]

อยู่ที่เราจะเลือกรับแบบไหนครับ
มีบทกลอนท่านพุทธทาสบทหนึ่งที่ผมพอจำได้
เพียงแต่ถ้าผิดเพี้ยนไปบางคำต้องขออภัย

โค๊ด:

ไอ้จ๋อหนึ่ง กัดมังคุด ทั้งเปลือกฝาด
อาละวาด ขว้างทิ้ง กลิ้งหลุนๆ
อีกจ๋อหนึ่ง มีปัญญา รู้ค่าคุณ
เก็บมาดุน กินเนื้อใน ชื่นใจลิง

ชอบกลอนอันนี้มาก เห็นภาพชัดเจน

[Cloudsource_TH]

 

[wat_google]

นิดนึงนะ

เท่าที่เคยศึกษาเรื่องของศาสนามาบ้างเล็กน้อย

สงฆ์ ในไทย มีสองนิกายหลักๆ นะครับ คือ ฆราวาส กับ ธรรมยุต (สะกดไม่น่าจะถูกนะ ใครแน่ใจเรื่องตัวสะกด ช่วยแก้ไขด้วยนะครับ)

สายฆราวาส เรียกกันทั่วไปว่า พระบ้าน สังเกตุง่ายๆ พระนิกายนิ จะห่มจีวรสีเหลืองสด ออกไปทางส้มๆ กิจหลักๆ คือการเป็นผู้นำชุมชนเข้าสู่ศาสนา คือมีกิจกรรมต่างๆ ให้คนเช้าวัด ให้คนทำบุญครับ

ส่วนอีกสาย เรียกกันทั่วไปว่า พระป่า สายนี้ จะเน้นปฏิบัติ เพื่อเข้าถึงพระนิพพาน ไม่ค่อยออกมาทำกิจกรรมกัน สังเกตสีจีวร จะออกไปทางเข้มๆ ออกสีน้ำตาล เพราะว่าจะต้องเอาเปลือกไม้มาย้อมจีวรเอง ทุกวันนี้ก็ยังย้อมเอง (ผมบวชกับสายนี้ ยังได้ย้อมจีวรเองอยู่ครับ)

ในเมื่อพระสายฆราวาส จะต้องปฏิบัติหน้าที่ คือเผยแพร่ศาสนาให้มากที่สุด การออกสื่อ ก็เป็นทางนึงที่จะเผยแพร่ศาสนา

ถ้าการออกสื่อต่างๆ ทำเพื่อเผยแพร่ศาสนา ผมมองว่าไม่ผิด

ผมเองยัง follow พระมหาสมปอง ใน facebook เลย

 

[KonRaiNamJai]

ลงชื่ออ่าน...ใจอยากตอบมากแต่..ปล่อยดีกว่า..

ตราบใดศาสนาไม่หายไป คำถามแบบนี่ก็คงมีเกิดเรื่อยๆ..

หายใจเข้่า หายใจออก..แล้วถามตัวเองว่า..วันนี่ทำดียัง