อันที่จริงแล้วมีคน pm มาหาผมให้ล๊อกกระทู้นี้เถอะ เพราะมันเหมือนโดนลากไปเข้าการเมือง เดี๋ยวเจ้าตัวทนไม่ไหวแล้วจะมาขอแจมบ้าง

แต่ทั้งนี้มันมีเคสเรื่องเก่าๆมันก็เลยลากยาวมาอีก ถึงล๊อกไปเดี๋ยวก็จะไม่จบในครั้งหน้า ฉะนั้นผมเลยเปิดโอกาสให้ได้แก้ต่างเสียทีเดียว ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เป็นสิ่งที่ต้องยอมรับแล้วกันครับ
แต่อย่างที่บอก คราวหน้าเรางดเว้นการสนทนาที่จะโยงไปทางการเมือง หรือศาสนาก็แล้วกัน ถ้าจะคุยศาสนาก็เอาในกระทู้ที่ได้กล่าวไปแล้วครับ
เอาเป็นว่า ถ้ามีไรอีก ให้ถึงขึ้นหน้า 11 แล้วค่อยล็อคแล้วกันนะครับ หรือถ้าไม่เห็นด้วยก็บอกนะ
ที่ไมันไม่จบ เพราะในขณะที่ตั้กระทู้จะคุยเรื่องอื่นแต่แล้วมันมีคนที่ผมไม่อยากจะใช้ความขี้ขลาดจากไหนก็ไม่รู้ สมัครสมาชิกมาโพสต์แล้วเป็นโพสต์แรก
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,128840.0.html 
แล้วไปขุดแผลของผมขึ้นมา ถามว่าผมกลัวมั้ย ผมไม่กลัวหรอกอยากขุดก็ขุด แต่ขุดมาแล้วผมก็ต้องชี้แจงทั้ง 2 ฝั่าง คือฝั่ง drama-addict แล้วก็
thaiseoboard ทำให้เกิด
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,129062.0.html 
ถ้าผมตั้งกระทู่้ของผมอยู่ดี ๆ
แล้วถ้าทุกคนเคารพความเป็นเจ้าของกระทู้ของผมด้วยการไม่ขุดเอาสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับกระทู้นั้นมาตอบ ถามว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นอีกมั้ย
ดูอย่างกระทู้นี้ สิ่งที่ผมตอบผมก็ตอบในสิ่งที่อยู่ในกระทู้นี้เท่านั้น แล้วอยู่ดี ๆ มีคนขุดแผลเก่าขึ้นมาอีก ไม่เกี่ยวอะไรกับกระทู้นี้เลย ผลก็เหมือนกับที่ผมบอก
แหล่ะ ผมไม่กลัวการตอกย้ำหรอก ตอกย้ำมาก ๆ ดี เพราะผมรู้ว่าผมทำอะไรไปเพื่ออะไรทั้งในปัจจุบันและอนาคต แล้วทุก rep ที่ผมตอบ เช่นในที่เจ้าของกระทู้
บอกว่าคนไทยไม่รู้ถึงอนาคต ผมก็อธิบายไปว่า จะทำอย่างไรให้รู้ถึงอนาคต แล้วผมก็ยกตัวอย่างการใช้ปฏิจจสมุปบาทของผมขึ้นมา ความเห็นลอย ๆ ของผมขึ้น
มาทุก rep เกี่ยวข้องกับเนื้อหากระทู้ทั้งสิ้น คนที่ขุดคุ้ยอะไรของผมขึ้นมา นั่นนอกจากไม่เคารพความเห็นของผมแล้ว ยังไม่เคารพความเห็นของเจ้าของกระทู้ด้วย
เพราะเอาสิ่งที่ไม่ได้เป็นประเด็นของกระทู้มาตอบ อะไรที่ทำไปด้วยความไม่เคารพหรือให้เกียรติกันมันก็ทำให้เกิดเหตุแบบนี้แหล่ะ เข่นจากกระทุ้แรก ถ้าผมโพสต์คุยหับ
พี่หมอ แล้วคนโพสต์ไม่เอา drama-addict มาลง ด้วยความเคารพความเห็นของผมในฐานนะเจ้าของกระทู้ มันจะมีกระทู้ที่สองใน rep นี้หรนือไม่ ผมไม่บ้า
ขุดหรือตั้งกระทู้มาให้เกิดดราม่าหรอก เสียเวลาผมด้วย กระทู้นี้เองถ้ามันอยู่ในกรอบทั้งหมด ผมว่ามันก็จบไปแล้วเหมือนกัน
ให้สังเกตุนะครับคุณบอล ไม่ว่ากระทู้ต่อกี่กระทู้ ไม่ว่าจะมี rep มากี่ rep ผมยืนหยัดตอบได้หมด นั่นเพราะผมรู้ว่าทำอะไรเพื่ออะไร ปฏิบัติแบบนี้แล้วผลเป็นอย่างไร
ในขณะที่คนอื่นบางทีคิดอะไรได้ ยังไม่รู้เลยว่าเมื่อทำไปแล้วผลที่ได้เกิดอะไรขึ้นเหมือนฝรั่งว่าแหล่ะ พอผมรู้อยู่แล้วว่าทำไปแล้วอะไรเกิดขึ้น ทีนี้ก็หวานหมูเลย มาแบบ
ไหนก็ตอบได้หมด จุดนี้เองที่ทำให้คนที่ถูกผมโต้กลับรู้สึกอึดอัด เพราะโดยสัญชาติญาณของคนคือเถียงเพื่อให้ัชนะหรือให้ผู้อื่นยอมในตความเห็ของตนด้วย พอสิ่งที่ผม
แย้งไปมันกลับไปมัดตัวเองให้ดิ้นไม่หลุด เขาก็เกิดความอึดอัด พออึดอัดแล้วไม่รู้ทำอย่างไรดิ้นรนเปิดประเด็นใหม่ขึ้นมาอีก เอามาปุ๊บผมก็แย้งกลับไปได้อีก มันเป็น
แบบนี้ล่ะครับ ผมก็รู้ตัวผม ส่วนผมไม่มีอะไรมาก เพราะสิ่งที่ผมตอบคือตอบไปตามความเป็นจริง
สัญชาติญาณในการอยากเอาชนะผู้อื่นของมนุษย์ ทำให้คนเราดิ้นรนที่จะเอาชนะผู้อื่น ไม่ว่าจะมีมาโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว ทำให้ผู้นั้นเป็นทุกข์ นี่คือเหตุที่ทำให้ไม่มีใครถอย
เมื่อไม่ถอยใครนำความเป็นจริงมายันได้มากกว่ากัน ผุ้นั้นเป็นผู้ชนะตามธรรมชาติ ส่วนผู้แพ้ก็ขัดเคืองใจกับผู้ที่ตนแพ้ นี่คืออีกเหตุที่ทำให้ไม่ค่อยมีคนคบผม ซึ่งก็เป็น
ส่่วนดี ส่วนคนที่คุยกับผมได้ จะเป็นคนที่รับฟังความจริงเท่านั้นซึ่งมีน้อยถึงน้อยมาก นี่จึงไม่แปลกที่ผมจะไม่มีเพื่อนเลยเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพราะถ้าผมเป็นคนมีเพื่อนมาก
ถือว่าเป็นเรื่องแปลก สภาพของการที่เถียงผมแล้วเปลี่ยนประเด็ไปเรื่อย ๆ ของคุ่สนทนาไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม เกิดจากการดิ้นรนที่จะเอาชนะนั่นเอง สิ่งที่พิสูจน์ได้อยู่ตรงที่
ผมจะเป็นฝ่ายตั้งรับมากกว่าเป็นฝายรุก จะสังเกตว่าผมจะตอบโดยการโควตลอด น้อยที่ผมจะเป็นคนเปิดประเด็น แล้วประเด็นเดิมจะตกไปเสมอเมื่อคนโต้กับผมนั้น ถูกผมแย้ง
จนไม่มีอะไรมาโต้ผมได้อีก ก็ผุดประเด็นใหม่ขึ้นมา แล้วหลายครั้งตอบไปตอบมาคนโต้เอาประเด็นที่ขัดแย้งมาโต้ผมก็มี เช่น ประโยคแรกเขาบอกว่า "ผมหงุดหงิดที่คนอื่นไม่เข้า
ใจผม" อีกไม่กี่ rep ต่อมาบอกว่า "ใครบอกว่าผมต้องการให้คนอื่นมาเข้าใจผม" ผมก็บอกว่ามันแย้งกันเองเพราะคนที่ไม่ต้องการจะไม่มีความหงุดหงิด นี่คือสิ่งที่ผมมองเห็น
แล้วทำให้ผมปิดฉากการตั้งกระทู้ธรรมะตามเว็บบอร์ดโดยตรงด้วย เพราะเสียเวลาเปล่าเหนื่อยด้วย จึงเหลือจากการเผยแพร่ธรรมะลงเหลือแค่การชี้แจงเท่านั้น