ThaiSEOBoard.com

ขอเปิดประเด็นหน่อยเถอะครับ  >:( >:(

ทำไมเงินเดือนโปรแกรมเมอร์ที่จ้างในเว็บนี้มันต่ำจังเลย เห็นหลายกระทู้มากๆ  เห็นแล้วหงุดหงิดใจหน่ะครับ

ไม่เข้าใจว่า จ้างกันขนาดนี้ มันไม่กดเงินเดือนไปหน่อยเหรอครับ ผมพูดในฐานะโปรแกรมเมอร์ทั่วไปคนนึงครับ

เพื่อนผมที่เรียนด้วยกันมา ผมยังไม่เห็นตอนจบใหม่ๆ จะมีใครเงินเดือนต่ำกว่า 16,000 เลยซักคน  ยิ่งตอนนี้ หลายๆ คน ก็ 30,000-40,000 บาท ด้วยซ้ำไปอ่ะครับ(จบมาได้ 2 ปีแล้ว)

ถ้าเงินเดือนแบบนี้จะไปทำงานกันทำไมกันหล่ะครับ ไม่ต่างจาก ยาม เลย  เว็บสมัครงานที่อื่น ผมก็เห็น start กันสูงกว่านี้ทั้งนั้น

โทษทีนะครับ ที่ออกมาบ่น แต่เห็นแล้วมันเศร้าใจแทน จริงๆ

ผมไม่เชื่อหรอกว่า จะไม่มีเงินจ้างกัน   นายจ้างนั่งนับเงินชิวๆ ได้เงินเดือนๆ นึงหลายหมื่น ถึงหลายแสน แต่มาจ้างคนด้วยราคาแบบนี้มันรู้สึกเหมือนโดนเอาเปรียบมากเกินไป ยังไงก็ไม่รู้อ่ะ

ปล. ที่จริงผมก็รู้หล่ะครับ ว่าบ่นไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา แต่รู้สึกอัดอั้น อยากระบายก็แค่นั้น

การระบายออกมาเป็นสิ่งที่ดีครับ จะทำให้ไม่เครียด แต่ก็สู้ๆน่ะครับ ประเทศไทยก็งี้แระครับ ต้องทำใจ จนกว่าคนเห็นแก่ตัวจะเหลือน้อยกว่านี้ สู้ๆครับ เพื่อคนที่เรารัก

ไม่คิดว่านายจ้างจะมีภาระกันบ้างหรอครับ แค่มองต่างนะครับ

ไม่เห็นแปลกเลยครับ ผมเห็นคนที่จบใหม่ก็ start กันเดือนละหมื่นปลายๆ
จบใหม่ไม่ได้หมายความว่า จะต้องมีความสามารถเหมาะที่จะได้รับเงินเดือน 3-4 หมื่นนี่ครับ
ประสบการณ์ของบางคนก็ไม่รู้ว่าจะมีเพียงพอที่จะสร้างสรรค์งานที่มีคุณภาพหรือเปล่า
ก็ถือว่าฝึกหัดประสบการณ์กันไปก่อน
แต่ถ้าคิดว่าเจ๋งจริงก็ลองหาบริษัทดีๆเลยครับ เงินเดือนสูงตามครับ

ผมเห็นเงินเดือน 8,000 วุฒิปริญญาตรี รีเควสความสามารถจนเว่อร์แล้วจี๊ดครับ
ถ้าใครบอกให้มองในมุมมองนายจ้าง
งั้นลองมองในมุมลูกจ้างดีไหมครับ
เงินเดือน 9000 บาท
ค่าอาหารเชียงใหม่ อย่างถูกย้ำนะอย่างถูกมื้อละ 25 บาท 25*31*3 = 2325 บาท
ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันจิปาถะ เอาอย่างประหยัด 3000 บาท
ค่าอาหารบำรุงสมอง อาหารตา อาหารใจ รวมถึงค่ารักษาพยาบาล 2000 บาท
เอาแค่นี้เงินเดือนจาก 9000 บาทก็จะเหลือแค่  1675 บาทเท่านั้น
นี่คือคนที่ไม่กินเหล้าสูบบุหรี่ไม่เที่ยวแล้วนะยังเหลือแค่นี้ >:(

9000 บาท นายจ้างจะได้อะไรบ้าง
คุ้มค่ามาก ๆ 9000 บาทใช้ทั้งเดือนวันละ 7ชม. รวม 189ชม.
เฉลี่ยค่าจ้างแค่ชม.ละ 47 บาทเท่านั้นพระเจ้าช่วยกล้วยทอด

ค่าที่พัก น้ำมันรถ นวดคลายเส้นเดือนละ 2 ครั้งที่ซายูริอีกล่ะครับ ไหนจะทิปน้อง ๆ อีก ว่าไปนั่น

 :-X

เอาเป็นว่า + ค่าที่พักไปอีกอย่างก็ติดลบล่ะครับ ใครที่ประหยัดค่าใช้จ่ายให้เงินพอใช้จ่ายพยุงตัวไม่ให้เป็นหนี้อิออนได้ก็ถือว่าสุดยอดแล้วล่ะครับ เรื่องเก็บออมหรือเรื่องอยากได้รถ อยากได้บ้านก็เลิกคิดไปได้เลย

 :P

เดือนละ 8,000 นี่ หนักไปหน่อย start หมื่นกว่าๆน่าจะกำลังดีครับ
แต่ก็ต้องดูด้วยครับ นักศึกษาบางคนจบสายคอมมา ยังทำอะไรไม่ค่อยเป็นเลย
นายจ้างต้องมาสอนงานอีก สู้ๆครับ ถ้ามีความสามารถ หางานที่ดีๆทำ กระโดดไปเดือนละแสนไม่ยาก

คุณ kingmaster ไปแค่เดือนละ 2 ครั้งเองหรอครับ ;D
ผมนึกว่าไปวันเว้นวันซะอีก

อันนี้ก็พูดถูกครับ ผมเห็นด้วยครับ บางทีเราต้องมองต่างมุมบ้าง ดังคำว่า เอาใจเค้ามาใส่ใจเรา
แต่ยังไงก็ยืนยันคำเดิมว่า สู้ๆครับ เพื่อคนที่เรารัก

เฮ่อ ติดแล้วกลุ้มครับ
เงินเดือนไม่พอกิน
ได้มากใช้มาก

นึกถึงสมัยทำงานแรกๆ ได้ 4500 ยังมีเหลือเก็บ  :P :P

สงสัยว่า จขกท คงคับแค้นใจ จริง ๆ ยิ่งถ้าเชียงใหม่ 8000 ก็สุดยอดแล้วววววววววว

จ๊ากส์..... ไม่เคยไปครับ อยู่ที่ไหนยังไม่รู้เลย แค่แซวเล่น ๆ เห็นเค้าพูดกันซายูริอะไรแบบนี้  :-[

เลิกเป็นโปรแกรมเมอร์ ไปเป็นคนขายปลาเผาแล้วล่ะครับ ชื่อร้าน
ปลาเผาโปรแกรมเมอร์  ;D ;D ;D ;D ;D

 ;D ผมไหวตัวทันตั้งแต่ 2 ปีก่อนแล้วคับ ... ปัจจุบันมาขายปลาหมึกย่างแล้ว สบายสมองกว่า ขายของสนุกกว่า แถมได้มองสาวเดินผ่านไปผ่านมาทุกวัน ชีวิตมีความสุข ชื่อร้าน

ปลาหมึกโปรแกรมเมอร์  ;D ;D ;D ;D ;D (เอามั่ง อิอิ)

ไปเป็นยามดีกว่าครับเงินเดือนยาม 8500 แนะ
โปรแกรมเมอร์ 8500 กับยามเงินเดือน 8500 คุณจะเลือกอะไร

ตอนเป็นนักศึกษา
-- นักศึกษา เรารับงานถูกๆไว้ ก่อน ถือว่าเอา port น่า ได้เดือนละ 3000 + พ่อแม่ส่ง 6000 โอ๊ๆๆๆ ได้เยอะ เหลือเที่ยวได้อีกด้วย แหล่มๆๆ
-- บริษัท ตายๆๆ เรารับแพงกว่านักศึกษาเกินไป ไม่มีใครจ้าง เลือกเอา ว่าจะลดราคา รึเจ๊ง
-- บริษัท เอ๊า เลือกลดราคาน่า แต่เอ๊ะ ต้องทำงานเยอะขึ้น แต่ได้เงินเท่าเดิม หรือน้อยลง นี่แสดงว่ากำไรเราน้อยลงใช่มั้ยเนี่ย
-- บริษัท เพื่อความอยู่รอด ตูจ้างพวกจบใหม่ๆนี่ซัก 8000 - 9000 ละกัน เราจะได้พออยู่ได้ และแข่งขันกับพวกนักศึกษาได้

หลังจากจบจะทำงาน
-- บริษัท รับสมัครโปรแกรมเมอร์ 2 อัตรา เงินเดือน 8000 - 9000 แล้วแต่ความสามารถ
-- บัณทิต อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก ทำไมค่าแรงถูกจังว๊า พ่อแม่ก็ไม่ได้ส่งเงินให้แล้ว แบบนี้จะอยู่รอดเหรอเนี่ย
-- ก้ามปู แล้วจะมาร้องกันทำไม ก็ทำๆกันเองทั้งนั้นนี่ พวกคุณทำให้รุ่นพี่คุณเดือดร้อน รุ่นน้องคุณ มาทำให้คุณเดือดร้อนบ้างก็ถือว่าใช้กรรม

ผมไม่ได้บอกว่านักศึกษาต้องรับงานแพงเท่าบริษัท แต่ว่าควรจะประเมินผลกระทบไว้บ้าง อย่างน้อยควรรับที่ครึ่งนึงของที่พวกบริษัทรับขึ้นไป ไม่งั้นตอนจบไปพวกคุณเองนั่นแหละจะเดือดร้อน เพราะตอนเรียนทำงานได้เดือนละสามพัน ก็ถือว่าได้เยอะ เพราะเราเอามารวมกับเงินที่พ่อแม่ส่ง แต่ตอนทำงานพ่อแม่ไม่ส่งเงินให้ถลุง พวกคุณได้เดือนละ 8000 ยังเลี้ยงตัวเองไม่ได้เลย เพราะจบแล้วค่าใช้จ่ายมันสูกว่าตอนเรียน ไหนจะค่าเช่าค่ารถ หอพักตอนเรียนกับตอนทำงานก็ไม่เหมือนกัน ค่ารถก็แพงกว่า เสื้อผ้าที่ต้องใช้ก็แพงกว่าชุดนักศึกษา

ต้องเข้าใจด้วยว่างานเขียนโปรแกรมในประเทศไทยงานละล้าน นานๆจะมาที เพราะฉะนั้นจะหวังจากงานพวกนี้คงเอาตัวไม่รอดแน่ๆ

ปล. ผมกล้าที่จะแนะนำให้คนที่รับงานถูกๆ ปริ้นที่ผมพิมพ์เนี่ย ไปติดไว้หัวที่นอนท่องเช้าท่องเย็นเลย จะได้รู้ว่าทำไมเงินเดือนโปรแกรมเมอร์ถูก
ปล2. คำว่านักศึกษาอาจจะหมายความรวมถึงพวกรับงานอิสระด้วย
ปล3. อย่าพูดถึงของแถมและการตลาดเลย ถ้าคุณรู้เรื่องธุรกิจคุณจะรู้ว่าการให้ของแถมเพื่อการตลาดเป็นการใช้ทรัพยากรที่แพงที่สุดโดยไม่คุ้มค่า นั่นคือเวลานั่นเอง เพราะการแถมงานไม่เหมือนการแถมลูกชิ้นในก๋วยเตี๋ยว ที่หยิบปุ๊บได้ปั๊บ แต่แถมงานต้องใช้เวลาเพิ่ม และทรัพยากรบุคคลเพิ่ม
ปล0. สาขาวิชาอื่นเค้าเรียกร้องค่าจ้างที่แพงขึ้น แต่สาขาโปรแกรมเมอร์ เรียกร้องค่าแรงที่ถูกลงเรื่องๆด้วยการตัดราคากัน
ปล-1. อย่าด่าบริษัทที่รับสมัครงาน เพราะถ้าจ่ายแพงแล้วได้กำไร เดือนละแสนเค้าก็จ้างคุณ แต่ถ้าบริษัทเค้ารับงานไม่ได้กำไรเค้าจะจ่าคุณแพงให้ตัวเองขาดทุนไปทำไม
ปล-2. ผมพิมพ์ยาว
ปล2X. จุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ปล3X. จุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ปล4X. ผมพูดทำร้ายจิตใจใครก็อย่าทำร้ายผมหละ ด่าในบอร์ดนี่ก็พอ นะๆๆๆๆๆ  ;D

แล้วคิดว่าจะสามารถทำผลกำไรเข้าบริษัทได้เดือนละเท่าไรอ่ะ เอาแค่ของคุณคนเดียวนะ ไม่รวมทีมงานคนอื่นๆ
ถ้าคิดว่าสามารถทำให้บริษัทได้เดือนละไม่ต่ำกว่าสองแสน (เฉพาะกำไรนะ หักค่าใช้จ่ายและต้นทุนอื่นๆแล้ว)
ลองเสนอเงินเดือนไปสักสาม-สี่หมื่นสิ ถ้าเขาไม่ให้ค่อยมาบ่น

ถูก  :'(

แล้วอย่าเหมือนผมคนนึง ทำงานให้บริษัทได้เว็บที่ราคา 8 หมื่น เงินเดือนตัวเอง 15000
มันบอกว่าจะไปขอแบ่งกับบริษัทครึ่งๆ บอกอยากได้เงินเดือนสี่หมื่น มันบอกว่าบริษัทเอากำไรจากมันเกินควร
ทางบริษัทไม่ให้ มันเลยจะแอบติดต่อกับคนที่จ้างบริษัท แล้วจะรับทำให้เค้าในราคาสี่หมื่น
โดยที่ไม่ยอมคิดว่าบริษัทมีต้นทุนในการสร้างภาพลักษณ์ การจัดการ และที่สำคัญคือการหาลูกค้า
สุดท้ายลูกค้าเค้าฟ้องให้บริษัทรู้ หมอนั่นเลยโดนไล่ออก สมหัวมัน  ;D

ประสบการณ์โชกโชน *0*

มันเป็นคำถามประเภทไก่กับไข่หละนะครับ

หลายๆคนก็คิดแบบนี้  บ้างก็ว่าถูกเอาเปรียบ  บ้างก็ว่าสังคมไม่ยุติธรรม
เอากันแต่เริ่มเลยน่ะ   ประเทศนี้ไม่ได้สร้างมาบนหลักของความยุติธรรม  มันถูกสร้างขึ้นมาด้วยหลักของความอยู่รอด  มีไม่กี่ประเทศในโลกที่เอกชนต้องขวนขวายขายของกันเอง  สุดท้ายรัฐเข้ามาครอบงำเพราะกลัวเสียการควบคุม  แต่ก็ไม่ได้นำร่องหรือริเริ่มในเชิงนโยบายให้พวกเขา  ยกตัวอย่างสมาคมผู้ค้าข้าว, น้ำตาล, น้ำมันเป็นต้น

ผมเองก็เป็นลูกจ้าง  เห็นคำบ่นพวกนี้แล้วหงุดหงิด   บริษัทมันไม่ใช่คุก  มีเลือกร้อยแปด  บริษัทนี้ไม่ดีก็เปลี่ยนสิ  แค่นั้นเอง  แล้วคุณยังมานั่งทำพร้อมกับบนไปว่า  ทำไมค่าจ้างน้อยจัง  เวลาที่คุณมานั่งบ่นเอาเวลานั้นมาพัฒนาตัวคุณ  พอเก่งได้ที่แล้วก็ไสหัวตัวเองย้ายไปอยู่ที่ใหม่ซะก็หมดเรื่อง

จะมานั่งสวดวิงวินว่า  คุณเจ้าของครับขึ้นเงินเดือนให้ผมเยอะๆเถอะนะครับ   ถามหน่อยว่ามันเป็นไปได้ไหม
อย่าหวังพึ่งอะไรได้  นอกจากตัวคุณเอง

เงินเดือนในกรุงเทพ สูงก็จริง แต่ค่าใช้จ่าย ก็สูงตาม

ถ้าเงินเดือนน้อย ก็ไม่ต้องไปสมัคร ซิ

เราเลือกเองนิ ไม่เดือนร้อน(มั้ง.. 555+)

ก็เลือกเอาว่า ทำไปก่อน เพื่อสร้างโอกาส

หรือว่า จะรอโอกาส ไปจนตาย

แต่ก็น่าเห็นใจ โปรแกรมเมอร์ ชื่อว่า ป.ตรี มีฐานเงินเดือนอันดับต้นๆ ใน อาชีพรับจ้าง

 :)

ไม่ถูกต้องทั้งหมดน่ะครับ ต้องดูที่ความสมเหตุสมผลด้วยครับ

ถ้าผมบอกว่ารับสมัครโปรแกรมเมอร์ 1 อัตรา เงินเดือน 7000-8000 บาท วุฒิปริญญาตรีขึ้นไปในสาขาที่เกี่ยวข้องกับลัคอมพิวเตอร์หรือไอที ต้องมีความรู้ความสามารถในเรื่องของ php mysql ajax css เป็นอย่างดี ประสบการณ์อย่างน้อย 2 ปี สามารถพูดหรืออ่านภาษาอังกฤษได้ดี หากมีความสามารถทางด้านเว็บกราฟฟิกส์ดีไซน์และ seo จะพิจารณาเป็นพิเศษ

ที่เชียงใหม่เขารับแบบนี้กันจริง ๆ ครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าเทพองค์ไหนจะไปสมัครกับบริษัทเหล่านี้บ้างหรือเปล่า นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างเงินเดือนและเกณฑ์ความสามารถของโปรแกรมเมอร์เท่านั้นน่ะครับ งานอื่น ๆ ก็จะเป็นลักษณะนี้เหมือนกัน

แล้วคิดว่าแบบนี้สมเหตุสมผลรึเปล่าครับ

ปล. เด็กจบใหม่เงินเดือน 8000-9000 มีที่ไหนก็บอกด้วยครับ ผมว่าคนแย่งกันหัวแตก

 :)

การตั้งราคาจ้างงานในบอร์ดเสียว เป็นการจ้างวานที่ต่างตอบแทนกันน่ะครับ

ผู้ที่ว่าจ้างต้อง บอกลูกจ้างหมดเลย เรื่องที่จะเขียนสคิปแนวไหน ทำอย่างไร

ทำให้ลูกจ้างสามารถ เอาไปใช้งาน หรือ เอาไปประยุกต์ใช้งานต่อไปได้นี่ครับ

ยิ่งถ้าเป็นลูกจ้างเรื่อง seo โอววว 8000 คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม

ดูดความรู้มาให้หมดเลย

อืม... ผมไม่เห็นด้วยเรื่อง กทม. ค่าใช้จ่ายสูงกว่า ตจว.(ในเมือง) นะครับ

ยกตัวอย่างในเมืองเชียงใหม่น่ะครับ

ค่ารถโดยสาร(รถแดง) ระยะใกล้ 20 บาท(ไม่เกิน 3 กม.) ระยะไกล 30+(3 กม. ขึ้นไป)
อาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยวข้างทาง 25-30 บาท
หอพัก ถูก ๆ ประมาณ 1800+ โดยปกติอยู่ที่ 2500+
น้ำมันรถ ราคาเท่ากันกับ กทม.
มาม่า ซองละ 6 บาทเท่ากัน
น้ำ ขวดละ 5-10 บาทขึ้นไป(ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ) เท่ากัน
สรุป สินค้าราคาเท่ากันทั้งหมด

กทม. มีค่าใช้จ่าย(ปัจจัย 4 ที่จำเป็นในการดำเนินชีวิต) อะไรที่มากกว่าเหรอครับ ไม่เอาบอกว่าค่ากระเป๋าแบรนด์เนม ค่าโทรศัพท์ราคาแพงอะไรแบบนั้นน่ะครับ

ผมไม่ได้ต้องการเรียกร้องให้ขึ้นค่าแรงให้เท่า กทม. นะครับ แต่อยากให้คนที่รับสมัครช่วยลดสเป็กพนักงานลงให้เหมาะสมตามราคาให้มันสมเหตุสมผลกันหน่อยแค่นั้นเองครับ ถ้าข้ออ้างเรื่อง กทม. มีค่าใช้จ่ายมากกว่าเป็นเรื่องจริง แล้วทำไมคน ตจว. ต้องเข้าไปทำงานที่นั่นล่ะครับ สู้ทำงานที่บ้านเงินเดือนน้อยกว่าแต่รายจ่ายน้อยกว่าไม่ดีกว่าเหรอ เพราะถ้าค่าใช้จ่ายเยอะอย่างที่คุณว่ามามันก็ไม่เหลืออยู่ดี

 :)

ผมว่าอยู่ต่างจังหวัดใช้น้อยกว่านะ เพราะว่าสิ่งฟุ่มเฟือยมันหาได้น้อยกว่าอะ

อย่างผมตอนนี้อยู่นครปฐม จะหาที่กินเหล้า ต้องขับรถไปซะไกล บางทีก็ขี้เกียจไป

เลยประหยัดค่าน้ำมัน ประหยัดค่าเที่ยว

อยู่กทม สถานบันเทิงท้าให้เลือก

แต่ถ้าเทียบกับจังหวัดใหญ่ ๆ แบบ เชียงใหม่ โคราช ผมว่า ค่าใช้จ่ายก็สูงเหมือน ๆ กันล่ะ

- -

สถานที่เที่ยวบานเลย

คน ตจว. ห้ามเที่ยวเหรอครับ เอิ๊ก ๆ ผมว่าที่ ตจว. สามารถใช้จ่ายได้น้อยกว่าเพราะว่ามันมีเหตุจำเป็นให้ต้องประหยัดครับ เงินเดือนน้อยก็ต้องใช้ประหยัด ไม่งั้นก็ไม่พอใช้ ดังนั้น คน ตจว. จึงต้องแห่ไปทำงานใน กทม. เพราะว่าถ้าใช้เงินเหมือนเดิมจะมีเงินเหลือใช้บาน เพราะเงินเดือนสูงกว่าไงครับ

คน กทม. ทำงานเงินเดือน 25000 บ่นเงินไม่พอใช้
คน ตจว. เข้าไปทำงานใน กทม. เงินเดือน 15000 มีเงินเหลือส่งให้ที่บ้าน ตจว.

 :D

 8) สู้ๆครับทุกท่าน ยังไม่ตายก็ทำงานกันต่อไป

เห็นด้วยกับก้ามปูนะ ตัวเองตอนเรียน จบมาก็โดนเอง

อย่างที่ข้างบนเขาบอกกันน่ะแหละ เคยคิดถึงบริษัทกันปะ  :P ผมไม่มีบริษัทอยู่อ่ะนะเป็นแค่ Freelance ตัวน้อยๆ

วันก่อน เพื่อนที่เปิดบริษัทโทรมาถามเรื่อง เงินกู้ 555 สิ้นเดือนไม่มีเงินจ่ายพนักงาน  ;D

ผมรับงานก็มีเหมือนกันพวกที่อยากจ้าง ถูกๆ อ่ะ เราก็ไม่รับก็แค่นั้น ก็เหมือนทำบริษัทแหละ ถ้าเห็นเงินเดือนน้อยก็อย่าไปสมัครก็สิ้นเรื่อง ตอนจบใหม่ๆไปสัมภาษณ์ เขียนเงินเดือนที่ต้องการไป 15000 คนสัมภาษณ์บอกว่ามันเยอะไป บริษัทจ้างได้ไม่ถึงหมื่น ก็ไปสมัครที่อื่นต่อแสดงว่าไม่มีปัญญาจ้างเรา 555

ผมไม่ได้ว่าคนต่างจังหวัดห้ามเที่ยว

แต่สถานที่ที่เราจะเสียเงินไปโดยเสียสติ มันน้อยกว่าน่ะครับ

อย่างถ้าอยู่คอนโดที่กรุงเทพ เดินออกมาก็มีร้านเหล้ากินแล้วครับ ผับก็เยอะ เหล้าปั่นก็มี

แต่ถ้าอยู่นครปฐม จะเข้าไปกินเหล้าในผับ ผมต้องขับรถ 40 กว่ากิโล บางทีก็ขี้เกียจไป

มันก็เลยดูว่ามันประหยัด สำหรับผมอะนะ

แต่ถ้าอยู่ต่างจังหวัด แต่อยู่ใกล้ ๆ กับที่ที่จะเสียเงินแบบเสียสติ ก็ตัวใครตัวมัน

40 โลยังอุส่าไปไม่ใช่เหรอพี่  ;D

ต่างจังหวัดใช้เงินน้อยจริงหละครับ ยิ่งถ้าเป็นแถว อ. เล็กๆ นี่ยิ่งสบายไปใหญ่ ถ้าเงินเดือน 8-9 พันนี่ ถือว่าสุดยอดละ
พี่ชายผมทำงานที่บ้าน เงินเดือน 9 พันกว่าๆ กินเหล้าเมาได้ทุกวัน ข้าวปลาอาหารกลับไปกินที่บ้าน  :D

แต่ที่แน่ๆ ต่างจังหวัดราคาถ่านถูกกว่า กทม. แน่นอน  ;D

ผมไม่ได้หมายถึงว่าตัวผมได้เงินเดือนน้อยนะครับ เงินเดือนผมอยู่ในระดับค่อนข้างเยอะด้วยซ้ำ (เยอะกว่า 30000-40000 ละกันครับ ) แต่อยากจะบอกว่าทำไมประเมินค่าตัวของโปรแกรมเมอร์ต่ำจัง  เห็นบอกว่าขึ้นกับความสามารถ แต่ผมเห็นเวลาประกาศรับสมัครงานกันจริงๆ ไม่เห็นมีคนจะรับเด็กจบใหม่ซักเท่าไหร่เลย เห็นแต่ต้องการจะรับคนมีประสบการณ์ ทำมันได้เกือบทุกอย่าง แต่เงินเดือนโครตต่ำติดดิน



ส่วนเรื่องค่าครองชีพต่างจังหวัด กับกรุงเทพนั้น ผมก็ว่ามันไม่ต่างกันมากนะ มันขึ้นอยู่กับคนด้วยหล่ะ   อย่างถ้าให้ผมอยู่กรุงเทพ กับต่างจังหวัด แล้วให้เงินเดือนเท่ากัน ผมก็ว่า คงได้เงินเก็บพอๆ กัน กรุงเทพอาจจะน้อยกว่านิดหน่อยตรงค่าที่พักแพงกว่า(เทียบกันแบบว่า ไม่มีบ้านด้วยกันทั้ง 2 case นะครับ)

ลองเข้าไปดูราคาว่าจ้างที่ thaifreelancebid ดูสิครับ ผมเห็นแล้วเหนื่อยแทน บิทกันโคตรถูกเลย สู้ไม่ได้ :P
 ในเมื่อการจ้างงานแบบโปรเจค ราคาถูกอย่างนี้ เรื่องรับพนักงานเงินเดือนแพงๆ สำหรับบริษัทระดับกลางถึงระดับล่าง ก็ไม่ต้องหวังครับ ส่วนบริษัทระดับสูง ส่วนใหญ่ก็รับแต่ ป.ตรี-ป.โท แถมประสบการณ์ ส่วนเด็กจบใหม่หมดสิทธิ์.

เชียงใหม่ ผมเห็นควรเป็นดังนี้

- จบใหม่ ไม่มีประสบการณ์ 8,000+ แต่ใจน้องต้องแรง แสนขยันนะ ประเภทจ้าง 100 แต่ทำงาน 120 น่ะ
- ประสบการณ์ 1 ปี ขึ้นไป 12,000+

แต่ครับแต่ ควรจะเขียนโปรแกรมเป็นมาก่อนแล้ว
ไม่ใช่เข้ามาแล้ว จับมือเขียน แบบนี้ไม่ไหว ตอนสัมภาษณ์ ถามอะไรตอบได้ เคยใช้ แต่พอทำงานจริงๆ เจอปัญหาซับซ้อน แปลกๆ หน่อย ก็ไปไม่เป็นแล้ว แบบนี้ไม่ไหว

และหากต้องการ คนเดียวทำได้ทุกอย่าง ทั้งเขียนโปรแกรมเอง ออกแบบเอง หายากครับ บอกได้เลยว่าหายากมา หากหาได้ เค้าควรได้เงินเดือนสมเหตุสมผลแก่ความสามารถ

ผมลองๆค้นหาดูแล้วตามประเภทงานประจำมันก็อยู่ที่ประมาณ 8,000-40,000 บาท

และก็น่าจะไล่ระดับตามความสามารถและบริษัทจ้าง(ว่าใหญ่แค่ไหน)ไปตามประสปการณ์

แต่ทุกวันนี้มันก็น้อยลงจริงๆแหละครับ น่าบ่นแทนโปรแกรมเมอร์เค้าจัง ยิ่งจบมาใหม่ๆคงเซ็งสุดๆเพราะคงต้องไปหาประสปการณ์อีก :-\

และก็อย่าไปว่าคนบ่นเค้าครับ... เพราะทุกคนในนี้ล้วนแล้วแต่ทำงานทางนี้กันทั้งนั้น หรือคุณอยากไห้งานและเงินคุณทำมันต่ำไปกว่านี้

ผมว่าเจ้าของกระทู้พยายามจะเรียกร้องไห้พวกคุณทั้งหลายที่มีความสามารถสูง แต่ยังต้องทำงานประจำอยู่ได้ค่าตอบแทนที่สมเหตุสมผลอยู่นะครับ

เข้าใจความรู้สึกของเจ้าของกระทู้ครับ...

ปล1.แต่อย่าลืมว่าคุณบ่นไห้คนในบอร์ดอยู่ถ้าเค้าไม่พอใจก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละครับ ไม่มีความเห็นที่ต้องการ แถมยังโดนสวนทุกคำ  
ปล2.ผมเคยได้ยินว่าถ้าไม่พอใจเจ้านายทำได้อย่างเดียวคือลาออก  :'(

 ::) เห็นด้วยคับ

หัวใจสำคัญของงานในนิยามงานของผม ก็คือเราต้องเป็นผู้พัฒนาโครงสร้างเว็บ และการตลาดให้เองทั้งหมด งานเราแพงกว่าแรงงานนักศึกษา 10-20 เท่า แต่ว่าเราต้องเดิมพันด้วยการรักษาธุรกิจของลูกค้าไว้ให้ได้ ถ้าลูกค้ายังยืนอยู่ในธุรกิจที่แข่งขันสูงได้ได้ นั้นก็คือเครดิตเรา และก็ทำให้เรามีตังกินต่อไปด้วย ซึ่งแตกต่างจากแรงงานนักศึกษา ตัดราคาดรอปลงไป งานเกรดนี้ราคาไม่สูง เขียนเสร็จปิดงาน ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ ... ก็ถือว่าเพียงพอแล้วคับงานราคาถูก คุ้มค่าทั้งคนจ้าง คนรับงาน .... เพราะงานลักษณะนี้ นักศึกษาที่รับงานไม่ต้องมาซีเรียสรับผิดชอบอะไรมากในเรื่องของผลประโยชน์ของลูกค้า เพราะประสบการณ์ไม่มีพอที่จะมาเสี่ยงเดิมพันรับผิดชอบในธุรกิจลูกค้า เพราะฉะนั้นงานราคาไม่สูงมากก็ถือว่าสมเหตุสมผลแล้วคับ

และปัจจุบันอย่างที่ทราบกันดีว่าเศรษฐกิจไม่ค่อยจะดีนัก นอกจากเราเองจะจนแล้ว บริษัทที่จะจ้างงานเรา เขาก็คงจะมีความรู้สึกไม่ต่างกัน ใจเขาใจเรา อัตราค่าจ้างมันย่อมผันแปรไปตามกาลเวลาและเศรษฐกิจ จ้างถูกก็ทนทำไปหน่อยคับ ยังดีกว่าตกงาน ... สำหรับใครที่อยู่สูงๆ อยู่แล้ว ก็คงไม่หันลงมาเล่นงานเกรดนี้แ่น่นอนคับ เอาราคามาเทียบกันไมไ่ด้หรอกคับ ... ลักษณะงานมันคนละคลาสกัน

ใจเขาใจเรางาบบบบบบ

อ้างจาก: barbies55 ที่ วันนี้ เวลา 05:36:39 PM

นี่แหล่ะครับคือ กุญแจสำคัญ

ยิ่งมีประสบการณ์เยอะยิ่งถูกครับ

ใคร ๆ ก็ชอบสด ๆ ใหม่ ๆ อิอิ

 :-[ :-[ :-[

ทนเพื่อ...ประสบการณ์ไปก่อนครับ แล้วไอ้ประสบการณ์นี่แล่ะจะอัพเงินเดือนคุณ
ซัก 2 ปี ก้อพอแล้วมั้ง

ผมว่าจะตั้งเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับบริษัทนั้นๆ ซะมากกว่าว่าต้องการพนักงานคุณภาพขนาดไหนมาทำงาน

คงจะให้เป็นเกณฑ์ตายตัวคงยากอ่ะครับ

ก็แบบนี้แหละ ถึงได้บอกว่า อย่าร้อง เพราะเราๆทำตัวเองทั้งนั้นแหละครับ  :P

"ให้มองคนที่ต่ำกว่าเรา" ยังใช้ได้ทุกยุคทุกสมัยครับ ค่อย ๆ เป็นค่อยไปครับ  ::)

ใครถูกเค้าก็จ้างคนนั้น นายจ้างมีทางเลือก พนักงานเลือกนายจ้างได้ แต่ดวง จะได้ดีหรือไม่อีกเรื่องนึง

มุมมองนายจ้าง ยิ่งถูกยิ่งมีกำไร เพราะต้องหาเงินเก็บไว้เยอะๆ ยังต้องทำธุรกิจอีกหลายปี เผื่อปีไหน ช่วงไหน ไม่มีงานจะได้ไม่โละคนออก
ค่อยๆ พยุงกันไปด้วยเงินเก็บ

มุมมองลูกจ้าง คิดว่าตัวเองมีความสามารถมากมายที่คนอื่นทำไม่ได้ เลยต้องการเงินเดือนสูงลิ่ว จบใหม่ๆ ขอซะเวอร์ เผลอๆ ได้มากกว่า เจ้าของอีก

เห็นด้วยครับ  ;D

ทำนองว่า เราสู้ญี่ปุ่นไม่ได้ เลยไม่ต้องแข่งเค้า มาแข่งกับลาวดีกว่า ทำนองนี้ป่าวครับ  ;D

โปรแกรมเมอร์ก็คือกรรมกรประเภทหนึ่งก็ว่าได้อะครับ เงินเดือนก็จัดว่าอยู่ในระดับดีแต่งานอาจจะหนักหน่อย ส่วนมากกลับไม่ค่อยตรงเวลา :-X
เรื่องดีกรีนี่ไม่ค่อยมีผมอะครับเพราะงานเชิงเท็คนิคแบบนี้จบ ม ชื่อดัง ดีกรีสูง บางทีอาจจะไม่เก่งเท่าคนจบ รภช ด้วยซ้ำ แล้วพอทำงานไปซักพักมันจะเห็นข้อแตกต่างระหว่างเรากับเพื่อนร่วมงานถ้าเข้ามาแบบทำไรไม่ค่อยเป็น

เรื่องเงินเดือนผมว่าก็แล้วแต่ที่อะครับ เค้าคงไม่ได้เอาเปรียบไรเรามากหรอกครับ แต่บริษัทไอทีมันมีเยอะมากหลายขนาด บริษัทเล็กๆก็เยอะ บริษัทขนาดกลางก็มาก บริษัทใหญ่ๆพอมีบ้าง (เฉพาะที่โปรดักเป็นซอฟต์แวร์นะครับ) เพราะธุรกิจแบบนี้ต้นทุนมันไม่ต้องสูงมากเหมือนพวกโรงงานผลิตหรือส่งออกต่างๆ ทำให้ฐานเงินเดือนมันมีหลายระดับ

ถ้าหาบริษัทดีๆผมว่าสตาร์ต 3 หมื่นก็น่าจะหาได้นะ รู้จักเพื่อนที่เรียนด้วยกันทำงาน ปตท แค่เงินเดือนก็สตาร์ท 3X,XXX ไม่รวมเงินนอก แต่ต้องพรีเซ็นต์งานเป็นภาษาอังกฤษ ;D

ถ้าทำงานบริษัทเล็กๆอาจจะได้ความรู้เชิงเท็คนิคมากกว่าเพราะอาจจะได้ทำืทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่ถ้าเข้า บ ใหญ่ๆได้เราอาจจะได้ทำในงานที่แคบลงแต่ก็น่าจะได้คอนเน็คชั่นที่ดีกว่า แล้วก็รายได้ดีกว่ามาก

คนจบ วศ คอม แล้วทำงานโปรแกรมเมอร์นี่ถ้าไม่ชอบหรือไม่เก่งจริงนี่ตอนทำงานถ้าทำในบริษัทขนาดเล็กถึงกลางนี่อาจจะโดนเปรียบเทียบอะครับ เพราะ วศ คอม เรียนเขียนโปรแกรมไม่มากเท่าไหร่อาจจะน้อยด้วยซ้ำ เป็นโปรแกรมเมอร์เขียนโค้ดงานเทคนิคล้วนๆ ถ้า จบ วศ คอม ม ชื่อดังหน่อย ไม่ช่วยไรเลย ถ้าไม่ชอบหรือไม่เก่งจริง

ทำงานบริษัทเค้าก็ต้องใช้เราคุ้มอะครับเป็นธรรมดา โปรแกรมเมอร์อยู่ซอฟแวร์เฮาส์ส่วนมากไม่มีโอทีด้วย แล้วประเภทรีควายเมนต์ระดับเทพนี่สำหรับเด็กจบใหม่คนทำได้จริงๆแบบไม่ต้องเทรนคงหายากอะครับ

ส่วนตัวผมตอนนี้กะว่าจะเอาจริงกับธุรกิจออนไลน์ซักทีแล้วครับเพื่ออิสรภาพทำเล่นๆมานานแล้่ว เมื่อวานเพิ่ง uninstall fm2009 ออกจากเครื่อง กะว่าถ้าได้ตังซัก 2-3 หมื่น จะออกมาทำงานส่วนตัวตามความฝัน

ปล. ผมก็พูดตามประสาเด็กจบใหม่ไม่ถึงครึ่งปี ทำงานไม่ถึงครึ่งปีเช่นกัน ข้อมูลอาจเชื่อถือไม่ได้ทั้งหมด ;)
เพิ่มเติม. ถ้าหางานตาม บ ใหญ่ๆ หรือโรงงาน ที่ไม่ใช้ธุรกิจไอที ก็รายได้ดีนะครับ มะก่อนมีโอทีด้วย เพื่อนที่สนิทกัน ทำอยู่โรงงานรถยนต์แต่ก่อนเดือนนึงได้รวมๆสามกว่า แต่ทำงานหกวัน แต่งานไม่หนัก ไม่ค่อยได้ทำไรมาก แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่ายังได้โอทีอยู่ป่าวนะเห็นกระทบกันเยอะพวกโรงงานรถยนต์

ผมเคยทำงานบริษัทอ่ะ รับทำโปรแกรม นี่ล่ะเป็น project ๆ ไป งานหนึ่ง โอ้โห 7-8 แสน มั่ง ทำกัน 2-3 คนเอง กับ SA เลยชวนกันออกมารับเองซ้า รับงานเดียว อยู่ได้ทั้งปี  

แล้วงัยอ่ะ หางานยากชิบเป๋ง  งานละ 7-8 แสน ไม่เห็นจะมี เจอแต่งาน 2-3 หมื่น แบ่งกันไม่พอกินแล้วเนี่ย

กำ ตอนนี้อยากไปทำงานบริษัทง่ะ อยากได้เงินเดือนมั่ง  :'( มีใครอยากจ้างผมมั่ง เดือนละ 5 หมื่นก็พอละไม่โลภ  ;D

ฮั่นแน่ ขี้เกียจแล้วอ่ะเดะ

ก่อนหน้านี้ชวนมาตกงานด้วยกันไม่มาด้วยกันแต่แรก  :D

อย่ามอง IT เป็นงาน IT ครับ ลองหาภาคธุรกิจอื่นๆที่ทำกำไรมากๆ แล้วเอาความรู้ทางด้าน IT ไปปรับใช้กับธุรกิจที่เราทำเพื่อสร้างโอกาสที่มากขึ้นสร้างช่องทางที่มากขึ้น เอา IT ไปลดต้นทุน เพิ่มผลตอบแทนของการลงทุน ลดความซับซ้อนในการบริหาร ลดเวลาในการนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาด เพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารธุรกิจที่เราทำอยู่ หากเราหวังจะไปเอาเงินเดือนจากการจ้างงานทางด้านไอทีปัจจุบันมันคงไม่ทำให้คุ้มค่ากับที่เรียนมาครับ

มีเรื่องนึงที่ผมเคยคิดอยากจะเล่าให้ฟังเผื่อว่าบางคนเคยลองคิดเล่นๆแบบผมก็เอามาเล่าให้ฟังกันนะครับ
มีช่วงหนึ่งที่ผมทำงานอยู่ที่อาคารเล้าเป้งง้วนทาวเวอร์ ข้างๆตึกซันทาวเวอร์ตรงข้ามเซนต์จอร์น ตอนซื้อขาวเหนียวหมูปิ้งตอนเช้าก็ชวนแม่ค้าคุยเล่นพลางนับหมู่ที่ยังไม่ได้ปิ้งอยู่ในกล่องที่เค้าเตรียมไว้ดูว่ามีกี่ไม้ เลยถามเค้าว่าคุณป้าทำวันละกี่ไม้ครับเนี่ยขายดีจัง ตอนยื่นนับอยู่นับได้สามร้อยกว่าไม้ ป้าเค้าตอบว่าหมูปิ้งเค้าทำวันละ 500 ไม้ ขายหมดประมาณบ่ายสองโมงของทุกวัน แต่ป้าเค้าขายอย่างอื่นด้วยเช่นพวกไก่ย่างข้าวเหนียวนี่ก็ยังไม่ได้นับ ป้าเค้าบอกว่ากำไรครึ่งต่อครึ่ง เลยลองคูณดู หยุดเสาร์อาทิตย์เหลือเดือนละประมาณ 22 วัน x 500 เท่ากับเดือนละ 11,000 ไม้ ไม้ละ 5 บาท รวมเป็นเงิน 55,000 บาท กำไรครึ่งหนึ่งของยอดขาย ก็ได้ประมาณ 27,500 บาทต่อเดือน ในส่วนของหมูปิ้ง คุณป้าก็พูดอย่างภูมิใจว่า ลูกสาวคนที่ยืนช่วยขายอยู่ป้าส่งเรียนเซนต์จอร์น กำลังเรียนอยู่ นี่คนเล็ก ส่วนคนโตเรียนจบแล้วเซนต์จอร์นเหมือนกัน ผมคิดเอาเองนะว่าถ้ารวมทุกอย่างแล้วคุณป้าเค้าน่าจะได้กำไรสักประมาณเดือนละ 40,000 บาท
ซุ่มกาแฟเล็กๆในอาคารเดียวกัน ลองถามเหมือนกันครับ เค้าบอกว่าขายได้เฉลี่ยวันละ 250 แก้ว ราคาแก้วละ 25 บาท ถ้าขายเดือนละ 22 วันก็จะได้เดือนละประมาณ 5,500 แก้ว เป็นยอดเงินประมาณ 137,500 บาท เป็นต้นทุนเท่าไหร่ กำไรเท่าไหร่ผมไม่ทราบนะ แต่ถ้าไม่มีค่าลิขสิทธิ์ ได้ได้กำไรเกินครึ่งสำหรับกาแฟครับ

ยังมีอีกหลายอย่างครับลองมองไปรอบๆตัว อยากให้มองว่างานคืองานครับ ถ้า IT เป็นสิ่งที่ชอบมันก็คือส่วนหนึ่งของชีวิต แต่หากคิดจะเอาเงินเยอะ ก็มองไปรอบๆตัวจะง่ายกว่าครับ

ครับ 

เรื่องได้เงินเยอะ นี่เจอพ่อค้าแม่ค้าหลายรายแล้วครับ
ริมถนน ริมทางเท้า แม้แต่ร้านรถเข็น ร้านเหล่านี้หาเงินได้มากจนน่าปลื้มใจแทน

 8)


มหาลัย มหา...
http://media.imeem.com/m/Xzaq7ERJes

คาราบาวครับ

นี่ไง สิ่งที่บริษัทมี นั่นก็คือคอนเนคชั่น และพาวเวอร์ ถ้าไม่มีสองอย่างนี้ก็หางานดีๆเข้าบริษัทยาก
อย่างเวลาไปคุยงาน คนรับงานของบริษัทบอกราคาไปเจ็ดแปดแสน
โปรแกรมเมอร์มือใหม่ที่ไปด้วยเคยคิดในใจกันมั่งป่าว ว่างานแบบนี้ได้สองหมื่นก็ทำแล้ว
 :D

อยากได้เงินเดือนเยอะต้องถามก่อนว่าทำงานคุ้มค่าจ้างรึปล่าว   ::)

แต่เศรษฐกิจอย่างนี้อย่าเลือกงานครับ

พึ่งตั้งบริษัทเปิดได้ไม่กี่เดือน เข้าเดือนมาไม่ทันไรก็จะต้องจ่ายเงินเดือนอีกแล้ว ตอนนี้ก็ 2 คน สิ้นเดือนเมษาก็ต้องหาคนมาประจำออฟฟิศ อย่างน้อย ๆ ก็  เลขาหรือผู้ช่วย 2 ตลาด 2 อีก 4 เดือนข้างหน้าโปรแกรมเมอร์อีก 4 คน ตอนเริ่มออกเดิน ยังไม่ต้องพัฒนาอะไรมาก ของเก่ายังใช้ได้ ดูแล แต่อีก 3 เดือนต้องพัฒนาต่อยอด ต้องหาโปรแกรมเมอร์เพิ่ม  ส่วนตลาดมีของตัวเองอยู่บ้างบวกกับตลาดที่รับเข้ามาช่วยทำงาน กว่าจะเข้าที่เข้าทาง มีกำไรก็อาจจะมากกว่า 8 เดือนขึ้นไป

ว่าด้วยเรื่องเงินเดือนเชียงใหม่ก็เริ่มให้ที่ 8000 ทั้งเก่าทั้งใหม่ เริ่มใหม่หมดพิสูจน์ความสามารถ 1 เดือน ถ้าไม่ผ่านก็ซองขาววางบนโต๊ะเป็นที่รู้กัน จะได้ไม่เสียเวลาซึ่งกันและกัน ถ้าผ่านก็ปรับให้ 8500 อีกสองเดือนประเมินใหม่ ถ้าผ่าน 9000 พร้อมทำสัญญาทำงาน 2 ปี ประเมินการทำงานทุก ๆ 3 เดือน ในระยะงาน 1 ปีเงินเดือนขั้นต่ำควรจะได้ 15k-20k ตัวพนักงานเองก็ต้องแสดงศักยภาพของตัวเองเต็มที่ ส่วนสวัสดิการเหมือนบริษัทอื่น ๆ ทั่วไป + เงินเดือนยังไม่รวมค่าหอพัก ค่าน้ำมัน เงินสะสม{จะได้ก็ต่อเมื่อครบสัญญาลาออก เอาไว้เป็นเงินก้อนเป็นทุน} และอื่น ๆ  เช่นกู้ยืมเงินซื้อรถ บริษัทซื้อสด พนักงานมาผ่อนจ่ายให้อีกต่อ ทำงาน 5 วัน เสาร์ อาทิตย์ ไปหาลูก หาเมีย พักผ่อนให้เต็มที่ แต่เสาร์ อาทิตย์ออฟฟิศไม่ปิด ต้องเปลี่ยนเวรกันมาทำงาน มีเงินสะสมเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ

เฮีย(เจ้านายเก่า)เคยพูดไว้เสมอ คนทำงานด้วยใจ หาซื้อไม่ได้ด้วยเงิน อย่าถือว่าเรามีเงินจะหาซื้ออะไรก็ได้ จะไม่มีใครอยู่ด้วยนาน เมื่อคิดจะเลี้ยงคน ต้องเลี้ยงให้เค้าดูแลตัวเอง พร้อมคนรอบข้างได้ เงินเดือนไม่ใช่แค่เงินใช้พอเดือน ต้องดูความเหมาะสมกับสิ่งที่เราได้ ถ้าเค้าควรจะได้เราต้องให้ ต้องรู้จักใช้ทั้งพระเดช และพระคุณให้เป็น

ส่วนโปรแกรมเมอร์ ตามที่คิดไว้จะไปรับในอีก 4 เดือนข้างหน้า เพื่อเตรียมปรับงานและค่าใช้จ่ายกับรายรับที่เข้ามา อาชีพโปรแกรมเมอร์ เป็นอาชีพที่ไม่เหมือนกับอาชีพอื่น ๆ มันเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่หมกหมุ่นกับการลอง + นักออกแบบที่ต้องใช้จิตนาการค่อนข้างสูง อะไรที่ดูเป็นเรื่องยุ่ง ๆ วุ่นวาย แต่โปรแกรมจัดระเบียบใหม่เพียงแค่ปลายคลิก บอกไว้เลยว่าคนคิดคนออกแบบ คิดกันหัวแทบระเบิด ยิ่งถ้าทำหรือแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วแสดงว่า... ชั่วโมงบินไม่ธรรมดา

แล้วอยากได้โปรแกรมเมอร์แบบไหน ...ในเชียงใหม่ เท่าที่ลองประกาศ รวมทั้งกลุ่มคนที่อยู่ในวงการเดียวกัน ระดับเทพ นับหัวใส่กันเลยได้ มีปัญญาจ้างหรือเปล่า {ส่ายหัว :P} พอมีประสบการณ์หน่อยก็จะเข้าเมืองใหญ่ มันจึงหนีไม่พ้นที่จะต้องพิจารณาเด็กใหม่ ปั้นใหม่ ฝึกใหม่ เสียเวลาไปบ้าง กับคนที่ไม่ผ่านทดสอบก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้าผ่านก็เลี้ยงดูปูเสื่อกันเต็มที่ {ซายูริประจำ ;D} แต่ถ้าฝึกในระดับหนึ่งแล้วจะออก อาจจะมีสองเหตุผล อย่างแรก ออกเพื่อหาที่ทำงานใหม่ อันนี้เราต้องพิจารณาตัวเอง ทำไมเค้ายังคิดที่จะเปลี่ยนงาน แต่ถ้าเค้ามีทางเลือกที่ดีก็ยินดี อย่างที่สองออกเพื่อไปทำธุรกิจเอง หรืออาชีพอิสระ อันนี้ก็ต้องส่งเสริม อย่างที่บอกเบื้องต้น มีเงินสะสมจะได้ก็ต่อเมื่อลาออก เงินก้อนนี้ทำให้เขาไปเริ่มต้นใหม่ได้ เหมือนกับที่มีคนให้โอกาสเรา อีกอย่างการที่เขาไปทำบริษัทหรือธุรกิจเอง เราก็จะได้มีบิสิเนทพาร์เนอร์ งานไหนที่ทำไม่ได้ก็โยนไปให้ทำ อย่างน้อยก็รู้ฝึกมือกันในระดับหนึ่ง

เฮีย{คนเดิม}ถ้าอยากจะรู้ว่าอนาคต อนาคตเงินเดือนตัวเองจะเป็นยังไง วิธีแรก ก็ให้ดูคนที่ทำงานมาก่อนหน้านี้ เช่น อยากรู้ว่าอีก 5 ปี เงินเดือนจะเท่าไร ก็ให้ดูคนที่ทำงานมาก่อนหน้าเรา 5 ปี วิธีที่สอง อยากรู้ทิศทางเงินเดือนจะเป็นอย่างไร ก็ไปดูว่าเจ้านาย หรือนายจ้างมีอุปนิสัยยังไง ถ้าขี้เหนียวก็ประมาณนั้น ทุ่มเทกับลูกน้องก็ประมาณนั้น แต่ถ้าเป็นเจ้านายแบบสายงานหลายทอดก็... จะบอกตามโครงสร้าง แต่ถ้าเป็นบริษัทขนาดเล็กสั่งการโดยตรงอันนี้จะดูออก ถ้าแบบแฟร์ ได้โปรเจคยักษ์ช่วยกันทำ ก็จ่ายกันไม่อั้น เลี้ยงกันเต็มที่... และผมก็จะทำแบบนี้เช่นกัน  ;D ;D ;D ;D ;D

เรื่องของเงินเดือน บ้างทีเอาไปเปรียบกับที่อื่นหรือคนอื่น ได้มากได้น้อย มันก็ลำบาก เพราะปัจจัยการพิจารณาอาจจะไม่เหมือนกัน มันก็อยู่ที่ว่า จะพึ่งพอใจกันทั้งสองฝ่าย  และที่สำคัญพึ่งพอใจที่จะทำงานต่อและสร้างสรรค์ผลงานหรือไม่ ถ้าไม่พอใจก็ลาออกไปหางานใหม่ แต่การเปลี่ยนงานบ่อย ๆ ระวังจะถูกมองเรื่องการเข้าสังคม อย่างประเทศญี่ปุ่นหลังแพ้สงครามโลกใหม่ ๆ คนที่ออกงานกลางคั่น จะไปสมัครงานใหม่ลำบาก ถ้าเหตุผลไม่ดีพอ เพราะเค้าถึงว่าไม่มีความจงรักภักดีต่อองค์กร เหมือนที่ทหารจงรักภักดีต่อองค์จักรพรรดิ์ แต่สมัยนี้คนไทย เข้า ๆ ออก ๆ บริษัทหนึ่ง ๆ กันเป็นว่าเล่น

ปล. เขียนแบบไม่ได้ตรวจทานเท่าไรผิดพลาดประการใดขออภัย อาจจะได้แนวคิดในบ้างเรื่อง

หมูปิ้งนี่อย่างโหดก็ต้อง หลัง มข. ตอนที่ผมอยากขายหมูปิ้งนี่ไปนั่งนับคนเข้าร้านเค้า ช่วงคนเบาบาง ชั่วโมงนึงเข้าประมาณ 30 คน แต่ถ้าช่วงคนหนาแน่นนี่น่าจะเป็นร้อย  ร้านนี้เปิด 24 ชั่วโมง น่าจะขายได้วันนึงอย่างน้อย 600 คน คนนึ่งเฉลี่ยต่ำสุกก็ 25 บาท รวมพวกค่าข้าวเหนียว ยอดขายอย่างน้อยๆวันละ 15000 แน่นอน เดือนนึงก็ไม่ต่ำกว่าแสน

ก็มีอีกร้านที่สนิทกะเค้า เค้าขายนมชงแก้วละ 15 บาท วันนึงก็ขายได้ราวๆ 250-400 แก้ กำไรลองเดาๆเอาว่าจะเท่าไหร่

อีกร้านก็เป็นโรตีร้านประจำ ผมสนิทกะอาบังแกมาก แกเล่าว่า วันนึงยอดขายจะประมาณ 2-3 พันบาท ลองคิดดูโรตีต้นทุนถูกรึแพง

อีกประเภทก็ผลไม้แช่เย็น เนื่องจากผมเคยเปิดร้านแบบนี้(แต่เจ๊งเพราะทำเล) เคยไปนั่งตีสินทกับพวกที่เค้าอยู่ทำเลดีๆ ผลไม้นี่กำไรครึ่งๆ ถ้าทำเลดีนะ วันนึงกำไรพันกว่าบาท ทั้งๆที่มีหลายร้านติดกัน ไม่เชื่อไปถามกังสดาน มข.

อีกร้านเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นแชมป์ร้านประจำผม วันนึงขายได้ 150-300 ชามตามช่วงเวลา ก็ลองเดาๆดูว่ากำไรจะเท่าไหร่

ส่วนผมคิดว่าจะกลับไปขายปุ๋ยที่บ้านละ ภายในสิ้นปีนี้แหละ เอา IT มาช่วยอย่างว่า คงได้เยอะกว่าไม่เอาพวกนี้มาร่วม

อ่านแล้ว เลยนึกถึงบทความนี้เลย
คุณคิดว่าเงินเดือนโปรแกรมเมอร์เหมาะสมหรือ(ยัง) http://www.webappiphone.com/blognone/node.php?content=1473 โดยคุณ deans4j (http://deans4j.wordpress.com/2007/04/12/against-idiot/)


พูดถึงอินเดีย ก็นึกถึงนี้ อีกแล้ว
http://www.bangkokbiznews.com/2008/02/02/news_25641111.php?news_id=25641111

Thailand Salary Handbook 2008/2009 by Kelly ...
http://www.thaiadmin.org/board/index.php?topic=96640.0

เพิ่มๆ กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,54269.0.html
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,56867.0.html

"วิกฤตการณ์ Programmer เมืองไทย เพราะอะไร ทำไม ถึงวิกฤติได้ขนาดนี้" http://pantip.com/topic/30186572

ตามที่ผมรู้สึกนะครับ การที่บางคนบอกว่า บริษัทมีกำไรที่ไม่มากพอที่จะจ้าง หรือเงินเดือนโปรแกรมเมอร์เยอะกว่าเงินเดือนเจ้าของอีก อันนี้ต้องปรับวิสัยทัศน์ของเจ้าของแล้วหล่ะครับ ว่ามองตลาดผิดพลาดอย่างไร ไม่ใช่มาลดเพดานเงินเดือนของลูกจ้าง มันเป็นคนละเรื่องกัน อย่างเช่นตลาดไหนมีคู่แข่งเยอะๆ แน่นอนครับ ว่าราคามันต้องต่ำ คุณก็ต้องไปลุยที่ตลาดอย่างอื่นที่มันน่าสนใจกว่า ไม่ใช่มาแข่งกันลดราคาแล้วบอกว่าได้กำไรน้อย

ส่วนคนที่ต้องการจะรับเด็กจบใหม่ ทำอะไรไม่เป็นเลย ผมว่ามันก็สมควรกับรายได้แล้วหล่ะครับ อาจจะดูมากไปด้วยซ้ำ เพราะถ้าพูดกันตามจริง มีเวลาเรียนรู้ตั้ง 4 ปี (เยอะมากๆ นะครับ) ไม่ยอมตั้งใจเรียน ทำอะไรไม่เป็นก็ต้องรับสภาพให้ได้กับเงินเดือนหล่ะครับ แต่ที่ผมเห็น เหมือนว่าคนที่จบมาแล้วทำอะไรได้เยอะๆ ก็พอมีเหมือนกัน แต่ฐานเงินเดือนต้องไปเท่ากับคนที่ทำอะไรไม่ได้เลย ผมเห็นส่วนใหญ่จะปรับเงินเดือนต้องรอ 3-4 เดือนถึงจะปรับให้ ผมว่าถ้าเป็นบริษัทเล็กๆ อยู่ด้วยกัน 1-2 อาทิตย์ เต็มที่ก็ 1 เดือน  ก็มองออกแล้วว่าเก่ง รึว่าไม่เก่งยังไง แต่ให้รอถึง 3-4 เดือนตามบริษัทใหญ่ๆ แต่เงินเดือนไม่มากตามไปด้วย มันเป็นการเอาเปรียบกันอ้อมๆ นะครับเนี่ย

เรื่องมันเป็นแบบนี้นี่เอง

งานทำไหวก็ทำ ทำไม่ไหวก็ออก ทำงานดีเค้าเพิ่มเงินเดือนให้ ทำงานไม่ดีเค้าก็ไล่ออก อยากได้เงินเยอะก็ไปบริษัทที่จ่ายเยอะถ้าทำไหวก็ทำไป ทำไม่ไหวก็เงินเดือนน้อยหน่อยไม่เป็นไร

สรุปประมาณว่า มันตามความพอใจของลูกจ้างที่จะทำงานกับนายจ้างคนไหน แ้ล้วก็ความสามารถของลูกจ้าง

คิดเองอย่าด่ากันน้า

ขายปุ๋ยอะดีสุดแล้ว พี่ก็ขายอยู่ ทำเองขายเอง ไม่มีเจ๊ง

555 ขายไม่ออกก็เอามาชำต้นไม้ขาย

นี่หล่ะเป็นสาเหตุที่ผมไปเปรียบกับยาม ไม่เปรียบกับแม่ค้าขายของ  เพราะข้างบ้านผม เป็นแม่ค้าขายผัก แต่ขับรถเบนซ์อ่ะครับ :P

อนาถใจแต่ละคำตอบ
แต่อนาถใจที่สุดคือคำที่บอกว่าคุณทำเงินให้บริษัทได้เท่าไร ก็จะได้เงินเดือนมาก
ผมว่าแผนการทำเงินกับแผนการตลาด น่าจะเป็นฝ่ายธุรกิจ,บัญชี,การตลาด ทำไปนะครับ
โปรแกรมเมอร์แค่รับคำสั่งให้ทำตามแผนงานที่ระบุไว้ให้เสร็จมากกว่า
ถ้าโปรแกรมเมอร์ต้องไปนึกถึงว่าจะสามารถทำเงินให้บริษัทได้มากเท่าไร
ยังงี้ไม่ต้องจ้างฝ่ายบัญชี,ฝ่ายการตลาด,ฝ่าย sale แล้วครับ
จ้างโปรแกรมเมอร์คนเดียวทั้งบริษัทก็พอ

อยู่ที่ความสามารถ ผลงาน การพรีเซน ตอนสมัครงานครับ

ผมได้งานตอนยังเรียนไม่จบ ( อยากลองทำแล้ว )  ไปสมัคร web programmer เอาผลงานไปโชว์ ได้เงินเดือน 18k ทำได้เดือนเดียว ลาออก  ขี้เกียจทำและ รู้สึกว่าไม่คุ้ม   เลยออกมารับงานเอง สบายใจ


ผมเห็นทำไมเดี๋ยวนี้ เงินเดือนด้านนี้ มันถูกจัง   น่าจะเป็นเพราะ นายจ้างกดราคามากกว่า  ยิ่งบริษัทไม่มีความรู้ด้านนี้แล้วยิ่งโดนกดมาก ยิ่งพวกบริษัททั่วไป แล้วรับคนไปนั่งทำเว็บบริษัท

ถ้ามีความสามารถไปทำงานในบริษัทที่เกี่ยวกับด้านนี้โดยตรง เช่น บริษัทรับทำเว็บที่ใหญ่ๆ เงินเดือนสูงแน่ครับ

ขี้เกียจอ่าน บริษัทจะจ่ายเงินเดือนให้เราได้สูงได้ บริษัทก็ต้องมารายได้มาก บริษัทจะจ่ายโบนัส ให้เราได้บริษัทก็ต้องมีกำไรมาก บริษัทจะเพิ่มเงินเดือนให้พนักงานได้ทุกปีๆ บริษัทก็ต้องมีรายได้เพิ่มขึ้นทุกปีๆ เป็นเปอร์เซ็นต์ที่มากกว่าอัตราขึ้นเงินเดือนของพนักงาน บริษัทจะทำอย่างที่กล่าวมาได้อย่างไง ก็จากพนักงานไง พนักงานทุกคนทุกแผนกทุกตำแหน่งควรช่วยกันทำงานให้บริษัทมีรายได้เยอะ ๆ กำไรเยอะ ๆ แล้วพวกเราก็จะได้เงินเดือนเพิ่มและโบนัสเพิ่มเอง อันนี้ผมพูดในฐานะลูกจ้างบริษัท และก็ในฐานะที่เจ้าของบริษัทนั้นเป็นเพื่อนผมด้วย ผมเลยรู้ทั้งด้านลูกจ้างและผู้ประกอบการ เหมือนโรเบิร์ต ณ พ่อรวยสอนลูก ยังไงยังงั้นเลย  ;D

ชอบอันนี้อ่ะ

ทำไม เงินเดือนน้อนขนาดนั้นเลยเหรอ ตอนที่ผมจบใหม่ เป็นโปรแกรมเมอร์ได้ 15K แล้ว(จบ 41ที่กทม)

ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเปรียบเทียบกับยาม อาชีพไหนๆก็ทำเงินได้ทั้งนั้น
แล้วทำไมขายก๋วยเตี๋ยวไม่ต้องจบ ป.ตรี ได้เงินดีกว่าโปรแกรมเมอร์
ทำไมคนเหล่านั้นเขาไม่ไปเป็นยามซะเลย ในเมื่อเงินเดือนเท่ากัน
เพราะโปรแกรมเมอร์มันเยอะ ใครก็เขียนโปรแกรมเป็น จะเก่งไม่เก่งก็อีกเรื่อง
โปรแกรมเมอร์ก็เหมือนกรรมกรดีๆนี่แหล่ะ ที่มีแรงงานเยอะ ทำให้นายจ้างมีตัวเลือกเยอะได้ คนไทยต้องการค่าแรงสูง
เขาก็ไปจ้างพม่าซะค่าแรงถูกกว่า ไม่ต้องง้อ โปรแกรมเมอร์ก็เหมือนกัน เขาไม่ได้จ้างแต่คนไทย โปรแกรมเมอร์อินเดียก็มี
ค่าแรงก็ต่ำกว่า เก่งกว่าคนไทยแถมได้ภาษาอังกฤษอีก
นายจ้างมีทางเลือก freelance ก็ยังมีให้แข่งขันกันหลายคน

ลืมค่าห้องไปป่าว :D

ผมว่าอันนี้ถูกครับ...

..."จ้างโปรแกรมเมอร์คนเดียวทั้งบริษัทก็พอ"  ถ้าคิดว่าโปรแกรมเมอร์ต้องหาเงินเข้าบริษัทเยอะๆ แล้วจะตั้งบริษัทมารับจ๊อบอย่างเดียวน่ะเหรอท่าน

อย่างนั้นโปรแกรมเมอร์เค้าโฆษณาเองว่าทำได้แล้วไม่ต้องเปิดบริษัทไห้เสียเงินดีกว่ามั๊ย

งั้นลองมองดูบริษัทผลิตรถยนต์
บริษัทมีกำลังผิตปีละ 10000 คัน
แต่ฝ่ายการตลาดเก่งมาก หาลูกค้าได้ปีละ 40000 คัน
ถามว่าบริษัทจะขายรถได้ปีละกี่คัน
แน่นอนว่าต้องได้เท่าๆกับที่ผลิตได้อยู่แล้ว

โปรแกรมเมอร์ก็เหมือนกัน ถึงฝ่ายการตลาดรับงานมาให้คุณได้เยอะ
แต่โปรแกรมเมอร์ทำงานนั้นไม่ทัน อาจจะทันได้ครึ่งเดียว
นั่นหมายความว่าต้องได้เงินทั้งหมดของงานที่ฝ่ายการตลาดได้รับมาทั้งหมดเหรอ มันไม่ใช่นี่
เพราะคุณทำงานทั้งหมดไม่ได้ เค้าก็ต้องจ้างเพิ่ม ค่าแรงคุณก็เท่าเดิมสิ
ไม่ใช่ว่าบริษัทรับงานได้เยอะขึ้น คุณก็ต้องได้เงินเยอะขึ้น ทั้งๆที่ทำงานได้เท่าเดิม
มันไม่ใช่ ถ้าคุณทำงานได้เท่าเดิม คุณก็สมควรจะมีรายได้เท่าเดิม จริงมั้ยครับ
เพราะฉะนั้นงานส่วนที่โปรแกรมเมอร์ทำได้จะต้องเอาไปคำนวณในต้นทุนด้วย

ส่วนเรื่องเงินเดือนน้อยๆ คุณต้องดูอุสงค์ และอุปทาน
ถ้าเงินเดือนน้อย ไม่มีคนสมัคร บริษัทเองก็ต้องดูว่าขึ้นเงินเดือนอีกจะมีกำไรมั้ย
ถ้ายังเหลือกำไร เค้าก็จะปรับขึ้นให้ แต่ถ้ารายรับเค้าได้น้อย ขึ้นเงินเดือนแล้วอยู่ไม่ได้
เค้าก็จะไม่ขึ้น และอาจจะปิดบริษัทไปเลย แต่จริงๆแล้วไม่ใช่หรอก เค้าให้น้อยๆนี่คนยังแย่งกันทำ

ผมเชื่อโดยสนิทใจว่าแต่ละบริษัทอยากให้เงินเดือนพนักงานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น นั่นแสดงถึงศักยภาพของคนที่มาสมัครจะเยอะขึ้นด้วย
แต่ว่าเค้าทำไม่ได้เท่านั้นเอง เพราะถึงพนักงานศักยภาพจะเยอะขึ้น
แต่ว่าราคาของงานที่ได้รับมันต่ำลงเรื่อยๆ เค้าก็ให้เงินเดือนแพงไม่ได้

ยิ่งจะไปบอกว่าก็พยายามรับงานให้ได้ราคาเท่าเดิมสิ โดยแถมนั่นแถมนี่
บริษัทเค้าก็จะมีต้นทุนเพิ่มขึ้น เริ่มจากต้นทุนเวลา เมื่องานต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้น
คนที่มีอยู่ไม่เพียงพอก็ต้องเพิ่มคน ซึ่งต้นทุนก็เพิ่มขึ้นอีก
นี่แสดงว่า การแถมงานไม่ใช่ทางออกที่ดีจริงหรือเปล่า เพราะงานที่แถมหมายถึงต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
แล้วเราจะทำงานเยอะกว่าเดิมแต่ได้ค่าตอบแทนน้อยลงไปทำไม
แต่ถ้าบริษัทรับตรงนี้ได้ และเอามาทำ มันก็ต้องส่งผลกระทบกับพนักงานอยู่แล้ว

ต้องมาดูกันเลยว่าสาเหตุที่รับงานได้ราคาถูกเพราะอะไร
มันก็เพราะมีการตัดราคากัน ซึ่งก็มาจากพวกที่ต้นทุนต่ำกว่า
เลยคิดราคางานได้ถูกกว่า เพียงเพราะเค้าไม่ได้มีต้นทุนในการบริการเหมือนบริษัทเท่านั้นเอง
บางทีไม่ต้องเสียภาษีด้วยซ้ำ ซ้ำรายพวกตัดราคาบางคนยังต้องการเงินเป็นแค่ค่าขนม
รับงานมาหมื่นนึงทำสามเดือนก็ได้ เพราะได้ค่าขนมเพิ่มตั้งสามพัน

ผมถึงบอกไงครับว่าอย่าร้องๆ บริษัทเค้าไม่ได้ผิด ไม่ได้กดเงินเดือนเรามากมายนักหรอก เพียงแค่คนที่กดอาจจะเป็นตัวเราเองก็ได้
รับเงินเดือนถูกๆไม่ได้ก็ออกมาทำ freelance ลองดูครับ ว่าจะได้เงินเยอะกว่าทำงานบริษัทมั้ย ในช่วงที่คุณพึ่งเริ่มนี่แหละ
ผมเชื่อว่าคุณทำได้น้อยกว่าแน่นอน ถ้าคุณยังไม่ใช่โปรแกรมเมอร์ที่มีประสบการณ์อยู่แล้ว เพียงแค่ต้นทุนค่ารถ ค่าแต่งตัวของคุณอาจจะน้อยลงเงินเลยเหลือเท่านั้นแหละ

มันก็เป็นไปตามกลไลของมันนะผมว่า มันคงไม่มีมาตราฐานในเมื่อคนที่ไม่ได้เรียนมาเค้าก็เขียนได้ สื่อการสอนมีกันตั้งเยอะตั้งแยะ สิ่งที่เป็นเป้าหมายของผมไม่ได้ถึงกับตั้งเป้าว่าจะต้องได้ค่าแรงในระดับไหน แต่คิดว่าเราทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหนมากกว่า ถ้าคิดว่าความสามารถกับความทุ่มเทที่ทำไปไม่คุ้มกับเงิน ผมก็ออก เค้าจ้างถูกเค้าก็ต้องรับความเสี่ยงเอาเอง

เด็กจบใหม่ เรียนมาแบบเรียนไปงั้น เขียนโปรแกรมแบบ Copy and Paste จ้างคนอื่นเขียนโปรเจ็ค คิดว่าจบได้มั้ย มันก็จบได้ ถึงอาจจะต้องพยายามแก้ พยายามซ่อม มันก็จบออกมาได้ แล้วจบออกมาแบบนี้เอาเงินเดือนเป็นหมื่น มันก็ไม่ถูก

ผมว่ามันไม่เกี่ยวหรอกว่าเรียนมาเสียค่าเล่าเรียนไปเท่าไหร่ ที่ถูกคือคุณได้อะไรมาจากการเล่าเรียน แล้วสิ่งที่ได้มาเราควรตีค่ามันมากน้อยแค่ไหน ไม่ใช่เราตีค่าของเราจากเงินที่เราใช้ไปในตอนเรียน

เค้าจ้างถูก เค้าก็ต้องเตรียมรับความเสี่ยงเอาว่ามันคงไม่ได้ดีดีหรอก ถ้าได้ดีเค้าก็ไม่่อยู่ทำให้ตลอดไปหรอก นอกจากทนเพื่อเอาผลงานไปเพิ่มมูลค่าตัวเอง แล้วไปสมัครที่อื่น สุดท้ายก็เสียไปอยู่ดี

บอลกำลังบอกว่า ไปเรียนหนะเสียเงินไปเรียน ก็รู้จักเรียนๆซะบ้าง อย่าเอาแต่เที่ยวเล่นไปวันๆ ขอแค่จบก็พอ แล้วมาบอกว่าใช้เงินไปเยอะ ทั้งๆที่เงินที่ใช้ไปไม่ได้เกี่ยวกับการเรียนเลย ใช่รึเปล่า  :D

ถ้าใช่นี่คงจะเป็นอย่างนี่ผมด่าน้องรหัส มันมาบ่นว่า ไม่ไหวพี่ไม่ไหว เรียนหนักโคตร เกรดได้มานิดเดียวเอง แต่ทุกวันผมจะเห็นมันออนเอ็ม พอทักว่าทำอะไรอยู่ 99.99 เปอร์เซ็นต์ มันบอกว่ากำลังเล่นเกมส์อยู่ แล้วแบบนี้ยังกล้าว่าตัวเองเรียนหนัก แถมบ่นด้วยว่าเรีน วิดวะคอม มันหนัก เสียเปรียบสาขาอื่นเค้าที่เรียนสบายกว่า ดูมันสิดูมัน  :-\

ถ้ากำลังผลิตไม่พอก็จ้างพนักงานเพิ่มสิครับ
เงินเดือน 8,000 spec ขั้นเทพ ไม่ค่อยกดเงินเดือนเลยเหอ ๆ

เดี๋ยวนี้  ต้องทำใจครับ เศรษฐกิจมะดีครับ พี่น้องง



 :(


 :(

จาก...นานาหาสตางค์ มันเริ่มจะ...นานาจิตตัง มันแบบนี้นี่เอง
 ;D ;D ;D

 :-[ :-[หนีไปเรียนเเพทย์   สาด.....................

ดีกว่า

ผมว่าจะไม่ โพส กระทู้นี้แล้วนะ

ผมก็ไม่ชอบเหมือนกันนะครับที่เอา โปรแกรมเมอร์ ไปเปรียบกับ ยาม คือมันเหมือนดูถูกคนอื่นครับ

ทำไมล่ะครับ ก็ อาชีพสุจริต เหมือนกันทำไมต้องมองว่า ยาม มันกระจอก ด้วย (อยากพยายมเถียงนะครับ เพราะ ผมคิดว่าคนที่เปรียบเทียบรู้สึกแบบนี้จริง ๆ)

แล้วถ้ามันจำเป็นต้องเลือกละ

ยามเงินเดือน 8500
โปรแกรมเมอร์ 8500

คุณจะทำงานอะไร (ย้ำนะครับว่าถ้ามันไม่มีทางเลือกนอกจากเงินจำนวนนี้) ผมคิดว่าหลาย ๆ คนถ้าทำได้ ก็คงจะทำ โปรแกรมเมอร์ เพราะ ???

ทำงานในร่ม
ไม่ต้องเสี่ยงโดนทำร้ายร่างกาย (ข่าวล่าสุดพึ่งโดนยิงตายแถวคลองเตย)
อีกหลายเหตุผล
( อ๋อ เก็บของเก่าขายได้เดือนล่ะ หลายหมื่น นะครับ ทำไมไม่ทำกัน เป็นโปรแกรมเมอร์เดือนล่ะไม่ถึงหมื่นทำไม  :-\  คงมีคำตอบในใจแล้วนะครับ )


เอาเป็นว่าถ้ารับ 8500 ไม่ได้ก็ไม่ต้องทำครับ จบ (ผมเองก็ไม่รับเงินเดือนเหมือนกัน มาทำ ฟรีแลนซ์เอง เพราะแถวนี้เค้าจ้างแค่ 6500 เองครับ)
แต่ผมก็ไม่ได้บ่นอะไร ผมคิดด้วยซ้ำถ้าผมมีช่องทางเยอะกว่านี้ ผมก็จะจ้างแพงกว่านี้ แต่เท่า ๆ ที่ดูตอนนี้ จะจ้างตัวเองเดือนล่ะ 6500 ยังแทบจะไม่รอดเลยครับ ขนาดทำอยู่กับบ้าน ค่าใช้จ่ายไม่มีอะไรมาก  :P

โปรแกรมเมอร์ สเป็คเทพๆ ในนิยามของคนที่บ่นเรื่องเงินเดือนน้อยนี่คืออะไรคะ
เรื่องของเรื่องมาจากเรื่องกระทู้ zencart ที่เชียงใหม่ใช่ไหม
หยินว่าถ้าใครแกะโค้ดไม่ได้ อ่าน php ไม่ออก ยังสมควรเรียกตัวเองว่าโปรแกรมเมอร์หรือเปล่า
นี่ก็เพิ่งหาโปรแกรมเมอร์เข้าบริษัทไปคนนึง ก็ให้เงินเดือนเรทที่ทุกคนบ่นกันนักหนาว่าน้อยโคตรนั่นแหล่ะ (หมื่นห้า)
แต่กว่าจะหาได้ เรียกมาสัมภาษณ์ไม่รู้กี่คน พวกที่เรียกเงินเดือนระดับหมื่นห้าเนี่ย
ทั้งๆที่คุณสมบัติที่กำหนด ไม่ได้มีความเทพอะไรเลย ขอแค่เขียน php ได้ อ่านโค้ดได้ โดยไม่ต้องกางหนังสือ แค่นี้เอง
เพื่อนเอาน้องมาฝาก บอกให้ลองดูหน่อย จบด้านไอทีมา พอถามว่าทำ php ได้ไหม ก็ใบ้รับประทาน ก็ยังสงสัยอยู่ว่าเรียนจบมาได้ไง

โปรแกรมเมอร์นี่มีไว้ทำไม ..

บ.ผมไม่มีโปรแกรมเมอร์ แต่สามารถ โม cms ได้ก็เลยไม่จ้างโปรแกรมเมอร์

จะเหน็บแนมผมว่าอ่าน php ไม่ออก แกะโค้ทไม่ได้ ยังเสนอหน้ามาแสดงความคิดเห็นทำไมยังงั้นรึเปล่าครับ
ที่ผมบอกว่าเงินน้อยไม่คุ้มนั่นมัน8000บาทครับ
ถ้า15,000ผมก็ว่าน่าทำมากมาย
ผมไม่ใช่โปรแกรมเมอร์และไม่ได้เรียกตัวเองว่าโปรแกรมเมอร์แต่อย่างใด
ผมแค่มีความฝันแค่จะเป็นโปรแกรมเมอร์และกำลังพยายามจะทำให้สำเร็จอยู่

ถ้าขัดหูขัดตาใครต้องขออภัยด้วยครับ

ทำงานเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ไปก่อนครับ ถ้าสามารถเขียนโปรแกรมได้เก่ง แล้วเด๋วเรื่องเงินจะตามมาทีหลังครับ แต่สำคัญอยู่ที่ว่าถ้าเขารับเราไปแล้วเราทำอะไรให้เขาได้บ้าง ถ้าทำอะไรไม่ได้นายจ้างจะคิดหนักครับ

สังคมสมัยนี้มันก็เป็นแบบนี้นี่ครับ
ยาม ใช้แรงงาน
โปรแกรมเมอร์ ใช้สมอง
หากคนใช้สมองเงินเดือนน้อยกว่าหรือเทียบเท่าคนใช้แรงงาน สู้ทำงานที่ใช้แรงงานไม่ดีกว่าหรือไม่ปวดหัวด้วย
อันนี้ผมพูดตามคนส่วนใหญ่คิดกันนะครับ(ซึ่งผมก็คิดแบบนี้)

ไม่พอใจเงินเดือนก็ไปทำที่อื่นสิ...งานเยอะจะตาย  :-\ :-\

เงินเดือนเท่าไรก็ทำครับ ถ้าหางานไม่ได้จริงๆ อีโก้สูงไปก็กินไม่ได้ ก็เรามันเป็นลูกจ้างเขานี่ คนที่ต้องการงานอย่างเรามีเป็นพัน
มันอยู่ที่ประสบการณ์มากกว่า นั่งสร้างกฎเกณฑ์ว่าโปรแกรมเมอร์ต้องได้เงินเท่างั้นเท่างี้ไปก็เท่านั้น ความเป็นจริงคือ บริษัทไหนเราพอใจเงินเดือนก็ทำไป ไม่ถูกใจก็ไม่ต้องทำ เขาไม่ได้ง้อเราทำ

ขออย่างเดียวไม่ต้องไปเทียบกับอาชีพอื่นๆ อยู่ที่ตัวเองนั้นแหละว่าจะเลือกอะไร

 8)

ครับ ผมเห็นเกือบทุกครั้งนะครับ ที่ชอบเอาไปเทียบกับ ยาม ขอด้วยเหมือนกันครับ  8)

กระทู้นี้ มาแรงแฮ่ะ

 :D

ตอนนี้ทำฟรีแล้นอยู่เหมือนกัน ว่าจะกลับไป ทำงาน กทม. เห็น เงินเดือนและ อยู่บ้าน ตจว. ต่อไปดีกว่า  :-X

อยู่ ตจว. คุณภาพชีวิต ดีกว่า กทม. มากมาย  :-* ใครมีงานส่งมาให้ทางนี้บ้างนะ

เราเป็นลูกจ้างอ่ะ เลือกอะไรไม่ค่อยได้หรอก นอกจากหาทุนมาลุยธุรกิจส่วนตัวสักตั้ง
"อนาคตคนจะฉลาดขึ้นเยอะ" คุณเคยเจอบริษัทที่ปลดพนง.เงินเดือนสูงๆ แล้วรับเด็กจบใหม่มาแทนมั้ยล่ะ
นั่นล่ะ อนาคตจะเห็นเยอะขึ้นเรื่อยๆ นายจ้างส่วนมากไม่มีทางโง่กว่าลูกจ้างหรอกนะครับ
ไม่งั้นนายจ้างจะมีกิจการเป็นของตนเองได้ไง ในระหว่างที่เราเป็นแ่ค่มนุษย์เงินเดือน

ไล่อ่านแล้วมันส์ดี ขอแจมซักหน่อย

ไอ้พวกที่ประกาศรับความสามารถระดับเทพ แต่จ้างถูกเว่อร์ อันนี้ ผมก็พอเห็นมั่งแต่ไม่เยอะนะ

ส่วนใหญ่จะเจอ เงินเดือนพอประมาณ ความสามารถพอประมาณ ซึ่งบางอัน บางคนที่ความสามารถไม่ถึง ก็จะบอกว่า เอ้ย ความสามารถระดับนั้นต้องเงินเดือนเท่านั้นเท่านี้ ผมบอกตามตรงเลยว่า ยิ่งมาช่วงหลังๆ เจอคนประเภทนี้บ่อยมาก ไม่ค่อยคิดพัฒนาตัวเองให้มีความสามารถในระดับที่ตลาดแรงงานต้องการ หรือระดับแข่งขันกับผู้อื่นได้ โดยอ้างว่า ระดับrequirementนั้นสูงไปเมื่อเทียบกับค่าจ้าง แล้วผมคิดเลยว่า ต่อไปภายภาคหน้า ไทยเราจะสูญเสียความสามารถในการแข่งขันให้ เราจะเป็นฝ่ายไล่ตามประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม แน่ๆ

อยากให้น้องๆที่จะจบมา ช่วยมองในเรื่องนี้ด้วย แน่นอนว่าถ้าเราพัฒนาความสามารถได้มากกว่าเงินเดือนที่ได้ แล้วคิดว่าสมควรได้เยอะกว่านี้ เปลี่ยนงานไปเลยครับ แต่ขอให้พัฒนาตัวเองเยอะๆหน่อย

แล้วก็เห็นด้วยอย่างนี้ กับคนที่บอกว่า เราสมควรได้เงินเดือนมากน้อยแค่ไหน ควรคิดด้วยว่า ตัวเราเองมีความสามารถ สร้างรายได้ หรือ สร้างมูลค่า ให้กับองค์กร แค่ไหน ผมเองก็มนุษย์เงินเดือนครับ แต่อยากบอกว่า คนที่โจมตีเจ้าของกิจการว่าเอาเปรียบ แสดงว่าไม่เคยเข้าใจเรื่องธุรกิจจริงๆ เป็นมนุษย์เงินเดือนสบายกว่าเจ้าของตั้งเยอะ งานมากงานน้อย ขายได้ไม่ได้ เงินเดือนก็ต้องจ่าย

ชอบมากครับ +999 เลย

[/quote]

ค่าที่พัก น้ำมันรถ นวดคลายเส้นเดือนละ 2 ครั้งที่ซายูริอีกล่ะครับ ไหนจะทิปน้อง ๆ อีก ว่าไปนั่น

 :-X

 :P
[/quote]

ซายูริ เจ้า~  อู๊ยยย  ซิ๊ดด   ขอลายแทงด่วนท่าน  งานเข้าล่ะ  (ผิอบอร์ดป่าวเนี่ย ฮาๆ)  :P

ไม่ได้เหน็บคุณคร๊าบบบ ขอโทษค่ะ ที่ทำให้เข้าใจผิด แต่เกี่ยวเนื่องกับโพสต์ของท่านอื่นๆที่พูดถึงมาตรฐานของเด็กที่จบมา
ซึ่งมันก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำไมโปรแกรมเมอร์เงินเดือนถึงน้อยนัก ก็ในเมื่อจบออกมาแล้วทำงานยังไม่เก่ง
พื้นฐานที่ควรจะทำได้ยังไม่แน่น ก็ต้องยอมลดค่าตัวลงมา ซึ่งพอคนนึงลด คนอื่นก็ลดตาม
กลายเป็นว่าค่าจ้างโดยรวมๆเลยน้อย
แต่บางคนที่จบมาแล้วเจอเงินเดือนสองสามหมื่นเลย มีไหม มันก็มี แต่แสดงว่าคนนั้นเจ๋งจริง ดวงดีด้วยที่ได้อยู่บริษัทที่เขาให้เยอะ

มันเป็นเรื่องที่พูดกันไม่มีวันจบแฮะเรื่องนี้

เพราะผู้จ้างต้องการพนักงานเงินเดือนต่ำ แต่ทำงานหนัก

ส่วนพนักงานก็อยากได้เงินเดือนสูง แต่ทำงานไม่หนักมาก

เอาเป็นว่าใครใคร่สมัครก็สมัคร ใครไม่ชอบก็สมัครที่อื่นดีที่สุดครับ  :P


ป.ล. ผมตอนเขียนโค้ดก็กางหนังสือน๊าา  :P จำ syntax กะ library ของแต่ละภาษาไม่ได้ เขียนหลายภาษาจัด  :-X

เงินเดือนโปรแกรมเมอร์

Skill / Programming Language 0 - 1 ปี 2 - 5 ปี 6 - 10 ปี
C / C++ 8,500 - 15,000 15,000 - 35,000 N/A
Power Builder 8,500 - 15,000 15,000 - 35,000 N/A
Java / JSP / J2EE 10,000 - 15,000 15,000 - 40,000 40,000 up
ABAP / 4 10,000 - 15,000 15,000 - 50,000 50,000 up
ASP / PHP / PERL 8,500 - 15,000 15,000 - 30,000 30,000 up
Visual Basic 8,500 - 15,000 15,000 - 30,000 30,000 up
Oracle PL/SQL 10,000 - 15,000 15,000 - 40,000 40,000 up
Symbian N/A N/A N/A
.Net Technology 10,000 - 15,000 15,000 - 50,000 N/A

เน็ตเวิร์ค

Skills / Job Title 0 - 1 ปี 2 - 5 ปี
PC Support / LAN Support 8,000 - 12,000 12,000 - 20,000
System / Network Admin 12,000 - 15,000 15,000 - 35,000
System / Network Engineer 12,000 - 15,000 15,000 - 35,000
Sales Engineer 15,000 - 20,000
+ Commission 20,000 - 40,000
+ Commission
Consultants 20,000 - 30,000
Jr. Consultant 30,000 - 80,000
Sr. Consultant
Information System Manager / Network Manager n/a 40,000 - 100,000
Telecom Technician / Engineer 12,000 - 18,000 18,000 - 40,000
Telecom SE 18,000 - 25,000 25,000 - 50,000
MIS Officer 12,000 - 25,000 15,000 - 35,000
Network Quality Assurance 15,000 - 20,000 20,000 - 60,000
Network Security 15,000 - 20,000 20,000 - 60,000
Pre-sales Consultants 20,000 - 30,000 30,000 - 80,000

ทีมงาน ThaiITJOBS.com

มีข้อสังเกตุอย่างหนึ่ง เมื่อประสบการณ์คบ 10 ปี เป็นจุดที่ต้องค้นหาตัวเองว่าอยากทำอะไรต่อไป เพราะ
เป็นโปรแกรมต่อไป นอกจากเงินเดือนอาจจะขึ้นช้าแล้ว อาจจะโดนกดดันให้ลาออก....
ยิ่งถ้าเป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยพัฒนา หรือเรียบรู้สิ่งใหม่ ๆ จะเป็นกลุ่มที่เสี่ยงจะถูกคนรุ่นต่อ ๆ มาไล่บี้

เมื่อถึงเวลานี้ในความคิดสนับสนุนเต็มที่ ถ้าจะลาออกไปเพื่อทำธุรกิจส่วนตัว อย่างน้อย...... เพื่อสร้างงาน
อย่างที่สองทำงานเพื่อคนอื่นมาก็เยอะล่ะ มาทำเพื่อตัวเองบ้างก็คงไม่แปลก แต่ก็อยู่ที่ความพร้อม

อืมมม  กระทู้นี้ไม่ยอมตกเลยแห่ะ


ความเห็นผม ที่จริงไม่เห็นต้องเป็นประเด็นอะไรกันมากเลยครับ   ที่จริงมันอยู่ที่ความพอใจของลูกจ้างแล่ะนายจ้างมากกว่า 


ถ้านายจ้างเสนอเงินเดือนให้ในเรตที่ต่ำ หรือ เรามองว่าเค้าเอาเปรียบเรา  ก็ไม่ต้องไปทำครับ !  มองหางานใหม่ที่ถูกใจกันต่อไป หรือถ้าเรามั่นใจในความสามารถจริงๆ  ก็เรียกเงินเพิ่มไปเลยครับ 

ปัญหาส่วนใหญ่ของพวกเรา คือ "ไม่กล้าพูด ไม่กล้าขอ" กันมากกว่า

ถ้าเราไม่เคารพในความสามารถของตัวเอง  ......  จะไปรอให้ใครเค้าเคารพหล่ะครับ !?!?


ส่วนนายจ้าง ถ้ามองว่าไอ้นี่มันเรียกเงินเดือนสูงเวอร์  ไม่คุ้มต้นทุนที่จะใช้ในการประกอบธุรกิจ ก็ไม่ต้องไปเสี่ยงจ้างครับ  ถึงจะเก่งเทพยังไง  ท้ายสุดบริํษัทจะเติบโตได้ คงไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนแค่คนเดียว !



ต้องหาจุดอยู่ร่วมกันตรงกลางครับ  ระหว่างนายจ้างแล่ะลูกจ้าง ..........   





ปล. ตอนผมจบโทใหม่ๆ เคยทดลองไปสมัครงานอยู่ที่นึง  ฝ่าฟันไปถึงรอบสุดท้าย จนเค้าจะรับเข้าทำงานอยู่แล้ว  เค้าถามผมว่า ผมอยากได้เงินเดือนเท่าไหร่ ? 

ผมนิ่งไป 3 วิ  แล้วตอบว่า  7 หมื่น !! 

คนสัมภาษณ์ถึงก่ะอึ้ง .......



แน่นอนครับ ...... หลังจากวันนั้น  เค้าก็ไม่เคยติดต่อผมกลับมาอีกเลย   ;D

ส่วนใหญ่ แล้ว จะ เห็น หน่วยงาน ที่เห็น ชัดเจน ว่าทำรายได้ เข้า บริษัท  มีความสำคัญ สูง เงินเดือน ก็ สูง ตาม  แต่ หน่วยงาน ไหน ที่ เป็นค่าใช้จ่าย ประเภท fixed cost ต้องเสียทุกเดือน กิจการ จะมีรายได้ มากหรือน้อย ก็ ต้อง จ่าย กลุ่ม นี้ ความสำคัญ เลยตก ไปทันที ในสายตาผู้บริหาร
 :P

บ้านเรา มันก็ เป็นอย่างนี้ แหละ คนอยู่ เบื้องหลัง อิอิ

เห็นด้วยกับของคุณโซวค่ะ

ถ้าเราต้องการเงินเดือนสูง
นายจ้างอยากได้เรา

แต่นายจ้างไม่มีเงินจ้าง
เค้าก็ไม่จ้างเราอยู่ดีค่ะ

พอดีพึ่งสมัครงาน แล้วได้งาน
ที่ทำงานเค้าก็บอกเรทเด็กจบใหม่ com-sci ราวๆ
12-17k แล้วแต่สถาบันและก็คุณภาพ

แต่พอดี resume ผลงานเยอะมาก
ทางนั้นก็สนใจเรา

แล้วเรียกไป 20k เค้าก็ให้อ่า

แต่กับอีกที่นึงที่เคยสมัครไว้
เว็บ p_nt_p.com
ขอไปเท่ากัน
เค้าก็ไม่เอา
มันเปลือง ฮาๆๆๆ


แอบขำ ปล. ของคุณโซวด้วย

 ;D ;D ;D

ใครๆ เค้าก็ทำกันคับ ผมได้ 9000 เอง

แต่งมาไห้ฮาแน่ๆเลยท่อนนี้... ;D

ความเห็นของบริษัทที่คุณโซวไปสมัครงาน : "โอ๊ววววว...ดีใจจังเราเจอผู้บริหารคนใหม่แล้ว..."(แต่ที่เค้าไม่ติดต่อกลับคงมีสาเหตุว่าตำแหน่งผู้บริหารเต็ม)  ;D

เรื่องเงินๆทองๆไม่เข้าใครออกใครงะ ชอบคำพูด เงินเดือนแค่นี้จะจ้างมาเป็นยามเหรอ   งั้นก็ทำตัวเป็นยามเสียเลยดีก่า (ยามเฝ้าเครือข่ายคอมพิวเอตร์) ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับ SEO ป่าว คลายเคลียดๆ 8)

ที่นิ่งไปเพราะ ยอมลดราคาจาก 1 แสนครับ  :P




ระดับเงินเดือน7หมื่นนี่เขาทำเงินให้องค์กรได้ 7-8หลักเลยล่ะครับ  ::)

ตอนทำงานเป็นวิศวะเครื่องกล สตาร์ทหมื่นแปด ทำไปปีนึงสมัครอีกที่ได้สองหมื่น

แต่ดันบ้า ทะเลาะกะหัวหน้า ทำได้สามเดือนลาออก ไปสมัครเป็นโปรแกรมเมอร์เงินเดือนหมื่นห้า จาบ้าตาย  :P

โห เจ๊มีบริษัทเป็นของตัวเองแล้วหรอ สุดยอด  :o

อยากได้เงินเดือนเยอะไม่ต้องเทพมากหรอก เขียนโปรแกรมเป็นนิดหน่อย ฝึกภาษาเยอะๆ หน่อย
เก่งกลางๆ สมัคร บริษัทฝรั่ง ก็ start 3-40000 แล้ว
 ;D
ฝรั่งสัมภาษณ์ ผมก็ใบ้รับประทาน ตัวซีด ปากสั่นแล้ว  :P เลยหนีมาทำ freelance ดีกว่า อยากได้ราคาเท่าไหร่ก็คิดเอา ไม่ทำก็แล้วไป  ;D โคตรหยิ่งเลยตู จนแล้วไม่เจียม

อ่านๆดูในความเห็นของแต่ละคนจะแฝงอะไรบางอย่างอยู่มากมาย...ซึ่งล้วนแล้วแต่จะคิดและผมคิดว่ากระทบจิตใจกันพอสมควร

...ถ้าลองไล่อ่านดูดีๆผมคิดว่าจะสรุปได้ดังนี้คือ ฝ่ายนายจ้างจะบอกว่าตนนั้นมีความเสี่ยงสูงจะจ้างแพงๆก็กลัวขาดทุน และหากจ้างแพงได้เทพมาทำงานแทนคนธรรมดาเทพผู้นั้นก็อาจทำไม่ทันงานที่ตนและองกรของตนหามาได้ ซึ่งมันก็เท่ากับได้คนธรรมดามาทำงานนี่แหละ แล้วตรูจะจ้างเทพราคาแพงมาทำงานทำไมในเมื่อเราจ้างถูกๆเค้าก็ทำได้ คนแย่งหางานกันถมถืด ใครก็ทำได้ทั้งนั้นแหละแค่ของพวกนี้ เอาเด็กไหม่มาปั้นเอาก็ได้ ส่วนพวกที่ร้องว่าเงินตนน้อยนั้นก็ทำเงินไห้บริษัทเยอะๆสิจะได้เพิ่มเงินเดือนไห้... :-X

...ดูยังไงๆก็เงินเดือนไม่ขึ้นครับสำหรับใครที่อยู่ทำงานกับบริษัทที่มีทัศนวิสัยแค่นี้...เพราะอย่างที่บอกว่าถ้าเค้าคิดว่าคนๆนึงมันก็ทำได้แค่นั้นเงินเดือนมันจะขยับเหรอ
และยังไงก็ยังยืนยันครับว่าโปรแกรมเมอร์มันก็แค่คนที่ทำหน้าที่ในตำแหน่งนึงขององกรเท่านั้น แต่งานที่เค้าทำได้นั้นสามารถสร้างรายได้หลักขององกรอยู่ ก็ควรไห้เค้า
ได้มากเป็นพิเศษเสมออยู่แล้ว ยกตัวอย่าง ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า(เลือกเอาแค่ยี่ห้อเดียวในใจนะ)มีฝ่ายขาย ฝ่ายโฆษณา และก็ฝ่ายผลิต คุณคิดว่าฝ่ายไหนควรได้เยอะที่สุด มันก็ต้องฝ่ายขายสิจริงมั๊ย เพราะเค้าเป็นคนหาลูกค้า และก็ขายสินค้าไห้ลูกค้า รวมทั้งต้องอธิบายคุณสมบัติและวิธีใช้ต่างๆและอื่นๆอีกมากมาย จะไปบอกว่าฝ่ายผลิตผลิตได้แค่ 10000 เครื่อง แต่ฝ่ายขายหาลูกค้าได้ 40000 จะขายได้เท่าไหร่ก็ตอบได้เลยว่าได้ 40000 เพราะถ้าไม่ผลิตเพิ่มก็เตรียมเจ๊ง รึไม่ก็ปิดกิจการไปเถอะถ้าคิดว่าบริหารแค่นี้ไม่ได้ และไม่คิดจะขยายกิจการของคุณไห้มันโตตอนที่คุณมีโอกาสอยู่ ....ขอจบการอภิปราย เลือกตั้งครั้งหน้าเบอร์ 1 กทม. นะครับ ;D

อันนี้ใช่เลย ;D
 

ผม 12000 ประสบการณ 1 ปี
ทำ php, javascript, java applertเบื้องต้น, flash ,flash action,css,Ajax,php oop,photoshop กับ Illus ได้แต่ไม่สวยก้อเลยไม่มีค่า แต่ไสล์รูปได้
คนที่อยู่นานกว่าปรึกษาเรื่องเทคนิคการเขียนโค้ดตลอด แต่ได้เงินเยอะกว่า

...
...


แต่ผมก็สู้ครับ

ตอนจบใหม่ สตาร์ท 30000กว่าครับ  (JAVA/oracle)

ผมว่าไปบวชเหอะเชื่อผม ได้บุญด้วย  :wanwan005:

นอกจากได้บุญแล้วยังฝึกสติด้วยนะ (สติปัฏฐาน 4)

ได้อะไรหลายอย่าง   :wanwan003:

มาคิดอีกทีหนึ่ง จริงๆ แล้ว เงินเดืิอน คือค่าชดเชยค่า้เสียโอกาส ตัวอย่างเช่น

ถ้าสมมติขายเต้าฮวยได้เดือนละ 8000 บาท เงินเดือนเราก็ต้องมากกว่า 8000 บาท เพื่อดึงเราออกจากการขายเต้าฮวย

เรามีโอกาสทางเลือกกันมากแค่ไหน

ไม่อยากบอกเลย ว่า หลายๆคนในนี้ จบมา start เงินเดือนสูงก่าผมด้วยซ้ำ
ย้อนนิด จบ วิดวะคอมราม จบมา ผม start 7500 งุงิ เพราะคำว่า คุณยังไม่มีประสบการณ์

จบโยธามา  ตอนนี้ทำงานเป็นทุกอย่างทั้ง Estimate วานแผน และควบคุมงาน  เขาสตาร์ทให้ 25k (เพิ่มให้อีก 6k หลังจากผ่านโปรฯงาน 4 เดือน เพราะมีค่า TOEIC ด้วย) จ่ายค่าคอมพ์ให้ด้วยประมาณครึ่งนึง(เป็นคูปองเติมน้ำมัน)  ตอนนี้ก็ทำเว็บของตัวเองด้วย  รับงานเขียนเว็บนิดๆ หน่อยๆ จุนเจือตัวเอง

รู้สึกเบื่อกับงานโยธา  อยากออกไปเขียนโปรแกรมแบบเต็มตัว  อยากเป็น Programmer มาก  รู้สึกว่าชอบกว่าไปยืนกลางแดดให้ 25k เผาค่าโลชั่น SPF80 กับปลอกแขนกัน UV

โม CMS เองพอได้แต่ต้องใช้เวลาหน่อย Java ฝืนๆ พอทน CentOS + MSSQL ก็เคยเปิดเซิร์ฟเกมมาแล้ว  ทำเป็นเซิร์ฟการกุศลทรัพย์หมดเลยต้องปิดตัวไป

พอเป็น C++ กับพวก Visual .NET บ้าง

ถามว่าถ้าผมจะไปเป็นโปรแกรมเมอร์ วศ.บ.โยธา จะมีที่ไหนเขารับไหม?ครับ  แล้วมันจะอยู่ที่เท่าไหร่ดีหงะเงินเดือนผมถ้าเขารับ  แล้วผมควรไปทำให้สิ่งที่ชอบดีปะ ถึงจะลำบากด้านการเงินกว่าเดือนนิดหน่อย

มันแล้วแต่มุมมองครับว่างานที่ทำ ทำไปเพื่ออะไร มีพี่ที่รู้จักทำงานITออกจากงานเงินเดือนสองหมื่นกว่า
ไปทำงานรัฐวิสาหกิจเงินเดือนไม่ถึงหมื่นเพื่อความมั่นคงในชีวิต และความเจริญก้าวหน้าในอนาคต  :P

ผมทดลองงานเดือนละ 6000 ยังไม่บ่นเลยครับ แต่ลาออกเลยพอพ้นเดือนที่ 2 แบบว่าเป็นงานแล้วไปก่อนนะ

อย่าเครียดกับเงินเดือนเลยครับ เอาเป็นว่าเราควรพอใจในสิ่งที่เรามี สิ่งที่เราเป็นครับ จะทุกข์จะสุขอยู่ที่ใจ แต่เงินก็เป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีพ ควรหันมาทำบัญชีรายรับ รายจ่ายกันนะครับ

จะได้ควบคุมการใช้จ่ายในแต่ละเดือน ไม่ช่วยได้มากก็ช่วยได้น้อยละครับ


 :wanwan044:

ผมคิดว่า เขาก็ตั้งให้ต่ำไว้ก่อน เพื่อลดความเสี่ยง

ถ้าจ้างน้อย เอามาเหอะเด็กใหม่ จะมีซักกี่คนที่ทำได้จริงและอยู่นานจริง ที่เขาสตาร์ทให้ต่ำนั้นแต่ไม่แน่ว่าเขาจะขึ้นให้อยู่แล้ว เพียงแต่เขาไม่มั่นใจในศักยภาพของคุณ ถ้าคุณมีศักยภาพจริง เขาไม่ขึ้นให้คุณให้สมน้ำสมเนื้อ คุณก็ลาออกได้ แถมได้ประสบการ์ณมาด้วย

และอีกอย่างคิดว่า บริษัทเองก็ทำนาบนหลังคนเช่นกัน ในบางที่ เขาไม่ได้มีการตลาด หรือมีวิสัยทัศน์อะไร ซึ่งทุกวันนี้การแข่งขันก็มีแต่จะรุนแรงขึ้น ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เด็กจบใหม่จะหางานยากขึ้น และถูกกดให้ใช้แรงงานหนักขึ้น

ปัญหาการละเิมิดลิขสิทธ์ อย่างว่า ขนาด open source ที่มันให้ได้แต่แจกจ่าย มันยังเอาไปขายหน้าตาเฉย (ทำครั้งเดียว ขายตลอด) ไม่ใช่ว่ารับจ้างทำนะ ^^ แล้วซอฟแวร์ ที่ลงทุนสูงล่ะ ยิ่งแล้วใหญ่เลย ลูกค้าเห็นก็ตาวาวแล้ว เพราะบ้านเรามันไม่มีจิตสำนึก ไม่งั้นคงมีคนทำซอฟแวร์ขายในไทยกันเกลื่อน

   ตอนนี้มันไม่ได้เงินเดือนน้อยกันแต่ Programmer หรอกครับ มันก็ทุกสาขาเเหละ ลองไปเปิดเว็บสมัครงานดู เงินเดือนต่ำกว่าเมื่อก่อนเยอะ ยกตัวอย่าง engineer บางที่ให้แค่ 11,000 บาทเอง แต่ท่ามกลางการกดราคาแรงงานจบใหม่ มันก็ยังมีบริษัทที่ให้เงินเดือนเยอะมากๆอยู่ อยู่ที่ว่าคุณจะมีความพร้อมและความสามารถแค่ไหน ที่จะเเข่งขันกับคนอื่นที่เป็นคู่แข่งของคุณ เงื่อนไขนี้มันใช้ได้กับทุกสาขาอาชีพครับ ไม่เฉพาะ engineer
  
  ทีนี้ขอยกตัวอย่างเพื่อนโปรเเกรมเมอร์คนนึง ก็ได้เคยให้เค้าช่วยทำงานให้ ไม่คิดเงินผมอีก บอกโทษฐานที่รู้จักกัน ได้ร่วมงานกันยอมรับว่าเก่งมากครับ แต่พอถามไปถามมา เค้าบอกว่าเรียนไม่จบนะ(ที่วิดคอม ราม) เรียนได้ปี1ปีเดียว แต่อาศัยรับงานมาทำและเพิ่มประสบการณ์ ตอนนี้อายุ30 ทำงานบริษัทแห่งนึงเงินเดือน25000 ไม่เยอะหรอกคนอายุขนาดนี้ ก็วุทมันแค่ม.6อ่ะนะ เก่งแค่ไหนเค้าก็กดเงินเดือน แต่ว่าเพื่อนผมคนนี้รับงานนอกเดือนนึงหลายแสนครับ  ...มันก็ไม่แน่เสมอไปว่าโปรเเกรมเมอร์จะเงินเดือนน้อย มันอาจจะน้อยในที่นึงแต่อาจจะมากในอีกที่นึง เราต้องเสาะเเสวงหาโอกาสนั้นๆเองล่ะครับ ผมว่าวงการ ไอทีนี่หยิบจับอะไรก็เป็นเงินนะ ต้นทุนจะเป็นสมองซะส่วนใหญ่  คิดสิ่งสร้างสรรค์ออกมา มันก็เปลี่ยนเป็นเงินได้แหละครับ  ขอจบการรายงานแต่เพียงเท่านี้  :wanwan019:
  

คอมเครื่องนี้หาเงินได้เดือนละห้าแสน http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,86582.0.html

คนเก่งๆเทพๆ แนะนำให้ทำงานต่างประเทศครับ คุ้มกว่า มีคลาสกว่าครับ อยู่เมืองไทยแค่ทางผ่านครับ... :wanwan016:

อยู่เมืองไทยเก่งก็จริง เงินเดือนก็แค่นั้นแหละ ยิ่งเจอเจ้าของขี้งก..ก็ไปกันใหญ่ปวดตับด้วย

555...ซะใจประเทศไทยสมองไหล รีบๆพัฒนากันเข้านะ.. :wanwan014: ประชดเฟ้ยยย

แวะมาให้อ่านครับตัวผมเอง ตำแหน่งสูงสุด Supervisor Of Technician Support เงินเดือน 15,000 ค่าคอมมิสชั่น ไม่เกิน 5,000 บาท(ที่บริษัทจะให้ค่าคอมมิสชั่นเมื่อซ่อมเครื่องด้วย แต่ไม่มีโอที)

เป็นลูกน้องเค้ามันก็ได้เท่านี้ล่ะครับ เงินดงเงินเดือน ไปง้อทำไมนายจ้าง เงินมากเงินน้อย มันอยู่ที่ความสามารถของเรา ถ้ามีความสามารถ ออกมาทำเอง อยากทำอะไรก็รับไปเองไม่ต้องมานั่งบ่นว่า เจ้านายได้ แสนสองแสน เราได้แค่ หมื่นสองหมื่น

คนมีวุฒิยังดีเลือกได้ ไอ้พวกไม่มีวุฒิอย่างผม ไม่มีทางเลือก ต้องสร้างมันเองไอ้ทางเลือกเนี่ย

ตอนนี้ตกงานครับ มีใครจ้างไหม

ก็ไม่ต้องรับงานซิ

ไปหางานที่คนจ้างแพงๆ ซิครับ

ไม่ได้บังคับนะ

อย่าเคียดอย่าว่า กันเถาะเด้อนาง
ถ้าเห็นผู้บ่าวฮ้างฮ้าง รบกวนน้องทางสายตา
เป็นลูกจ้างเขา งานหลายเจ้านายเขาว่า
ทางออกคือหลอยส่งตา
เก็บภาพเจ้ามาหล่อเลี้ยงแรงใจ

 :wanwan020: :wanwan013: :wanwan014:

ก็ไม่ต้องไปสมัคร จบข่าว.....

เค้ามีคนไปสมัครเยอะแยะ  :wanwan004:

 :P :P 2009

ใจเย็นๆครับ  ผมว่าคุณใช้คำแรงไปนิด
  ถ้าบริษัทไหนเงินเดือนน้อยเราก็ไม่ต้องไปสมัคร :'(
   มันอยู่ที่อุปสงค์และอุปทาน :wanwan012:
 

ผมว่าหลายๆคน ลืมนึกถึงการลงทุนของเจ้าของบริษัท
การลงทุน ย่อมต้องการแสวงหาผลกำไร และอยู่ภายใต้ความเสี่ยง
บริษัทลงทุน 2 ล้าน
ได้กำไรเดือนละ 1แสน
 คุณเงินเดือน 1 หมื่น คุณบอกว่าได้น้อยเมื่อเทียบกับกำไรของบริษัท
 แต่คุณลืมนึกไปว่า บริษัทต้องรับความเสี่ยง
 ถ้าเกิดบริษัทขาดทุน 2 แสน คุณจะช่วยออกซักแสนไหม :P
บริษัทลงทุน และรับความเสี่ยง ส่วนคุณลงแรง ส่วนแบ่งย่อมแตกต่างกัน

 

เห็นด้วยกับความเห็นนี้ :wanwan004: :wanwan004: :wanwan004:

ผมเสนอนะ ช่องทำเงินเลย คนเงินเดือนน้อยเนี่ย

ทำ imacro
ไม่ก็เขียนโปรแกรม linkwheel pliggบ้างblogบ้าง อะไรบ้าง มาขายในนี้สิครับคนซื้อเยอะแยะ เก็บรายกี่เดือนก็ว่าไป ทำโปรแกรมดีๆใช้ง่ายเช็คง่าย

ยิ่งเว็บมืดๆนี่ยังไม่มีใครทำเลยนะครับ100IP 200IPเนี่ย
นี่ไงทางเลือก...
โปรแกรมเมอร์ที่บอกเงินเดือนน้อยๆอ่ะ ลองทำดูสิครับ เดือนละ500 ได้ 30 คนก็ 15000แล้วนะเออ
เดือนนึงแก้บั๊กทีละจุดสองจุดให้รู้ว่าเออยังพัฒนาอยู่นะ ทำแผนพัฒนามาเดือนนี้แก้จุดไหนบ้างแค่นี้ลูกค้าสบายใจแล้ว
แล้วอนาคตตลาด E-comฯ ไทยจะโตขึ้นเรื่อยๆ เรื่องแข่ง SEO มีมากขึ้นแน่นอน กินได้ยาวเลยนะครับ ดู Goal Rank ดิคับ
ทีนี้จะเอากำไรไปลงทุนอะไรต่อก็ว่ากันไปเป็นเรื่องกระจายความเสี่ยงละ

คิดแบบเจ้าของกิจการ เพราะผมก็เขียนโปรแกรมไม่เป็น หาตัวช่วยอยู่ เขียนมาแข่งกันเยอะๆจะได้มีของดีออกมา ผมอยากได้ของดีคุ้มราคามาใช้ ของถูกบั๊กเพียบ ซื้อมาใช้ไม่ได้ถามไปก็ไม่ตอบแบบนี้เซงก็กุใช้ไม่เป็นทำไมไม่ทำให้มันใช้ง่ายกว่านี้ฟร้าา~
มีต่อครับ..

ทำงานประจำมันก็เหมือนเรียกเงินก้อนโตจากแหล่งเดียว ถ้าเงินเดือนสูง ไอ่คนจ้างยังไม่รู้เลยมันเข้ามามันจะทำเงินให้เราได้จิงป่าวว่ะเนี่ย จะผ่านโปรมั๊ยเนี่ยคนนี้ ก็ต้องกดไว้ก่อนอ่ะคับเป็นเรื่องปกติ

คุณก็ฉีกออกมาซะ จากเก็บเงินจากที่เดียวก้อนใหญ่ มาเป็นก้อนเล็กๆจากหลายๆที่ หาเรื่อง serviceอะไรซักอย่างรายเดือนราคาคุ้มค่า จัดระบบทำงานให้ดีๆ ใช้เครื่องไม้เครื่องมือซะบ้างช่วยทุ่นแรง ไม่ก็แบ่งงานให้น้องๆนักศึกษาบ้าง พวกนี้ต้องการเก็บพอร์ทอยู่แล้ว ก็บอกเด็กมันไปว่าเอาประสบการณ์ไปก่อนนะ ตอนเป็นนักศึกษาก็อยากลองหาเงินดูกันทั้งนั้นแหละนึกถึงตอนเราเป็นนักศึกษาดิคับ

สรุปหลักๆคือ อยากเปลี่ยนชีวิตต้องเปลี่ยนวิธีคิดจากมดงานมาเป็น นักวางแผน จากที่มีนายจ้างวางแผนให้ทำนู่นทำนี่ เราต้องมาวางแผนเองคุยกับลูกค้าเองจัดการบัญชีเอง ไม่ยากเกินไปหรอกคับ หนังสืออยากเป็นเจ้าของธุรกิจแนวนี้ก็มีให้อ่านเยอะลองหาๆดู

ลองเริ่มจากเขียนพวก link wheel ที่ผมเสนอไปก่อนหน้านี้ดูก่อนก็ได้ครับ ซ้อมๆดูก่อน
เพราะเขียนโปรแกรมเป็นอย่างเดียวไม่เพียงพอจะเป็นธุรกิจไ้ด้นะครับ ต้องคุยเป็น ประเมินราคาเป็น serviceตอบปัญหาลูกค้าได้เวลามีปัญหา และต้องรู้วิธีหาลูกค้าเองด้วยนะครับ
อยู่ที่คุณแล้ว จะกำหนดเงินเดือนตัวเอง หรือจะคอยให้เขามาบอกว่า คุณควรได้เงินเดือนเท่าไหร่