อนาถใจแต่ละคำตอบ
แต่อนาถใจที่สุดคือคำที่บอกว่าคุณทำเงินให้บริษัทได้เท่าไร ก็จะได้เงินเดือนมาก
ผมว่าแผนการทำเงินกับแผนการตลาด น่าจะเป็นฝ่ายธุรกิจ,บัญชี,การตลาด ทำไปนะครับ
โปรแกรมเมอร์แค่รับคำสั่งให้ทำตามแผนงานที่ระบุไว้ให้เสร็จมากกว่า
ถ้าโปรแกรมเมอร์ต้องไปนึกถึงว่าจะสามารถทำเงินให้บริษัทได้มากเท่าไร
ยังงี้ไม่ต้องจ้างฝ่ายบัญชี,ฝ่ายการตลาด,ฝ่าย sale แล้วครับ
จ้างโปรแกรมเมอร์คนเดียวทั้งบริษัทก็พอ
งั้นลองมองดูบริษัทผลิตรถยนต์
บริษัทมีกำลังผิตปีละ 10000 คัน
แต่ฝ่ายการตลาดเก่งมาก หาลูกค้าได้ปีละ 40000 คัน
ถามว่าบริษัทจะขายรถได้ปีละกี่คัน
แน่นอนว่าต้องได้เท่าๆกับที่ผลิตได้อยู่แล้ว
โปรแกรมเมอร์ก็เหมือนกัน ถึงฝ่ายการตลาดรับงานมาให้คุณได้เยอะ
แต่โปรแกรมเมอร์ทำงานนั้นไม่ทัน อาจจะทันได้ครึ่งเดียว
นั่นหมายความว่าต้องได้เงินทั้งหมดของงานที่ฝ่ายการตลาดได้รับมาทั้งหมดเหรอ มันไม่ใช่นี่
เพราะคุณทำงานทั้งหมดไม่ได้ เค้าก็ต้องจ้างเพิ่ม ค่าแรงคุณก็เท่าเดิมสิ
ไม่ใช่ว่าบริษัทรับงานได้เยอะขึ้น คุณก็ต้องได้เงินเยอะขึ้น ทั้งๆที่ทำงานได้เท่าเดิม
มันไม่ใช่ ถ้าคุณทำงานได้เท่าเดิม คุณก็สมควรจะมีรายได้เท่าเดิม จริงมั้ยครับ
เพราะฉะนั้นงานส่วนที่โปรแกรมเมอร์ทำได้จะต้องเอาไปคำนวณในต้นทุนด้วย
ส่วนเรื่องเงินเดือนน้อยๆ คุณต้องดูอุสงค์ และอุปทาน
ถ้าเงินเดือนน้อย ไม่มีคนสมัคร บริษัทเองก็ต้องดูว่าขึ้นเงินเดือนอีกจะมีกำไรมั้ย
ถ้ายังเหลือกำไร เค้าก็จะปรับขึ้นให้ แต่ถ้ารายรับเค้าได้น้อย ขึ้นเงินเดือนแล้วอยู่ไม่ได้
เค้าก็จะไม่ขึ้น และอาจจะปิดบริษัทไปเลย แต่จริงๆแล้วไม่ใช่หรอก เค้าให้น้อยๆนี่คนยังแย่งกันทำ
ผมเชื่อโดยสนิทใจว่าแต่ละบริษัทอยากให้เงินเดือนพนักงานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น นั่นแสดงถึงศักยภาพของคนที่มาสมัครจะเยอะขึ้นด้วย
แต่ว่าเค้าทำไม่ได้เท่านั้นเอง เพราะถึงพนักงานศักยภาพจะเยอะขึ้น
แต่ว่าราคาของงานที่ได้รับมันต่ำลงเรื่อยๆ เค้าก็ให้เงินเดือนแพงไม่ได้
ยิ่งจะไปบอกว่าก็พยายามรับงานให้ได้ราคาเท่าเดิมสิ โดยแถมนั่นแถมนี่
บริษัทเค้าก็จะมีต้นทุนเพิ่มขึ้น เริ่มจากต้นทุนเวลา เมื่องานต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้น
คนที่มีอยู่ไม่เพียงพอก็ต้องเพิ่มคน ซึ่งต้นทุนก็เพิ่มขึ้นอีก
นี่แสดงว่า การแถมงานไม่ใช่ทางออกที่ดีจริงหรือเปล่า เพราะงานที่แถมหมายถึงต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
แล้วเราจะทำงานเยอะกว่าเดิมแต่ได้ค่าตอบแทนน้อยลงไปทำไม
แต่ถ้าบริษัทรับตรงนี้ได้ และเอามาทำ มันก็ต้องส่งผลกระทบกับพนักงานอยู่แล้ว
ต้องมาดูกันเลยว่าสาเหตุที่รับงานได้ราคาถูกเพราะอะไร
มันก็เพราะมีการตัดราคากัน ซึ่งก็มาจากพวกที่ต้นทุนต่ำกว่า
เลยคิดราคางานได้ถูกกว่า เพียงเพราะเค้าไม่ได้มีต้นทุนในการบริการเหมือนบริษัทเท่านั้นเอง
บางทีไม่ต้องเสียภาษีด้วยซ้ำ ซ้ำรายพวกตัดราคาบางคนยังต้องการเงินเป็นแค่ค่าขนม
รับงานมาหมื่นนึงทำสามเดือนก็ได้ เพราะได้ค่าขนมเพิ่มตั้งสามพัน
ผมถึงบอกไงครับว่าอย่าร้องๆ บริษัทเค้าไม่ได้ผิด ไม่ได้กดเงินเดือนเรามากมายนักหรอก เพียงแค่คนที่กดอาจจะเป็นตัวเราเองก็ได้
รับเงินเดือนถูกๆไม่ได้ก็ออกมาทำ freelance ลองดูครับ ว่าจะได้เงินเยอะกว่าทำงานบริษัทมั้ย ในช่วงที่คุณพึ่งเริ่มนี่แหละ
ผมเชื่อว่าคุณทำได้น้อยกว่าแน่นอน ถ้าคุณยังไม่ใช่โปรแกรมเมอร์ที่มีประสบการณ์อยู่แล้ว เพียงแค่ต้นทุนค่ารถ ค่าแต่งตัวของคุณอาจจะน้อยลงเงินเลยเหลือเท่านั้นแหละ