ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comอื่นๆCafe?????? เงินเดือนโปรแกรมเมอร์ครับ ????????
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ?????? เงินเดือนโปรแกรมเมอร์ครับ ????????  (อ่าน 35601 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
newlife
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 5
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 233



ดูรายละเอียด
« ตอบ #60 เมื่อ: 24 มีนาคม 2009, 10:20:18 »

อนาถใจแต่ละคำตอบ
แต่อนาถใจที่สุดคือคำที่บอกว่าคุณทำเงินให้บริษัทได้เท่าไร ก็จะได้เงินเดือนมาก
ผมว่าแผนการทำเงินกับแผนการตลาด น่าจะเป็นฝ่ายธุรกิจ,บัญชี,การตลาด ทำไปนะครับ
โปรแกรมเมอร์แค่รับคำสั่งให้ทำตามแผนงานที่ระบุไว้ให้เสร็จมากกว่า
ถ้าโปรแกรมเมอร์ต้องไปนึกถึงว่าจะสามารถทำเงินให้บริษัทได้มากเท่าไร
ยังงี้ไม่ต้องจ้างฝ่ายบัญชี,ฝ่ายการตลาด,ฝ่าย sale แล้วครับ
จ้างโปรแกรมเมอร์คนเดียวทั้งบริษัทก็พอ
บันทึกการเข้า

 *Image Removed*
ballmdr
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 14
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 772



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #61 เมื่อ: 24 มีนาคม 2009, 10:38:42 »

อยู่ที่ความสามารถ ผลงาน การพรีเซน ตอนสมัครงานครับ

ผมได้งานตอนยังเรียนไม่จบ ( อยากลองทำแล้ว )  ไปสมัคร web programmer เอาผลงานไปโชว์ ได้เงินเดือน 18k ทำได้เดือนเดียว ลาออก  ขี้เกียจทำและ รู้สึกว่าไม่คุ้ม   เลยออกมารับงานเอง สบายใจ


ผมเห็นทำไมเดี๋ยวนี้ เงินเดือนด้านนี้ มันถูกจัง   น่าจะเป็นเพราะ นายจ้างกดราคามากกว่า  ยิ่งบริษัทไม่มีความรู้ด้านนี้แล้วยิ่งโดนกดมาก ยิ่งพวกบริษัททั่วไป แล้วรับคนไปนั่งทำเว็บบริษัท

ถ้ามีความสามารถไปทำงานในบริษัทที่เกี่ยวกับด้านนี้โดยตรง เช่น บริษัทรับทำเว็บที่ใหญ่ๆ เงินเดือนสูงแน่ครับ
บันทึกการเข้า

arabanaki
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 37
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,820



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #62 เมื่อ: 24 มีนาคม 2009, 11:09:08 »

ขี้เกียจอ่าน บริษัทจะจ่ายเงินเดือนให้เราได้สูงได้ บริษัทก็ต้องมารายได้มาก บริษัทจะจ่ายโบนัส ให้เราได้บริษัทก็ต้องมีกำไรมาก บริษัทจะเพิ่มเงินเดือนให้พนักงานได้ทุกปีๆ บริษัทก็ต้องมีรายได้เพิ่มขึ้นทุกปีๆ เป็นเปอร์เซ็นต์ที่มากกว่าอัตราขึ้นเงินเดือนของพนักงาน บริษัทจะทำอย่างที่กล่าวมาได้อย่างไง ก็จากพนักงานไง พนักงานทุกคนทุกแผนกทุกตำแหน่งควรช่วยกันทำงานให้บริษัทมีรายได้เยอะ ๆ กำไรเยอะ ๆ แล้วพวกเราก็จะได้เงินเดือนเพิ่มและโบนัสเพิ่มเอง อันนี้ผมพูดในฐานะลูกจ้างบริษัท และก็ในฐานะที่เจ้าของบริษัทนั้นเป็นเพื่อนผมด้วย ผมเลยรู้ทั้งด้านลูกจ้างและผู้ประกอบการ เหมือนโรเบิร์ต ณ พ่อรวยสอนลูก ยังไงยังงั้นเลย  Grin
บันทึกการเข้า

MrWebmonster
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 124
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,922



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #63 เมื่อ: 24 มีนาคม 2009, 11:33:18 »

อย่ามอง IT เป็นงาน IT ครับ ลองหาภาคธุรกิจอื่นๆที่ทำกำไรมากๆ แล้วเอาความรู้ทางด้าน IT ไปปรับใช้กับธุรกิจที่เราทำเพื่อสร้างโอกาสที่มากขึ้นสร้างช่องทางที่มากขึ้น เอา IT ไปลดต้นทุน เพิ่มผลตอบแทนของการลงทุน ลดความซับซ้อนในการบริหาร ลดเวลาในการนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาด เพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารธุรกิจที่เราทำอยู่ หากเราหวังจะไปเอาเงินเดือนจากการจ้างงานทางด้านไอทีปัจจุบันมันคงไม่ทำให้คุ้มค่ากับที่เรียนมาครับ

มีเรื่องนึงที่ผมเคยคิดอยากจะเล่าให้ฟังเผื่อว่าบางคนเคยลองคิดเล่นๆแบบผมก็เอามาเล่าให้ฟังกันนะครับ
มีช่วงหนึ่งที่ผมทำงานอยู่ที่อาคารเล้าเป้งง้วนทาวเวอร์ ข้างๆตึกซันทาวเวอร์ตรงข้ามเซนต์จอร์น ตอนซื้อขาวเหนียวหมูปิ้งตอนเช้าก็ชวนแม่ค้าคุยเล่นพลางนับหมู่ที่ยังไม่ได้ปิ้งอยู่ในกล่องที่เค้าเตรียมไว้ดูว่ามีกี่ไม้ เลยถามเค้าว่าคุณป้าทำวันละกี่ไม้ครับเนี่ยขายดีจัง ตอนยื่นนับอยู่นับได้สามร้อยกว่าไม้ ป้าเค้าตอบว่าหมูปิ้งเค้าทำวันละ 500 ไม้ ขายหมดประมาณบ่ายสองโมงของทุกวัน แต่ป้าเค้าขายอย่างอื่นด้วยเช่นพวกไก่ย่างข้าวเหนียวนี่ก็ยังไม่ได้นับ ป้าเค้าบอกว่ากำไรครึ่งต่อครึ่ง เลยลองคูณดู หยุดเสาร์อาทิตย์เหลือเดือนละประมาณ 22 วัน x 500 เท่ากับเดือนละ 11,000 ไม้ ไม้ละ 5 บาท รวมเป็นเงิน 55,000 บาท กำไรครึ่งหนึ่งของยอดขาย ก็ได้ประมาณ 27,500 บาทต่อเดือน ในส่วนของหมูปิ้ง คุณป้าก็พูดอย่างภูมิใจว่า ลูกสาวคนที่ยืนช่วยขายอยู่ป้าส่งเรียนเซนต์จอร์น กำลังเรียนอยู่ นี่คนเล็ก ส่วนคนโตเรียนจบแล้วเซนต์จอร์นเหมือนกัน ผมคิดเอาเองนะว่าถ้ารวมทุกอย่างแล้วคุณป้าเค้าน่าจะได้กำไรสักประมาณเดือนละ 40,000 บาท
ซุ่มกาแฟเล็กๆในอาคารเดียวกัน ลองถามเหมือนกันครับ เค้าบอกว่าขายได้เฉลี่ยวันละ 250 แก้ว ราคาแก้วละ 25 บาท ถ้าขายเดือนละ 22 วันก็จะได้เดือนละประมาณ 5,500 แก้ว เป็นยอดเงินประมาณ 137,500 บาท เป็นต้นทุนเท่าไหร่ กำไรเท่าไหร่ผมไม่ทราบนะ แต่ถ้าไม่มีค่าลิขสิทธิ์ ได้ได้กำไรเกินครึ่งสำหรับกาแฟครับ

ยังมีอีกหลายอย่างครับลองมองไปรอบๆตัว อยากให้มองว่างานคืองานครับ ถ้า IT เป็นสิ่งที่ชอบมันก็คือส่วนหนึ่งของชีวิต แต่หากคิดจะเอาเงินเยอะ ก็มองไปรอบๆตัวจะง่ายกว่าครับ


ชอบอันนี้อ่ะ
บันทึกการเข้า

รวมเรื่อง สัพเพเหระ ไอที แก้ปัญหาไวรัส คอมพิวเตอร์ทิป อินเตอร์เน็ตทิป โค้ด รหัส Ascii สัญลักษณ์facebook Messenger LINE Gplus Instagram แก้ปัญหาเว็บเบราเซอร์ สู้ๆ น้าาาาา ~
pomchai
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 21
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 841



ดูรายละเอียด
« ตอบ #64 เมื่อ: 24 มีนาคม 2009, 12:01:37 »

ทำไม เงินเดือนน้อนขนาดนั้นเลยเหรอ ตอนที่ผมจบใหม่ เป็นโปรแกรมเมอร์ได้ 15K แล้ว(จบ 41ที่กทม)
บันทึกการเข้า
moonoi
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 14
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 771



ดูรายละเอียด
« ตอบ #65 เมื่อ: 24 มีนาคม 2009, 13:31:27 »

ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเปรียบเทียบกับยาม อาชีพไหนๆก็ทำเงินได้ทั้งนั้น
แล้วทำไมขายก๋วยเตี๋ยวไม่ต้องจบ ป.ตรี ได้เงินดีกว่าโปรแกรมเมอร์
ทำไมคนเหล่านั้นเขาไม่ไปเป็นยามซะเลย ในเมื่อเงินเดือนเท่ากัน
เพราะโปรแกรมเมอร์มันเยอะ ใครก็เขียนโปรแกรมเป็น จะเก่งไม่เก่งก็อีกเรื่อง
โปรแกรมเมอร์ก็เหมือนกรรมกรดีๆนี่แหล่ะ ที่มีแรงงานเยอะ ทำให้นายจ้างมีตัวเลือกเยอะได้ คนไทยต้องการค่าแรงสูง
เขาก็ไปจ้างพม่าซะค่าแรงถูกกว่า ไม่ต้องง้อ โปรแกรมเมอร์ก็เหมือนกัน เขาไม่ได้จ้างแต่คนไทย โปรแกรมเมอร์อินเดียก็มี
ค่าแรงก็ต่ำกว่า เก่งกว่าคนไทยแถมได้ภาษาอังกฤษอีก
นายจ้างมีทางเลือก freelance ก็ยังมีให้แข่งขันกันหลายคน
บันทึกการเข้า
khonthai
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 53
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,303



ดูรายละเอียด
« ตอบ #66 เมื่อ: 24 มีนาคม 2009, 13:36:44 »

ผมเห็นเงินเดือน 8,000 วุฒิปริญญาตรี รีเควสความสามารถจนเว่อร์แล้วจี๊ดครับ
ถ้าใครบอกให้มองในมุมมองนายจ้าง
งั้นลองมองในมุมลูกจ้างดีไหมครับ
เงินเดือน 9000 บาท
ค่าอาหารเชียงใหม่ อย่างถูกย้ำนะอย่างถูกมื้อละ 25 บาท 25*31*3 = 2325 บาท
ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันจิปาถะ เอาอย่างประหยัด 3000 บาท
ค่าอาหารบำรุงสมอง อาหารตา อาหารใจ รวมถึงค่ารักษาพยาบาล 2000 บาท
เอาแค่นี้เงินเดือนจาก 9000 บาทก็จะเหลือแค่  1675 บาทเท่านั้น
นี่คือคนที่ไม่กินเหล้าสูบบุหรี่ไม่เที่ยวแล้วนะยังเหลือแค่นี้ Angry

ลืมค่าห้องไปป่าว Cheesy
บันทึกการเข้า
ศักยะ
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 123
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,790



ดูรายละเอียด
« ตอบ #67 เมื่อ: 24 มีนาคม 2009, 14:31:53 »

อนาถใจแต่ละคำตอบ
แต่อนาถใจที่สุดคือคำที่บอกว่าคุณทำเงินให้บริษัทได้เท่าไร ก็จะได้เงินเดือนมาก
ผมว่าแผนการทำเงินกับแผนการตลาด น่าจะเป็นฝ่ายธุรกิจ,บัญชี,การตลาด ทำไปนะครับ
โปรแกรมเมอร์แค่รับคำสั่งให้ทำตามแผนงานที่ระบุไว้ให้เสร็จมากกว่า
ถ้าโปรแกรมเมอร์ต้องไปนึกถึงว่าจะสามารถทำเงินให้บริษัทได้มากเท่าไร
ยังงี้ไม่ต้องจ้างฝ่ายบัญชี,ฝ่ายการตลาด,ฝ่าย sale แล้วครับ
จ้างโปรแกรมเมอร์คนเดียวทั้งบริษัทก็พอ

ผมว่าอันนี้ถูกครับ...

..."จ้างโปรแกรมเมอร์คนเดียวทั้งบริษัทก็พอ"  ถ้าคิดว่าโปรแกรมเมอร์ต้องหาเงินเข้าบริษัทเยอะๆ แล้วจะตั้งบริษัทมารับจ๊อบอย่างเดียวน่ะเหรอท่าน

อย่างนั้นโปรแกรมเมอร์เค้าโฆษณาเองว่าทำได้แล้วไม่ต้องเปิดบริษัทไห้เสียเงินดีกว่ามั๊ย
บันทึกการเข้า

รับจ้างปั่นยอดคนดูไลฟ์สด!!
ก้ามปู
เสือซุ่มด่า
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 218
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,195



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #68 เมื่อ: 24 มีนาคม 2009, 14:34:50 »

อนาถใจแต่ละคำตอบ
แต่อนาถใจที่สุดคือคำที่บอกว่าคุณทำเงินให้บริษัทได้เท่าไร ก็จะได้เงินเดือนมาก
ผมว่าแผนการทำเงินกับแผนการตลาด น่าจะเป็นฝ่ายธุรกิจ,บัญชี,การตลาด ทำไปนะครับ
โปรแกรมเมอร์แค่รับคำสั่งให้ทำตามแผนงานที่ระบุไว้ให้เสร็จมากกว่า
ถ้าโปรแกรมเมอร์ต้องไปนึกถึงว่าจะสามารถทำเงินให้บริษัทได้มากเท่าไร
ยังงี้ไม่ต้องจ้างฝ่ายบัญชี,ฝ่ายการตลาด,ฝ่าย sale แล้วครับ
จ้างโปรแกรมเมอร์คนเดียวทั้งบริษัทก็พอ

งั้นลองมองดูบริษัทผลิตรถยนต์
บริษัทมีกำลังผิตปีละ 10000 คัน
แต่ฝ่ายการตลาดเก่งมาก หาลูกค้าได้ปีละ 40000 คัน
ถามว่าบริษัทจะขายรถได้ปีละกี่คัน
แน่นอนว่าต้องได้เท่าๆกับที่ผลิตได้อยู่แล้ว

โปรแกรมเมอร์ก็เหมือนกัน ถึงฝ่ายการตลาดรับงานมาให้คุณได้เยอะ
แต่โปรแกรมเมอร์ทำงานนั้นไม่ทัน อาจจะทันได้ครึ่งเดียว
นั่นหมายความว่าต้องได้เงินทั้งหมดของงานที่ฝ่ายการตลาดได้รับมาทั้งหมดเหรอ มันไม่ใช่นี่
เพราะคุณทำงานทั้งหมดไม่ได้ เค้าก็ต้องจ้างเพิ่ม ค่าแรงคุณก็เท่าเดิมสิ
ไม่ใช่ว่าบริษัทรับงานได้เยอะขึ้น คุณก็ต้องได้เงินเยอะขึ้น ทั้งๆที่ทำงานได้เท่าเดิม
มันไม่ใช่ ถ้าคุณทำงานได้เท่าเดิม คุณก็สมควรจะมีรายได้เท่าเดิม จริงมั้ยครับ
เพราะฉะนั้นงานส่วนที่โปรแกรมเมอร์ทำได้จะต้องเอาไปคำนวณในต้นทุนด้วย

ส่วนเรื่องเงินเดือนน้อยๆ คุณต้องดูอุสงค์ และอุปทาน
ถ้าเงินเดือนน้อย ไม่มีคนสมัคร บริษัทเองก็ต้องดูว่าขึ้นเงินเดือนอีกจะมีกำไรมั้ย
ถ้ายังเหลือกำไร เค้าก็จะปรับขึ้นให้ แต่ถ้ารายรับเค้าได้น้อย ขึ้นเงินเดือนแล้วอยู่ไม่ได้
เค้าก็จะไม่ขึ้น และอาจจะปิดบริษัทไปเลย แต่จริงๆแล้วไม่ใช่หรอก เค้าให้น้อยๆนี่คนยังแย่งกันทำ

ผมเชื่อโดยสนิทใจว่าแต่ละบริษัทอยากให้เงินเดือนพนักงานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น นั่นแสดงถึงศักยภาพของคนที่มาสมัครจะเยอะขึ้นด้วย
แต่ว่าเค้าทำไม่ได้เท่านั้นเอง เพราะถึงพนักงานศักยภาพจะเยอะขึ้น
แต่ว่าราคาของงานที่ได้รับมันต่ำลงเรื่อยๆ เค้าก็ให้เงินเดือนแพงไม่ได้

ยิ่งจะไปบอกว่าก็พยายามรับงานให้ได้ราคาเท่าเดิมสิ โดยแถมนั่นแถมนี่
บริษัทเค้าก็จะมีต้นทุนเพิ่มขึ้น เริ่มจากต้นทุนเวลา เมื่องานต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้น
คนที่มีอยู่ไม่เพียงพอก็ต้องเพิ่มคน ซึ่งต้นทุนก็เพิ่มขึ้นอีก
นี่แสดงว่า การแถมงานไม่ใช่ทางออกที่ดีจริงหรือเปล่า เพราะงานที่แถมหมายถึงต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
แล้วเราจะทำงานเยอะกว่าเดิมแต่ได้ค่าตอบแทนน้อยลงไปทำไม
แต่ถ้าบริษัทรับตรงนี้ได้ และเอามาทำ มันก็ต้องส่งผลกระทบกับพนักงานอยู่แล้ว

ต้องมาดูกันเลยว่าสาเหตุที่รับงานได้ราคาถูกเพราะอะไร
มันก็เพราะมีการตัดราคากัน ซึ่งก็มาจากพวกที่ต้นทุนต่ำกว่า
เลยคิดราคางานได้ถูกกว่า เพียงเพราะเค้าไม่ได้มีต้นทุนในการบริการเหมือนบริษัทเท่านั้นเอง
บางทีไม่ต้องเสียภาษีด้วยซ้ำ ซ้ำรายพวกตัดราคาบางคนยังต้องการเงินเป็นแค่ค่าขนม
รับงานมาหมื่นนึงทำสามเดือนก็ได้ เพราะได้ค่าขนมเพิ่มตั้งสามพัน

ผมถึงบอกไงครับว่าอย่าร้องๆ บริษัทเค้าไม่ได้ผิด ไม่ได้กดเงินเดือนเรามากมายนักหรอก เพียงแค่คนที่กดอาจจะเป็นตัวเราเองก็ได้
รับเงินเดือนถูกๆไม่ได้ก็ออกมาทำ freelance ลองดูครับ ว่าจะได้เงินเยอะกว่าทำงานบริษัทมั้ย ในช่วงที่คุณพึ่งเริ่มนี่แหละ
ผมเชื่อว่าคุณทำได้น้อยกว่าแน่นอน ถ้าคุณยังไม่ใช่โปรแกรมเมอร์ที่มีประสบการณ์อยู่แล้ว เพียงแค่ต้นทุนค่ารถ ค่าแต่งตัวของคุณอาจจะน้อยลงเงินเลยเหลือเท่านั้นแหละ
บันทึกการเข้า

ตอนนี้ผมไม่ค่อยว่างตอบอะไรใครนะครับ เพราะไม่ได้เข้าบอร์ดเลย
ball6847
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 212
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,174



ดูรายละเอียด
« ตอบ #69 เมื่อ: 24 มีนาคม 2009, 14:49:42 »

มันก็เป็นไปตามกลไลของมันนะผมว่า มันคงไม่มีมาตราฐานในเมื่อคนที่ไม่ได้เรียนมาเค้าก็เขียนได้ สื่อการสอนมีกันตั้งเยอะตั้งแยะ สิ่งที่เป็นเป้าหมายของผมไม่ได้ถึงกับตั้งเป้าว่าจะต้องได้ค่าแรงในระดับไหน แต่คิดว่าเราทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหนมากกว่า ถ้าคิดว่าความสามารถกับความทุ่มเทที่ทำไปไม่คุ้มกับเงิน ผมก็ออก เค้าจ้างถูกเค้าก็ต้องรับความเสี่ยงเอาเอง

เด็กจบใหม่ เรียนมาแบบเรียนไปงั้น เขียนโปรแกรมแบบ Copy and Paste จ้างคนอื่นเขียนโปรเจ็ค คิดว่าจบได้มั้ย มันก็จบได้ ถึงอาจจะต้องพยายามแก้ พยายามซ่อม มันก็จบออกมาได้ แล้วจบออกมาแบบนี้เอาเงินเดือนเป็นหมื่น มันก็ไม่ถูก

ผมว่ามันไม่เกี่ยวหรอกว่าเรียนมาเสียค่าเล่าเรียนไปเท่าไหร่ ที่ถูกคือคุณได้อะไรมาจากการเล่าเรียน แล้วสิ่งที่ได้มาเราควรตีค่ามันมากน้อยแค่ไหน ไม่ใช่เราตีค่าของเราจากเงินที่เราใช้ไปในตอนเรียน

เค้าจ้างถูก เค้าก็ต้องเตรียมรับความเสี่ยงเอาว่ามันคงไม่ได้ดีดีหรอก ถ้าได้ดีเค้าก็ไม่่อยู่ทำให้ตลอดไปหรอก นอกจากทนเพื่อเอาผลงานไปเพิ่มมูลค่าตัวเอง แล้วไปสมัครที่อื่น สุดท้ายก็เสียไปอยู่ดี
บันทึกการเข้า

ก้ามปู
เสือซุ่มด่า
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 218
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,195



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #70 เมื่อ: 24 มีนาคม 2009, 14:58:19 »

มันก็เป็นไปตามกลไลของมันนะผมว่า มันคงไม่มีมาตราฐานในเมื่อคนที่ไม่ได้เรียนมาเค้าก็เขียนได้ สื่อการสอนมีกันตั้งเยอะตั้งแยะ สิ่งที่เป็นเป้าหมายของผมไม่ได้ถึงกับตั้งเป้าว่าจะต้องได้ค่าแรงในระดับไหน แต่คิดว่าเราทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหนมากกว่า ถ้าคิดว่าความสามารถกับความทุ่มเทที่ทำไปไม่คุ้มกับเงิน ผมก็ออก เค้าจ้างถูกเค้าก็ต้องรับความเสี่ยงเอาเอง

เด็กจบใหม่ เรียนมาแบบเรียนไปงั้น เขียนโปรแกรมแบบ Copy and Paste จ้างคนอื่นเขียนโปรเจ็ค คิดว่าจบได้มั้ย มันก็จบได้ ถึงอาจจะต้องพยายามแก้ พยายามซ่อม มันก็จบออกมาได้ แล้วจบออกมาแบบนี้เอาเงินเดือนเป็นหมื่น มันก็ไม่ถูก

ผมว่ามันไม่เกี่ยวหรอกว่าเรียนมาเสียค่าเล่าเรียนไปเท่าไหร่ ที่ถูกคือคุณได้อะไรมาจากการเล่าเรียน แล้วสิ่งที่ได้มาเราควรตีค่ามันมากน้อยแค่ไหน ไม่ใช่เราตีค่าของเราจากเงินที่เราใช้ไปในตอนเรียน

เค้าจ้างถูก เค้าก็ต้องเตรียมรับความเสี่ยงเอาว่ามันคงไม่ได้ดีดีหรอก ถ้าได้ดีเค้าก็ไม่่อยู่ทำให้ตลอดไปหรอก นอกจากทนเพื่อเอาผลงานไปเพิ่มมูลค่าตัวเอง แล้วไปสมัครที่อื่น สุดท้ายก็เสียไปอยู่ดี

บอลกำลังบอกว่า ไปเรียนหนะเสียเงินไปเรียน ก็รู้จักเรียนๆซะบ้าง อย่าเอาแต่เที่ยวเล่นไปวันๆ ขอแค่จบก็พอ แล้วมาบอกว่าใช้เงินไปเยอะ ทั้งๆที่เงินที่ใช้ไปไม่ได้เกี่ยวกับการเรียนเลย ใช่รึเปล่า  Cheesy

ถ้าใช่นี่คงจะเป็นอย่างนี่ผมด่าน้องรหัส มันมาบ่นว่า ไม่ไหวพี่ไม่ไหว เรียนหนักโคตร เกรดได้มานิดเดียวเอง แต่ทุกวันผมจะเห็นมันออนเอ็ม พอทักว่าทำอะไรอยู่ 99.99 เปอร์เซ็นต์ มันบอกว่ากำลังเล่นเกมส์อยู่ แล้วแบบนี้ยังกล้าว่าตัวเองเรียนหนัก แถมบ่นด้วยว่าเรีน วิดวะคอม มันหนัก เสียเปรียบสาขาอื่นเค้าที่เรียนสบายกว่า ดูมันสิดูมัน  :-\
บันทึกการเข้า

ตอนนี้ผมไม่ค่อยว่างตอบอะไรใครนะครับ เพราะไม่ได้เข้าบอร์ดเลย
newlife
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 5
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 233



ดูรายละเอียด
« ตอบ #71 เมื่อ: 24 มีนาคม 2009, 15:04:23 »

ถ้ากำลังผลิตไม่พอก็จ้างพนักงานเพิ่มสิครับ
เงินเดือน 8,000 spec ขั้นเทพ ไม่ค่อยกดเงินเดือนเลยเหอ ๆ
บันทึกการเข้า

 *Image Removed*
psc_chine
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 65



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #72 เมื่อ: 24 มีนาคม 2009, 15:06:02 »

เดี๋ยวนี้  ต้องทำใจครับ เศรษฐกิจมะดีครับ พี่น้องง



 Sad


 Sad
บันทึกการเข้า

thaihotdesign.com ,thaitownusa.com, topcdthai.com
cmbuy
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 8
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 556



ดูรายละเอียด
« ตอบ #73 เมื่อ: 24 มีนาคม 2009, 15:17:35 »

จาก...นานาหาสตางค์ มันเริ่มจะ...นานาจิตตัง มันแบบนี้นี่เอง
 Grin Grin Grin
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 มีนาคม 2009, 15:26:17 โดย cmbuy » บันทึกการเข้า

- -!
rotdanai1908
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 14



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #74 เมื่อ: 24 มีนาคม 2009, 15:39:29 »

 Embarrassed Embarrassedหนีไปเรียนเเพทย์   สาด.....................

ดีกว่า
บันทึกการเข้า

,yo  *Link Removed*  งง
pugkung
Verified Seller
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 196
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,681



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #75 เมื่อ: 24 มีนาคม 2009, 15:42:23 »

ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเปรียบเทียบกับยาม อาชีพไหนๆก็ทำเงินได้ทั้งนั้น
แล้วทำไมขายก๋วยเตี๋ยวไม่ต้องจบ ป.ตรี ได้เงินดีกว่าโปรแกรมเมอร์
ทำไมคนเหล่านั้นเขาไม่ไปเป็นยามซะเลย ในเมื่อเงินเดือนเท่ากัน
เพราะโปรแกรมเมอร์มันเยอะ ใครก็เขียนโปรแกรมเป็น จะเก่งไม่เก่งก็อีกเรื่อง
โปรแกรมเมอร์ก็เหมือนกรรมกรดีๆนี่แหล่ะ ที่มีแรงงานเยอะ ทำให้นายจ้างมีตัวเลือกเยอะได้ คนไทยต้องการค่าแรงสูง
เขาก็ไปจ้างพม่าซะค่าแรงถูกกว่า ไม่ต้องง้อ โปรแกรมเมอร์ก็เหมือนกัน เขาไม่ได้จ้างแต่คนไทย โปรแกรมเมอร์อินเดียก็มี
ค่าแรงก็ต่ำกว่า เก่งกว่าคนไทยแถมได้ภาษาอังกฤษอีก
นายจ้างมีทางเลือก freelance ก็ยังมีให้แข่งขันกันหลายคน

ผมว่าจะไม่ โพส กระทู้นี้แล้วนะ

ผมก็ไม่ชอบเหมือนกันนะครับที่เอา โปรแกรมเมอร์ ไปเปรียบกับ ยาม คือมันเหมือนดูถูกคนอื่นครับ

ทำไมล่ะครับ ก็ อาชีพสุจริต เหมือนกันทำไมต้องมองว่า ยาม มันกระจอก ด้วย (อยากพยายมเถียงนะครับ เพราะ ผมคิดว่าคนที่เปรียบเทียบรู้สึกแบบนี้จริง ๆ)

แล้วถ้ามันจำเป็นต้องเลือกละ

ยามเงินเดือน 8500
โปรแกรมเมอร์ 8500

คุณจะทำงานอะไร (ย้ำนะครับว่าถ้ามันไม่มีทางเลือกนอกจากเงินจำนวนนี้) ผมคิดว่าหลาย ๆ คนถ้าทำได้ ก็คงจะทำ โปรแกรมเมอร์ เพราะ Huh?

ทำงานในร่ม
ไม่ต้องเสี่ยงโดนทำร้ายร่างกาย (ข่าวล่าสุดพึ่งโดนยิงตายแถวคลองเตย)
อีกหลายเหตุผล
( อ๋อ เก็บของเก่าขายได้เดือนล่ะ หลายหมื่น นะครับ ทำไมไม่ทำกัน เป็นโปรแกรมเมอร์เดือนล่ะไม่ถึงหมื่นทำไม  :-\  คงมีคำตอบในใจแล้วนะครับ )


เอาเป็นว่าถ้ารับ 8500 ไม่ได้ก็ไม่ต้องทำครับ จบ (ผมเองก็ไม่รับเงินเดือนเหมือนกัน มาทำ ฟรีแลนซ์เอง เพราะแถวนี้เค้าจ้างแค่ 6500 เองครับ)
แต่ผมก็ไม่ได้บ่นอะไร ผมคิดด้วยซ้ำถ้าผมมีช่องทางเยอะกว่านี้ ผมก็จะจ้างแพงกว่านี้ แต่เท่า ๆ ที่ดูตอนนี้ จะจ้างตัวเองเดือนล่ะ 6500 ยังแทบจะไม่รอดเลยครับ ขนาดทำอยู่กับบ้าน ค่าใช้จ่ายไม่มีอะไรมาก  Tongue
บันทึกการเข้า

barbies55
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 417
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11,521



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #76 เมื่อ: 24 มีนาคม 2009, 15:46:05 »

โปรแกรมเมอร์ สเป็คเทพๆ ในนิยามของคนที่บ่นเรื่องเงินเดือนน้อยนี่คืออะไรคะ
เรื่องของเรื่องมาจากเรื่องกระทู้ zencart ที่เชียงใหม่ใช่ไหม
หยินว่าถ้าใครแกะโค้ดไม่ได้ อ่าน php ไม่ออก ยังสมควรเรียกตัวเองว่าโปรแกรมเมอร์หรือเปล่า
นี่ก็เพิ่งหาโปรแกรมเมอร์เข้าบริษัทไปคนนึง ก็ให้เงินเดือนเรทที่ทุกคนบ่นกันนักหนาว่าน้อยโคตรนั่นแหล่ะ (หมื่นห้า)
แต่กว่าจะหาได้ เรียกมาสัมภาษณ์ไม่รู้กี่คน พวกที่เรียกเงินเดือนระดับหมื่นห้าเนี่ย
ทั้งๆที่คุณสมบัติที่กำหนด ไม่ได้มีความเทพอะไรเลย ขอแค่เขียน php ได้ อ่านโค้ดได้ โดยไม่ต้องกางหนังสือ แค่นี้เอง
เพื่อนเอาน้องมาฝาก บอกให้ลองดูหน่อย จบด้านไอทีมา พอถามว่าทำ php ได้ไหม ก็ใบ้รับประทาน ก็ยังสงสัยอยู่ว่าเรียนจบมาได้ไง
บันทึกการเข้า

รับทำเทมเพลท รับโมเทมเพลทให้เข้ากับสคริปต์ต่างๆ


On the Internet, Never One Know You are a Dog.
ผ้าขี้ริ้วห่อทองย่อมเป็นทองฉันใด เอาทองเปลวมาห่อขี้ก็ยังเป็นขี้ฉันนั้น
redtor
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 53
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,503



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #77 เมื่อ: 24 มีนาคม 2009, 15:54:54 »

โปรแกรมเมอร์นี่มีไว้ทำไม ..

บ.ผมไม่มีโปรแกรมเมอร์ แต่สามารถ โม cms ได้ก็เลยไม่จ้างโปรแกรมเมอร์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 มีนาคม 2009, 16:28:38 โดย redtor » บันทึกการเข้า
newlife
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 5
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 233



ดูรายละเอียด
« ตอบ #78 เมื่อ: 24 มีนาคม 2009, 16:20:48 »

โปรแกรมเมอร์ สเป็คเทพๆ ในนิยามของคนที่บ่นเรื่องเงินเดือนน้อยนี่คืออะไรคะ
เรื่องของเรื่องมาจากเรื่องกระทู้ zencart ที่เชียงใหม่ใช่ไหม
หยินว่าถ้าใครแกะโค้ดไม่ได้ อ่าน php ไม่ออก ยังสมควรเรียกตัวเองว่าโปรแกรมเมอร์หรือเปล่า
นี่ก็เพิ่งหาโปรแกรมเมอร์เข้าบริษัทไปคนนึง ก็ให้เงินเดือนเรทที่ทุกคนบ่นกันนักหนาว่าน้อยโคตรนั่นแหล่ะ (หมื่นห้า)
แต่กว่าจะหาได้ เรียกมาสัมภาษณ์ไม่รู้กี่คน พวกที่เรียกเงินเดือนระดับหมื่นห้าเนี่ย
ทั้งๆที่คุณสมบัติที่กำหนด ไม่ได้มีความเทพอะไรเลย ขอแค่เขียน php ได้ อ่านโค้ดได้ โดยไม่ต้องกางหนังสือ แค่นี้เอง
เพื่อนเอาน้องมาฝาก บอกให้ลองดูหน่อย จบด้านไอทีมา พอถามว่าทำ php ได้ไหม ก็ใบ้รับประทาน ก็ยังสงสัยอยู่ว่าเรียนจบมาได้ไง

จะเหน็บแนมผมว่าอ่าน php ไม่ออก แกะโค้ทไม่ได้ ยังเสนอหน้ามาแสดงความคิดเห็นทำไมยังงั้นรึเปล่าครับ
ที่ผมบอกว่าเงินน้อยไม่คุ้มนั่นมัน8000บาทครับ
ถ้า15,000ผมก็ว่าน่าทำมากมาย
ผมไม่ใช่โปรแกรมเมอร์และไม่ได้เรียกตัวเองว่าโปรแกรมเมอร์แต่อย่างใด
ผมแค่มีความฝันแค่จะเป็นโปรแกรมเมอร์และกำลังพยายามจะทำให้สำเร็จอยู่

ถ้าขัดหูขัดตาใครต้องขออภัยด้วยครับ
บันทึกการเข้า

 *Image Removed*
bunjerd
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 159



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #79 เมื่อ: 24 มีนาคม 2009, 16:22:33 »

ทำงานเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ไปก่อนครับ ถ้าสามารถเขียนโปรแกรมได้เก่ง แล้วเด๋วเรื่องเงินจะตามมาทีหลังครับ แต่สำคัญอยู่ที่ว่าถ้าเขารับเราไปแล้วเราทำอะไรให้เขาได้บ้าง ถ้าทำอะไรไม่ได้นายจ้างจะคิดหนักครับ
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7   ขึ้นบน
พิมพ์