ต่อไป »

[idee]

ชอบ ide asp.net

สนับสนุนความเห็นว่า มันแล้วแต่งาน

หากทำเวบใช้เอง เน้นถูก หา bug ง่าย(จากคนใช้เยอะ) ก็ php

แต่บางงานเช่น ทำ web service ในมุมมองผม ผมว่า .net มันทำให้ง่าย เร็ว สดวกกว่านะ
งานในระบบใหญ่หน่อย เช่น 3 tier / SOA- webservices ถ้าใช้ php เป็น presentation มันก็ได้อยู่ แต่ในระดับ business ก็ต้องไปอาศัยแรง java ถึงจะสดวกกว่า (เคยเห็นบริษัทพยายามดัน php เป็นตัว core แต่ปัญหาตามมาบาน เพราะขีดจำกัดภาษามันยังไปไม่ถึง) ส่วนถ้าใช้เป็นสาย .net ค่อนข้างจะต่อๆเนื่องกันไปเลย ทูลทำมาให้พัฒนาต่อกันไว้ง่ายอยู่แล้ว จาก .net มันก็ใช้ c# / vb.net ง่ายๆอยู่แล้ว ลากๆวางๆ สไตล์ Microsoft

การ maintenance code การเขียนแบบ OO หลังๆมานี่ php พัฒนามาเยอะ ถ้ารูปแบบการเขียนผมว่าก็ไม่น่าห่างกันมาก
แต่ .net ก็มีข้อเด่นในเรื่อง tool อีกนั่นแหล่ะที่เอามาขยายงานได้หลายรูปแบบ(ถ้ามีตังค์)

แล้วก็งานพวกไปทาง business intelligence, Data warehouse, Data mining, ออกรายงาน ความเร็วในการพัฒนาด้วยทูลที่มี .net น่าจะเหมาะสมกับองค์กรมากกว่า (ถ้ามีงบเยอะ)



แต่กรณีที่ทำเวบใช้เอง หา opensource มาเล่นง่ายๆ สดวก หาโฮสได้สบาย ไม่แพง php ก็เหมาะสมกว่า

และก็กะไว้อยู่แล้ว ว่าคนคงตอบเชียร์ php เยอะกว่า
เพราะปกติอะไรที่เราใช้อยู่ เราก็ย่อมเชียร์สิ่งนั้น และ php มันเป็นอะไรที่คนทำเวบส่วนใหญ่ใช้อยู่นั่นแล

ผิดถูกก็ท้วงติงได้ครับ

อันนี้เขาเรียกขยายความขั้นเทพ 

ว่าแต่ถ้า ide คือ idee นี้ผมเปล่า 

ถามตัวเองก่อน จะทำอะไร แล้วก้าวต่อไป...


มีโปรแกรมเมอร์ท่านหนึ่งที่ผม ศรัทธาเขามาก เขาบอกผมเสมอว่า "โปรแกรมที่ไม่มี Bug คือโปรแกรมที่ยังไม่ได้เขียน"

 

[collagn]

ไช้พีเอสพีก็ดีครับมีคนช่วยกันพัฒนาแจ่เอเอสพีมันต้องไช้โปรแกรมของไมโครซอร์ฟพ่วงด้วยครับอาจแพงกับค่าลิขสิทธ์

[icez]

php programmer 90% ถ้าเปิด strict mode code พังครับ
พึ่งตัวอำนวยความสะดวกของ php มากไป เช่น register global กับ error reporting ปิด E_NOTICE
มี magic quotes gpc อีกตัว บางคนเปิดตลอด จนลืมไปว่าถ้าปิดนี่รูรั่วยุบยับทันที


แต่ถ้าพูดถึง ....
ผมหัด ASP ก่อนนะครับ แล้วไป pascal / aegis npc script / visual basic / ai / php
แต่ syntax ภาษาที่ชอบที่สุดก็คือ C# (เพราะมันผสมกันระหว่างความง่ายของ basic กับความลงตัวของ C)

การออกแบบ module ของ php เป็นแบบพื้นฐานครับ ทำให้ต่อยอดได้หลากหลาย
ทำให้มี framework ออกมาหลายตัว

ที่สำคัญ... ยุคนี้ถ้าบอก asp คงหมายถง .NET กันหมดแล้ว
แถมตัว .net เองเป็น framework ที่สุดยอดมากๆ แถมด้วยสุดยอด IDE ของ microsoft (visual studio)
จนบัดนี้ผมยังหา IDE ที่ดีกว่า visual studio ไม่ได้เลยครับ





ปล. ถามตัวเองดู ... ว่าเขียน PHP เปิด strict mode ได้แล้วยัง?


ปปล. strict mode
- safe_mode = off (ให้ง่าย)
- short_open_tag = off
- display_errors = on
- error_reporting = E_ALL
- register_globals = off
- magic quotes gpc = off
- allow_url_fopen = off
- allow_url_include = off
- register_long_arrays = off

[9neo]

และก็กะไว้อยู่แล้ว ว่าคนคงตอบเชียร์ php เยอะกว่า
เพราะปกติอะไรที่เราใช้อยู่ เราก็ย่อมเชียร์สิ่งนั้น และ php มันเป็นอะไรที่คนทำเวบส่วนใหญ่ใช้อยู่นั่นแล

ผิดถูกก็ท้วงติงได้ครับ

ไม่ทุกคนมั้ง ผมอยากใช้ py แต่ไม่รุ็จะสตาร์ทเริ่มต้นยังงัย เอาไปทำเวบยังงัย เจน html ออกมายังงัย รันโฮสแบบใหนดีสุด โพสต์ถามก้ไม่มีใครตอบ ไปค้นก็ไม่มีข้อมูล เข้าเวบของ py เองก็อึ้ง ไม่รุ้จะสตาร์ทตรงใหนก่อน ภาษาอังกฤษผมเองก็แถๆ ลองหาข้อมูล py ในไทยก็ไม่ค่อยมีใครเอามาทำเวบกัน สรุปแล้ว php ดีกว่า มีคอมมิวนิตี้เยอะ ดอคคิ้วเมนต์ของ php.net ก็ทำไว้ดีมาก ยิ่งเคสสตั๊ดดี้ข้างล่างเนี่ย มันแจ่มเหลือคณา เวลามีปัญหาไม่โดดเดี่ยว

สรุปเปิดใจรับทุกภาษาอย่าใจแคบเลย อย่างน้อยมันก็เป็นสิ่งที่ใช้ทำมาหากิน จะช้าจะเร็วอยู่ที่มือกับสมองและสองตีน  

ผมก็อยากเชียร์ไห้คนทุกคนหัดเขียนทุกภาษาเลย ถ้าชีวิตนี้คุณมีเวลามากพอ

มันมีรึยังคนที่โพสต์ประมาณว่า
ทุกภาษามันมีข้อดีของมันอยุ่ที่การนำมาใช้
เพราะกระทู้แนวๆ นี้มักจะมีคนโพสต์ทำนองนี้

และก็จริง ที่ไม่ว่าจะเสียมหรือจอบ มันก็ขุดดินปลูกต้นไม้ได้เหมือนกัน แต่ มันมีที่ดีที่สุด และทำงานได้ดีที่สุด เปลืองแรงน้อยที่สุด ถ้าไม่ฟังคนอื่นก็จงทดลองด้วยตัวคุณเอง จะจอบ หรือเสียม ก็ลองจับมาขุดดู ชอบอันใหนก็ใช้อันนั้น

กระทู้นี้ไม่ต่างจาก
mac VS pc
wordpress VS joomla

ถกกันได้ถึงรุ่นลูกร่นหลานเป็นตำนานสืบต่อๆ ไป

[g-ji]

เจ้า

Mac VS PC นี่มันคนละขั้วอยู่แล้ว

แต่ว่า

WordPress VS Joomla! นี่อ่ะ จะจับมันตีกันทำไม เอามามา ผสมกันดีกว่า 

ไม่ก็ตัดต่อพันธุกรรม ให้ Joomla! ใช้ คำสั่ง หรือ function ของ WP ได้

แล้วก็ ตัดต่อให้ WP ใช้ ฟังก์ชันของ Joomla! ได้

  เจ๋งโคตร

[mr.sit]

php programmer 90% ถ้าเปิด strict mode code พังครับ
พึ่งตัวอำนวยความสะดวกของ php มากไป เช่น register global กับ error reporting ปิด E_NOTICE
มี magic quotes gpc อีกตัว บางคนเปิดตลอด จนลืมไปว่าถ้าปิดนี่รูรั่วยุบยับทันที


แต่ถ้าพูดถึง ....
ผมหัด ASP ก่อนนะครับ แล้วไป pascal / aegis npc script / visual basic / ai / php
แต่ syntax ภาษาที่ชอบที่สุดก็คือ C# (เพราะมันผสมกันระหว่างความง่ายของ basic กับความลงตัวของ C)

การออกแบบ module ของ php เป็นแบบพื้นฐานครับ ทำให้ต่อยอดได้หลากหลาย
ทำให้มี framework ออกมาหลายตัว

ที่สำคัญ... ยุคนี้ถ้าบอก asp คงหมายถง .NET กันหมดแล้ว
แถมตัว .net เองเป็น framework ที่สุดยอดมากๆ แถมด้วยสุดยอด IDE ของ microsoft (visual studio)
จนบัดนี้ผมยังหา IDE ที่ดีกว่า visual studio ไม่ได้เลยครับ





ปล. ถามตัวเองดู ... ว่าเขียน PHP เปิด strict mode ได้แล้วยัง?


ปปล. strict mode
- safe_mode = off (ให้ง่าย)
- short_open_tag = off
- display_errors = on
- error_reporting = E_ALL
- register_globals = off
- magic quotes gpc = off
- allow_url_fopen = off
- allow_url_include = off
- register_long_arrays = off

แอบภูมิใจเพราะผมทำได้ครับ แหะๆ

[mr.sit]

และก็กะไว้อยู่แล้ว ว่าคนคงตอบเชียร์ php เยอะกว่า
เพราะปกติอะไรที่เราใช้อยู่ เราก็ย่อมเชียร์สิ่งนั้น และ php มันเป็นอะไรที่คนทำเวบส่วนใหญ่ใช้อยู่นั่นแล

ผิดถูกก็ท้วงติงได้ครับ

ไม่ทุกคนมั้ง ผมอยากใช้ py แต่ไม่รุ็จะสตาร์ทเริ่มต้นยังงัย เอาไปทำเวบยังงัย เจน html ออกมายังงัย รันโฮสแบบใหนดีสุด โพสต์ถามก้ไม่มีใครตอบ ไปค้นก็ไม่มีข้อมูล เข้าเวบของ py เองก็อึ้ง ไม่รุ้จะสตาร์ทตรงใหนก่อน ภาษาอังกฤษผมเองก็แถๆ ลองหาข้อมูล py ในไทยก็ไม่ค่อยมีใครเอามาทำเวบกัน สรุปแล้ว php ดีกว่า มีคอมมิวนิตี้เยอะ ดอคคิ้วเมนต์ของ php.net ก็ทำไว้ดีมาก ยิ่งเคสสตั๊ดดี้ข้างล่างเนี่ย มันแจ่มเหลือคณา เวลามีปัญหาไม่โดดเดี่ยว

สรุปเปิดใจรับทุกภาษาอย่าใจแคบเลย อย่างน้อยมันก็เป็นสิ่งที่ใช้ทำมาหากิน จะช้าจะเร็วอยู่ที่มือกับสมองและสองตีน  

ผมก็อยากเชียร์ไห้คนทุกคนหัดเขียนทุกภาษาเลย ถ้าชีวิตนี้คุณมีเวลามากพอ

มันมีรึยังคนที่โพสต์ประมาณว่า
ทุกภาษามันมีข้อดีของมันอยุ่ที่การนำมาใช้
เพราะกระทู้แนวๆ นี้มักจะมีคนโพสต์ทำนองนี้

และก็จริง ที่ไม่ว่าจะเสียมหรือจอบ มันก็ขุดดินปลูกต้นไม้ได้เหมือนกัน แต่ มันมีที่ดีที่สุด และทำงานได้ดีที่สุด เปลืองแรงน้อยที่สุด ถ้าไม่ฟังคนอื่นก็จงทดลองด้วยตัวคุณเอง จะจอบ หรือเสียม ก็ลองจับมาขุดดู ชอบอันใหนก็ใช้อันนั้น

กระทู้นี้ไม่ต่างจาก
mac VS pc
wordpress VS joomla

ถกกันได้ถึงรุ่นลูกร่นหลานเป็นตำนานสืบต่อๆ ไป

ผมทำเว็บส่วนตัวใช้ framework ตัวหนึ่งของ py ครับ รู้สึกว่าทำไมชั้นต้องมาเหนื่อยอะไรแบบนี้ด้วย -*- สรุปว่า การพยายามเอาภาษาที่ไม่ได้เกิดมาสำหรับเว็บมาทำเว็บเนี่ย มันเนื้อยเหนื่อยเนาะ

[zZzZ]

ที่ว่าปกติอะไรที่เราใช้อยู่ = ก็คือส่วนใหญ่ครับ ไ่ม่ได้แปลว่าทั้งหมด
ผมเองส่วนใหญ่ก็ใช้ php แต่ผมก็ไม่ได้เชียร์อะไรทั้ง php / .net นั่นแหล่ะ  
เพราะมันแล้วแต่งาน




เช่น คนขับโตโยต้า ก็เชียร์โตโยต้า เพราะก่อนซื้อก็ศึกษาจนตกลงใจแล้ว
คนใช้ wp ก็สนับสนุน wp เพราะศึกษาแล้วว่าเหมาะกับงานตัวเองมากกว่า JL

[zZzZ]

http://google.com/trends?q=joo...eo=all&date=all&sort=0

อันนี้ออกทะเล (ไหนๆก็มีคนพาออกแล้ว) ดูเล่นๆ จริงๆถกเรื่อง jl - wp ก็ดีนะ แบบอยากฟังคนมาเทียบกันว่าตัวไหนดีไม่ดี ยังไงมั่ง ตอนนี้พัฒนามาเยอะกันทั้งคู่แล้ว กระทู้เก่าๆก็เห็นมีคุยกันเรื่องนี้อยู่

[g-ji]

พวกนี้ มันค่า มาตรฐานหรือเปล่าหว่า เพราะโฮสจำลองในเครื่อง มันก็ตั้งค่าไว้แบบนี้นะ  
- safe_mode = off (ให้ง่าย) << off
- short_open_tag = off << off (โคตรเกลียดพวกโค้ดสั้นๆ เลย ต้องมานั่งแก้ปวดหัว)
- display_errors = on << on
- error_reporting = E_ALL << เขียนโค้ดเองเปิดไว้ตลอดมันก็ไม่มี Error นะ แต่โค้ดคนอื่นนี่สิ...
- register_globals = off << ไม่เคยเปิด
- magic quotes gpc = off << ไม่เคยเปิดเหมือนกัน จนพึ่งรู้ว่า ปกติโฮสจริงเขาจะเปิดกัน
- allow_url_fopen = off << ไม่เคยเปิด
- allow_url_include = off << ไม่เคยเปิด
- register_long_arrays = off << ไม่เคยเปิด

แล้วก็เป็นโรคจิตอย่างนึง ถ้าเปิดโค้ดแล้วเจอ

@ เมื่อไร ต้องลบทิ้ง แล้วเขียนโค้ดตรงนั้นใหม่ (เป็นพวกเกลียดข้อผิดพลาดเข้ากระดูกดำ แล้วยิ่งพยายามปกปิดมันนะยิ่งโคตรเกลียด)

[EThaiZone]

ปปล. strict mode
- safe_mode = off (ให้ง่าย)
- short_open_tag = off
- display_errors = on
- error_reporting = E_ALL
- register_globals = off
- magic quotes gpc = off
- allow_url_fopen = off
- allow_url_include = off
- register_long_arrays = off

     

[zZzZ]

ที่ตกใจ + เหงื่อตกนี่ คือ คุณ Ethaizone บอก ขนมๆ แหงๆ

ปปล. strict mode
- safe_mode = off (ให้ง่าย)
- short_open_tag = off
- display_errors = on
- error_reporting = E_ALL
- register_globals = off
- magic quotes gpc = off
- allow_url_fopen = off
- allow_url_include = off
- register_long_arrays = off

     

[nimda]

สำหรับผม ... asp ครับ ... 

[itdevil]

html .....

[icez]

ปปล. strict mode
- safe_mode = off (ให้ง่าย)
- short_open_tag = off
- display_errors = on
- error_reporting = E_ALL
- register_globals = off
- magic quotes gpc = off
- allow_url_fopen = off
- allow_url_include = off
- register_long_arrays = off

     

ตัวเองเขียนมาแบบนี้ตลอดอยู่แล้วไม่ต้องมาทำเนียนเหงื่อตก lol

[zaakikuya]

ขอร่วมด้วยนะคะ ก็ใช้อยู่ทั้ง 2 ภาษา นะคะ
แต่ที่ชอบส่วนตัว ก็คงเป็น PHP เพราะว่ามัน open source มีฟังก์ชันหลากหลาย แล้วก็ง่ายด้วยค่ะ
ส่วน ASP ก็เป็นภาษาที่ classic นะคะ แต่โค้ดและ ฟังก์ชัน จะอ่านยากนิดนึง

เท่าที่เห็น  ถ้าเป็นองค์กรขนาดเล็กถึงขนาดกลาง จะใช้ PHP ถ้าขนาดใหญ่ขึ้นไป จะใช้ ASP แล้วก็ .net ค่ะ

แต่จริงๆแล้วคิดว่า อยู๋ที่ความถนัดค่ะ..ถ้า base ภาษา C ดีๆ ก็เลือก PHP , ถ้า base ภาษา VB ดีๆ ก็เลือก ASP ค่ะ

[yesupdate]

ชอบใช้ ASP เนื่องจากใช้ MS SQL Server ค่อนข้างง่าย เน้นเรื่อง Database มากกว่า แต่ถ้าใครทำเว็บไฮโซก็ใช้ php เถอะ ทำได้เยอะเลย ถ้า php ต้องไปวัดรุ่นกับ asp.net น่าจะสูสีมากกว่าในเรื่องของลูกเล่น

[Synchronize]

เอ ... ทำไม short_open_tag = off กันล่ะครับ

เขียน คำสั่งสั้นๆ มันไม่ดีตรงไหนหว่า ? อันนี้ผมใช้บ่อยซะด้วย

Note: This directive also affects the shorthand <?= , which is identical to <? echo . Use of this shortcut requires short_open_tag  to be on.

[EThaiZone]

เอ ... ทำไม short_open_tag = off กันล่ะครับ

เขียน คำสั่งสั้นๆ มันไม่ดีตรงไหนหว่า ? อันนี้ผมใช้บ่อยซะด้วย

Note: This directive also affects the shorthand <?= , which is identical to <? echo . Use of this shortcut requires short_open_tag  to be on.

สั้นๆ แต่มันไม่ได้มาตรฐานครับ ยิ่งบางเซิร์ฟ อาจมีการใช้นอกเหนือจาก php อีก
เพราะภาษาสคริปอื่นก็มีการใช้เปิดปิดแท็กเหมือนกัน บางเซิร์ฟเลยมีุถึงกับปิด short_open_tag เลยก็มี
จึงเป็นการดีกว่าถ้าจะใช้ <?php เพราะมันบอกชัดๆ เลยว่านี้เป็่น php
เวลา compile เป็น opcode จะได้ทำงานอย่างถูกต้องด้วย

ปล. ถ้่าจำไม่ผิด php5 ติดเอง มันจะ off มาตั้งแต่แรกด้วย

[char]

ตอบเลย เขียนเป็น 2 อย่าง
ASP/ASP.Net มากับไมโครซอฟ ส่วนตัวคิดว่ามัน ห่วยแตก ทำงานอืดอาด อาจ Develop ง่ายจะเอา Component อะไรดีๆ ซื้อหมด เนื่องด้วยความช้าของมัน ช่องโหว่ก็ตามมา ผมก็ไม่ได้ผ่าพิสูจน์อะไรมากครับ แค่รู้ว่ามันช้าเมื่อใช้ Spect เครื่องเดียวกัน Run Source Code แบบเดียวกันแล้วจับเวลา เพียงแต่มันดูดี ASP/ASP.Net มี Certificate ของ Microsoft รับรอง แต่ PHP ไม่มีใครรับรองไงแค่นั้นเอง
PHP กิน Resource น้อย ทำงานเร็วครับแต่ไม่ที่สุด ที่สุดด้านเว็บยกให้ Python,Ruby ไปครับรองมา Perl 3 ตัวนี้กิน Resource น้อยเหมือน PHP

ปล.strict mode Code ผมก็ไม่มีปัญหาถึงมีก็ไล่ปิดจนหมด ซึ่งใช้เวลาไม่นาน แหมม....ผมเองก็เจอพวกเขียน ASP ใส่ On Error Resume Next ทุกหน้าเลย

php programmer 90% ถ้าเปิด strict mode code พังครับ
พึ่งตัวอำนวยความสะดวกของ php มากไป เช่น register global กับ error reporting ปิด E_NOTICE
มี magic quotes gpc อีกตัว บางคนเปิดตลอด จนลืมไปว่าถ้าปิดนี่รูรั่วยุบยับทันที


แต่ถ้าพูดถึง ....
ผมหัด ASP ก่อนนะครับ แล้วไป pascal / aegis npc script / visual basic / ai / php
แต่ syntax ภาษาที่ชอบที่สุดก็คือ C# (เพราะมันผสมกันระหว่างความง่ายของ basic กับความลงตัวของ C)

การออกแบบ module ของ php เป็นแบบพื้นฐานครับ ทำให้ต่อยอดได้หลากหลาย
ทำให้มี framework ออกมาหลายตัว

ที่สำคัญ... ยุคนี้ถ้าบอก asp คงหมายถง .NET กันหมดแล้ว
แถมตัว .net เองเป็น framework ที่สุดยอดมากๆ แถมด้วยสุดยอด IDE ของ microsoft (visual studio)
จนบัดนี้ผมยังหา IDE ที่ดีกว่า visual studio ไม่ได้เลยครับ





ปล. ถามตัวเองดู ... ว่าเขียน PHP เปิด strict mode ได้แล้วยัง?


ปปล. strict mode
- safe_mode = off (ให้ง่าย)
- short_open_tag = off
- display_errors = on
- error_reporting = E_ALL
- register_globals = off
- magic quotes gpc = off
- allow_url_fopen = off
- allow_url_include = off
- register_long_arrays = off