ปวดคอ อาการเล็กที่ไม่ควรมองข้าม สัญญาณเตือนสุขภาพที่คุณอาจละเลยหลายคนอาจเคยรู้สึกไม่สบายบริเวณต้นคอ บางครั้งอาจเป็นเพียงอาการตึงเล็กน้อย แต่บางครั้งก็รุนแรงถึงขั้นขยับศีรษะลำบาก ซึ่งอาการ
ปวดคอ นี้เกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ทั้งพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน 
ความเครียด รวมถึงโรคเกี่ยวกับกระดูกและกล้ามเนื้อ หากปล่อยไว้นานโดยไม่แก้ไข อาจลุกลามไปสู่ปัญหาสุขภาพที่รุนแรงกว่าเดิมได้
สาเหตุของอาการที่เกิดขึ้นบ่อยในคนยุคใหม่การใช้ชีวิตที่เกี่ยวข้องกับหน้าจอมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน หรือแท็บเล็ต ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณต้นคอและบ่าได้รับแรงกดอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่อาการไม่สบายที่มักถูกมองข้าม
พฤติกรรมการนั่งที่ไม่ถูกต้อง
การนั่งก้มหน้าหรือเงยหน้ามากเกินไป เช่น การนั่งจ้องจอคอมนานโดยไม่พัก หรือการนอนเล่นมือถือในท่าที่คอแอ่น ล้วนทำให้กล้ามเนื้อเกิดการเกร็งสะสม
ความเครียดและความวิตกกังวล
เมื่อจิตใจตึงเครียด ร่างกายจะเกร็งตามโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะบริเวณบ่าและคอ ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก กลายเป็นอาการตึงและปวดในที่สุด
ปัญหากระดูกสันหลังและหมอนรองกระดูก
ในบางราย อาการอาจเกิดจากหมอนรองกระดูกเสื่อม หรือกระดูกคอเคลื่อน ซึ่งส่งผลต่อเส้นประสาทและทำให้เกิดอาการปวดร้าวลงแขน หรือชาตามมือ
ลักษณะอาการที่ควรเฝ้าระวังแม้จะดูเหมือนอาการเล็กน้อย แต่บางครั้งอาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาที่ซับซ้อนมากกว่าที่คิด การรู้เท่าทันและสังเกตตนเองจึงเป็นเรื่องสำคัญ
ปวดตึงบริเวณท้ายทอย
มักเกิดจากกล้ามเนื้อคอส่วนหลังทำงานหนัก อาจรู้สึกปวดมากขึ้นตอนตื่นนอนหรือหลังจากทำงานนาน ๆ โดยไม่มีการยืดเหยียด
ปวดร้าวลงบ่า ไหล่ หรือแขน
อาจเกิดจากเส้นประสาทที่ถูกกดทับ หากมีอาการชาร่วมด้วยควรรีบพบแพทย์ เพราะอาจเกี่ยวข้องกับปัญหาในหมอนรองกระดูกหรือกระดูกคอ
มีเสียง "ก๊อกแก๊ก" หรือข้อติด
การเคลื่อนไหวคอแล้วมีเสียงผิดปกติ อาจแสดงถึงความเสื่อมหรือการสึกของข้อคอที่มากเกินปกติ ซึ่งควรได้รับการตรวจวินิจฉัยโดยผู้เชี่ยวชาญ
สรุปแม้อาการไม่สบายบริเวณคอจะดูเหมือนไม่รุนแรงในช่วงแรก แต่หากละเลยหรือไม่แก้ไขที่ต้นเหตุ อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในระยะยาวได้ การใส่ใจต่อพฤติกรรมการใช้ร่างกาย การพักสายตา และการปรับท่าทางในชีวิตประจำวัน ล้วนเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงและส่งเสริมให้คุณมีสุขภาพคอที่ดีไปอีกนาน.
