https://www.youtube.com/watch?v=TqDLYi3EzMs 
เมื่อไม่นานมานี้ผมได้ไปสัมภาษณ์ผู้ชายคนหนึ่ง เขาไม่เคยออกสื่อที่ไหนมาก่อนในชีวิต สิ่งที่น่ามหัศจรรย์คือเขาสามารถทำเงินได้ 27,000 บาทต่อเดือนโดยใช้เวลาทำงาน 10 นาทีต่อสัปดาห์
นั่นหมายความว่าตกนาทีละ 675 บาท…!!!
นาทีละ 675 บาท…!!!!!!!!!
ล่าสุดได้ข่าวว่ายอดเงินเกินไปแล้ว
ที่น่าตลกมากๆก็คือวิธีที่เขาใช้ไม่ได้เป็นเวทมนต์หรือ Top Secret ใดๆเลย แต่พอเขาพยายามจะเล่าให้คนรอบข้างฟังว่าเขาทำได้อย่างไรกลับไม่มีคนสนใจฟัง นี่คือความอาภัพของนายตัวเอง คือมีเรื่องที่ภาคภูมิใจจะเล่ามากมายเต็มไปหมดแต่ไม่ค่อยจะเจอผู้ที่สนใจจะฟังเรื่องราวของตัวเองประสบพบเจอมาจนกว่าจะมีสื่ออะไรซักสื่อเข้าถึงตัวแล้วโด่งดังภายในชั่วข้ามคืน ผมชอบฟังคนประเภทนี้มาก เพราะการได้ฟังวิธีสร้างเส้นทางนายตัวเองของแต่ละคนที่สื่อกระแสหลักเข้าไม่ถึงทำให้ผมรู้ว่าบนโลกนี้มีการหาเงินเป็นร้อย เป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสนวิธี และบางวิธีก็เรียบง่ายแต่มีศักยภาพในการทำรายได้สูงมากจนน่าตกตะลึง…!!!
เหมือนกับวิธีนี้เลย
ผมคงไม่โอ้อวดเรื่องรายได้กับชั่วโมงการทำงานที่น้อยนิดเดียวให้อิจฉาแล้วบอกว่าถ้าอยากรู้ก็จ่ายเงินมาสิ เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง แต่มาไขปริศนาว่าเขาทำได้อย่างไร ทำยังไง และเริ่มต้นด้วยกลยุทธ์อะไร…??? คุณจะไม่มีวันเชื่อได้ลงตราบใดที่หัวใจของคุณไม่ยอมเชื่อมั่นคำว่า “ยินดีต้อนรับเข้าสู่โลกยุคใหม่ ยุคที่การเป็นลูกจ้างยากกว่านายตัวเอง…!!!” เพราะนี่คือเส้นทางนายตัวเองที่หลายคนปรารถนาและรายได้ไม่เกี่ยวกับชั่วโมงการทำงาน
ทุกวันนี้หลายใช้เทคโนโลยีที่มนุษย์บนโลกสร้างขึ้นมาให้ใช้ฟรีๆในทางไหนบ้างนอกจากดูข่าว ดูชีวิตคนอื่น และหาข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์เข้าหัวจนรกสมอง อินเตอร์เน็ตทำให้คุณสามารถรู้เรื่องราวทุกอย่างที่อยากรู้ได้อย่างง่ายดายจนถึงระดับง่ายเกินไป น่าเสียดายหากคุณจะปล่อยความสามารถที่มีพลังพอๆกับเวทย์มนต์ระดับ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ไปกับเรื่องเหล่านั้น ลองถามตัวเองว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากคุณตั้งใจศึกษาเพื่อเอาพลังเหล่านี้มาเปลี่ยนชีวิตตัวเองโดยการสร้างเส้นทางนายตัวเองเพื่อเป็นอิสระโบยบิน คำตอบคือไม่มีทางรู้เลยเพราะความเป็นไปได้มีแบบไม่จำกัด และนั่นก็มีความเป็นไปได้ว่าคุณอาจจะกลายเป็นมหาเศรษฐีโดยใช้เวลาทำงานต่อเดือนเพียงนิดเดียว
คนส่วนใหญ่ยอมนั่งเรียน 20 ว่าปีเพื่อให้ได้เงินเดือน 15,000 บาท
แต่พอต้องเรียนให้ได้เงินเป็นแสนเป็นล้านกลับบอกว่าไม่มีเวลา
อุดม แต้พานิช
คุณนทีลาออกจากงานเงินเดือนสูงเพราะรู้สึกว่านั่นไม่ใช่เป้าหมายของชีวิต สโลแกนที่เขาแอบกระซิบข้างหูผมออกแนวกวนๆ “ถ้าอยากได้เงินมันต้องทำงานหนะครับ ผมอยากได้เงินแล้วไม่ต้องทำงานหนักด้วย” ฟังดูแล้วเพ้อๆ ถ้าไม่ติดว่าเขาทำได้จริง
ในช่วงระหว่างการทำงานประจำ คุณนทีจำเป็นต้องเคี่ยวเข็ญตัวเองให้เก่งภาษาอังกฤษภายในระยะเวลาอันสั้นเนื่องจากต้องติดต่อประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ต่างชาติ เขาจึงทุ่มเทเงินทองซื้อคอร์สสอนภาษาอังกฤษออนไลน์จากต่างประเทศเพื่อเอามาศึกษาด้วยตัวเอง แน่นอน ผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่ มุมมองของเจ้าของภาษาที่พยายามทำให้ง่ายกับมือใหม่ที่ไม่เป็นภาษาเลยนั้นใช้ไม่ได้ เรียนไปเป็นปีก็ไม่ได้เก่งขึ้น ถึงแม้จะดูเสียเงินแบบเสียเปล่าให้ชาวต่างประเทศ แต่ที่ได้กลับมาคือเห็นวิธีการทำเงินแบบอัตโนมัติของเจ้าของหลักสูตรโดยแทบไม่ต้องใช้เงิน
ค้นหาสินค้าจาก Google > ดูหน้าเว็บและค้นหาในอินเตอร์เน็ตว่าคอร์สนี้น่าเชื่อถือขนาดไหน > เข้าไปหน้าสินค้าเพื่อสั่งซื้อ > ชำระเงินผ่าน Paypal หรือบัตรเครดิต > ได้รับลิ้งค์ดาวน์โหลดสินค้า เป็นอันจบกระบวนการ เจ้าของสินค้าได้เงินโดยที่ยังไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองได้เงิน
ทุกขั้นตอนไม่มีมนุษย์อยู่ในระบบเลยแม้แต่คนเดียว เป็นการซื้อขายที่ใช้ระบบอัตโนมัติและคอมพิวเตอร์ทั้งหมด
เมื่อเห็นวิธีการทำเงินแบบสร้างห่านทองคำเป็นของตัวเอง คุณนทีค้นพบว่าตัวเองอยากทำคอร์สสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ในมุมมองของผู้เรียนจากประเทศที่ภาษาอังกฤษไม่ได้รับความนิยม แทนที่จะทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดสร้างสินค้าเพื่อไปลุ้นที่หลังว่าจะขายคอร์สได้หรือไม่ได้ เขาเริ่มต้นจากการหาลูกค้าก่อนเพื่อทดสอบตลาดว่าตอบรับไอเดียของเขามากน้อยขนาดไหน
http://www.engfluent.com/ 
จึงเกิดขึ้นมาโดยมีเป้าหมายรวบรวม Email จากผู้คนที่สนใจเรียนภาษาอังกฤษทั่วโลกให้ได้มากที่สุด

ทำไมต้องรวบรวม Email คนยุคสมัยนี้เขา Social กันหมดแล้ว
ลักษณะการใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์ของประเทศไทยนั้นค่อนข้างแตกต่างกับคนทั้งโลก และเป็นประเทศที่ชาวต่างชาติตะลึงเพราะสามารถใช้ Facebook สร้างเนื้อสร้างตัวทำธุรกิจจนรวยได้เลย การพยายามเก็บอะไรก็ตามที่จะสามารถทำให้เราส่งสาส์นไปถึงกลุ่มเป้าหมายได้เป็นเรื่องสำคัญ สำหรับคนไทยการใช้อีเมลล์ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร แต่ถ้าเป็นคนต่างประเทศ อีเมลล์ยังถือเป็นเครื่องมือติดต่อสื่อสารที่มีประสิทธิภาพสูงอยู่ พวกเขาคุ้นชินกับการตื่นมาเช็คอีเมลล์มากกว่าคนไทยหลายเท่า การเก็บอีเมลล์จึงเป็นเรื่องจำเป็นมากสำหรับการทำเงินแบบอัตโนมัติ เพราะถ้าได้อีเมลล์มาแล้ว เว็บไซต์เขาจะกลับมาดูอีกหรือไม่ก็ไม่ใช่ประเด็นเพราะเขาจะติดต่อคุณได้ผ่านอีเมลล์ของคุณ ดังนั้นเวลาคุณเข้าไปยังเว็บไซต์ต่างประเทศ คุณจะค้นพบว่าพวกเขามักจะเรียกร้องให้คุณกรอกอีเมลล์ให้ได้ การส่งสิ่งที่เราต้องการไปถึงมือผ่านอีเมลล์ส่วนตัวเลยนั้นง่ายกว่าเยอะรวมทั้งการขายสินค้าด้วย ซึ่งฝรั่งเขาเรียกกันว่า Email Marketing
ผู้ให้บริการระบบแบบนี้ก็มี
http://www.mailchimp.com 
เป็นต้น โดยเสียค่าใช้จ่ายรายเดือนประมาณ 600 บาทต่อเดือน ระบบนี้จะทำให้คุณมีแบบฟอร์มสำหรับสะสม Email จากลูกค้าของคุณ และเมื่อคุณต้องการบอกอะไรก็สามารถเขียนเนื้อหาแล้วกดส่งได้เลย แม้กระทั่งการแนะนำสินค้า ส่วนถ้าคุณไม่ชอบเสียเงิน ของฟรีก็มี เช่น Mailpoet ซึ่งเป็นปลั๊กอินของ WordPress ซึ่งเป็นโปรแกรมทำเว็บไซต์สำเร็จรูปที่เปิดให้ใช้กันฟรีๆ แต่ประสิทธิภาพจะสู้ของเสียเงินไม่ได้
แล้วคำถามสำคัญต่อมาคือ จะหาคนมากรอกอีเมลล์จากไหน…??? ตรงนี้คือส่วนของการเริ่มหาลูกค้าแล้ว คุณนทีเล็งเห็นว่าคลิปสอนภาษาอังกฤษบน Youtube นั้นส่วนใหญ่จะได้ยอดวิวที่สูงมาก เขาเลยลงทุนสร้างคลิปสอนภาษาออนไลน์ให้ทุกคนดูฟรีๆผ่าน Youtube เป็นจำนวนทั้งหมด 11 คลิปด้วยกัน ที่ว่าลงทุนนั้นไม่ได้ลงเป็นเงิน แต่ลงเป็นแรงและเวลาในการสร้างสรรค์สื่อประชาสัมพันธ์ตัวเองขึ้นมา คุณนทีใช้เมาส์ปากการาคา 3 พันกว่าบาทกับโปรแกรมบันทึกหน้าจอ Camtasia วาดการ์ตูนเพื่อสร้าง Animation แบบง่ายๆ (แต่ผมแนะนำให้ใช้ Fraps ซึ่งเป็น Freeware) ใช้ไมค์โครโฟนราคาถูกอัดเสียงซึ่งสนนราคาตั้งแต่ 300 กว่าบาทจนถึงระดับ 4 พันบาท ใช้ Software ตัดต่อวีดีโอแบบง่ายๆอย่าง Camtasia (ส่วนตัวผมใช้ Adobe Premiere pro) เมื่อทำคลิปเสร็จก็อัพโหลดให้ขึ้นไปดูกันฟรีๆได้บน Youtube ช่อง Engfluent เลย นี่คือคลิปของคุณนทีครับ
https://www.youtube.com/watch?v=CAU2zx2Ri_M 
เผยแพร่เมื่อ 25 ต.ค. 2014 สถิติล่าสุดในวันที่ 31 ต.ค. 2015 มียอดวิว 246,830 วิว Like 1,390 Dislike 79 ความคิดเห็นทั้งหมด 111 ความคิดเห็น เห็นได้ชัดว่ามีคนทั่วโลกสนใจดูคลิปของเขามาก
ในท้ายคลิป คุณนทีจะบอกกับท่านผู้ฟังทุกท่านว่า ถ้าสนใจจะรับข้อมูลมากกว่านี้ ให้เข้าไปที่เว็บไซต์ของตัวเอง เมื่อเข้าไปที่เว็บไซต์ ด้วยความที่เว็บไม่มีอะไรนอกจากช่องกรอกอีเมลล์โดยใช้แรงกระตุ้นคือถ้าคุณให้อีเมลล์เรา เราจะให้บทเรียนฝึกภาษาอังกฤษกับคุณฟรี 3 บทด้วยกัน…!!! โดยจะจัดส่งให้วันละ 1 บทคนที่เข้ามาเยี่ยมชมก็ต้องกรอกอีเมลล์เพื่อติดตามข่าวสารไปโดยปริยาย
วันที่ 1 หลังจากที่ลูกค้าลงทะเบียนอีเมลล์ ว่าที่ลูกค้าจะได้รับเมลล์เพื่อส่งลิ้งค์ไปยังบทเรียนฟรี Lesson 1 – The Right Way to Learn to Speak English.
วันที่ 2 หลังจากที่ลูกค้าลงทะเบียนอีเมลล์ ว่าที่ลูกค้าจะได้รับเมลล์เพื่อส่งลิ้งค์ไปยังบทเรียนฟรี Lesson 2 – Why You Must Listen to English Regularly (Even If Your Listening is Good.)
วันที่ 3 หลังจากที่ลูกค้าลงทะเบียนอีเมลล์ ว่าที่ลูกค้าจะได้รับเมลล์เพื่อส่งลิ้งค์ไปยังบทเรียนฟรี Lesson 3 – Improve Your English Using Speaking Exercises
และวันที่ 4 ซึ่งเป็นวันที่จะส่งบทเรียนสุดท้าย Lesson 4: How to Become an Advanced English Speaker และปิดการขายด้วยการเสนอขายคอร์สภาษาอังกฤษออนไลน์ของคุณนที เมื่อลูกค้าตัดสินใจจ่ายเงินผ่านระบบชำระเงินของ Paypal เว็บ E-Junkie ก็จะส่งลิ้งค์ดาวน์โหลดคอร์สวีดีโอซึ่งเป็นสินค้าไปให้ที่อีเมลล์ของลูกค้าโดยตรง คุณสามารถเข้าไปดูหน้าปิดการขายได้ที่นี่http://engfluent.com/lesson-4-english-course/
และเมื่อถึงจุดนี้ ก็ถือว่ารายได้เป็นของคุณนทีโดยสมบูรณ์ เมื่อระบบเสร็จแล้ว ที่เหลือก็เข้ามาถึงขั้นตอนสร้างสินค้าอย่างจริงๆจังๆ
ในคลิปสัมภาษณ์คุณนทีบอกว่าปัจจุบันมีคนกรอกอีเมลล์ราวๆ 1 ร้อยฉบับต่อวัน เมื่อมี Contact แล้วก็เข้าสู่ช่วงทดลองสินค้า
คุณนทีสร้างหลักสูตรเพื่อทดลองว่าลูกค้าจะเต็มจ่ายหรือไม่ด้วยการส่งอีเมลล์ให้พวกเขาได้เรียนฟรีเพื่อขอ Feedback และเอากลับมาปรับปรุง ซึ่งตรงนี้เท่ากับว่าเขาได้รับการวิจัยสินค้าจากผู้บริโภคตัวจริงโดยไม่ต้องใช้เงินซักบาทเดียว และเมื่อ Feedback มากพอและจำนวนบทเรียนในคอร์สออนไลน์มากขึ้น เขาก็ส่งอีเมลล์เพื่อปิดการขายทันที ถ้าลูกค้าสนใจซื้อ ก็แค่คลิ๊กไปที่หน้าระบบขายสินค้าที่นทีไปสมัครเปิดบริการไว้ที่ต่างประเทศเช่น
http://www.e-junkie.com/ 
ซึ่งเป็นระบบขายของให้คุณโดยอัตโมมัติแลกกับค่าบริการนิดหน่อย กรอกบัตรเครดิต แล้วคอมพิวเตอร์จะทำการจัดการเรื่องเงินให้เสร็จสรรพโดยที่เจ้าตัวไม่ต้องทำอะไร ซึ่งในช่วงแรกนั้นเขาได้ทำทุกอย่างเองหมด แต่พอมีรายได้จากการขายคอร์สตรงนี้มากขึ้น คุณนทีก็ปฏิรูปวิธีการทำงานให้เหลือเพียงเขียนหลักสูตรที่ต้องการด้วยตัวเอง และใช้ทรัพยากรคนอื่นจากเว็บไซต์
https://www.fiverr.com 
เขาจ้างฝรั่ง 2 คนมาตรวจไวยกรณ์ และบันทึกเสียง โดยต่อ 10 นาทีในการสร้างหลักสูตรจะใช้เงินราวๆ 2,500 บาท ซึ่งเงินตรงนี้ก็ไม่ได้ควักเองแล้วเพราะเอาเงินที่ได้จากการทดลองตลาดมาจ่าย
และเมื่อมาถึงตรงนี้ทุกอย่างก็เป็นวัฏจักรที่สามารถทำเงินได้ด้วยตัวมันเองโดยไม่ต้องเข้าไปทำงานหนักเหมือนเดิม
1. คลิปวีดีโอจะทำหน้าที่หาลูกค้าใหม่ๆให้เข้ามาที่
http://www.engfluent.com 
ใครก็ตามที่ค้นหาอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษก็มีสิทธิ์เจอคลิปวีดีโอเหล่านี้เช่นกัน
2. ในท้ายคลิปวีดีดอจะแนะนำให้ไปยังหน้าเว็บไซต์เพื่อให้ลูกค้ากรอกอีเมลล์
3. อีเมลล์จะส่งบทเรียนฟรี 3 วัน วันละ 1 บทเรียนเพื่อเปิดใจลูกค้า และทันทีที่เข้าวันที่ 4 ระบบอัตโนมัติจะส่งอีเมลล์ปิดการขายคอร์สภาษาอังกฤษทันที
4. ถ้าลูกค้าต้องการซื้อ ก็คลิ๊กไปที่หน้าที่คุณนทีสมัครไว้ใน
http://www.E-junkie.com 
กรอกบัตรเครดิต เมื่อได้รับเงิน ระบบก็จะส่งลิ้งค์ดาวน์โหลดคอร์สไปให้ที่อีเมลล์ของลูกค้า
5. ระบบจะส่งเงินมาที่บัญชีรับเงิน Paypal ของคุณนที
6. คุณนทีเอาเงินส่วนหนึ่งไปจ้างฝรั่งให้พัฒนาบทเรียนให้ดีขึ้น และดึงเงินส่วนหนึ่งออกมาใช้ดำรงชีวิต

ทั้งหมดนี้เป็นอัตโนมัติและเป็นวัฏจักรไม่มีวันจบสิ้นจนกว่าเจ้าของระบบอย่างคุณนทีหรือ CEO ของเหล่าเทคโนโลยีที่เขาใช้เปลี่ยนแปลงนโยบายจนกระทบกับธุรกิจ เขาไม่ต้องหาลูกค้าใหม่เพราะ Youtube หาให้ ไม่ต้องเปิดการขายเพราะ Email Marketing เป็นตัวเปิดให้ ไม่ต้องเก็บเงินลูกค้าด้วยตัวเองเพราะระบบบนเว็บไซต์ของต่างประเทศจัดการหาให้ สุดยอด…!!! มีเพียง 2 ขั้นตอนที่คุณนทีต้องลงมือทำ คือ เมลล์ไปหาและจ่ายเงินให้ฝรั่งเพื่อพัฒนาหลักสูตร และถอนเงินจาก Paypal มาเข้าบัญชีตัวเอง นี่คือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงลดชั่วโมงการทำงานจนเหลือเดือนละ 40 นาทีได้โดยรายได้ไม่ตกแถมมีแต่จะมากขึ้นทุกวันๆ
ระบบนี้คุณคิดว่าคุณสามารถทำได้หรือไม่ ถ้าทำไม่ได้ คุณจะต้องเรียนรู้อะไรเพื่อให้สามารถทำได้เหมือนดั่งคุณนที
คำถามที่สำคัญที่สุด ผู้เขียนสอนให้คนอื่นมีระบบอัตโนมัติ แล้วผู้เขียนมีระบบอัตโนมัติหรือเปล่า คำตอบคือมีครับ เพียงแต่ยังต้องทำงานเองอยู่บ้าง นั่นคือ Ebook มนุษย์เป็นสัตว์ไม่กินเงินเดือน
ทุกวันนี้มนุษย์เป็นสัตว์ไม่กินเงินเดือนสามารถสร้างรายได้แบบ Passive Income ให้กับผมได้ ทุกอย่างเกือบจะเป็นระบบอัตโนมัติตั้งแต่การหาลูกค้า การประชาสัมภาษณ์ การโอนเงินที่ไม่ต้องตรวจสอบยอดเงินเองเพราะระบบอัตโนมัติทำให้ ดูหน้าตัวอย่างได้ที่นี่ แต่ขั้นตอนที่ผมยังต้องทำเองคือการกดส่ง Ebook ผ่านทาง Email ให้กับลูกค้าพร้อมขอบคุณด้วยตัวเอง ถ้าผมต้องการสร้างระบบอัตโนมัติแบบ 100% ผมสามารถเอาไปขายบน Meb และ Ookbee ที่จะส่งเงินให้ผมทุก 30 วันหลังจากหักค่าธรรมเนียมเข้าบัญชีธนาคารโดยตรงแบบไม่ต้องทำอะไรเลย ทุกวันนี้ผมมี Passive Income แบบอัตโนมัติอยู่ราวๆ 3-4 หลักต่อเดือน ใช่ครับ หลักร้อยกับหลักพัน ถึงแม้จะไม่เยอะ แต่รายได้ตรงนี้เกิดจากการไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะผมใช้บริการฝากขายของ Meb และ Ookbee นั่นเองโดยมีค่าใช้จ่าย 31-32% ของราคา Ebook เป็นค่าบริหาร นี่ก็เป็นรายได้แบบนั่งกระดิกเท้าเหมือนกัน
ดังนั้นผมอยากจะบอกว่าการสร้างระบบทำเงินอัตโนมัตินั้นใครๆก็สามารถทำได้ แถมความเสี่ยงอย่างมากก็แค่เสียเวลาเท่านั้น ไม่ถึงขั้นคอขาดบาดตายหรือล้มละลาย นี่คือเหตุผลทำไมเด็กรุ่นใหม่ในยุคนี้ถึงเป็นนายตัวเองกันง่าย ก็เพราะเครื่องมือทุกอย่างมันพร้อมให้ทำธุรกิจโดยไม่ต้องใช้ประสบการณ์และเงินทุนยังไงหละ
โลกประทานเทคโนโลยีให้เราฟรีๆแล้ว ทำไมเราต้องทำงานหนักเเลกเงินในเมื่อเทคโนโลยีมันหาเงินให้เราได้
มันไม่ได้ยากเกินความสามารถที่คนไทยคนหนึ่งจะทำได้เลย
ขอให้คุณโชคดีครับ
ถ้าคุณอ่านจนจบแล้วยังไม่เห็นภาพ เชิญฟังเทปสัมภาษณ์คุณนที เจ้าของระบบที่ให้สัมภาษณ์กับรายการ Startyourway ได้ที่นี่เลยครับ คุณจะเข้าใจบทความที่เขียนมาทั้งหมดนี้ผ่านเจ้าตัวโดยตรงเลย
https://www.youtube.com/watch?v=TqDLYi3EzMs 