อยากอบรม SEO แบบเจ๋ง ๆ เนี่ย ผมว่า คนสอนถ้าไม่กั๊ก ผมว่ามันก็เจ๋งแล้วนะ
แต่คุณอย่าไปเลือกทำเลย ไอ้ SEO ที่มีคู่แข่งเยอะ เหนื่อย เสียเงิน ยิ่งมือใหม่ ยิ่งเจ๊บหนัก
ขนาดมือเก๋า ยังต้องเพลี้ยงพล้ำ ในบางสถาณการณ์
เริ่มต้น เลือก Business ก่อนครับ เมื่อเลือกแล้ว มองความเป็นไปได้ มองช่องว่าง
ที่ยังพอจะให้เรา สอด แทรก เข้าไปยืนได้ ผมยกตัวอย่างง่าย ๆ เมื่อ สองปีที่ผ่านมา
ผมค้นคำว่า "ผ้าม่าน" ใน Google ค้นไป พบเวปหน้าตาเชย ๆ ไม่กี่เวป เปิดดูแล้ว
ไม่น่าซื้อ และก็ยังไม่มีคนทำ Adwords แต่ผ่านมา 1 ปี มันตรงกันข้ามครับ
แข่งกันรุนแรงขึ้นเยอะ แน่นอน ถ้าคุณมาทีหลัง คุณก็ต้องจ่ายหนักหน่อย
แต่ถ้าลองไปดู Business ที่น่าจะเริ่มแบบ Online ได้ไม่ยาก อันนี้ผมมองเห็นโอกาส
พอดีเพื่อนเค้าสนใจ เกี่ยวกับ บอนไซ (ต้นไม้จิ๋ว ๆ อ่ะ) เค้าพอมีความรู้ พอลองดูใน Google
ก็แทบไม่มีคู่แข่งเลย หรือ มีก็น้อยมาก ผมมองว่า ธุรกิจนี้ น่าทำ Online แบบ Full E-commerce เลย
ค้นคำว่า "บอนไซ" คู่แข่ง 43,000 คน แบบนี้ ไม่เกิน 2 เดือน ที่หนึ่งแน่ ๆ ครับ ใช้เงินไม่เท่าไหร่
ถึงฐานลูกค้า อาจจะไม่มาก แต่คนเล่นบอนไซ ก็มักเป็นกลุ่มคนมีฐานะพอสมควร
ถ้ามีความรู้ด้านต้นไม้จิ๋วนี้อยู่ แล้วมาทำ E-Com + SEO + Adwords แทบจะ ผูกขาด เลยนะ
เพราะเดี๋ยวนี้ ใคร ๆ เค้าก็ค้นหา ข้อมูล ผ่าน Google กันทั้งนั้น
อีกกรณี เพื่อนอีกคน บอกว่า ทำไงดี เปิดเวปไซด์แนว ๆ readyplanet / tarad / gmwebsite ไว้แล้ว
แต่ขายไม่ได้เลย ผมก็ดูว่า ทำอะไร ปรากฎว่า แกขาย สินค้าแฟชั่นผู้หญิง เช่น กระเป๋า ผมลองค้นคำว่า กระเป๋า
ตะลึง คู่แข่ง มหาศาล 12 ล้าน ส่วนคำว่า "กระเป๋า แฟชั่น" คู่แข่ง 1.7 ล้าน แบบนี้ไม่ง่าย แต่ไม่ยาก
แต่พอลองปรึกษา กำไรต่อหน่วยของสินค้าแล้ว น้อยเกินไปที่จะลงโฆษณาแบบ Adwords ผมก็ยังคิดไม่ตก
ว่าควรจะแนะนำเค้าไปอย่างไรดี เพราะการทำ SEO ในปัจจุบัน ต้องมีเงินทุนเยอะพอสมควร
พวกสินค้าที่คนขายกันเยอะ ๆ เป็นอะไรที่ไม่น่าทำ เพราะ เห็นผลช้า คู่แข่งเยอะ กำไรต่อหน่วยต่ำ
ทีนี้เจ้าของกระทู้ อยากเอา SEO ไปทำเพื่อขายอะไรครับ (สินค้า หรือ พื้นที่โฆษณา)
เพื่อคนเก่ง ๆ แถวนี้ จะช่วยกันแนะนำแนวทางให้ได้ครับ
เวลามีคนมาปรึกษา ว่าจะทำยังไง ที่จะสร้างรายได้ผ่าน E-Commerce ได้อย่างจริง ๆ จัง ๆ
ผมก็จะดู Business ก่อนเลย ว่าคู่แข่งเยอะแค่ไหน อย่างพวกแนว "สปา" นี่ คู่แข่งเพียบเลย
คือ พวกธุรกิจอะไร ที่มัน ฮิต ๆ นี่ไม่ควรเสี่ยงครับ วัน ๆ ไม่ต้องทำอะไร ต้องคอยจ้องคู่แข่งตลอด
ต้นทุนก็สูง เหนื่อยกาย เหนื่อยใจ ลองให้เวลาสักนิด มองหาธุรกิจ ที่คู่แข่งน้อย ๆ ก่อนดีกว่า
หรือ คู่แข่งที่ เราสามารถเหนือกว่าได้ เหมือนกับ สโลแกนล้ำยุค Red Ocean กับ Blue Ocean
หรือ ทะเลแดง กับ ทะเลน้ำเงิน หรือ มหาสมุทรแดง กับ มหาสมุทรน้ำเงิน
ทะเลแดง หมายถึง สินค้าเป็นที่นิยม คู่แข่งเยอะ
ทะเลน้ำเงิน หมายถึง สินค้าที่คิดค้นใหม่ หรือ มีคู่แข่งไม่เยอะ
ถ้าคุณเลือกทะเลน้ำเงิน แล้วเอาเวลา มาพัฒนา ส่วนนี้ให้มาก ๆ จนกลายเป็น Expert ก็มีโอกาสสูง
ที่จะประสบความสำเร็จ มากกว่า ไปลงทุนกับพวก ทะเลแดง
ตัวอย่าง ทะเลแดง "ร้านอาหาร ร้านหมูกะทะ (ตอนนี้กุ้งกะทะ) ร้านกาแฟ ร้านสปา ร้านเสริมสวย"
ตัวอย่าง ทะเลน้ำเงิน เราอาจจะต้องมอง ทะเลแดง ให้ออกก่อน แล้วพัฒนาโอกาสออกมา ให้เป็นทะเลน้ำเงิน (ตลาดของเราเอง)
อย่างเช่น ยามาฮ่า ฟีโน่ ก็ถือเป็น Blue Ocean เพราะ สร้างตลาด มอไซด์ย้อนยุค แต่ก็มีแนวแบบวัยรุ่นได้อย่างลงตัว
และคู่แข่งไม่ทันตั้งตัว จึงครองเจ้าตลาดรถกลุ่มนี้
ผมอยากให้ไปอ่านเพิ่มเติม เช่น Links เหล่านี้ หรือ ศึกษาเพิ่มเติมจาก Google
http://www.nidambe11.net/ekonomiz/2007q3/2007july23p3.htm 
http://www.businessthai.co.th/...t.php?data=410909_Smart%20SMEs http://www.pasuonline.net/webboard/index.php?showtopic=72 คนรวยส่วนใหญ่ มักจะรวยจาก Idea ที่คิดได้เป็นคนแรก ๆ และทำให้มันเป็นจริง
บางคนคิด แต่ไม่ทำ (หรือพูดอย่างเดียว) หรือ บางคนทำ แต่ทำไม่เสร็จ (อาจจะโดนชุบมือเปิบก็ได้นะ)
ในโลกปัจจุบัน ถ้าอยากรวย ก็ต้องนำเสนอ สินค้าที่ แปลกใหม่ แหวกแนวให้ได้
ถ้าทำได้ คุณจะรู้คุณจะเข้าใจ ว่าทำไมถึงรวยกันได้ รวยกันดี ส่วนคนจน ทำไมไม่มีเงินสักที (ไม่ใช่ให้ไปโกงจนรวยนะ)
ส่วน Internet เป็นสื่อ ที่เข้ามาแทน 4P's ในกลยุทธ์ การตลาดแบบเก่า (ไม่รู้เดี๋ยวนี้ยังเรียน 4P's กันอยู่หรือเปล่านะ)
หรือ ในส่วนของ Internet + Ecommerce จะเข้าไปในส่วนของ Place -> Distribution หรือ ช่องทางการจัดจำหน่าย
แต่ Internet เป็นมากกว่านั้น ผมว่า Website แทบจะเป็น 4 P's ด้วยตัวมันเองทั้งหมด
Product -> ถ่ายรูปให้สวย ใส่ข้อมูลให้ครบ Design web ให้เนียนสุด ๆ ไปเลย (ค่อย ๆ ทำเน้อ)
Price -> ใส่ราคาไปเลย
Place -> Google ไง ลูกค้ามาจาก Google ทำเข้าไป Adwords + SEO
Promotion -> ลดกระหน่ำ ให้จุใจไปเลย แบบ ซื้อ 2 แถม 1 หรือ ซื้อ 3 แถม 2 อะไรแบบนี้จะเห็นว่า คุณเจ้าของกระทู้ อาจจะมองเฉพาะในส่วน P ตัวที่ 3 คือ Place (สถานที่จัดจำหน่าย)
ผมบอกเลย ถ้าคุณติดอันดับ ดี ๆ ใน Google แต่ Website ไม่มีอีก 3 P's ที่เหลือ
โอกาสประสบความสำเร็จก็ยากครับ มันควรจะมาพร้อม ๆ กัน
Website ปิดการขายได้ง่ายมาก ไม่ต้องเจอหน้ากัน โอนเงิน ส่งสินค้า จบ!
หลายครั้ง ผมขายของหลายแสนบาท โดยไม่ได้เห็นหน้ากันด้วยซ้ำ หรือ อาจจะอยู่คนละซีกโลก
เราต้องสร้าง มาตรฐาน ให้ผู้ซื้อเกิดความเชื่อมั่นในตัวสินค้า ในตัว Brands ของสินค้า เพียงแค่
ผู้ซื้อ เปิด website ของเรา ก็ต้องรู้แล้วว่า นี่แหละ ที่เค้าหาอยู่ และ web นี้ ดีกว่าคู่แข่งรายอื่น ๆ แน่ ๆ
และผู้ซื้อ ยังต้อง ไม่คิดที่จะปิดหน้า Website ของเรา แล้วไปค้นหาผู้ขายรายใหม่อีก
ใน Website ของเราควรมีข้อมูลมาก ๆ ให้ผู้ซื้อได้ เพลิดเพลิน แต่อาจจะไม่ต้อง เย่นเย้อมาก เอาแต่พอดี ๆ
และอย่ากล่าวอวดอ้างเกินจริง เพราะ ผู้ตัดสินใจซื้อ อาจจะลังเล และสับสน
ผมแค่อยากจะบอกว่า SEO + Adwords + Website เทพ ๆ ยังไม่พอหรอกครับ ที่คุณจะรวยได้ มันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะ เช่น คุณบริหารคนเป็นไม๊!! (อย่าบอกนะว่าที่ผมพูดมาทั้งหมด คุณทำคนเดียว)!!!!
แหล่งเงินทุนหล่ะ ความชอบ และ รักในธุรกิจ ความขยัน ความกระตือรื้อล้น การบริหารเวลาการทำงาน
ความมีระเบียบ มีวินัย ความรับผิดชอบอีกนับร้อยนับพัน ความเสี่ยงที่จะล้มเหลว พร้อมที่จะรับหรือเปล่า
สิ่งเหล่านี้ ถ้าไม่มีผู้ปกครองที่มีประสบการณ์ถ่ายทอดมาให้ ก็ยากครับ ที่คนทั่วไป จะเข้าถึงสูตรสำเร็จเหล่านี้ได้
อย่างน้อย แค่เริ่มคิด ก็ดีกว่าไม่ได้เริ่มแม้แต่จะคิด แต่อย่าลืม ลงมือทำด้วยหล่ะ!!!
ลงมือทำแล้ว อย่าลืมคำว่า คิด ก่อน ทำ เสมอ เหมือน คิด ก่อน พูด และสิ่งสำคัญเหนืออื่นใด โชค และ ดวงชะตา (ถึงแม้บางคนจะบอกว่า เกี่ยวข้องเพียง 1%)
และสำคัญมากกว่าสิ่งอืนใด โอกาส
คนรวย สร้างโอกาส
สถานการณ์ สร้างวีรบรุต เมื่อไม่มีโอกาส พึ่งสร้างสถาณการณ์ (แล้วเราก็เข้าไปเป็นวีรบรุตเอง) หรือ ชงเอง กินเอง
ความรู้ทั่วไป
