ความคิดเห็นส่วนตัวครับ
อยากได้หนังสือแแบบออกแนว ถามปัญหาแล้วตอบ คล้ายๆ หนังสือแนว ถามตอบหนี้บัตรเครดิต อะไรประมาณนี้อะครับ(ไม่แน่ใจว่าจะยกตัวอย่างผิดไปหรือเปล่า)
เพราะถ้ามือใหม่อยากลองตลาดดูสิ่งที่อยากได้มากที่สุดคือ พี่เลี้ยงในการช่วยตอบข้อสงสัยเรื่องพื้นฐานหรือปัญหาต่างๆที่มักเกิดขึ้นเป็นประจำ
ประมาณว่าถ้าเกิดปัญหา 123 จะแก้จะรับมือยังไง123 ถ้าได้แนวนี้ออกมาเชื่อว่ามือใหม่อยากลองทำมีเยอะขึ้นอีกแยะ

เจ็โหดเคยเขียน software บัตรเครดิตสมัยสาวๆ
สมมตว่าลูกค้าเปิด case ว่าไม่ได้รับของกรณีที่ 1 ลูกค้าไม่ได้รับของจริง ไม่ได้ตั้งใจโกง

1.1 เรามี เลข Trace_no ก็ไป update case บอกว่า ของไปถึงบ้านในวันที่เท่านี้แต่ลูกค้าไม่อยู่บ้าน
หลังจาก Update case ทาง ebay แล้ว เราควรจะถ่ายสำเนาใบเสร็จให้ลูกค้าดู และ dump sceen หน้าจอสถานะของพัสดุ ส่งไปที่อีเมล์ของลูกค้าที่ให้ไว้ใน PP
1.2 หา สถานะของพัสดุ ไม่เจอ
ตอบ case ในอีเบย์ไปว่า เราได้ติดต่อไปรษณีย์ไทยให้ช่วยตามสถานะชองพัสดุให้ และได้ CC mail ไปหาลูกค้าด้วย
เราต้องส่งเมล์ไปที่ call center ของไปรษณีย์ไทยและ cc ไปยังเมล์ของลูกค้าที่ให้ใน PP ด้วย
เคยเจอในช่วงตอนปีใหม่ 3 อาทิตย์ที่ลูกค้าสิงคโปร์ไม่ได้รับของ ปรากฏเป็นความผิดของทางไปรษณีย์เขาส่งผิดเส้นทาง
เช่นลูกค้าอยู่ภาคเหนือของสิงคโปร์ แต่พัสดุของเขาถูกส่งไปศูนย์ไปรษณีย์ทางภาคใต้
กรณีที่ 2 ลูกค้าได้รับของแล้ว อ้างว่าไม่ได้รับของ

2.1 ตอบ case ใน อีเบย์ว่า ลูกค้าใด้รับของแล้วเมื่อวันที่ xxxx ขอให้ลูกค้าไปเช็คดูว่ามีใครเก็บพัสดุเขาบ้าง
เราควรจะถ่ายสำเนาใบเสร็จให้ลูกค้าดู และ dump sceen หน้าจอสถานะของพัสดุ ส่งไปที่อีเมล์ของลูกค้าที่ให้ไว้ใน PP
2.2 ลูกค้าบอกไม่ได้ของ จริงๆ
อันนี้ต้องเขียนจดหมายขู่ว่า เราได้ติดต่อทางไปรษณีย์ไทยชอให้ติดต่อกับไปรษณีย์เดนมาร์ก ว่าใครเป็นคนเซ็นรับของชิ้นนี้ ถ้าเกิดเป็นลายเซ็นส์คุณขึ้นมา account ebay กับ PP มีสิทธิถูกปิด
ลูกค้ารัสเซียกัยเดนมาร์คชอบบอกว่าใม่ได้รับของเพราะ เราใช้บรืการชองไปรษณีย์ไทยซึ่งไม่สามารถระบุวันที่ที่ลูกค้าจะได้รับชองจริงได้เหมือนกับ Fed ex หรือ UPS ดังนั้น การลงทะเบียนพัสดุทุกครั้งจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากค่ะ

:wanwan003:การตอบปัญหาในแต่ละ case ก็จะมีตัวอย่าง จมภาษาอังกฤษ ที่อ่านเข้าใจง่ายจะได้เป็น template ไว้ให้แล้วกัน
สำหรับในข้อ 2.2 มันจะต้องเขียนจม ในเชิงจิตวิทยาหน่อยว่าฉันถิอไพ่เหนือกว่าเธอนะ
บางคนบอกว่าของได้กำไรน้อย ถ้าลงทะเบียนพัสดุ ก็ขาดทุนกันพอดี อย่างที่พี่บอก ขายยาหม่องตราเสือ 30 g ในราคา$5.75 แต่ เมื่อคิดกำไร จริงๆแล้ว เราได้ แค่ 3 บาท ขาย 100 ขวด กำไร่ทั้งหมด 300 บาท
ดังนั้นเราควรจะมี product ที่ทำกำไร ได้มากกว่า 200% ในร้านเยอะๆ ซึ่งเราต้องขยันหา Product และทดสอบ Product
โดยส่วนตัวคิดว่าทำอีเบย์เหนื่อยมาก แต่ถ้าเราขยันอ่านและมี ความรู้ทางธุรกิจ เรายังสามารถทำกำไรจากอีเบย์ได้อยู่