การจะทำ Content ให้น่าสนใจ หรือ ถูกใจอากู๋นั้น หลักๆที่เราจะต้องถามตัวเองและสำรวจเว็บไซต์ของเราว่า เป็นไปตามข้อต่อไปนี้หรือไม่ เรามาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
การจะทำให้ Content ที่เราซับมิทลงไปในบล็อคนั้น ถูกใจอากู๋ จะต้องมี 4 ข้อดังต่อไปนี้
1. Content Quality คือ คุณภาพของบทความตรวจสอบว่า บทความของเรามีคุณภาพหรือไม่ คนอ่านเข้ามาอ่านแล้วเค้าเข้าใจหรือไม่
การสปินบทความแต่ละครั้งนั้น สปินให้คนอ่านหรือบอทอ่าน ผมเห็นบางเว็บ สปินมั่วไปหมดหาใจความไม่ได้เลย

จงจำไว้เสมอว่า บอทที่เข้ามาอ่าน ก็เหมือนคนนั่นแหละครับ ถ้าคุณซื้อหนังสือมาอ่าน แล้วเค้าเขียนอะไรไม่รู้เรื่อง คงจะไม่อยากจับหนังสือเล่มนั้นอีกเลยใช่มั้ยครับ

หลักการเดียวกันกับบอทครับ แต่อาจจะมีบางคนเถียงว่า มันทำได้ และอันดับดีด้วย
คำตอบคือ อาจจะใช่ครับ สำหรับตอนนี้ เพราะผมว่า Google ไม่หยุดการพัฒนาแค่นี้แน่ครับ ในอนาคตคงจะมีการปรับ Algorithm ตรงจุดนี้
ดังนั้น สู้ทำบทความคุณภาพแล้วยิงยาวเลยดีกว่ามั้ยครับ ดีกว่าต้องมานั่งแก้บทความใหม่
2. Content Research หรือ การวิเคราะห์บทความบทความที่เราซับมิทไปแต่ละครั้ง จะต้องมีคีย์เวิร์ดในบทความด้วยครับ ไม่ใช่เขียนความรู้ไปซะเยอะ แต่เขียนวกไปวนมา ไม่มีคีย์เวิร์ด

และคีย์เวิร์ดของบทความนั้นก็คือ คำๆนึง ที่ผู้คนจะพิมพ์คำนี้ลงช่องค้นหาของ Google เพื่อที่จะเจอเว็บคุณ
และปริมาณคีย์เวิร์ดที่ควรจะใส่ลงในบทความนั้น ก็แล้วแต่สูตรของบุคคลนั้นๆนะครับ
แต่กลางๆก็คือ 2-5 % ครับ เช่น เขียน 100 คำ ควรจะมีคีย์เวิร์ดประมาณ 2-5 ในบทความนั้นๆครับ
และต้องไฮไลท์คีย์เวิร์ดนั้นไว้ด้วยครับ

บอทจะได้รู้ว่า คำๆนั้นเป็นคีย์เวิร์ดที่จะใช้ค้นหาครับ เช่น
ทำตัวหนา ตัวเอียง เปลี่ยนสี ขีดเส้นใต้3. Content Engage หรือ ความเกี่ยวข้องของบทความสมมุติทำตาม 2 ข้อด้านบนเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีคนค้นหาคีย์เวิร์ดนั้น และเข้ามาอ่านบทความของท่านทั้งหลาย
คำถามต่อไปคือ Do visitors spend time reading or "bounce" away quickly?
หรือแปลเป็นไทยก็คือ คนที่เข้ามาดูนั้นอ่านบนความของท่านหรือไม่ หรือพวกเค้ารีบปิดไปอย่างรวดเร็วเลย

จุดนี้ก็สำคัญนะครับ เพราะว่าหากคีย์เวิร์ดไม่ค่อยตรงหรือไม่ให้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเค้าต้องการเท่าที่ควร
เค้าจะ Memory ไว้ในหัวเลยครับว่า เว็บนี้เว็บนั้น บทความไม่ดี ถึงขึ้นอันดับ 1 เค้าก็ไม่คลิกเข้าไปครับ
เปรียบเทียบก็คือ ท่านไปร้านขายของร้านหนึ่ง พอไปถึงเค้าเตอร์ปุ๊บ เจอเจ้าของพูดไม่ดีด้วย ถามนั่นถามนี้ก็ตอบแบบส่งๆ
ผมจะคิดในใจเลยครับว่า ผมจะซื้อสินค้ากับร้านนี้แค่ครั้งเดียวพอครับ

หลักการเดียวกันกับเว็บของเราครับ ถ้าเว็บของเราบทความดี เนื้อหาครบ เค้าได้ความรู้กลับไปมาก เค้าอาจจะ Bookmark หรือ Favorite เว็บของเราไว้เลยก็ได้ครับ
เหมือนกับเราเดินเข้าไปซื้อของร้าน 7-11 พอเดินเข้าไปก็ 7-11 สวัสดีครับ ตอนคิดเงินก็ ถามรับขนมจีบ ซาลาเปาเพิ่มมั้ยครับ จ่ายตังค์เสร็จก็ ขอบคุณครับ (ไม่ได้จะโปรโมท 7-11 นะครับ

)
4. Content Fresh หรือ ความสดใหม่ของบทความบทความที่ท่านๆทั้งหลายควรมีความสดใหม่ ในที่นี้คือ ไม่ Copy & Paste บทความคนอื่น แล้วบางคนยังมักง่าย ไม่ใส่ Credit ให้เค้าอีก
ทำให้มีเรื่องมีราวกันในบอร์ดมาหลายครั้งหลายหนแล้ว

บดความที่สดใหม่ในที่นี้ก็คือ คิดขึ้นมาใหม่โดยใช้สำนวนเราเอง
หรือถ้าคิดอะไรไม่ค่อยออก ก็หาบทความดีๆมาซัก 4-5 บทความเกี่ยวกับเรื่องที่เราเขียน
อ่านทั้งหมดนั้นให้เข้าใจ และนำมาเรียบเรียงใหม่เป็นสำนวนของท่านเอง หรือเรียกว่า การ Rewrite บทความ
บทความที่ดีควรมีจำนวนตัวอักษรประมาณ 300-500 คำ และคีย์เวิร์ด 2-5% เพราะถ้ามากกว่านี้ Google จะมองว่าบทความเป็นสแปมได้ครับ
จบแล้วครับสำหรับการเขียนบทความคุณภาพที่จะ Submit เว็บของท่าน ครั้งหน้าจะเป็นเรื่องอะไร มาคอยติดตามกันนะครับ
ปล. หากคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์รบกวนทุกท่าน +1 ให้ด้วยนะครับผม จะได้มีกำลังใจเขียนบทความให้ความรู้กับเพื่อนๆพี่ๆในบอร์ดต่อไปครับ นี่เป็นการเขียนบทความครั้งแรกของผมลงบอร์ดครับ หากผิดพลาดอะไรก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ