ข้อแนะนำในการเลือก domain name มีดังนี้
1. ควรเป็นชื่อที่จำได้ง่าย เพราะถ้าชื่อโดเมนยาว เราก็จะจำได้ยาก! เช่น
www.likemovieclub.cz.nf 
ถามหน่อยว่า ถ้าคุณไม่รู้จักเว็บนี้เลย แล้วเพื่อนบอกคุณมาว่าให้เข้าไปเว็บนี้ โดยบอกเราทางปากเปล่า พอกลับไปเปิดคอมฯเข้าที่บ้าน แล้วคิดเลยว่า “เว็บที่เพื่อนเราบอกมันชื่อว่า อะไรหว่า?

” คำถามนี้อาจเกิดขึ้นในใจคุณ แต่ถ้าตั้งชื่อเว็บไซต์ง่ายๆ เช่น
www.pc.com 
มันจะจำง่ายมากๆ เลย มีแค่ 2 ตัว แป๊บเดียวก็จำได้แล้ว แต่เดี๋ยวนี้ จด .com สั้นแค่นี้ ไม่ได้แล้วครับ หมดไปแล้ว เชื่อผมๆ
2. ควรเป็นชื่อที่สั้น คือไม่ควรเกิน 10 ตัวอักษร จะสามารถทำได้จำได้ง่ายขึ้น และยังลดการสะกดชื่อผิดได้ ผู้ใช้งานเว็บไซต์นั้นชอบที่จะพิมพ์ชื่อเว็บที่สั้นมากกว่าชื่อเว็บที่ยาว มากแน่นอน เช่น
www.webswix.com 
สั้นๆ ง่ายๆ แต่ถ้า (สมมุตินะ เว็บนี้จริงๆ ไม่มีหรอก)
www.togglerockscensetownerinparis.cc 
ถ้าคุณเคยได้ยินเว็บนี้ครั้งแรก คุณจะ อึ้ง ไปเลย!
3. ควรจดโดยใช้ .com ในปัจจุบันมีหลายชื่อให้เลือกมากเช่น .net , .org , .info , .cc แต่ชื่อที่นิยมใช้มากที่สุดคือ .com ลองเดาดูสิครับว่า เว็บไซต์ดังๆหรือเว็บบริษัทดังๆ เค้าใช้ . อะไรกันบ้าง ดูกันเลย….
www.google.com 
,
www.yahoo.com 
,
www.microsoft.com 
,
www.apple.com 
,
www.sanook.com 
,
www.codetukyang.com
www.myreadyweb.com 
ผู้ใช้งานจะคุ้นเคยกับ .com มากกว่า และในกรณีที่ผู้ใช้งานจำ domain name เราไม่ได้ก็มีโอกาสสูงที่เค้าจะใช้ชื่อ .com ก่อน หรือจะเปลี่ยนไปใช้ in.th .co.th ก็ได้ แต่ราคาจะสูงกว่า .com (ถึงจะไม่กี่บาทก็เหอะ) อีกอย่าง .com เป็นชื่อโดเมนที่ Search Engine รู้จักดีที่สุด ส่งผลต่อการทำ SEO อย่างงามเลย!
4. ควรเป็นชื่อที่เป็นสากล การใช้ชื่อที่เป็นสากลรู้จักกันโดยทั่วไป ไม่ควรใช้คำเฉพาะที่รู้จักกันคนในพื้นที่รู้จักเท่านั้น จะทำให้เว็บไซต์เราสามารถรองรับผู้ใช้งานจากพื้นที่อื่นได้ เช่น Microsoft (ภาษาอังกฤษ ใช้กันทั่วโลก) แต่ถ้าเป็น Sanook (“สนุก” เป็นภาษาไทย เน้นกลุ่มผู้ชมเป้าหมายเป็นคนไทย) คนต่างชาติถ้าไม่รู้ภาษาไทย แล้วเว็บคุณมีโดเมนเป็นภาษาไทย หรือสะกดเป็นคำไทย เช่น www.ผิวขาวใส.com หรือ
www.sanook.com 
ชาวต่างชาติอาจไม่เข้าเว็บคุณเลยก็ได้ เพราะไม่รู้ว่า Domain นั้น แปลว่าอะไร ถึงแม้ในเว็บไซต์จะมีข้อมูลที่เขากำลังหาอยู่ก็เถอะ
5. ควรเป็นชื่อที่ง่ายในการออกเสียง การออกเสียงได้ง่ายจะทำ ให้จำได้ง่ายขึ้น และสะกดได้ง่ายขึ้นด้วย จะเห็นได้ว่าเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงในปัจจุบันสามารถออกเสียงได้ง่ายมาก เช่น google , yahoo , sanook, webswix เป็นต้น เพื่อให้เข้าถึงเว็บไซต์นั้นได้ง่าย แต่ถ้าเป็น
www.hs289639926.ws 
ฝันไปเถอะว่าเขาจะจำได้ (ถ้าจำได้ไม่นานก็ลืม)
6. ควรเป็นชื่อที่มีตัวอักษรเท่านั้น ในปัจจุบันเราสามารถใส่ สัญลักษณ์ (-) hyphen และตัวเลขใน domain name ได้ แต่การใส่สัญลักษณ์และตัวเลขนั้นจะทำให้เกิดความผิดพลาดในการพิมพ์ชื่อ domain name ได้ง่ายขึ้นเพราะจะไม่สัมพันธ์กับการออกเสียง แต่ว่า ถ้าเป็น .com ถ้าหากชื่อที่ตัวเองอยากได้มันซ้ำ หรือมีผู้จดไปแล้ว แนะนำให้ใส่ตัวอักษรที่ง่ายต่อการออกเสียงเพิ่มขึ้น เช่น
www.webs.com 
ใช้ไม่ได้เลยใส่ตัวอักษรเข้าไปเป็น
www.mywebcraft.com 
จึงจะใช้ได้ เป็นต้น แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ ใส่เลขใส่ – ก็ได้
7. ควรใช้ชื่อเว็บไซต์ที่มีตัวอักษรซ้ำกัน อีกข้อแนะนำหนึ่งก็คือใช้ตัวอักษรซ้ำกันใน domain name จะทำให้การออกเสียงง่ายขึ้นและจดจำง่ายขึ้น หลายเว็บไซต์ดังๆก็ใช้หลักการนี้เช่น google , badoo , badongo
8. ควรเป็นชื่อที่เกี่ยวกับเนื้อหาของเว็บไซต์ เพราะจะทำให้ผู้ใช้งานเว็บไซต์รู้เนื้อหาของเว็บไซต์ได้ทันทีจากชื่อของเว็บไซต์ เช่นถ้าคุณขายบริการทางเพศ เอ๊ย…. บริการทำเว็บไซต์ คุณก็น่าจะจด Domian ให้เหมือนเนื้อหาในเว็บไซต์ที่คุณมี เช่น Thamwebsite.com รับบริการทำเว็บไซต์ Codetukyang.com แจกโค้ด JAVA, PHP, HTML ฟรีๆ ไม่ใช่คุณจะสร้างเว็บไซต์ขายเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่ดันไปตั้งชื่อว่า nikerock.me ใครจะไปรู้ว่า Nikerock.me บริการสร้างเว็บไซต์?
9. ควรมี keyword ที่เกี่ยวข้อกับเว็บไซต์ keyword ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของเราจะมีผลอย่างยิ่ง ต่อลำดับการค้นหาของ search engine ต่างๆ เช่นถ้าคุณค้นหาคำว่า rock ใน search engine ลำดับต้นๆของผลลัพธ์ที่แสดงออกมานั้น ใน domain name จะมีคำว่า rock อยู่ด้วย เช่น
www.rock.com 
10. ควรใช้ยี่ห้อสินค้า,วงดนตรี หรืออื่นๆ ของตัวเองเป็น domain name ในกรณีนี้เรา เห็นตัวอย่างมากมายเช่น bodyslamband.com(เว็บของวง Bodyslam) Nike.com(เว็บของ Nike)
เอ่อ ตรงนี้ ข้อมูลมาจาก Web ของผมครับ
http://www.mywebcraft.com/ 
ยังมีเทคนิคมหาปลัยอีกเยอะให้รออ่านครับ