พี่สาวผมแนะนำ ตอนปี 3 ผมก็เลยไปฟัง แต่ผมไม่ค่อยมีอคติอะไร อันไหนดูมีอนาคตก็เปิดรับ เพราะผมรู้จักมาแต่ ป. 6 ละ ครูเอามาสาธิตก่อนเรียนให้ดู แต่ไม่รู้เรื่องธุรกิจ
แต่ผมไม่ค่อยได้ชวนใครเพราะผมรู้สึกตะขิดตะขวงอยู่ในใจเหมือนกัน ใครปฏิเสธหรือไม่เอาผมก็ไม่ค่อยอยากตื๊อ เกรงใจไม่ชอบบังคับใคร
เป็นเหตุว่าทำไมถึงไม่สำเร็จในธุรกิจนี้

(มีดาวน์ไลน์บ้างแต่เป็นคนที่พี่ซึ่งเป็นอัพไลน์ต่อลงมาให้อีกที ไม่งั้นก็คงไม่มีสักคนเพราะไม่ค่อยชวนใคร ออกแนวหยวนๆตลอด)
แต่เรื่องอบรมสินค้า สัมนา นี่ผมไปหมดนะ ต่างประเทศก็ไป ลงทุนไปเอง ไม่ได้เป็นระดงระดับอะไรกับเขาหรอก ต้องออกเองทั้งนั้น ไปฟังแนวคิดบวกอัพไลน์โปรโมต
จริงๆก็ตลกดีที่คนที่ผมคิดว่าเป็นอัพไลน์ผมทีแรก กลับกลายมาเป็นดาวน์ไลน์ของผมแทน ชอบชวนไปนู่นนี่ บางทีผมไม่ว่างก็ขี้เกียจบ้างรำคาญบ้างเหมือนกันเลยพอเข้าใจว่าพวกน่ารำคาญในธุรกิจนี้เป็นไง แต่ก็โอเค เกรงใจก็ตอบรับไป
นี่เคยยืมเงินให้ผมออกตังค์ซื้อครีมให้แล้วจะผ่อนคืน จนทุกวันนี้ยังไม่ยอมคืนเลย
ผมอยู่ธุรกิจนี้มาหลายปี แบบต่ออายุไปเรื่อยๆ ใช้สินค้าบ้างเป็นบางคราว บางทีเฝ้าดูวิธีการทำธุรกิจของคนในวงการนี้ บางทีก็ละเหี่ยใจอยู่เหมือนกันทำให้ผมชอบ mlm บางจุด แล้วก็มีหลายๆจุดที่ไม่ชอบใน mlm เช่นกัน
เดาว่าก็คงอยู่ในสภาวะแบบนี้ไปเรื่อยๆเพราะมาทุ่มด้านเว็บไซต์จริงจังมากกว่า มีตังค์เมื่อไรก็คงใช้สินค้าอย่างเดียวนั่นแหละ เพราะอบรมมาเยอะ ก็พอจะรู้สึกว่าสินค้าหลายๆตัวดีอยู่
อยากกินนิวทริไลท์ แต่ต้องประหยัดเอาไว้ก่อน อิๆ แต่กินก็ดีกว่าไม่กินหล่ะ อย่างผมไปตรวจสุขภาพโรงพยาบาลเอกชน สองรอบรวมๆไปสองหมื่นกว่า เรียกว่าไม่ได้ถูกเลยสักนิดโดยเฉพาะค่ายา
ปกติผมจะไม่ค่อยได้แนะนำสินค้าให้ใครเดี๋ยวจะคิดว่าพยายามจะขาย ยกเว้นถ้าบางคนซึ่งเห็นว่ามีปัญหาเรื่องสุขภาพหรือญาติคุณป่วย ผมก็แนะนำไปเป็นทางเลือก ส่วนใหญ่ก็เป็นเกร็ดความรู้ที่ได้มาจากการไปอบรมกับพยาบาลเรื่องโภชนาการนั่นแหละ
แต่คุณจะไปซื้ออะไรกับใครก็ตามใจ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมานั่งใส่ใจเรื่องการทำยอดสักเท่าไร เพราะมันตัด 3% ทิ้งไปขึ้นมาเป็น 6% เลย รู้ว่าซื้อเองยังไงก็ไม่ถึง
เงินส่วนใหญ่ที่จ่ายไปในธุรกิจนี้มักหมดไปกับเรื่องหาความรู้จากสัมนามากกว่า รายได้ไม่มีๆแต่จ่ายอย่างเดียว
จริงๆคอนเซปต์ network marketing หน่ะดีครับ แต่ทำยาก ไอ้ที่ว่าทำง่ายๆไวๆ ส่วนใหญ่ใช้สไตล์ แชร์ลูกโซ่ หรือ มันนี่เกมแทบทั้งนั้น (วิธีการก็ไม่ได้ต่างจากแบบออนไลน์เท่าไรหรอก) ถ้าให้พูดตามตรง บางระบบก็ลอกกันไปลอกกันมาด้วยหล่ะ
เป็นเหตุผลว่าใครชวนไปธุรกิจไหนก็ไม่เคยตอบรับ เพราะรู้สึกว่าดูไม่ค่อยยุติธรรมสักเท่าไรถึงแม้มันฟังดูง่ายก็จริง แต่ใครอยากทำก็ปล่อยเขาไป ธุรกิจไหนเงินเยอะๆยิ่งล่อง่าย (แต่มันไม่ง่ายเหมือนที่พูดหรอก ถ้าไม่ทุ่มเทแบบสุดตัว)
พวกทำไม่เกินปีสองปี แล้วทุ่มเยอะๆแบบไม่บันยะบันยังส่วนใหญ่เป็นเพราะเห่อธุรกิจ มักเจ็บตัวแทบทั้งนั้น มีอะไรก็เอามากักตุนไว้หมด อัพไลน์ก็ช่างกล่อมด้วยแหละ เรียกว่าเป็นแนวความคิดแบบเก่าๆตั้งแต่ยุคแรกๆแล้วหล่ะนะ ปิดเครื่องกรองอากาศเท่านี้ ปิดเครื่องกรองน้ำเท่านี้ คิดว่าขึ้นตำแหน่งแล้วจะสบาย เรียกว่าคิดผิดถนัด เพราะธุรกิจนี้ไม่ใช่เรื่องยอดชั่ววูบชั่วคราว แต่เป็นเรื่องปริมาณเครือข่าย
หรือมีคนเยอะ แต่ไม่มีคนใช้ก็ไม่ต่างกัน ไอ้พวกธุรกิจที่สินค้าตัวราคาแพงๆ ใครไปทำเจ็บตัวกันแทบทั้งนั้น ยกเว้นเสียว่าหลอกกินหัวคิวจากดาวน์ไลน์ได้มากหน่อย ซึ่งส่วนใหญ่จะทำกันแบบนั้น
ธุรกิจนี้ทำได้แต่ต้องไม่หลอกคนอื่น รวมถึงไม่หลอกตัวเองด้วยว่าไอ้ที่ทำอยู่ควรหรือไม่ควร
เวลาวิจารณ์ mlm นี่ไม่ได้แอนตี้หรืออคติอะไรหรอกครับ แต่อยู่มานานเลยพอรู้ว่ามันมีจุดที่ไม่ดียังไงบ้าง
คนทำ mlm ส่วนใหญ่จะไม่ชอบความคิดเห็นวิจารณ์ในเชิงเสียหายเท่าไร เพราะรู้สึกว่าเป็นแนวความคิดจากคนที่ไม่เคยเข้ามาสัมผัสในธุรกิจนี้จริงๆ (ส่วนใหญ่จะทะเลาะกันก็เพราะเหตุนี้)