ต่อไป »

[tenzamak]

อาชีพนี้เป็นอาชีพที่ตอ้งทำอย่างจริงจัง ไม่ใช่ทำไปพร้อมกับการเรียน เพราะอาชีพนี้มันจะเอาเวลาของชีวิตคุณไปครึ่งหนึ่งเลย ต้องดูแลลูกค้าตลอดเวลา 24 ชั่วโมง

ดังนั้น หากทำคู่ไปกับการเรียน คุณต้องเสียเวลาที่จะต้องเอาไปอ่านหนังสือเตรียมสอบ มาบริการลูกค้าแทน
และแทนที่คุณจะจบด้วยเกรดเฉลี่ย 4.00 คุณจะจบด้วยเกรดเฉลี่ย 2 กว่าๆ แทน

ซึ่งจะเป็นปัญหา ให้คุณหางานดีๆ ตอนเรียนจบยาก เพราะงานดีๆ เขาจะเอาไปให้กับคนที่เกรดเฉลี่ย 3 ขึ้นไปเป็นคนทำแทน

ผมเรียนได้ เกรด 1 ปลายๆครับ แค่พอไม่โดนรีไทน์ ถามว่าเครียดไหม ก็ตอบว่าไม่เครียดครับ เพราะจริงๆเหตุผลเดียวที่เรียน
ก็คือ  พ่อแม่อยากได้ ปริญญาครับ  แค่นั้น  อย่าไปยึดติดครับ  เกรดเฉลี่ย เป็นแค่สิ่งหรอกตา
ถ้าคุณอยากเป็นคนปกติ คุณก็ไป เรียนให้เกรดพุ่งๆครับ  ตื่นเช้าผูกไทด์ 8โมงโหนรถเมล  9โมงเข้างาน

หรืออยากชิว แบบผม  เรียน 9ไป 10  เรียน เที่ยงไป บ่าย  ทำงานโดยใส่บล็อคเซอร์  หล่อกว่ากันเยอะ  รายได้ผม ผมว่า เด็กจบใหม่แบบเรียนมาเพื่อเกรด ได้ไม่เท่าผมแน่ๆ

[CommonSun]

ตลาดยังกว้าใหญ่ครับ ยังมีคนทำเว็บอีกมากมายครับ

ราคามันยังไม่เสียหรอกครับ ถ้าราคาเสีย Host ราคาแพงๆ คงตายหมดแล้วครับ

ไม่ต้องกลัวครับ แต่เข้ามาแล้ว

1. ต้องมีความอดทน  (ถ้าวันนั้น น้องเท็น ^^ ข้างบน เจอปัญหาแล้วหนี เลิกทำคงไม่มีวันนี้)
2. จริงใจต่อลูกค้า ช่วงแรกๆ ที่ยังไม่ดังก็ต้องดูแลเอาใจใส่ลูกค้า มีปัญหาต้องแก้ให้ทันที แค่รับโทรศัพท์ก็พอครับ โทรมาแล้วมีคนรับ แก้ได้ไม่ได้ก็รับไว้ก่อน ลูกค้าสบายใจ
3. หมั่นศึกษาหาความรู้ รู้วิธีการแก้ปัญหาในกรณีลูกค้าทำงานหนัก
4. เอนดูเขาเอนเราขาด... ถ้าลูกค้ามันทำงานหนัก ก็อย่าดันทุรังให้ใช้ HOST ให้ออกหรือ ให้ UP เป็น VPSดีที่สุด
5. 6. 7. อื่นๆ ..... ดูได้จาก THT

สำคัญ: หาจุดยืนของตัวเองให้เจอ หากลุ่มลูกค้าตัวเองให้เจอ แล้วอะไรที่เราแตกต่างจากคู่แข่ง ราคาไม่ใช่ประเด็นครับ ถูกหรือแพงเป็นแค่ปัจจัยเล็กๆ เท่านั้นครับ

โชคดีครับ

เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ เป็นกำลังใจ

ช่วงแรกๆ ทำเอาความรู้   รายรับ มากว่ารายจ่ายเล็กน้อยไม่ขาดทุน

ตัวอย่าง ค่าใช้จ่ายด้าน Server เดือนละ 3500 บาท (หาพวกเช่าซื้อประมาณนี้น่าจะมี)

เรามีภาระต้องหาให้ได้เดือนละ 3500 ช่วงนี้อย่าเพิ่งคิดเอากำไรครับ อยู่ในข้อแรกเลยครับ คือมีความอดทน คืออดทนต่อการไม่ได้อะไร นานเป็นปีๆ ทำได้มั้ย

ง่ายๆ หาให้ได้เดือนละ 3500 แปลว่า หาลูกค้า Host ปีละ  500 บาท ให้ได้ 7 คน (จริงๆ เรามีหลาย Plan แต่เอาราคาต่ำสุดน่าจะหาลูกค้าง่ายสุด)

เดือนหนึ่ง มี 30 วัน ให้ได้ 7 คน ยากมั้ย ....... มากกว่านั้น ถือเป็นกำไรทางจิตใจ หุหุ

ทำให้ครบปี ปีที่ 2 หาให้ได้ เหมือนเดิม เดือนละ 7 ราย  ปีที่ 2 เริ่มได้กำไรแล้วเห็นมั้ย เพราะลูกค้าเดิม ต่ออายุ ลูกค้าใหม่เพิ่มมาอีก เห็นมั้ยไม่ยากเลย

ปีที่ 2 จะเริ่มไปเร็วแล้ว เพราะ ตลอด 1 ปีเราจะหาลูกค้าได้ 7 X 12 = 84 คน ใน 84 คนนี้ ถ้าเขาใช้ดีเขาก็แนะนำต่อ การแนะนำต่อนี่แหละเป็นความ๓ูมิใจของเราเลย เพราะเราบริการเขาดี เขาจึงบอกต่อ

เครื่อง Server 1 เครื่อง รับลูกค้าได้ประมาณ 400 โดเมน หรือประมาณ ปีละ 200,000 (ถ้าเรารับแค่ 500 บาทอย่างเดียว แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นหรอก มันก็มีอีกหลายๆ Plan ที่เราขายได้ รายได้จึงมากกว่านั้นมาก) หากเราบริหารจัดการดี นะครับ คือถ้าเว็บทำงานหนักเราก็ควรเอาเขาออกไป

ส่วนที่ทำแล้วขาดทุนนะคือพวก ความอดทนไม่พอ อยากรวยเร็ว รายได้น้อยก็ท้อ แล้วก็เจ้งกันหลายคน เพราะช่วงแรกๆ ที่ไม่เต็ม มันจะรายได้น้อยไม่คุ้ม

[mostzaa]

ตามที่ท่าน ท่าน CommonSun บอกตลาดยังอีกกลว้างเพียงแค่ ต้องพยายามครับ
ถ้าถึงเวลาจะถอยก็จำเป็นต้องถอย อย่าทน ผมไม่ไหวก็ถอย จนตอนนี้นิ่งๆกินเรื่อยๆแต่ไม่ได้ขายเพิ่มครับ

คำถามคือ คุณพร้อมเจอปัญหาแล้วหรือยัง ?

ถ้าผมไม่ได้รับการช่วยเหลือจากพี่ๆคงไม่มีวันนี้ ท่าน CommonSun ด้วย

[tenzamak]

ใช้แล้วครับ ธุรกิจนี้ คุณต้องเข้าใจก่อนว่า ไม่มี ทางมีชีวิต ปกติ  ไม่มีวันหยุด เหมือนคนอื่น

ลุกค้า หลัก สิบ  ยังมองไม่ค่อยเห็นภาพ  แต่ถ้าเมื่อไหร่ขึ้นหลักร้อย  หลักพัน  จะเข้าใจ ครับ

ล่มทีนึง  อย่างน้อยๆ ก็ 20 สาย  ยิ่งเจอลูกค้า ใจร้อน  เบอร์มี เมลมี ไม่ติดต่อ แต่ดันโพสบอร์ด  ยิ่งเหนื่อย

ล้มแล้วต้องลุกให้ไวครับ ธุรกิจนี้  เพราะมีมือใหม่หัดขับ  คอยเหยียบเรา  ดังนั้น  เราต้องมั่นคง


ผมทำตอน ม.4  ปัจจุบัน  ปี 3  ชิวครับ  ทำงาน  มีเงินใช้  มีรถขับ  มีเงินเรียน

ชีวิตนี้เอาไรมาก

[อยากรวย]

ตั้งใจเรียนให้เต็มที่เถอะนะ  เอาให้ได้เกรดเฉลี่ยๆ เยอะๆ เข้าไว้ ถ้าได้อยู่ฝ่ายบุคคล จะรู้ว่า เขาคัดพนักงานด้วย เกรดเฉลี่ย และสถาบันที่จบก่อนเสมอ

ถ้าคุณได้เกรดเฉลี่ย 3 - 4 คุณจะได้ทำงานบริษัทมหาชนขนาดใหญ่ๆ เช่น บริษัทหลักทรัพย์ ธนาคาร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นต้น
มีทั้งเงินเดือน สวัสดิการ โบนัส ------แต่ถ้าคุณได้เกรดเฉลี่ย 1-2 กว่าๆ คุณจะได้ไปทำงานบริษัทเล็ก ๆ หรืองานโรงงานแทน รายได้ต่างกันราวกับฟ้ากับเหว----


เปรียบเทียบ รายได้ กับ สวัสดิการ ให้ดูระหว่าง 2 อาชีพ

1. อาชีพพนักงาน บริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์
...............รายได้------------------------------................................................................................................
ปีที่1
เงินเดือน 15000 x 12 =  180,000
โบนัส คิดขั้นต่ำ 3 เดือน = 15000 x 3 = 45000
รวม 225,000 บาทต่อปี

ปีที่2 เงินเดือน 30000

เงินเดือน 30,000 x 12 =  360,000 บาทเท่านั้น
โบนัส  5  30,000 x 5 = 150,000
รวมรายได้   510,000 ต่อปี
+ เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามจริง เจ็บเล็ก เจ็บใหญ่เบิกได้หมด (ถ้าเบิกไป 3 หมื่น เหมือนได้เงินเพิ่มมาฟรีๆ 3 หมื่นบาท)
- ถ้าโชคร้ายเสียชีวิตระหว่างทำงาน  ญาติๆ ได้เงินจากประกันที่บริษัททำให้วงเงิน 1 ล้านบาทฟรีๆ

รวมรายได้ 2 ปี = 225000+510000 =  735,000  บาท

...

เปรียบเทียบกับยึดอาชีพทำโฮสติ้ง


1. ปีแรก ขาดทุน --ติดลบแน่นอน-- ในขณะที่คนด้านบนได้มา 2 แสนกว่า
2. ปีที่ 2 เริ่มมีกำไร

- สมมุติคนทำไม่เก่ง ได้กำไร เดือนละ 3 หมื่นบาท   30,000 x 12 =   360,000 บาทเท่านั้น

- ถ้าคนเก่ง อาจทำได้กำไร เดือนละ 5 หมื่น 50000 x 12 = ก็อาจได้ถึง 600000 บาทต่อปี

------สรุป-------แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมยอดรายได้ทั้ง 2 ปี-----------------

---------คนทำบริษัทใหญ่ๆ จะได้รวม 7 แสนกว่า ในขณะที่คนทำโฮสติ้งจะได้สูงสุด 6 แสนบาท

แถมโชคร้ายกว่านั้น คือ ...

1. คนทำโฮสติ้งไม่ได้โบนัส
2. คนทำโฮสติ้งไม่มีค่ารักษาพยาบาลฟรีๆ  เจ็บป่วย หนัก เบา จ่ายเองทั้งหมด -- ถ้าโชคร้ายนอนโรงพยาบาล ไม่มีคนดูแลโฮสติ้งให้อีก ลำบากไปกันใหญ่ (ถ้าควักจ่ายไป 3 หมื่น เหมือนรายได้หายไป 3 หมื่นทันที)
3. คนทำโฮสติ้งไม่มีประกันชีวิตจากบริษัท  ตายในหน้าที่ ตายแล้ว ตายเลย ไม่ได้เงิน 1 ล้านบาท

[tenzamak]

ว้าว คิด ขนาดนี้เลยหรือครับ  สุโคร่ย

[philasart]

มีความเสี่ยงมากเหมือนกัน เว้นแต่ว่าใจรักใจชอบอาชีพนี้ ก็ต้องทุ่มเทพอสมควร

[iLhay]

โอ้โห สุดยอดครับ

สองแสนกว่าลืมคิดค่าอาหาร ค่าเดินทางปะครับ

ผมพึ่งรุ้ว่ารายได้จากหนึ่งปีไปสองปีมันขึ้นมาเท่านึงครับ

 

[kangtung]

1. อาชีพพนักงาน บริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์
...............รายได้------------------------------................................................................................................
ปีที่1
เงินเดือน 15000 x 12 =  180,000
โบนัส คิดขั้นต่ำ 3 เดือน = 15000 x 3 = 45000
รวม 225,000 บาทต่อปี

ปีที่2 เงินเดือน 30000

ปีที่2 น่าจะเป็นเงินเดือน 15,000 x 1.1 = 16,500 บาท

แก้นิดนึงดีกว่าครับ งานบริษัท ถ้าบริษัทดีๆ หน่อย ขึ้นปีละประมาณ 10% ต้นๆ
นอกจากจะทำงานเก่งๆ สุดยอด เข้าตากรรมการจริงๆ จึงจะขึ้น 100% แบบนี้ หรืออาจะได้ปรับตำแหน่ง ปรับเงินเดือนตามตำแหน่ง

[JeffyPluS]

อยู่ที่มุมมองของแต่ละคน

ทำโฮสติ้งใช่ว่า จะไม่มีสวัสดิการ

หากแต่อยู่ที่บริหารเงินที่เข้ามา

มีเงินก็ออม ไป ทำ ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ

นอนโรงพยาบาล ก็ ไม่ต้องจ่าย ก็ทำได้ แถมได้เงินชดเชยรายได้ ก็ ทำได้อีกครับ

ตาย ไม่ต้องตายในหน้าที่ ขอให้ตาย ประกันก็จ่ายให้หมด ทุกกรณี ยกเว้น ฆ่าตัวตาย ใน 2 ปีแรก ที่ทำประกัน

[banbow1234]

ทุกตลาดมีที่ยืนครับ   แต่คุณต้องเข้าใจว่า รายใหม่ ไม่มีใครกล้าลองใช้ของคุณหรอกครับ ถ้าราคาไม่ถูกจนเค้ากล้าเสี่ยง   คุณจะไปขายเท่ารายใหญ่เค้าชาติไหนจะมีลูกค้า ถ้าไม่สร้างฐานให้คนรู้จักก่อนแล้วค่อยขึ้นราคาทีหลัง

[อยากรวย]

คิดจากเงินเดือนบริษัท มหาชนจำกัดในตลาดหลักทรัพย์ และคิดจากคนที่เป็น top ten หรือมีเกรดเฉลี่ย 3-4  (เพราะด้านบนตั้งสมมุติฐานว่า ตั้งใจเรียนอย่างเดียวจนได้เกรด 4)

พนักงานไอทีเก่งๆ เขาขึ้นเงินดือนให้เป็นเท่าตัวได้สบายๆ และไม่รู้สึกเสียดายเลย เพราะสร้างรายได้ให้บริษัทได้มากกว่านั้น
ดูอย่างคนเขียนโปรแกรมดูกราฟหุ้นเรียวไทม์ ทำงานแค่ปีเดียว ตอนนี้เงินดือน 5 หมื่นแล้ว
กระโดดแบบตกใจไปเลย เพราะเจ้านายกลัวถูกบริษัทอื่นดึงตัวไป

ส่วนพนักงานไอที ธรรมดาๆ เกรดเฉลี่ยต่ำกว่า 3  เงินเดือนจะขึ้นประมาณ 5-10%

[CommonSun]

ตั้งใจเรียนให้เต็มที่เถอะนะ  เอาให้ได้เกรดเฉลี่ยๆ เยอะๆ เข้าไว้ ถ้าได้อยู่ฝ่ายบุคคล จะรู้ว่า เขาคัดพนักงานด้วย เกรดเฉลี่ย และสถาบันที่จบก่อนเสมอ

ถ้าคุณได้เกรดเฉลี่ย 3 - 4 คุณจะได้ทำงานบริษัทมหาชนขนาดใหญ่ๆ เช่น บริษัทหลักทรัพย์ ธนาคาร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นต้น
มีทั้งเงินเดือน สวัสดิการ โบนัส ------แต่ถ้าคุณได้เกรดเฉลี่ย 1-2 กว่าๆ คุณจะได้ไปทำงานบริษัทเล็ก ๆ หรืองานโรงงานแทน รายได้ต่างกันราวกับฟ้ากับเหว----


เปรียบเทียบ รายได้ กับ สวัสดิการ ให้ดูระหว่าง 2 อาชีพ

1. อาชีพพนักงาน บริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์
...............รายได้------------------------------................................................................................................
ปีที่1
เงินเดือน 15000 x 12 =  180,000
โบนัส คิดขั้นต่ำ 3 เดือน = 15000 x 3 = 45000
รวม 225,000 บาทต่อปี

ปีที่2 เงินเดือน 30000

เงินเดือน 30,000 x 12 =  360,000 บาทเท่านั้น
โบนัส  5  30,000 x 5 = 150,000
รวมรายได้   510,000 ต่อปี
+ เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามจริง เจ็บเล็ก เจ็บใหญ่เบิกได้หมด (ถ้าเบิกไป 3 หมื่น เหมือนได้เงินเพิ่มมาฟรีๆ 3 หมื่นบาท)
- ถ้าโชคร้ายเสียชีวิตระหว่างทำงาน  ญาติๆ ได้เงินจากประกันที่บริษัททำให้วงเงิน 1 ล้านบาทฟรีๆ

รวมรายได้ 2 ปี = 225000+510000 =  735,000  บาท

...

เปรียบเทียบกับยึดอาชีพทำโฮสติ้ง


1. ปีแรก ขาดทุน --ติดลบแน่นอน-- ในขณะที่คนด้านบนได้มา 2 แสนกว่า
2. ปีที่ 2 เริ่มมีกำไร

- สมมุติคนทำไม่เก่ง ได้กำไร เดือนละ 3 หมื่นบาท   30,000 x 12 =   360,000 บาทเท่านั้น

- ถ้าคนเก่ง อาจทำได้กำไร เดือนละ 5 หมื่น 50000 x 12 = ก็อาจได้ถึง 600000 บาทต่อปี

------สรุป-------แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมยอดรายได้ทั้ง 2 ปี-----------------

---------คนทำบริษัทใหญ่ๆ จะได้รวม 7 แสนกว่า ในขณะที่คนทำโฮสติ้งจะได้สูงสุด 6 แสนบาท

แถมโชคร้ายกว่านั้น คือ ...

1. คนทำโฮสติ้งไม่ได้โบนัส
2. คนทำโฮสติ้งไม่มีค่ารักษาพยาบาลฟรีๆ  เจ็บป่วย หนัก เบา จ่ายเองทั้งหมด -- ถ้าโชคร้ายนอนโรงพยาบาล ไม่มีคนดูแลโฮสติ้งให้อีก ลำบากไปกันใหญ่ (ถ้าควักจ่ายไป 3 หมื่น เหมือนรายได้หายไป 3 หมื่นทันที)
3. คนทำโฮสติ้งไม่มีประกันชีวิตจากบริษัท  ตายในหน้าที่ ตายแล้ว ตายเลย ไม่ได้เงิน 1 ล้านบาท

คนเราความสามารถไม่เท่ากันครับ เทียบกันไม่ได้ครับ

ไม่ใช่ว่าเรียนมา จบมา จะได้เงินเดือน 3 หมื่นเลยครับ

คนทำ host กว่าจะได้กำไร ก็อาศัยเวลาเป็น ปีๆ แต่พอเริ่มมีกำไร มันจะมีรายได้เร็วกว่า ทำงานกินเงินเดือนมากอยู่ครับ

สมุติว่าทำงานกินเงินเดือน ได้เดือนละ 30,000 ปีๆ หนึงเงินเดือนขึ้น 5-10% สมุติขึ้นปีละ 10% ต้องทำกี่ปีถึงจะได้รายได้ 100,000 ต่อเดือน

ถ้าทำธุรกิจ ไม่เฉพาะกับ Hosting อย่างเดียวนะครับ ช่วงแรกของชีวิตจะมีรายได้น้อย แต่เชื่อเถอะครับ ไม่เกิน 10 ปี รายได้ต่อเดือน (กำไร) ไม่ต่ำกว่า 5 แสนต่อเดือนไม่ใช่เรื่องยาก

ในขณะที่เป็นลูกจ้าง ทำไม่ได้ ถ้าไม่เก่งจริงๆ แล้วถ้าเก่งจริงๆ แล้วเกิดตายมาก็ไม่มีรายได้ จบเลย ส่วนธุรกิจ ยังมีการทำงานต่อๆ ไป แล้วยังมีรายได้ให้ลูกหลานตลอด

ส่วนเรื่องประกัน ปัจจุบันผมทำประกันสุขภาพ รายปี เสียไม่มาก ได้รับความคุ้มครองมากมาย เข้าโรงพยาบาลไม่ต้องออกเงินเลยถ้าไม่เกินค่าใช้จ่ายที่ทำประกันไว้

พอมีรายได้มากพอเราก็เปิดบริษัท มีลูกจ้างทำงานแทนเรา สบายขึ้น เงินก็มากขึ้นด้วย  


ดูอย่างเท็นสิ ถามเท็นสิ ตอนทำใหม่ๆ กำไรเท่าไหร่ แต่ทุกวันนี้ เดือนละ 30,000 เป็นกำไรเรื่องเด็กๆ ไม่บอกว่าตอนนี้กำไรเดือนเท่าไหร่ แต่มากว่า 3 หมื่นแน่น...

[nutt2998]

คำถามเดียวกัน เปลี่ยนคำว่า host เป็นชาเขียวครับ
ถามก่อนมีอิชิตันนะ สมัยโออิชิครองตลาด

ทำไมอิชิตันเกิดได้? พวกนี้แหละครับปัจจัยของมัน ธุรกิจ hosting ก็ไม่ต่างกันครับ

เคสอิชิตันนี่แย่มากครับ เป็นโมเดลธุรกิจที่ดี แต่ ไม่มีจรรยาบรรณ
คล้ายๆกับเคสเวบสนุกรึเปล่านะ ที่ขายไปแล้วมาเปิดแข่งเหมือนเดิม

[iLhay]

คำถามเดียวกัน เปลี่ยนคำว่า host เป็นชาเขียวครับ
ถามก่อนมีอิชิตันนะ สมัยโออิชิครองตลาด

ทำไมอิชิตันเกิดได้? พวกนี้แหละครับปัจจัยของมัน ธุรกิจ hosting ก็ไม่ต่างกันครับ

เคสอิชิตันนี่แย่มากครับ เป็นโมเดลธุรกิจที่ดี แต่ ไม่มีจรรยาบรรณ
คล้ายๆกับเคสเวบสนุกรึเปล่านะ ที่ขายไปแล้วมาเปิดแข่งเหมือนเดิม

อันนี้คือธุรกิจครับ

ลองดูได้ครับ หลายๆธุรกิจถ้าถึงจุดๆนึงเขามีอยู่สองทางครับ (ถ้าผมจำไม่ผิด เคยอ่านมาสองสามปีแล้ว)

1. ขายธุรกิจให้คนอื่น และนั่งทำงานเป็น CEO
2. ทำธุรกิจนั้นต่อและไปซื้อกิจการอื่นมาเป็นในเครือ

การที่ขายไปอาจจะมีปัญหาหลายอย่างครับ เช่น ผู้ถือหุ้น ข้อจำกัดของผู้ถือหุ้นปัจจุบัน

การขายบริษัทไป และมาสร้างใหม่ตามที่ตัวเองไม่อยากให้ซ้ำรอยบริษัทเก่า แบบนี้ก็โอคเครับ

ปล. โลกของธุรกิจมันก็แบบนี้ล่ะครับ   

[อยากรวย]

ตั้งใจเรียนให้เต็มที่เถอะนะ  เอาให้ได้เกรดเฉลี่ยๆ เยอะๆ เข้าไว้ ถ้าได้อยู่ฝ่ายบุคคล จะรู้ว่า เขาคัดพนักงานด้วย เกรดเฉลี่ย และสถาบันที่จบก่อนเสมอ

ถ้าคุณได้เกรดเฉลี่ย 3 - 4 คุณจะได้ทำงานบริษัทมหาชนขนาดใหญ่ๆ เช่น บริษัทหลักทรัพย์ ธนาคาร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นต้น
มีทั้งเงินเดือน สวัสดิการ โบนัส ------แต่ถ้าคุณได้เกรดเฉลี่ย 1-2 กว่าๆ คุณจะได้ไปทำงานบริษัทเล็ก ๆ หรืองานโรงงานแทน รายได้ต่างกันราวกับฟ้ากับเหว----


เปรียบเทียบ รายได้ กับ สวัสดิการ ให้ดูระหว่าง 2 อาชีพ

1. อาชีพพนักงาน บริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์
...............รายได้------------------------------................................................................................................
ปีที่1
เงินเดือน 15000 x 12 =  180,000
โบนัส คิดขั้นต่ำ 3 เดือน = 15000 x 3 = 45000
รวม 225,000 บาทต่อปี

ปีที่2 เงินเดือน 30000

เงินเดือน 30,000 x 12 =  360,000 บาทเท่านั้น
โบนัส  5  30,000 x 5 = 150,000
รวมรายได้   510,000 ต่อปี
+ เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามจริง เจ็บเล็ก เจ็บใหญ่เบิกได้หมด (ถ้าเบิกไป 3 หมื่น เหมือนได้เงินเพิ่มมาฟรีๆ 3 หมื่นบาท)
- ถ้าโชคร้ายเสียชีวิตระหว่างทำงาน  ญาติๆ ได้เงินจากประกันที่บริษัททำให้วงเงิน 1 ล้านบาทฟรีๆ

รวมรายได้ 2 ปี = 225000+510000 =  735,000  บาท

...

เปรียบเทียบกับยึดอาชีพทำโฮสติ้ง


1. ปีแรก ขาดทุน --ติดลบแน่นอน-- ในขณะที่คนด้านบนได้มา 2 แสนกว่า
2. ปีที่ 2 เริ่มมีกำไร

- สมมุติคนทำไม่เก่ง ได้กำไร เดือนละ 3 หมื่นบาท   30,000 x 12 =   360,000 บาทเท่านั้น

- ถ้าคนเก่ง อาจทำได้กำไร เดือนละ 5 หมื่น 50000 x 12 = ก็อาจได้ถึง 600000 บาทต่อปี

------สรุป-------แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมยอดรายได้ทั้ง 2 ปี-----------------

---------คนทำบริษัทใหญ่ๆ จะได้รวม 7 แสนกว่า ในขณะที่คนทำโฮสติ้งจะได้สูงสุด 6 แสนบาท

แถมโชคร้ายกว่านั้น คือ ...

1. คนทำโฮสติ้งไม่ได้โบนัส
2. คนทำโฮสติ้งไม่มีค่ารักษาพยาบาลฟรีๆ  เจ็บป่วย หนัก เบา จ่ายเองทั้งหมด -- ถ้าโชคร้ายนอนโรงพยาบาล ไม่มีคนดูแลโฮสติ้งให้อีก ลำบากไปกันใหญ่ (ถ้าควักจ่ายไป 3 หมื่น เหมือนรายได้หายไป 3 หมื่นทันที)
3. คนทำโฮสติ้งไม่มีประกันชีวิตจากบริษัท  ตายในหน้าที่ ตายแล้ว ตายเลย ไม่ได้เงิน 1 ล้านบาท

คนเราความสามารถไม่เท่ากันครับ เทียบกันไม่ได้ครับ

ไม่ใช่ว่าเรียนมา จบมา จะได้เงินเดือน 3 หมื่นเลยครับ

คนทำ host กว่าจะได้กำไร ก็อาศัยเวลาเป็น ปีๆ แต่พอเริ่มมีกำไร มันจะมีรายได้เร็วกว่า ทำงานกินเงินเดือนมากอยู่ครับ

สมุติว่าทำงานกินเงินเดือน ได้เดือนละ 30,000 ปีๆ หนึงเงินเดือนขึ้น 5-10% สมุติขึ้นปีละ 10% ต้องทำกี่ปีถึงจะได้รายได้ 100,000 ต่อเดือน

ถ้าทำธุรกิจ ไม่เฉพาะกับ Hosting อย่างเดียวนะครับ ช่วงแรกของชีวิตจะมีรายได้น้อย แต่เชื่อเถอะครับ ไม่เกิน 10 ปี รายได้ต่อเดือน (กำไร) ไม่ต่ำกว่า 5 แสนต่อเดือนไม่ใช่เรื่องยาก

ในขณะที่เป็นลูกจ้าง ทำไม่ได้ ถ้าไม่เก่งจริงๆ แล้วถ้าเก่งจริงๆ แล้วเกิดตายมาก็ไม่มีรายได้ จบเลย ส่วนธุรกิจ ยังมีการทำงานต่อๆ ไป แล้วยังมีรายได้ให้ลูกหลานตลอด

ส่วนเรื่องประกัน ปัจจุบันผมทำประกันสุขภาพ รายปี เสียไม่มาก ได้รับความคุ้มครองมากมาย เข้าโรงพยาบาลไม่ต้องออกเงินเลยถ้าไม่เกินค่าใช้จ่ายที่ทำประกันไว้

พอมีรายได้มากพอเราก็เปิดบริษัท มีลูกจ้างทำงานแทนเรา สบายขึ้น เงินก็มากขึ้นด้วย  


ดูอย่างเท็นสิ ถามเท็นสิ ตอนทำใหม่ๆ กำไรเท่าไหร่ แต่ทุกวันนี้ เดือนละ 30,000 เป็นกำไรเรื่องเด็กๆ ไม่บอกว่าตอนนี้กำไรเดือนเท่าไหร่ แต่มากว่า 3 หมื่นแน่น...

อันนี้เปรียบเทียบระหว่าง คนเก่ง กับคนเก่งไง อย่าเอาคนไม่เก่งมาเปรียบกัน

เทียบระหว่าง คนเก่งเกรดเฉลี่ย 4.00 (เพราะตั้งใจเรียนอย่างเดียว) จบแล้วได้ทำงานบริษัทจำกัดมหาชน อยู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
กับคนเก่งที่สุด ที่เลือกทำธรุกิจโฮสติ้งด้วยตัวเอง เป็นเจ้านายตัวเอง นั่งทำงานอยู่บ้านตนเอง เป็นต้น และทำโฮสติ้งได้เก่งมาก กำไร 3 หมื่นบาทต่อเดือนในปีที่ 2
(อย่าลืมหัก ค่ารักษาพยาบาล ค่าประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ที่ซื้อด้วยเงินตัวเอง ออกเป็นต้นทุนด้วยนะ)


อยากทราบชื่อ  คนทำโฮสติ้งเฉพาะใน 2 ปีแรก แล้วมีกำไรเกิน 7 แสน เอากำไร เน็ตๆ ไม่เอาตัวเลขรายได้ที่ยังไม่หักค่าใช้จ่าย เพราะพวกที่ได้เงินเดือน เขาก็ได้มาเน็ตๆ เหมือนกัน ไม่ถูกหัก

ส่วนค่ารถ ค่ากิน ค่าอยู่ ค่าเดินทาง (แม้ทำโฮสติ้งอยู่บ้านก็ต้องมีค่าเดินทางไป idc) ค่าภาษีบุคคลธรรมดา ค่าประกันสังคม ไม่คิด เพราะทั้งสองคน ต้องจ่ายเหมือนกัน ไม่ว่าจะทำงานบริษัท หรือทำโฮสติ้ง ก็ต้องจ่ายเหมือนกัน

[mostzaa]

ตั้งใจเรียนให้เต็มที่เถอะนะ  เอาให้ได้เกรดเฉลี่ยๆ เยอะๆ เข้าไว้ ถ้าได้อยู่ฝ่ายบุคคล จะรู้ว่า เขาคัดพนักงานด้วย เกรดเฉลี่ย และสถาบันที่จบก่อนเสมอ

ถ้าคุณได้เกรดเฉลี่ย 3 - 4 คุณจะได้ทำงานบริษัทมหาชนขนาดใหญ่ๆ เช่น บริษัทหลักทรัพย์ ธนาคาร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นต้น
มีทั้งเงินเดือน สวัสดิการ โบนัส ------แต่ถ้าคุณได้เกรดเฉลี่ย 1-2 กว่าๆ คุณจะได้ไปทำงานบริษัทเล็ก ๆ หรืองานโรงงานแทน รายได้ต่างกันราวกับฟ้ากับเหว----


เปรียบเทียบ รายได้ กับ สวัสดิการ ให้ดูระหว่าง 2 อาชีพ

1. อาชีพพนักงาน บริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์
...............รายได้------------------------------................................................................................................
ปีที่1
เงินเดือน 15000 x 12 =  180,000
โบนัส คิดขั้นต่ำ 3 เดือน = 15000 x 3 = 45000
รวม 225,000 บาทต่อปี

ปีที่2 เงินเดือน 30000

เงินเดือน 30,000 x 12 =  360,000 บาทเท่านั้น
โบนัส  5  30,000 x 5 = 150,000
รวมรายได้   510,000 ต่อปี
+ เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามจริง เจ็บเล็ก เจ็บใหญ่เบิกได้หมด (ถ้าเบิกไป 3 หมื่น เหมือนได้เงินเพิ่มมาฟรีๆ 3 หมื่นบาท)
- ถ้าโชคร้ายเสียชีวิตระหว่างทำงาน  ญาติๆ ได้เงินจากประกันที่บริษัททำให้วงเงิน 1 ล้านบาทฟรีๆ

รวมรายได้ 2 ปี = 225000+510000 =  735,000  บาท

...

เปรียบเทียบกับยึดอาชีพทำโฮสติ้ง


1. ปีแรก ขาดทุน --ติดลบแน่นอน-- ในขณะที่คนด้านบนได้มา 2 แสนกว่า
2. ปีที่ 2 เริ่มมีกำไร

- สมมุติคนทำไม่เก่ง ได้กำไร เดือนละ 3 หมื่นบาท   30,000 x 12 =   360,000 บาทเท่านั้น

- ถ้าคนเก่ง อาจทำได้กำไร เดือนละ 5 หมื่น 50000 x 12 = ก็อาจได้ถึง 600000 บาทต่อปี

------สรุป-------แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมยอดรายได้ทั้ง 2 ปี-----------------

---------คนทำบริษัทใหญ่ๆ จะได้รวม 7 แสนกว่า ในขณะที่คนทำโฮสติ้งจะได้สูงสุด 6 แสนบาท

แถมโชคร้ายกว่านั้น คือ ...

1. คนทำโฮสติ้งไม่ได้โบนัส
2. คนทำโฮสติ้งไม่มีค่ารักษาพยาบาลฟรีๆ  เจ็บป่วย หนัก เบา จ่ายเองทั้งหมด -- ถ้าโชคร้ายนอนโรงพยาบาล ไม่มีคนดูแลโฮสติ้งให้อีก ลำบากไปกันใหญ่ (ถ้าควักจ่ายไป 3 หมื่น เหมือนรายได้หายไป 3 หมื่นทันที)
3. คนทำโฮสติ้งไม่มีประกันชีวิตจากบริษัท  ตายในหน้าที่ ตายแล้ว ตายเลย ไม่ได้เงิน 1 ล้านบาท

คนเราความสามารถไม่เท่ากันครับ เทียบกันไม่ได้ครับ

ไม่ใช่ว่าเรียนมา จบมา จะได้เงินเดือน 3 หมื่นเลยครับ

คนทำ host กว่าจะได้กำไร ก็อาศัยเวลาเป็น ปีๆ แต่พอเริ่มมีกำไร มันจะมีรายได้เร็วกว่า ทำงานกินเงินเดือนมากอยู่ครับ

สมุติว่าทำงานกินเงินเดือน ได้เดือนละ 30,000 ปีๆ หนึงเงินเดือนขึ้น 5-10% สมุติขึ้นปีละ 10% ต้องทำกี่ปีถึงจะได้รายได้ 100,000 ต่อเดือน

ถ้าทำธุรกิจ ไม่เฉพาะกับ Hosting อย่างเดียวนะครับ ช่วงแรกของชีวิตจะมีรายได้น้อย แต่เชื่อเถอะครับ ไม่เกิน 10 ปี รายได้ต่อเดือน (กำไร) ไม่ต่ำกว่า 5 แสนต่อเดือนไม่ใช่เรื่องยาก

ในขณะที่เป็นลูกจ้าง ทำไม่ได้ ถ้าไม่เก่งจริงๆ แล้วถ้าเก่งจริงๆ แล้วเกิดตายมาก็ไม่มีรายได้ จบเลย ส่วนธุรกิจ ยังมีการทำงานต่อๆ ไป แล้วยังมีรายได้ให้ลูกหลานตลอด

ส่วนเรื่องประกัน ปัจจุบันผมทำประกันสุขภาพ รายปี เสียไม่มาก ได้รับความคุ้มครองมากมาย เข้าโรงพยาบาลไม่ต้องออกเงินเลยถ้าไม่เกินค่าใช้จ่ายที่ทำประกันไว้

พอมีรายได้มากพอเราก็เปิดบริษัท มีลูกจ้างทำงานแทนเรา สบายขึ้น เงินก็มากขึ้นด้วย  


ดูอย่างเท็นสิ ถามเท็นสิ ตอนทำใหม่ๆ กำไรเท่าไหร่ แต่ทุกวันนี้ เดือนละ 30,000 เป็นกำไรเรื่องเด็กๆ ไม่บอกว่าตอนนี้กำไรเดือนเท่าไหร่ แต่มากว่า 3 หมื่นแน่น...

อันนี้เปรียบเทียบระหว่าง คนเก่ง กับคนเก่งไง อย่าเอาคนไม่เก่งมาเปรียบกัน

เทียบระหว่าง คนเก่งเกรดเฉลี่ย 4.00 (เพราะตั้งใจเรียนอย่างเดียว) จบแล้วได้ทำงานบริษัทจำกัดมหาชน อยู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
กับคนเก่งที่สุด ที่เลือกทำธรุกิจโฮสติ้งด้วยตัวเอง เป็นเจ้านายตัวเอง นั่งทำงานอยู่บ้านตนเอง เป็นต้น และทำโฮสติ้งได้เก่งมาก กำไร 3 หมื่นบาทต่อเดือนในปีที่ 2
(อย่าลืมหัก ค่ารักษาพยาบาล ค่าประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ที่ซื้อด้วยเงินตัวเอง ออกเป็นต้นทุนด้วยนะ)


อยากทราบชื่อ  คนทำโฮสติ้งเฉพาะใน 2 ปีแรก แล้วมีกำไรเกิน 7 แสน เอากำไร เน็ตๆ ไม่เอาตัวเลขรายได้ที่ยังไม่หักค่าใช้จ่าย เพราะพวกที่ได้เงินเดือน เขาก็ได้มาเน็ตๆ เหมือนกัน ไม่ถูกหัก

ส่วนค่ารถ ค่ากิน ค่าอยู่ ค่าเดินทาง (แม้ทำโฮสติ้งอยู่บ้านก็ต้องมีค่าเดินทางไป idc) ค่าภาษีบุคคลธรรมดา ค่าประกันสังคม ไม่คิด เพราะทั้งสองคน ต้องจ่ายเหมือนกัน ไม่ว่าจะทำงานบริษัท หรือทำโฮสติ้ง ก็ต้องจ่ายเหมือนกัน

แต่ถ้าเทียบกันถ้าทำดีๆโตได้ขยายได้สำเร็จรายได้มันหลายเท่านะครับกับจำนวนปีที่ทำครับ ไอที่จ่ายยังไงมันต้องจ่ายอยู่แล้ว เปิดบริษัทได้มีพนักงาน เราก็นั่งเป็น CEO ได้แล้วไม่ต้องมานั่งเป็นพนักงานรับคำสั่ง และเราก็ทำงานน้อยลงมีเวลาไปทำธุระ ทำให้สุขภาพกับแรงที่ลงไปกลับมา

[iLhay]

อ่านไปอ่านมาตลกดี

  

[sinomoney]

กระทู้นี้ได้ความรู้ดีครับ

[mymo]

ชิวิตไม่มีอะไรตายตัว แต่ถ้ามีเวลาอยู่กับตัวเอง มักจะเจอลู่ทางการลงทุน ต่อยอดอีกมาก มีโอกาศมากกว่าคนทำงานประจำเยอะ ตอกบัตร ตอกบัตร