มีเพื่อนสมาชิกสอบถามกันมากสำหรับวิธีการ Verify Hostgator ซึ่งบางท่านก็ไม่ต้อง Verify แต่บางท่านต้อง Verify ซึ่งคิดว่าทาง Hostgator ต้องมีวิธีสังเกตุอะไรบางอย่างในขบวนการสั่งซื้อของแต่ละท่าน ซึ่งไม่เกี่ยวกับการชำระด้วย บัตรเครดิต หรือ เดรบิต หรือ Paypal เพราะบางท่านที่เจอว่าต้อง Verify ก็ล้วนจ่ายผ่านพวกนี้แหละครับ ดังนั้นหากมีการต้อง Verify จะมีอีเมล จาก Hostgator มาฉบับที่สอง (ปกติจะมาฉบับเดียว) เมื่อเปิดดูอีเมลในฉบับที่สองที่ทาง Hostgator ส่งมาก็จะพบข้อความประมาณว่าให้ Verify ให้ท่านดูข้อความท้ายๆ จะมี Customer ID อยู่ให้จดไว้ครับ จากนั้นก็โทรไปที่โฮสเกเตอร์โดยใช้เบอร์ดังนี้ครับ

DTAC : 004-1-713-574-5287 ต่อ 1010 นาทีละ 4 บาท
AIS : 00500-1-713-574-5287 ต่อ 1010 นาทีละ 3 บาท
TrueMove : 006-1-713-574-5287 ต่อ 1010 นาทีละ 3 บาท แต่ผมใช้ True Move โทร หมดไป 4 บาทครับ
ส่วนมากเค้าจะถามแค่ 3-4 อย่างครับ ก่อนโทรไปให้ หายใจ ยาวๆ ลึกๆ ซักสองสามครั้ง
พอทางโน้นรับโทรศัพท์ พอเค้าพูดจบ ท่านก็ Hello..Hello ย้ำให้เค้าหยุดฟัง
แล้วก็พูดว่า "I want to verify my hosting account."
จากนั้นฟังคำท้ายๆของเค้าว่าเค้าเน้นคำว่าอะไร เช่น
Customer ID ท่านก็ตอบว่า "My Customer ID is ........ "
ถ้ามีคำว่า Name ๆๆ อะไรพวกนี้ ท่านก็ตอบว่า "My Full Name is ........ " (เวลาออกเสียงชื่อนาม-สกุล ให้ทำเสียงออกจมูกครับ ฝรั่งจะได้ฟังรู้เรื่องครับ)
ถ้ามีคำว่า Domain ๆๆ อะไรพวกนี้ ท่านก็ตอบว่า "My Domain Name is ........ "
ถ้ามีคำว่า Email ๆๆ อะไรพวกนี้ ท่านก็ตอบว่า "My Email is ........ "
แล้วท่านจะได้ยินเค้าพูดประโยคยาวๆ จะมีคำว่า "Ten Minute" พอเค้าพูดจบ ท่านก็พูดว่า "Thank you..Bye(ลากเสียงเล็กน้อย)
หรือ Thank a lot...Bye(ลากเสียงเล็กน้อย)"
แต่ห้ามพูดต่อท้ายว่า "จุ๊บ ๆ ๆ" นะครับ อาจถูก Lock Account ตลอดชีพนะครับ ขอบอก ฮิ ๆๆๆ
จากนั้นท่านก็ดึงสันจมูกแรงๆ หนึ่งครั้ง ก็มีแค่นี้ครับ ไม่ต้องตั้งใจฟังเค้าพูดมากครับ จะทำให้สับสน จับแค่บางคำอย่างที่กล่าวมาก็ได้ครับ

ปล. มีเทคนิคหนึ่งจำไว้ว่า ท่านต้องทำตัวเป็นผู้พูด และ เจ้าหน้าที่ Hostgator เป็นผู้ฟัง ให้ท่านพูดช้าๆ เค้าจะพยายามฟังเองครับ แม้ว่าจะตอบสลับ เช่น Full Name กับ Domain Name แต่เค้าก็รู้เรื่องครับ
===========================================================================
อีกวิธีในการ Verify ที่ได้ผลคือหลังจากที่โน้นรับสายแล้ว พูดกันไม่รู้เรื่อง ให้คุณพูดว่า
OK… OK… Please listen me.(ขึ้นเสียงสูง) OK (ขึ้นเสียงสูง)
จากนั้นท่านก็เริ่มร่ายตามสคริปเลย เริ่มต้นที่
“My Customer ID is …….. “
You Ok ? (ขึ้นเสียงสูง) แล้วก็ฟังว่าเค้าตอบว่าอะไร ...
“My Domain Name is …….. “
You Ok ? (ขึ้นเสียงสูง)
“My Full Name is …….. “
You Ok ? (ขึ้นเสียงสูง)
“My Email is …….. “
You Ok ? (ขึ้นเสียงสูง)
“I paid by … ” (Credit Card หอรือ PayPal)
You Ok ? (ขึ้นเสียงสูง)
พูดวนไปอย่างนี้แหละครับ เดี๋ยวเค้ารำคาญเค้าก็ ถอนหายใจเฮือกเสียงดีง ผ่านโทรศัพท์ แล้วอีก 15 นาทีเค้เาก็เปิดให้เองครับ
ถ้ายังไม่เปิดภายใน 1 ชั่วโมงยังไม่เปิดก็ ก็โทรไปตื้อใหม่ครับ บางคนใจดีก็เปิดให้เร็วครับ
===========================================================================
วิธี Verify โดยการส่งเอกสารยืนยันวิธีนี้ก็เร็วเหมือนกันครับ บางครั้งไม่ถึงชั่วโมงก็ผ่านเลยครับ
ให้ทำการสแกนภาพเอกสารดังไปต่อไปนี้
1. ภาพบัตรเครดิตหรือเดรบิต ที่จ่ายหรือที่ผูกกับ PayPal โดยลบหมายเลขบัตรข้างหน้าออก ให้เหลือไว้แค่ 4 หลักสุดท้ายก็พอ
2. ภาพบัตรประจำตัวประชาชน โดยกำกับภาษาอังกฤษไว้ตามจุดที่เป็นภาษาไทย ทุกจุด
3. ภาพหน้อจอตอนจ่ายหากใช้ E-Web Card ของธนาคารกสิกรไทย ถ้าเป็นภาษาไทยให้กำกับภาษาอังกฤษลงไปด้วย
4. ข้อมูลของท่านคือ
“My Customer ID is …….. “
“My Domain Name is …….. “
“My Full Name is …….. “
“My Email is …….. “
“I paid by … ” (Credit Card หอรือ PayPal)
แล้วส่งเอกสารไปที่
[email protected]