ต้องมาดูว่าทั้งสองอย่างนั้นเรียกบอทกันอย่างไร
pligg นั้นโดยส่วนใหญ่เจ้าของจะทำการเรียกบอทจำนวนหนึ่งไว้อยู่แล้วบอทของเว็บ pligg จะิวิ่งกันอยู่เกือบตลอดเวลา แนวทางการได้บอทจากเว็บเหล่านี้เราต้อง submit บทความ หรือ โหวต ซึ่งความแรงของการได้บอทมานั้นก็ต่างกัน การซับมิทบทความสามารถเรียกบอทได้ทันทีเนื้อหามีส่วนเกี่ยวข้องกับการบอทต่อไปยังลิ้งเป้าหมาย ทำให้บอทมองว่าลิ้งที่ได้มีการเชื่อมโยงกัน จะให้ความสำคัญมากกว่าลิ้งในส่วนของ plofile ที่ส่งบอทไปโดยไม่บอกใบ้ข้อมูลอะไรให้บอทได้รับทราบก่อนทั้งสิ้น
wpmu นั้นสามารถเรียกบอทได้ด้วยตัวของมันเองผ่านระบบ ping ของ wordpress แต่ความแรงด้วยตัวของมันเองนั้นยังไม่เพียงพอในการเสริมทัพให้แข็งแกร่ง การใส่ลิ้งไว้ที่ blogroll ช่วยทำให้บอทวิ่งวนหากันได้ดีขึ้นแต่ก็เป็นการเพิ่มภาระให้กับบอทเช่นกัน แทนที่บอทจะวิ่งไปเจอบทความที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ง่ายขึ้นบอทก็ต้องไปวิ่งเล่นคลังบทความทั้งหมดที่มีก่อนเมื่อเจอบทความที่เราต้องการก็โย่งใยกันไปใหม่ ยิ่งใครที่ทำลิ้งออกาจากตัวบทความอีกชั้นแล้วละก็ blogroll ก็จะเป็นชุดความเจริญของ wpmu อีกชั้นด้วยเหมือนกัน สมมุติผมทำลิ้งออกจากบทความ 3 ลิ้งออกจาก blogroll อีก 2 และยังต้องเสียลิ้งออกตรงลิขสิทธิ์เทมเพลตอีกหนึ่ง รวมเป็นทั้งหมด 6 จากตรงนี้ จะทำให้ wpmu เสียเปรียบทันทีเพราะมีลิ้งออกมาเกินไป
รู้ข้อดีข้อเสียของแต่ระตัวแล้วก็จับมันมาประยุกต์ซะ
ข้อดีของ wordpress นอกจากมีปิงแล้วเรายังใช้ anchor text ได้อีกด้วย เราก็จัดการทำให้มันเป็นบล็อกจริง ๆ ส่งลิ้งออกแต่ละบทความแค่สามพอ นอกจากจะหาลิ้งเข้าแล้วยังต้องควบคุมลิ้งออกไม่ให้มากเกินไปด้วย เมื่อจับมาทำลิ้งจะแบบไหนก็แล้วแต่ เราก็หาลิ้งเข้าให้มันในแต่ละบทความอาจจะเป็น pligg ก็ได้ (ที่จริง pligg นั้นแรงนักแล ใช้มันให้เป็น)
ที่จริงเรื่องพวกนี้ผมเขียนไว้หมดแล้วนะ แต่ก็ต้องมาเขียนซ้ำของเดิมอีกหลาย ๆ รอบ
ที่จริงเทคนิคพวกนี้คนในนี้สอนกันไว้หมดแล้วเราไม่ต้องทำอะไรใหม่เลยแค่ทำตามก็พอ การทำลิ้งเวลที่ผมเขียนไว้ก็ที่นี่
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,138139.0.html 
ผลการทดสอบก็ที่นี่
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,138701.0.html 
อาจจะยังไม่เสร็จแต่ก็ทำให้รู้อะไรบ้างนะ
ทั้งหมดผมก็บอกแบบไม่ได้กั๊กอะไรเลย นอกจากที่ทดสอบไปนี้ เว็บอื่น ๆ ที่เป็นของผมก็มีลิ้งมาจากแค่ 16 ip เท่านั้นอาจจะมีช่วงแรก ๆ ที่เน้นโปรโมทกับ social bookmark บ้างแต่ตอนหลังก็มีแค่นี้ ก็ติดอันดับ 1-5 ได้ไม่ยาก อย่างตัวง่าย ๆ ก็ใช้วเวลาไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์ ที่จริงเร็วกว่านี้ได้แต่ก็ไม่รู้จะรีบไปไหน ค่อย ๆ ทำไม่ดีกว่าหรอ
อยากรู้ความแรงของ บอท ว่าจะแรงแค่ไหน ไม่ยาก ให้นึกถึงความเป็นจริง บอทกรูเกิลไม่ได้ฉลาดไปกว่าคน เพราะคนเป็นคนเขียนให้มันทำงาน ลองนึกแค่ว่าระหว่างวิ่งไปสองสามชั้นแล้วเจอลิ้งกับ เจอบทความแล้วเจอลิ้งอันไหนแรงกว่ากัน ลิ้งที่มาจากบทความที่เกี่ยวข้องกับลิ้งที่ส่งไปโดยไม่ไกล์เนื้อหาในบทต่อไปเลยอันไหนจะดีกว่ากัน
สุดท้ายกรูเกิลเน้นย้ำลิ้งคุณภาพเราก็จัดการทำให้มันมีคุณภาพ เขียนบทความใหม่แค่ 16 บทความคงไม่ยากเกินไป ผมใช้เวลาเขียนก็ 1 วันเอง ลองดูแล้วกัน บอกขนาดนี้แล้ว