คลังอัดธปท.ปล่อยเก็งกำไรบาทโพสต์ทูเดย์ —
คลังสอนมวย ธปท. เร่งแก้ปัญหาเก็งกำไรค่าเงิน หลังส่วนเงินบาทในและนอกประเทศพุ่งสูงถึง 4 บาทแล้วนายสมหมาย ภาษี รมช.การคลัง กล่าวว่า ขณะนี้เกิดการเก็งกำไรค่าเงินบาททั้งในรูปของบุคคล บริษัท และธนาคารพาณิชย์
เนื่องจากค่าเงินบาทภายในประเทศอยู่ที่ 33.81 บาทต่อเหรียญสหรัฐ และค่าเงินบาทในตลาดต่างประเทศอยู่ที่ 29.89 บาทต่อเหรียญสหรัฐ มีส่วนต่างประมาณ 4 บาทต่อเหรียญสหรัฐ หรือ 11.5% นายสมหมาย กล่าวว่า
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ควรแก้ปัญหาด้วยการเปิดทางให้รัฐบาล รัฐวิสาหกิจ หรือเอกชน นำเงินบาทไปซื้อเงินตราต่างประเทศภายนอกประเทศได้ ซึ่งจะทำให้ค่าเงินบาทในต่างประเทศอ่อนค่าลง เข้าใกล้เงินบาทภายในประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงการคลังเคยขออนุญาตไปแล้ว แต่ ธปท.ไม่อนุญาต
นอกจากนี้ ธปท. ก็ควรบริหารเงินโดยการนำเงินบาทไปซื้อเงินตราต่างประเทศนอกประเทศ เพื่อทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าเช่นเดียวกันนางสุชาดา กิระกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธปท. กล่าวว่า ปัญหาตลาดจำนองที่มีการปล่อยกู้แก่ลูกหนี้ที่ขาดความน่าเชื่อถือ (ซับไพรม์) ของสหรัฐซึ่งทำให้เกิดการเทขายหุ้นในตลาดหุ้นทั่วโลกขณะนี้จะไม่ส่งผลที่น่ากังวลต่อเศรษฐกิจไทยหรือภูมิภาคนี้ แม้ว่าสภาพคล่องของเงินจะเชื่อมกันทั้งโลกก็ตาม
เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีเกราะป้องกัน มีมาตรการต่างๆ ดูแล ผลกระทบอยู่พอสมควร แม้ว่าขณะนี้เศรษฐกิจสหรัฐจะมีปัญหาหนี้เสียมากก็ตาม
นอกจากนี้ ธปท.ก็ไม่ห่วงเรื่องปัญหาเงินฝืด เนื่องจากที่ผ่านมามีการดูแลเศรษฐกิจด้วยการลดดอกเบี้ยต่ำต่อเนื่องอยู่แล้ว
“ไทยเรามีเกราะป้องกัน คือ การมีอัตราแลกเปลี่ยนที่ยืดหยุ่น มีมาตรากรในการดูแลเงินทุนไหลเข้าออก ซึ่งถือเป็นเกราะป้องกันได้ส่วนหนึ่ง เพราะเรายังไม่เปิดหมด อีกอย่างในส่วนของสินทรัพย์ หุ้น อสังหาริมทรัพย์ก็ยังไม่บูมมาก สินเชื่อก็ไม่ได้ขยายตัวสูง จึงไม่มีภาวะน่ากังวล” นางสุชาดา กล่าว
นางสุชาดา กล่าวว่า ค่าเงินบาทเริ่มมีเสถียรภาพ โดยวันที่ 2 ส.ค. อ่อนค่าลง ส่วนหนึ่งเป็นผลจาก 6 มาตรการที่ธปท.ออกไป แต่การที่ต่างชาติเทขายหุ้น ก็ไม่ได้หมายความว่าเงินทุนจะไหลออก เพราะต่างชาติอาจเก็บเงินไว้ในบัญชีเงินฝากของผู้มีถิ่นฐานนอกประเทศ
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า เริ่มเห็นสัญญาณการปิดโรงงานจำนวนมากมาระยะหนึ่งแล้ว ทั้งโรงงานผลิตรองเท้า และเสื้อผ้า เนื่องจากไม่สามารถแข่งขันในตลาดโลก และยังเสียเปรียบจีน และเวียดนาม ที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ
นายประสาร กล่าวว่า เมื่อค่าแรงของไทยเสียเปรียบคู่แข่ง จึงมีความเป็นไปได้ที่ผู้ประกอบการจะย้ายฐานการผลิต ซึ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้นานแล้ว
“ปีนี้ถือเป็นปีค่อนข้างเหนื่อย เป็นปีที่ธนาคารต้องพยายามบริหารลูกค้าให้ดีที่สุด” นายประสาร กล่าว
ที่มา:
http://www.posttoday.com/newsdet.php?sec=news&id=182627 