เริ่มต้นสร้างรายได้ ทำเว็บขายสินค้าแบบไหนดี

สวัสดีค่ะ ทุกท่าน บทความต่อไปนี้เป็นการแชร์ประสบการณ์บางส่วนที่ได้มาจากการทำเว็บขายสินค้า ที่นุ้ยเริ่มต้นมาจากการลองผิดลองถูก จนกระทั่งสามารถยืนหยัดมาอยู่ได้ถึงทุกวันนี้ อาจจะไม่ใช่สูตรสำเร็จ หรือไม่ได้ดีเลิศอะไรมากมาย แต่อาจเป็นประโยชน์อยู่บ้างสำหรับผู้ที่ริเริ่ม ในการสร้างรายได้จากการทำเว็บได้บ้างนะคะ
- ค้นหาก่อนต้องการขายอะไร
เริ่มต้นหลายคนก็คิดหนักซะแล้วว่าจะขายอะไรดี เพราะแต่ละคนก็มีไอเดีย ความถนัดไม่เหมือนกัน อยากให้ลองถามตัวเองดูก่อนนะคะว่ามีความถนัดเรื่องอะไร บางคนชอบของเล่น พวกโมเดล หรือตุ๊กตา ก็ซื้อของเล่นเหล่านี้มาสะสมเป็นงานอดิเรก ทำไปทำมารู้ว่าซื้อจากที่ไหนได้ถูก แล้วรู้ว่ามีกลุ่มคนเล่นของประเภทนี้ขนาดไหน ก็สามารถที่จะจับเอาของถูกมาขายอีกกลุ่มเพื่อทำกำไรได้ เป็นต้น
ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มต้นทำเว็บขายสินค้า คุณก็ควรรู้ก่อนว่าจะขายอะไร มีต้นทุนที่ต่ำกว่าคู่แข่งมั้ย มีกำไรพอที่จะทำได้รึเปล่า แล้วสินค้าคุณโดดเด่นกว่าชาวบ้านชาวช่องเค้าแค่ไหน? ถ้าหากขายทางหน้าเว็บ ต้องคิดด้วยว่าจะสะดวกในการส่งสินค้าแบบไหน ถ้าส่งทางไปรษณีย์แล้วสินค้ามีน้ำหนักมากมั้ย ต้องมีค่าส่งมากไปหรือไม่ เป็นต้น
อย่างกรณีของนุ้ยก็จะถนัดเรื่องเครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว เพราะใช้เป็นประจำ และใช้มาเยอะมากมายหลายยี่ห้อ พอได้เจอผลิตภัณฑ์หลากหลายแบบก็ทำให้ทราบว่าจริงๆแล้วผลิตภัณฑ์ที่มียี่ห้อ ราคาแพง หรือนำเข้ามาจากต่างประเทศ คุณภาพ หรือความเหมาะสมกับสภาพผิวหน้าของคนไทย สู้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากแล็บในเมืองไทยไม่ได้ หรือถ้าคุณภาพพอๆกัน ราคาก็จะสูงกว่าหลายเท่านักค่ะ คือถ้าเพื่อนๆลองสังเกตุดูผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวในเมืองไทย ที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาด ข้างขวดหรือกระปุก จะมีสถานที่ผลิต และผู้จัดจำหน่ายที่เป็นคนละเจ้ากัน ดังนั้นสถานที่ผลิตเหล่านั้นก็คือผู้รับจ้างผลิตนั่นเองค่ะ ซึ่งผู้รับจ้างผลิตเหล่านั้น ก็จะผลิตโดยอยู่ภายใต้การควบคุมสูตรของยี่ห้อนั้นๆ ซึ่งผู้ผลิตเหล่านี้ก็จะมีทีมที่วิจัยและพัฒนาสูตรให้กับลูกค้ารายอื่นๆด้วยเช่นกัน ซึ่งนี่ก็คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้นุ้ยต้องการสร้างสินค้าที่พัฒนาสูตรเฉพาะขึ้นมาภายใต้แบรนด์"เวชสำอางอินคำ"ของนุ้ยเอง
- มีสินค้าดี เริ่มทำเว็บกระจายสินค้า
หลายคนอาจรู้สึกว่าการขายสินค้าผ่านเว็บเป็นเรื่องยาก เพราะลูกค้าไม่เห็นของ ไม่รู้ตัวตนว่าผู้ขายเป็นใคร อาจตัดสินใจซื้อยาก สู้ขายบนดิน เปิดร้านให้เป็นเรื่องเป็นราวไม่ดีกว่าหรือ?? ถูกต้องค่ะ ถ้าหากคุณมีเวลามากพอ ไม่ต้องทำงานประจำ หรือคุณมีทุนเริ่มต้นที่มากพอ รวมถึงสายป่านของทุนที่มีอยู่ยาวพอที่จะรอการรับรู้รายได้โดยที่ไม่กระเทือนกับทุนที่ต้องใช้จ่ายไปกับค่าเช่าล่วงหน้า ค่าตกแต่งร้าน ค่าน้ำ-ค่าไฟ ค่ารถเดินทางไปเปิดร้าน และจิปาถะ ยิ่งทำเลดีๆก็ต้องจ่ายค่าเซ้งที่หลักแสนหลักล้าน ค่าเช่าอีกเดือนละหลายหมื่น หรือถ้าคุณจะไปขายของตามตลาดนัดเปิดท้าย คุณก็ต้องรีบไปจับจองพื้นที่ ประกอบร้าน และเสี่ยงกับสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน วันไหนฝนตกก็ต้องทำใจใช่มั้ยคะ ส่วนการเปิดร้านทางเว็ปไซด์ คุณแค่นั่งอยู่กับบ้าน หรือที่ไหนก็ได้ ขอให้มีคอมฯกับอินเทอร์เน็ตเป็นใช้ได้ เวลาทำการร้านคุณเปิด 24 ชม. แม้กระทั่งตอนนอนก็อาจมีลูกค้าเข้ามาเยี่ยมเยือนและสั่งซื้อสินค้าคุณอีกด้วย ที่สำคัญเปิดร้านออนไลน์ กับเปิดร้านจริงๆ ใช้งบต่างกันมากค่ะ แต่หากคุณคนไหนที่มีร้านค้าจริงๆอยู่แล้ว การเปิดร้านค้าออนไลน์ก็จะเป็นส่วนเสริมช่องทาง ลูกค้าของคุณอีกกลุ่มหนึ่ง ที่อาจไม่สะดวกในการเดินทางไปที่ร้านคุณ ซึ่งในขณะนี้หลายๆแห่งก็ทำกันค่ะ หรือคนที่มีแต่ร้านค้าออนไลน์ อนาคตก็อาจมีร้านค้าจริงๆได้เช่นกัน เพื่อเพิ่มช่องทางการติดต่อกับลูกค้า ที่ต้องการเห็นสินค้าจริงๆก่อนตัดสินใจซื้อ
-เริ่มต้นทำเว็บขายของ แบบไหนดี
มือใหม่อาจรู้สึกยุ่งยาก หากจะต้องทำเว็บไซด์เอง หรือเขียนเว็บเอง นุ้ยก็ไม่มีความรู้เรื่องเหล่านี้หรอกค่ะ แต่ในโลกออนไลน์ มีร้านค้าออนไลน์ที่เปิดให้บริการเว็บสำเร็จรูปมากมาย ทั้งแบบให้ใช้ฟรีๆ หรือหากเพิ่มฟังชั่นต่างๆขึ้นมาก็ต้องเสียเงินบ้างเป็นรายปี ส่วนใหญ่ก็หลักพันบาทต่อปี คุณก็สามารถเลือกเอาได้เลยค่ะ สิ่งสำคัญไม่ใช่ตรงนี้ แต่อยู่ตรงที่คุณจะเอาใจใส่กับร้านของคุณขนาดไหน หรือจะมีสินค้าที่มีคุณภาพ น่าสนใจแค่ไหน ราคาหรือการให้บริการลูกค้าเป็นอย่างไร เหล่านี้คือหัวใจที่ทำให้ร้านสามารถเดินต่อไปได้ทั้งนั้นค่ะ หลังจากที่คุณได้ร้านค้าสำเร็จรูปที่ต้องการแล้ว คุณก็ต้องใส่ข้อมูลตัวคุณ ข้อมูลสินค้าให้ครบถ้วน รูปภาพให้ชัดเจน เพราะลูกค้าตัดสินใจซื้อหรือไม่อยู่ที่ข้อมูลและรูปภาพ รวมทั้งความน่าเชื่อถือของร้านด้วย นอกจากนี้ควรจดโดเมนเนม(ชื่อเว็บไซด์) ให้จดจำได้ง่ายค่ะ และสอดคล้องกับสินค้าที่คุณขายด้วย อย่างร้านของนุ้ยใช้ชื่อว่า
http://www.incomebeauty.com 
จำหน่ายเวชสำอางอินคำ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า ครีมหน้าใส ครีมหน้าขาว ชุดรักษาสิว ค่ะ
- สร้างความมั่นใจในสินค้า และร้านค้า
ปัญหาอย่างหนึ่งในการขายสินค้าทางเว็บไซด์คือเรื่องความน่าเชื่อถือของสินค้า และร้านค้าค่ะ เพราะลูกค้าไม่เห็นสินค้า ไม่เห็นร้านค้า ไม่เห็นแม้แต่หน้าคนขายด้วยซ้ำ แล้วที่ผ่านมาก็มักมีกรณีร้านค้าบางราย ที่ไม่ได้ตั้งใจทำมาหากินอย่างสุจริต และขาดความรับผิดชอบ เช่นลูกค้าจ่ายเงินมาแล้วไม่ส่งของให้ หรือสินค้าคุณภาพไม่ตรงกับที่ลงข้อมูลไว้ เอาของปลอมมาขาย ฯ สิ่งที่ร้านค้าออนไลน์จะถูกตั้งคำถามอย่างมากคือ จะส่งของให้จริงไหม ของแท้รึเปล่า หรืออื่นๆมากมาย ดังนั้นคุณจะต้องแสดงให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นให้ได้ ดังนี้คือ
1.จดทะเบียนพาณิชย์อิเลคทรอนิกส์ นั่นคือการแสดงหลักฐานความมีตัวตนของร้านค้าอย่างแท้จริง เพราะคุณต้องจดทะเบียนพาณิชย์ กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งขั้นตอนก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรค่ะ และไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายอะไรมากนัก เมื่อจดแล้วจะมีเลขทะเบียนการค้าที่ได้รับมา คุณก็แจ้งเลขทะเบียนการค้าให้ลูกค้าเห็นชัดเจนบนหน้าเว็บด้วย
อย่างในเว็บ
http://www.incomebeauty.com 
จะมีการสแกนในทะเบียนพาณิชย์ขึ้นโชว์ในเว็บเลยค่ะ มีที่อยู่มีชื่อ-นามสกุล ชัดเจน
2.เปิดเผยหน้าเจ้าของร้าน ถ้าหากคุณต้องการสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น เพราะการซื้อขายสินค้าออนไลน์ ลูกค้าไม่มีโอกาสได้เจอผู้ขาย ถึงแม้จะโทรคุยกัน ก็ได้ยินแต่เสียง มโนภาพของลูกค้าจะไม่ปรากฏว่ากำลังคุยกับคนหน้าตาแบบไหน แล้วเกิดมีปัญหาอะไรขึ้นมาจะไปตามเอากับใคร หน้าตาแบบไหน ทำให้ลูกค้ากังวล ดังนั้นการเปิดเผยด้วยการลงภาพหน้าตาผู้ขาย จะช่วยให้ลูกค้าลดความกังวลไปได้ระดับหนึ่ง กรณีสินค้าบางชนิด ถ้าได้เห็นผู้ขายได้ถ่ายรูปกับสินค้านั้นๆด้วย ก็จะทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นได้ว่า มีสินค้าจำหน่ายจริง ไม่ได้อุปโลกน์ สร้างเว็บขึ้นมาหลอกว่าขายของแต่อย่างใด อย่างกรณีนุ้ยขายสินค้าประเภทความงาม ดูแลผิวหน้า การเปิดเผยใบหน้าตัวเองก็เพื่อให้ลูกค้าเห็นด้วยค่ะว่า สินค้าที่ใช้อยู่และจำหน่าย ทำให้นุ้ยหน้าใสจริงๆ 555

3.สร้างความเชื่อมั่นใจตัวสินค้า ให้ลูกค้ามั่นใจว่าสิ่งที่ได้จ่ายเงินไป จะได้ของดีมีคุณภาพ สินค้าบางประเภทเราสามารถที่จะมีหลักฐานอ้างอิงได้ค่ะ เช่นสินค้านำเข้าก็ให้แสดงเอกสารการนำเข้าสินค้า หรืออย่างกรณีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ก็ควรจะมีเอกสารการจดแจ้งสินค้าจากอ.ย.แสดง หรือมีเลขที่จดแจ้ง อ.ย. แสดงเพื่อให้สามารถตรวจสอบได้นั่นเองค่ะ

- โปรโมทเว็บให้คนเข้าร้าน
นับเป็นกระบวนการที่สำคัญมากค่ะ เพราะในเมื่อเรามีเว็บที่ดี สินค้าที่ดี น่าซื้อ ข้อมูลที่พร้อมแล้ว แต่ถ้าไม่มีใครเข้ามาชมก็คงจะเปล่าประโยชน์ เรื่องการโปรโมทเว็บเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา และใช้ทุนค่ะ ถ้าทุนน้อยก็ต้องอาศัยลูกขยัน หมั่นลงประกาศ เรียนรู้การทำเสิรจ์เอนจิ้น และประชาสัมพันธ์ในโซเชียลมีเดีย ถ้าหากมีทุนก็ซื้อโฆษณาลงแบนเนอร์ในเว็บที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของเรา และมีผู้เข้าชมเว็บนั้นในแต่ละวันจำนวนไม่ควรจะน้อยกว่าหลักหมื่น ต่อวัน แต่การลงทุนโฆษณาควรจะคำนวณด้วยนะคะว่า กำไรจากการขายสินค้าของคุณคุ้มค่าพอที่จะยอมจ่ายค่าโฆษณาในระดับหลักพัน หลายพัน หรือหลักหมื่นต่อเดือน ไม่งั้นอาจจะเอากำไรมาจ่ายค่าโฆษณาจนติดลบได้ ที่สำคัญควรวัดกระแสตอบรับด้วยว่า โฆษณาที่คุณลงไปนั้น ในแต่ละวันมีคนคลิ๊กเข้ามาชมเว็บคุณมากแค่ไหน แล้วมีการสั่งซื้อแค่ไหน หรือเข้ามาแล้วจากไป เพื่อที่จะได้ปรับปรุงข้องบกพร่อง ถ้าคลิ๊กชมเยอะ แต่ไม่ซื้อเลย แสดงว่าสินค้าไม่น่าสนใจ เว็บดูไม่น่าซื้อ ราคาสูงกว่าคู่แข่ง หรือหากจำนวนคนคลิ๊กน้อย แสดงว่าแบนเนอร์ไม่ดึงดูด ควรเปลี่ยนแบนเนอร์ใหม่ หรืออาจหยุดลงโฆษณาเพื่อหาพื้นที่อื่นในการลงโฆษณาต่อไป ความจริงเรื่องการโปรโมทเว็บไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว เจ้าของร้านต้องหมั่นหาแนวทางของตัวเอง ประเมินกำลังตัวเอง และดูว่าในพื้นที่โฆษณามีคนขายสินค้าใกล้เคียงกับของเรามากแค่ไหน ถ้ามีเยอะก็ให้สร้างความแตกต่าง โดดเด่น หรืออาจต้องเปลี่ยนทำเลไปอยู่ในที่ๆไม่มีคู่แข่งค่ะ ซึ่งโดยทั่วๆไปแล้วร้านค้าออนไลน์ ควรมีลูกค้าคลิ๊กเข้าชมไม่น้อยกว่า 200-300 คนต่อวัน

- สร้างความประทับใจด้วยบริการ
เมื่อขั้นตอนการซื้อ-ขาย เกิดขึ้นแล้ว ร้านค้าไม่ควรละเลยต่อบริการที่มียังลูกค้าค่ะ โดยทั่วไปเมื่อลูกค้าได้ชำระเงินมาแล้วก็ย่อมอยากได้สินค้าเร็วๆ บางรายถึงขนาดถามเลยว่าของจะมาถึงวันไหน ขอเลขที่ส่งพัสดุกันเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ร้านค้าควรมีรอบการส่งของทุกวันค่ะ ไม่ว่าจะส่งน้อยหรือส่งมาก และควรส่งแบบด่วนพิเศษEMS เพราะนอกจากของจะถึงชัวร์ถึงเร็วแล้ว ยังมีการรับประกันจากไปรษณีย์ในกรณีสิ่งของชำรุด เสียหาย สูญหาย ในวงเงินไม่เกิน 1,000 บาทด้วยนะคะ กรณีลูกค้าเข้าไปสอบถามเรื่องสินค้าในเว็บบอร์ด หรือส่งเมล์สอบถาม ก็ควรตอบลูกค้าภายในไม่เกิน 1 วัน เพราะถ้าไม่ตอบหรือตอบช้า ลูกค้าจะมองว่าร้านค้าไม่ใส่ใจ และจะทำให้ลูกค้าเปลี่ยนใจไปเลยล่ะค่ะ อย่างกรณีเว็บนุ้ยใน
www.incomebeauty.com 
นุ้ยจะเข้าไปตรวจสอบวันละ 2-3ครั้งเป็นอย่างน้อย เช็คอีเมล์วันละ 2 ครั้งในตอนบ่ายและตอนค่ำ โทรศัพท์สายด่วนของร้านต้องติดตัวเสมอ เพราะลูกค้าบางรายถ้าโทรมาแล้วเราไม่ได้รับอาจจะเปลี่ยนใจไปเลยค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้หมายความว่าเราจะพะวงจนไม่มีเวลาส่วนตัว หรือเวลาพักผ่อนนะคะ กรณีไม่สะดวกช่วงเวลาไหนก็ให้แจ้งไว้ที่หน้าร้านเป็นกิจจะลักษณะไปเลย ลูกค้าจะได้รับทราบค่ะ หรือถ้ามีปัญหาเรื่องการส่งของเช่น ส่งไม่ทัน ลืมส่ง ส่งผิด (คือช่วงที่ต้องส่งลูกค้าเยอะๆนุ้ยก็จะเคยเจอเรื่องแบบนี้เหมือนกัน) สิ่งที่เราควรจะทำได้ก็คือรีบแจ้งลูกค้าให้ทราบและขอโทษลูกค้า อย่าปล่อยให้ลูกค้าต้องเป็นฝ่ายมาทวงถามก่อนนะคะ
อันนี้เป็นบทความคร่าวๆถึงเรื่องการเปิดร้านออนไลน์ขายสินค้าค่ะ จริงๆแล้วรายละเอียดมีมากมายกว่านี้ ซึ่งถ้าคุณได้ทำมันอย่างจริงจัง คุณก็จะได้ประสบเองค่ะ บทความนี้สำหรับผู้ที่คิดเริ่มต้นจะทำนะคะ หลายคนที่ทำเป็นอาชีพ ประสบความสำเร็จแล้ว อาจมีประสบการณ์มากกว่านี้มากมาย แต่ก็มีหลายรายทำแล้วก็เงียบหายกันไป ปล่อยเว็บให้ทิ้งร้างขาดการเอาใจใส่ และล้มเหลวในที่สุดดังนั้นการจะทำร้านค้าออนไลน์ให้ได้ดี ก็เหมือนกับการเพาะเมล็ดพันธุ์ให้กลายเป็นต้นกล้า และหมั่นรดน้ำ พรวนดิน ให้กลายเป็นต้นไม้ใหญ่นั่นเองค่ะ นุ้ยเชื่อว่าอนาคตอันใกล้นี้ผู้บริโภคที่จะเข้าถึงร้านค้าออนไลน์ สั่งสินค้าออนไลน์ จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ และจำนวนร้านค้าก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ แต่สิ่งสำคัญที่นุ้ยเชื่อว่าคนทำร้านค้าออนไลน์คิดแบบเดียวกันก็คือ เราไม่ได้แข่งขันกันเพื่อแย่งลูกค้า แต่เราจะเป็นทางเลือกหนึ่งให้กับลูกค้า และแต่ละร้านแต่ละแห่งก็มีฐานลูกค้าของตัวเอง และสร้างฐานลูกค้าใหม่อยู่เสมอ ยังไงนุ้ยเป็นกำลังใจให้ผู้ตั้งใจจริงในการคิดที่จะทำร้านค้าออนไลน์ทุกท่านค่ะ ขอให้ประสบผลสำเร็จ เริ่มต้นอาจยังไม่ต้องคิดถึงกำไรเป็นกอบเป็นกำอะไรมากค่ะ ขอแค่อย่าให้ขาดทุนเป็นพอ และในวันที่คุณขายของชิ้นแรกได้ วันนั้นคุณจะมีกำลังใจในการเริ่มเดินหน้าต่อทันทีค่ะ