ThaiSEOBoard.com

ความรู้ทั่วไป => E-commerce => ข้อความที่เริ่มโดย: ปลาบิน ที่ 28 กรกฎาคม 2009, 23:53:12



หัวข้อ: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: ปลาบิน ที่ 28 กรกฎาคม 2009, 23:53:12
ขายอะไรดี ?

ขอถามคำถามยอดฮิต  :-*


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: barbies55 ที่ 28 กรกฎาคม 2009, 23:55:45
ขายผ้าเอาหน้ารอด  :-*


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: nutt2998 ที่ 28 กรกฎาคม 2009, 23:56:00
ขายค่ะ
คำค้นหายอดฮิต


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: rebirth_fay ที่ 31 กรกฎาคม 2009, 19:50:55

   ลองหาอะไรๆที่คนอื่นเค้าไม่ขาย หรือเค้าขายกันแต่เราแตกต่างออกไป แบบนั้นอ่ะค่ะ


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: EleLight- ที่ 31 กรกฎาคม 2009, 20:14:12
ขาย อะไรเดี๋ยวรู้กัน  :'(


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: hermiss ที่ 31 กรกฎาคม 2009, 20:31:08
ขายบริการ ขายน้ำ

























ขายบริการรับจ้างซับมิต รับจ้างโพสต์ ขายน้ำผลไม้ น้ำเปล่า


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: mai8888 ที่ 31 กรกฎาคม 2009, 20:51:50
ขายของกิน ดีมั้ย

คิดไม่ออกแหละคะ :D


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: g-ji ที่ 31 กรกฎาคม 2009, 21:03:11
ขายตัว !!!

อย่าดูถูกมันเชียวนะ

เป็น 1 ใน 2 อาชีพที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเลยนะ  ;D


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: win ที่ 31 กรกฎาคม 2009, 21:03:25
ขายอะไรดี ?

ขอถามคำถามยอดฮิต  :-*



เคยฟังคุณโซวแนะนำทำนองว่า


"แล้วคนเขากำลังอยากซื้ออะไรล่ะ?"


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: bugmai ที่ 31 กรกฎาคม 2009, 21:04:41
ขายอะไรดี ?

ขอถามคำถามยอดฮิต  :-*



เคยฟังคุณโซวแนะนำทำนองว่า


"แล้วคนเขากำลังอยากซื้ออะไรล่ะ?"

สวัสดีครับ คุณวิน หานไปนานเลย ;D ;D


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: g-ji ที่ 31 กรกฎาคม 2009, 21:04:49
ขายอะไรดี ?

ขอถามคำถามยอดฮิต  :-*



เคยฟังคุณโซวแนะนำทำนองว่า


"แล้วคนเขากำลังอยากซื้ออะไรล่ะ?"

ตอนนี้คงอยากซื้อยาที่กินแล้ว ไม่เป็นหวัด 2009 กันมั้ง  :-\


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: KINGRPG ที่ 31 กรกฎาคม 2009, 21:13:20
ขายกากเกงในใช้แล้ว


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: win ที่ 31 กรกฎาคม 2009, 21:19:36
ขายอะไรดี ?

ขอถามคำถามยอดฮิต  :-*



เคยฟังคุณโซวแนะนำทำนองว่า


"แล้วคนเขากำลังอยากซื้ออะไรล่ะ?"

สวัสดีครับ คุณวิน หานไปนานเลย ;D ;D


สวัสดีครับ  :D  คุณ bugmai สร้างผลงานภาพวาดขึ้นมาเยอะเลยนะครับ ยังดูไม่หมดเลย


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: (~''๐''~)ปลาแซลมอล ที่ 01 สิงหาคม 2009, 01:27:22
ขายกากเกงในใช้แล้ว

คงไม่ดีมั้ง ไม่อยากติด กาก....


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: nipon91 ที่ 01 สิงหาคม 2009, 01:36:23
ขายตัว !!!

อย่าดูถูกมันเชียวนะ

เป็น 1 ใน 2 อาชีพที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเลยนะ  ;D
แล้วอีกอาชีพหนึ่งนี่อะไรอ่ะ  ???


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: washiravit ที่ 01 สิงหาคม 2009, 12:14:56
ชายพวกเข็มขัดดีมั้ยครับ


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: mr.poo ที่ 01 สิงหาคม 2009, 12:25:41
ขายอะไรก็ได้ที่ทุกคนเห็นแล้วเงินอยากออกจากกระเป๋า แต่เรายังนึกไม่ออกเลย ฮ่ะๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: BosnoS ที่ 01 สิงหาคม 2009, 12:35:52
มี 2 ทางเลือก


ขายสิ่งที่ตัวเองอยากขาย
ขายสิ่งที่คนอื่นยากซื้อ




หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: HiggsMan ที่ 01 สิงหาคม 2009, 12:43:33

Philip Kotler กับกลยุทธ์ด้านการตลาด


          Philip Kotler ได้รับการยกย่องว่าเป็นปรมาจารย์ด้านการตลาดในปัจจุบันท่านดำรงตำแหน่ง ศาสตราจารย์สอนอยู่ ณ มหาวิทยาลัย Northwestern University ในสหรัฐอเมริกา ท่านได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับด้านการตลาดหลายเล่ม หนังสือเล่มล่าสุดของท่านคือ Kotler on Marketing ถือได้ว่าเป็นคัมภีร์ด้านการตลาด เพราะได้รวมข้อคิดที่น่าสนใจในหลายประการซึ่งจะได้ อธิบายต่อไป การเปลี่ยนแปลงสำคัญในสหัสวรรษใหม่

          ศาสตราจารย์ Kotler ได้กล่าวในตอนต้นของ หนังสือเล่มนี้ว่า ในสหัสวรรษใหม่นี้ การตลาดต้องคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงสำคัญในระดับโลก 3 ประการดังนี้
          นวัตกรรมทางเทคโนโลยี (Technological Innovation) การวางแผนทางการตลาดต้องคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี เช่น e-mail e-business โทรศัพท์มือถือ การสื่อสารผ่านดาวเทียม และต้องพิจารณาว่าเราจะนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ มาปรับเปลี่ยนกับ แผนการตลาดได้อย่างไรบ้าง
          โลกาภิวัตน์ (Globalization) การตลาดไม่ใช่เรื่องภายในประเทศเท่านั้น แต่เกี่ยวโยงไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก อย่างเช่น Amazon.com เปิด website ขายหนังสือและสินค้าอื่นๆ ไปทั่วโลก ในสภาวะดังกล่าว เราต้องรู้จักตลาด ลูกค้าและคู่แข่งทั้งภายในภายนอกเป็นอย่างดี
          มีการลดกฎเกณฑ์ (Deregulation) ทาง ด้านธุรกิจ ทำให้ตลาดเสรีมากขึ้น มีการแข่งขันกันมากขึ้น การผูกขาดตลาดลดลงในขณะเดียวกันก็มีแนวโน้มที่จะมีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจและ องค์กรของรัฐมากขึ้น(Privatization)ศาสตราจารย์ Kotler ได้พูดถึงหลักการตลาดแบบเก่าที่ยังปฏิบัติกันอยู่ซึ่งไม่ได้ถูกต้องนักได้แก่
          1. การ คิดว่า การตลอดหมายถึงการขาย การตลาดหมายถึงการแสวงหาความต้องการของคนในสินค้า และบริการประเภทใดที่ยังไม่มีใครผลิตหรือให้บริการตอบสนอง หากการตลาดประสบความสำเร็จแล้วก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องมีทีมงานขายอีกต่อไป
          2. การตลาดเป็นหน้าที่ของฝ่ายการตลาด แต่ที่จริงแล้วทุกหน่วยงาน ของบริษัทต้องทำหน้าที่ขายหมด บางบริษัทเช่น Marks & Spencer ไม่มีฝ่ายการตลาดเพราะทุกฝ่ายต้องขายหมด
          3. การตลาดเน้นหา ลูกค้าแบบใหม่มากกว่าการรักษาฐานลูกค้าเก่า
          4. การให้ความสำคัญกับการทำกำไรแต่ละครั้ง แทนที่จะมองกำไรทั้งหมดที่จะได้จากลูกค้าแต่ละราย
          5. กำหนดราคาโดยคำนวณต้นทุนและกำไรมากกว่าที่จะตั้งราคาในระดับที่ลูกค้าเต็มใจจะจ่าย
          6. พยายามขายสินค้ามากกว่าพยายามเข้าใจความต้องการ ของลูกค้า ยุทธวิธีการตลาดที่จะนำมาสู่ความสำเร็จ
          1. ต้องมียุทธศาสตร์ที่แตกต่างคนอื่น เช่น การขายตรงทาง internet โดยไม่ต้องมีร้าน ทำให้ต้นทุนต่ำ
          2. ต้องหาช่องทางการตลาดสำหรับสินค้าของตนเอง
               - หาสินค้าที่มีปริมาณไม่พอกับความต้องการของตลาดนั้นๆ เช่น Mcdonald และ Nike บุกเข้าไปในตลาดยุโรปตะวันออก
               - พัฒนาสินค้าที่มีอยู่แล้วในตลาดให้มีคุณภาพดีขึ้น เช่นถ่านของ Laptop ที่มีอายุยืนยาว
               - หาสินค้าและบริการรูปแบบใหม่
          3. ควรพัฒนา data base ให้รู้ว่า ลูกค้ามีความชอบ (Preference) และความต้องการ (Requirement) อย่างไร ต้องค้นให้พบ แม้ว่าบางครั้งตัวลูกค้าเองยังอาจไม่ทราบ
               - นอกจากนี้ ควรหาให้ได้ว่า ใครที่ทำกำไรให้กับบริษัทและมีกี่ราย จากการศึกการที่ผ่านมาพบว่า กำไรของบริษัท 80% จะมาจากลูกค้าเพียง 20% เท่านั้น ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ควรเป้นกลุ่มที่บริษัทเอาใจใส่เป็นพิเศษ
               - ดูวงจรของลูกค้าว่าจะอยู่ กับเรานานเท่าไร หากเรามีข้อมูล และสามารถคำนวณได้เช่นนี้ จะทำให้เราทราบว่า เราจะสามารถเสนอขายสินค้าอื่นๆ ให้กับลุกค้าในราคาเท่าไหร่เพื่อให้เค้าพึงพอใจ และให้อยู่กับบริษัทไปได้ยืนยาว
               -  หากินกับ ลูกค้าเก่า เพราะลูกค้าใหม่หายากและใช้ต้นทุนมากกว่า นอกจากนั้นจากการศึกษา พบว่าต้องใช้เวลาหลายปีกว่าลูกค้าใหม่จะจับจ่ายซื้อสินค้าเท่าลูกค้าเก่า
          4. สร้าง Brand
               -  ทำให้สินค้าเด่นในด้านในด้านหนึ่ง จนทุกคนพูดติดปาก เช่น BMW เด่นในด้านความแรงของเครื่องยนต์ ส่วน Mercedes Benz เด่นในด้านความหรูหรา Volvo เด่นในด้านความปลอดภัย
               -  การสร้าง Brand ไม่ ใช่เป็นภาพลักษณ์อย่างเดียว แต่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกของผู้ใช้ต่อสินค้านั้นๆ เช่นกล่องที่ใส่ดีไหม และพนักงานให้บริการดีหรือไม่
               - สินค้า Brand name เท่านั้นที่สามารถกำหนดราคาของตัวเองได้ มิฉะนั้นแล้วต้องใช้ราคาต่อสู้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท

หลัก 4 Ps ในทัศนะของ Kotler
          Product ต้องทำให้เกิดความแตกต่างที่เห็นได้จากคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านดีไซน์ ราคา ภาพลักษณ์
          Price เดิมการตั้งราคาดูจากต้นทุนบวกกำไร แต่ Kotler เสนอว่าการตั้งราคาควรจะพิจารณาว่า ลูกค้ายินดีที่จะจ่ายในระดับราคาสูงสุดเท่าไร วิธีการตั้งราคาที่ฉลาดคือ การเสนอเป็น package เพราะจะได้สินค้าอื่นๆ พ่วงเข้าไปด้วยกับสินค้าที่ลูกค้าตั้งใจจะซื้อในตอนแรก
          Place ในปัจจุบันลูกค้าจะชอบจับจ่ายซื้อของจากบ้าน โดยสั่งซื้อจาก catalog หรือ direct mail, internet, home shopping program ดังนั้น ร้านค้าต้องเน้นเรื่องที่จอดรถที่สะดวก บริการที่อบอุ่น และมีสินค้าที่น่าสนใจ
          Promotion ควร จะเน้นการโฆษณาที่จะมุ่งเจาะลูกค้าเป้าหมาย อย่างชัดเจนในด้านอายุ รายได้ เพศ ที่อยู่ เป็นต้น อย่าให้พนักงานขาย เสียเวลาหาลูกค้าใหม่ แต่ควรใช้วิธีการโฆษณาประชาสัมพัน์ในการเสาะหารายได้ชื่อลูกค้าที่มีศักยภาพ ก่อน แล้วจึงให้พนักงานขายออกไปขาย

ที่มา : http://www.quixest.com

ปล. อ่านจบแล้วก็ไม่รู้ว่าขายไรดี
 ;D


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: yourcartoon ที่ 02 สิงหาคม 2009, 03:14:08
ของผมขายความสามารถครับ  :P


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: taweesup ที่ 02 สิงหาคม 2009, 06:55:22
ลองดู ตามนี้เลยครับ .... ว่าแต่จะโดนว่าขุดหรือเปล่าก็ไม่รุ้สินะ  :P

http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,68058.0.html  ::)

http://8plus2.co.cc/2009/06/วี-ขายอะไรบ้าง-ครับคะ.HTML  ::)

สิ่งที่เรามองหาอยู่รอบตัวเราเยอะแยะเลยครับ ...  :)


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.P ที่ 02 สิงหาคม 2009, 11:32:46
ต้นไม้ดุ๊กดิ๊ก ราคาส่งครับ โทรหาผมได้เลยครับ เบอร์โทรและอีเมล์ที่ลายเซนต์เลยครับ

(http://www.v-point.sk/image/FlipFlap_2.gif)


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: washiravit ที่ 04 สิงหาคม 2009, 09:49:40
เคยมีคนถามคำถามนี้กับหลวงปู่ดุลย์ครับ

หลวงปู้บอกว่า

ขายอะไรก็ได้ที่มีคนซื้อ


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: allfeasible ที่ 04 สิงหาคม 2009, 10:08:10
จะขายอะไร พื้นฐานก็ต้องมีใจรักและเข้าใจก่อนครับ ไม่ใช่ว่าเห็นคนอื่นขายดีก็ขายตามด้วย ยกตัวอย่างนะครับ ขายเสื้อผ้าผู้หญิง แต่ตัวเองไม่รู้เรื่องเลย ก็ไปไม่รอดเหมือนกัน อันนี้ผมคิดเองนะครับ  ;D

ลองสำรวจตัวเองก่อนดีกว่าไหมครับ แล้วค่อยดูว่าเหมาะกับตลาดที่เราจะขายหรือเปล่า


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: eagle1 ที่ 04 สิงหาคม 2009, 10:14:36
ก๊อปมาจากเวบไซด์ http://me.youngcyber.com/?p=71 นะครับ เอามาแบ่งปันกัน หลายประเด็นน่าสนใจและน่าพิจารณาครับ

==========================================================

หลายๆคนมักจะถามผมว่า หากจะขายสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ตหรือเว็บไซต์ ควรจะขายอะไรดี?

ผมเองจะถามกลับว่า คุณมีสินค้าแล้วรึยัง?
หลายคนก็จะบอกว่า มีธุรกิจอยู่แล้ว และต้องการนำธุรกิจหรือสินค้า-บริการเข้ามาสู่ Internet
และอีกส่วนใหญ่จะบอกว่า ยังไม่มีธุรกิจหรือสินค้าเลย แต่อยากจะรู้ว่าขายอะไรผ่านอินเทอร์เน็ต หรือทำ E-Commerce ขายอะไรดี
วันนี้ผมจะมาให้ไอเดียและคำแนะนำว่า สินค้าประเภทไหนที่เหมาะจะขายผ่านเว็บไซต์
ลองมาดูกันนะครับ
?
?
?
?
1. สินค้าราคาถูกกว่าท้องตลาด
[/font][/color]
หากคุณสามารถหาแหล่งสินค้าราคาถูกกว่าท้องตลาด นั้นหมายถึงความได้เปรียบในการขาย เพราะด้วยราคาที่ถูกกว่า นั้นจะช่วยทำให้ผู้ซื้อสนใจและจดจำร้านค้าคุณได้ รวมถึงการบอกต่อไปยังคนอื่นๆได้อีกด้วย
แต่หากคุณขายสินค้าผ่านอินเทอรเน็ตหรือเว็บไซต์เป็นหลัก คุณก็สามารถลดต้นทุนไปได้มากแล้ว เพราะไม่ต้องมาเสียค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจ้างพนักงาน เพราะคุณสามารถทำเองได้หมด ทำให้ไม่จำเป็นต้องตั้งราคาสูงเท่ากับร้านค้าทั่วไป
หรือบางคนอาจจะรู้แหล่งสินค้าราคาถูกในท้องถิ่นของคุณ ซึ่งหากสินค้าชิ้นนั้นไปขายที่อื่น ก็จะสามารถขายได้ราคาดีกว่า เช่น คุณอาจจะอยู่จังหวัดขอนแก่น ใกล้แหล่งผ้าไหม คุณก็อาจจะเปิดร้านขายผ้าไหมลวดลายพิเศษ หายาก ผ่านเว็บไซต์ไปยังทั่วประเทศและต่างประเทศก็ได้
ทีนี้ก็ลองมานึกดูสิครับว่า ใกล้ๆตัวคุณมีแหล่งสินค้าราคาถูกอะไรบ้าง ที่สามารถนำมาขายได้

2. สินค้าเฉพาะกลุ่ม
[/font][/color]
สินค้าที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) โดยไม่ได้เน้นไปที่กลุ่มลูกค้ากลุ่มคนทั่วไป (Mass Market) เช่น สินค้าสำหรับคนอ้วน, สินค้าสำหรับคนท้อง, สินค้าสำหรับแม่, สินค้าสำหรับเจ้าสาว-คู่แต่งงาน, สินค้าสำหรับเกย์ หรือกระเทย เป็นต้น ก็น่าสนใจ
การที่เราจับกลุ่มลูกค้าโดยเฉพาะกลุ่ม จะทำให้เราสามารถเจาะและเข้าถึงลูกค้าเฉพาะได้ง่ายมาก หากลุ่มลูกค้าได้ง่าย ลูกค้าจดจำคุณได้ง่าย และนั้นหมายถึงโอกาสการขายก็มีมากกว่าการที่เราไปเปิดเว็บไซต์ขายของเหมือนคนทั่วไป
ตลาดกลุ่มนี้จะเป็นตลาดเฉพาะ กลุ่มอาจจะไม่ใหญ่มาก แต่ถ้าคุณจับและเข้าถึงได้แล้ว ยอดขายน่าจะมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องครับ

3. สินค้า “ไม่” ยอดนิยม
[/font][/color]
ลองหาสินค้าที่ “ไม่ค่อยนิยม” ลองมาขายดู เพราะส่วนใหญ่เว็บไซต์ต่างๆ ชอบขายสินค้าที่ “นิยม” ซึ่งทำให้เกิดการแข่งขันในสินค้าประเภทนี้มาก ทำให้โอกาสสินค้าของคุณจะเป็นที่รู้จัก เป็นได้ยาก
แต่หากคุณเน้นไปที่ สินค้าไม่เด่น ก็จะทำให้เว็บไซต์ของคุณเป็นที่รู้จักได้ง่ายกว่า เช่น เปิดเว็บไซต์ขายเทปเพลงเก่า พระเครื่อง รุ่นที่ไม่ค่อยมีคนนิยม

4. สินค้าไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน
[/font][/color]
สินค้าบางอย่างผู้ซื้อไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน เพราะอาจจะมีความอาย หรือไม่ต้องการให้ผู้ขายรู้จักหรือเห็นหน้า
ดังนั้นการซื้อผ่านเว็บไซต์ หรืออินเทอร์เน็ต ดูจะเป็นช่องทางที่หลายๆคนเลือกใช้ในการซื้อสินค้าลักษณะนี้ เช่น สินค้าเกี่ยวกับเรื่องเพศ, ถุงยางอนามัย, อุปกรณ์หรือเครื่องมือต่างๆ, ชุดชั้นใน Sexy เป็นต้น

5. สินค้ามีสไตล์เฉพาะตัว (Unique)
[/size][/size][/font][/color]หากสินค้าหรือบริการของคุณ มีความเฉพาะตัว แตกต่าง ไม่เหมือนใคร (Unique) ก็สามารถขายได้ดีเช่นกัน เพราะลูกค้าไม่สามารถหาซื้อที่อื่นๆได้นอกจากของคุณเท่านั้น เช่น เสื้อผ้า ลายผ้า ที่มีดีไซน์เฉพาะตัว, สินค้า Handmade ประเภทต่างๆ
แต่ต้องสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่า สินค้าของเราเป็นของดี มีคุณภาพ เพราะสินค้าลักษณะนี้ ส่วนใหญ่ลูกค้าจะไม่รู้จักมาก่อน หรือไม่มีมาตรฐานที่แน่นอน
ดังนั้นการสร้างความน่าเชื่อถือ การทำให้ลูกค้ามั่นใจ และการให้รายละเอียดสินค้าที่เพียงพอ ครบถ้วน เช่นการมีรูปภาพเยอะๆ การให้รายละเอียดหรือคำอธิบายสินค้าเยอะๆ หรือมี VDO อธิบายสินค้า ดูน่าจะเป็นวิธีที่จะช่วยทำให้ลูกค้ามั่นใจ และซื้อสินค้าลักษณะนี้ได้ไม่ยาก

6. สินค้าที่มีน้ำหนักเบา
[/font][/u][/color]
การขายสินค้าที่มีน้ำหนักเบา จะมีความได้เปรียบในด้านการส่งสินค้าให้ลูกค้า เพราะจะส่งได้ง่ายกว่า ประหยัดกว่า โดยเฉพาะสินค้าที่มีขนาดเล็กๆ แต่มีราคา เช่น มีหลายคนๆขายสแตมป์เป็นชุด บางชุดมีราคาหลายพันบาทเลย ส่งง่ายเพราะแค่สอดเข้าซองจดหมายก็ส่งได้แล้ว
ดังนั้นสินค้าบางอย่างที่มีน้ำหนักเบา มีราคาสูง ก็อาจจะช่วยทำให้การค้าขายมีกำไรได้มาก แต่อาจจะต้องให้ความสำคัญกับการขนส่งสินค้าที่มีการลงทะเบียนที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อได้เช่นกัน

7. สินค้าที่มีเรื่องราว
[/color][/font]
สินค้าหรือของที่มีเรื่องราว มีประวัติประกอบ จะทำให้สินค้าชิ้นนั้นๆ มีความน่าสนใจมากขึ้น เช่น ผมอาจจะขายเครื่องปั้นดินเผา แต่ผมก็มีให้ข้อมูลและประวัติของ เครื่องปั้นดินเผาแต่ละชุดที่ผมขาย เป็นแบบจำลองมาจาก เครื่องปั้นดินเผาสมัยสุโขทัย มีประวัติยาวนาน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะแจ้งในเว็บไซต์ และแพ็กเกจที่ส่งไปให้ลูกค้า ซึ่งจะทำให้ เครื่องปั้นดินเผาอันนี้มีมูลค่ามากกว่า เครื่องปั้นดินเผาธรรมดาๆ ที่ขายอยู่ทั่วไป
นี้คือข้อดีของสินค้าที่มีเรื่องราวอยู่ด้วย


8. สินค้าที่หายาก
[/font][/color]
สินค้าที่หายากย่อมมีคนต้องการ แต่เนื่องจากเทคโนโลยี อินเทอร์เน็ต ทำให้การเข้าถึงข้อมูลต่างๆเป็นไปได้ง่าย
ดังนั้นหากคุณขายสินค้าที่หายาก และทำให้คนสามารถหาเจอได้ง่ายๆในอินเทอร์เน็ต เช่น.คนค้นหา (search) เจอได้ง่าย โอกาสการขายก็เป็นไปได้ง่ายๆ
ยกตัวอย่างสินค้า เช่น พระเครื่องเก่าๆ, ของเก่า-ของสะสม ประเภทต่างๆ เป็นต้น

9. สินค้าที่สามารถทำด้วยตัวเอง (Do it yourself - DIY)
[/font][/b][/u][/color]หลายๆคนชอบซื้อสินค้าที่สามารถซื้อไปแล้ว ไปทำเองได้ เช่น ชุดถักโครเช่ต์, ชุดทำอาหารง่ายๆ, อุปกรณ์แต่งบ้าน ต่างๆ เป็นต้น ซึ่งสินค้าที่เป็นลักษณะ ทำด้วยตัวเอง มักจะเป็นสินค้าที่ ฝรั่งชอบนิยมซื้อไปติดตั้งหรือทำด้วยตัวเอง
ทั้งหมดนี้เป็นส่วนที่ช่วยทำให้คุณพอได้ไอเดีย ในการไปคิดต่อว่า เราจะขายสินค้าอะไรดี ผ่านเว็บไซต์ไปยังคนทั่วโลก
แต่อย่าลืมนะครับ สินค้าเป็นเพียงแค่ “องค์ประกอบ” หนึ่งเท่านั้น
การจะขายของบนอินเทอร์เน็ตให้ได้นั้น จะประกอบไปด้วยอีกหลายๆปัจจัยด้วยกัน เช่น ความน่าเชื่อถือ (Trust), การตลาด (Marketing), การรู้จักและรักษาลูกค้า (CRM) และอื่นๆ อีกมาก


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: moothai ที่ 04 สิงหาคม 2009, 10:33:12
1. ขายของที่ชอบ  -  ของที่เรารู้รายละเอียด  รู้ลึก  รู้จริง  นำเสนอลูกค้าได้
2. ขายของที่ใช่ - ของตามกระแส  หรือตามวิกฤติการณ์ ณ ตอนนั้นๆ  อาจเป็นของที่เขายังไม่ขายกัน  แต่เรานำมาขายเป็นคนแรกๆ หรือกลุ่มแรกๆ  พอตอนหลังเขาฮิตกัน  ก็กำไรๆๆๆ

แต่... จะขายอะไรควรดูกำลังทรัพย์  ดูทำเล  และดูคู่แข่งด้วยนะ


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: enjoy-2-u ที่ 04 สิงหาคม 2009, 15:29:39


ต้องการขายสินค้าแฮนด์เมด มั้ยค่ะ ติดต่อได้นะคะ มีทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า ของที่ระลึกค่ะ พอดีทำขายส่งอยู่ ลองรับไปขายปลีกมั้ยคะ ::) ::) ::)


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: Halogen ที่ 04 สิงหาคม 2009, 17:00:46
ขายสิ่งที่ลูกค้าต้องการ พูดง่ายแต่ทำยากฉิบ  :(


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: L3N ที่ 06 สิงหาคม 2009, 13:19:26
ขายของเก่าก็ดีนะ 


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: dao1581 ที่ 29 สิงหาคม 2009, 19:26:02
ขายน้ำหอมดีกว่าค่ะ
ใช้ทุนไม่ถึง 3000 บาท
มีถึง 32 กลิ่น กลิ่นไหนขายไม่ได้รับเปลี่ยนค่ะ
น้ำหอมเราเป็นน้ำหอมเกรด A หอมติดทนนาน 24 ชม.ค่ะ
มีทั้งกลิ่นผู้หญิงและผู้ชายค่ะ
สนในเมล์มานะคะ  [email protected]




หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: peipeipaew ที่ 30 สิงหาคม 2009, 04:27:56
ขายตัว !!!

อย่าดูถูกมันเชียวนะ

เป็น 1 ใน 2 อาชีพที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเลยนะ  ;D

1 ใน 2 แล้วอีกอันคือ??


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: flashstep ที่ 30 สิงหาคม 2009, 04:35:09
ขายตัว !!!

อย่าดูถูกมันเชียวนะ

เป็น 1 ใน 2 อาชีพที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเลยนะ  ;D

1 ใน 2 แล้วอีกอันคือ??

หมอผีครับ  ;D


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: E_ZY ที่ 31 สิงหาคม 2009, 18:49:10
ขายน้ำ กำไรดี


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: akeNAVY ที่ 31 สิงหาคม 2009, 19:02:36
ขายหนังสือเก่าครับ

แบบว่าลด 50%-70% +++ ครับ
แบบว่า หน้าปก 200  ขายแค่ 80- 100 บาท

ไปจับแถวตลอดนัดหรืออะไรมาก็ได้ ผมว่าน่าจะดี 
ดุจากคนไปงานหนังสือ :D



หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: chanun ที่ 31 สิงหาคม 2009, 19:51:29
ขายกากเกงในใช้แล้ว

คงไม่ดีมั้ง ไม่อยากติด กาก....

เคยเห็นออกทีวีด้วย แถมคนขายบอกต้องให้ติดกลิ่นนิดๆ คนขายผู้หญิงนะ-*- :-[


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: BoyzMZ ที่ 31 สิงหาคม 2009, 22:13:43
เข้ามาแอบดู ได้แนวความคิดเพิ่มขึ้นอีกแล้วครับ ขอบคุณมากครับ  ::)


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.P ที่ 31 สิงหาคม 2009, 23:50:39


ขายต่อจากผมไหมครับ ต้นไม้ดุ๊กดิ๊ก (http://giftshopsale.blogspot.com)   ::)


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: vdesign ที่ 01 กันยายน 2009, 01:42:23
ขายบริการ ฮี ๆ  :D


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: Nataro ที่ 01 กันยายน 2009, 01:47:21
ลองไปเดินจตุจักร หาอะไรที่มันไทยๆซักชิ้นไปประกาศขายในE-bayดูสิครับ
บางชิ้นได้ราคาสูงมากนะครับ ฝรั่งเค้าใจปล้ำ :D


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: scriptfree ที่ 03 กันยายน 2009, 13:59:22
ของแปลกๆๆครับขายได้แน่นนอน 8)


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: PositiveThinking ที่ 03 กันยายน 2009, 14:53:09
ผมเห็นขายลิงอยู่พักนึงเลิกขายแล้วหรอครับ?  ;D

ลองขายอุปกรณ์ท่องเที่ยวดูมั้ยครับ
พวกอุปกรณ์ trekking ถ้าคุณ poonsin ไม่ทำ ผมจะทำละนะ (เพราะผมก็ชอบเที่ยวน่ะ)

มันตอบโจทก์ทำในสิ่งที่ชอบน่ะครับ เลยลองนำเสนอดู

เหตุผลนะครับ ผมคิดว่าคุณ poonsin น่าจะชอบเกี่ยวกับเรื่องท่องเที่ยว เพราะเห็นมีเว็บจองโรงแรมอยู่หลายเว็บ
บวกกับว่ามีความรู้ด้าน seo เลยคิดว่าน่าจะเป็นไปได้ที่สุด เว็บจองโรงแรมกับเว็บขายอุปกรณ์ท่องเที่ยว relate กันอยู่
ส่วนการส่งก็คิดแล้วกันนะครับ ถ้าสามารถส่งได้แบบยื่นหมูยื่นแมวก็น่าจะเหมาะกับคนกรุงเทพนะครับ แล้วทำให้ตัดสินใจซื้อง่ายหน่อย

วิธีเริ่มก็ง่ายๆ ครับ หาของที่สวนจตุจักรมาขายก่อนไม่ต้องกะรวยครับ แล้วค่อยๆ หาตลาดค้าส่งเอา
แต่ถ้าจะเริ่ม ศึกษาซักนิดนึงนะครับว่าลูกค้าเค้าชอบยี่ห้อไหนเป็นพิเศษ แล้วลองนำมาขายดู


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: jipom ที่ 03 กันยายน 2009, 14:58:42
ขาย คอม เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: nobitalk ที่ 03 กันยายน 2009, 15:19:45
ขาย...... :-[


ถุงนม หรือ นมถุงๆ ที่ชอบมีขายตามโรงเรียนน่ะครับ รสส้ม รดสัปะรด หอมอร่ิอยดีนะครับ ใครเคยลองบ้าง  ???


หัวข้อ: Re: ขายอะไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: iPiPo ที่ 03 กันยายน 2009, 16:08:59
ขาย...... :-[


ถุงนม หรือ นมถุงๆ ที่ชอบมีขายตามโรงเรียนน่ะครับ รสส้ม รดสัปะรด หอมอร่ิอยดีนะครับ ใครเคยลองบ้าง  ???

เคยเจอนมบูด  ;D ;D ;D