หัวข้อ: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: khun9.com ที่ 17 มกราคม 2009, 14:58:42 ืทำงานต่างแดนค่ะ รู้สึกเครียด กดดัน เหมือนเราเก่งไม่พอ
อยากลาออกมาก ๆ แต่เศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี ถ้าลาออกก็ไม่ถึงกับลำบากอะไร สามีก็อยากให้ออก เพราะไม่อยากให้เครียด เราก็ไม่ได้อยากได้ชื่อว่า แพ้หรือล้มเหลวหรอกนะ แต่รู้สึกว่าทักษะในการทำงานเรามันยังไม่ถึงขึ้น ยอมรับความจริงในตรงนี้ เราไม่ได้จบด้านนี้มาโดยตรง ได้งานเพราะบารมีสามี เราก็ทำได้นะ แต่ก็กดดันอ่ะ เอาไงดีคะ ออก ไม่ออก :-X หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: Saethao ที่ 17 มกราคม 2009, 15:02:20 ใจเย็นๆ ครับ
ค่อยๆ หาวิธีการและทางออกที่ดีสุดครับ สู้ๆ ครับ :) หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: BosnoS ที่ 17 มกราคม 2009, 15:05:00 สู้ต่อไปครับ
วินาทีนี้ มีงานทำ ก็ดีแล้วครับ อย่าออกเลย มีอีกหลายๆ ที่อยากทำงานแต่ไม่มีงานทำ ทุกปัญหาแก้ได้หมดล่ะคัรบ แต่ต้องใจเย็นๆ หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: ฉันไม่มีตัวตน ที่ 17 มกราคม 2009, 15:06:33 "อยากทำ" หรือ "ไม่อยากทำ" มันอยู่ที่2ประโยคนี้อ่ะครับ ลองถามใจตัวเองดู
สำหรับผมแล้วเจองานเงินเดือนแพงๆยังไง แต่ถ้ากดดันมากๆจนทำให้เสียสุขภาพจิต ผมก็ไม่เอาอ่ะ ;D หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: khun9.com ที่ 17 มกราคม 2009, 15:08:25 ขอบคุณค่ะ
เราคิดว่า ถ้าไม่ไหวจริง ๆ หรือเลือกที่จะออกจากงาน ก็อาจจะมาจริงจังกับ adsense หรือทำเว็บ เพราะว่าตอนนี้เรามีบล็อก ทำมาสองเดือน (ได้มา $1.18) แล้วก็เว็บเป็นเรื่องเล่าจากต่างแดน เขียนเอง ถ่ายรูปเอง ไม่ได้ติด ad ใด ๆ อย่างน้อยก็มีอะไรทำ ได้เงินไม่ได้เงินก็ไม่เป็นไร แต่ก็นะ ไม่อยากได้ชื่อว่าขี้แพ้เลย :'( หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: narisuwa ที่ 17 มกราคม 2009, 15:11:40 สู้ๆค่ะ
ตัวเราเองก็อยากออกจากงานเหมือนกัน แต่มาคิดดูหลายๆปัจจัยแล้ว ก็ยังออกไม่ได้อยู่ดี แล้วในกรณีของคุณ จขกท. เป็นยังไงบ้างคะ ถ้าเลิกงานนี้แล้วมีงานใหม่มารองรับหรือเปล่า รู้สึกว่าสามีก็ดีนี่คะ ดูแล้วไม่อยากให้ภรรยาต้องเหนื่อย ต้องกดดัน หรือว่าถ้าครอบครัวมีธุรกิจอื่นๆที่รายได้ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องทำงานประจำก็ไม่เดือดร้อน ก็ลาออกมาเถอะค่ะ กดดันมากๆเดี๋ยวสภาพจิตใจจะแย่เปล่าๆ หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: BosnoS ที่ 17 มกราคม 2009, 15:11:55 การถอยหลังออกมา ไม่เรียกว่า ขี้แพ้ หรอกครับ
อย่าไปมองแบบนั้นเลยเครียดเปล่าๆ บางทีการยอมถอย ก็อาจจะดีกว่า มุทะลุ นะครับ หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: Moha ที่ 17 มกราคม 2009, 15:19:16 ช่วงนี้ก็ต้องยอมรับจุดนึง คือ งานหายาก คนตกงานสูง
ถ้าทนได้ ทนต่อครับ แต่ถ้าทนไม่ได้ ตัดใจ ออกมา ไม่ได้ถือว่า แพ้ แต่ก็ ค่อยๆ คิด หาหนทางไป การทำงานอยู่กับบ้าน ทำในสิ่งที่เรารัก เราถนัด อาศัยความรัก ความชอบ ความอึด ค่อยๆ คิดๆ ค่อยๆ มีคนรอบข้าง คอยให้กำลัง ต้องประสบความสำเร็จครับ สู้ๆ ครับ หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: korn_nan ที่ 17 มกราคม 2009, 15:35:17 อย่ากังวลมากไปจนลืมที่จะปรับตัว
ขวนขวายในสิ่งที่ว่าตัวเองยังไม่รู้ ฟังแล้วคงเป็นทักษะ ขั้นตอน วิธีการ ในการทำงาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถ้าไม่เฉพาะด้านจริงๆ ทำใจให้สบายครับ ไม่ต้องไปสร้างอุปาทาน ปรุงแต่ง จับเรื่องโน้นเรื่องนี้ ถ้า... ถ้า... ถ้า... ล้วนมาจากความคิดของตัวเอง...ที่สร้างขึ้นมาเพื่อกดดันตัวเอง แล้วมันจำเป็นด้วยหรือ...ที่เราต้องสร้างมันขึ้นมาเพื่อกดดันตัวเอง ทำใจให้สบายแล้ว เริ่มเรียนรู้ เริ่มปรับตัว ไม่นานครับ เมื่อเราปรับตัวได้...นั่นคือ นั่นหมายถึง ทักษะ วิธีการ ขั้นตอน และสิ่งที่เกี่ยวกับงาน เราจะมีความมั่นใจ สนุก หายกดดัน ได้มาเพราะบารมีสามี ประโยคนี้ ตีความได้ว่า...เป็นงานที่ไม่ต้องอาศัยความสามารถพิเศษเลิศเลออะไร อีกทั้งพี่ก็มีความรู้ ความเข้าใจ และพื้นฐานอยู่แล้ว แล้วทำไมต้องกลัว ต้องกังวลกับมันด้วย ก็แค่ปรับตัวให้เร็วที่สุด แล้วสนุกกับมันครับ หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: japanese.godzilla.toys ที่ 17 มกราคม 2009, 15:38:08 งานหายากครับ
ตัดสินใจให้ดีๆก่อน ต้องมองไกลๆครับ หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: onokung ที่ 17 มกราคม 2009, 15:49:32 ผมก็อยากลาออกเหมือนกันครับ แต่ยังไม่ได้งานใหม่ กลัว กินแกลบ ;D
หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: barbies55 ที่ 17 มกราคม 2009, 15:49:59 ถ้ามีลู่ทางอื่นๆ ก็ออกเถอะค่ะ คนเราเกิดมาเด๋วก็ตาย จะอยู่อย่างเครียดๆไปทำไม
ยิ่งถ้ามีสามีที่พอจะมีบารมี แสดงว่าก็ยังมีรายได้จากทางสามีจุนเจือครอบครัวอยู่ ถ้าเราไม่ต้องเครียด ได้ทำงานที่ใจเราเป็นสุข มีเวลาเอาใจใส่สามี รับรองว่าชีวิตจะมีความสุขกว่าเดิมแน่ๆ หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: tomz ที่ 17 มกราคม 2009, 15:52:18 งานตรงนี้อยู่ในเป้าหมายของชีวิตไหมครับ ถ้าใช่ลองปรับดู
ถ้าไม่ใช่ ถอยออกมาไม่ถือว่าขี้แพ้หรอกครับ มันไม่ใช่เป้าหมายของเรานี่นา ความคิดผมนะ สู้ๆ ครับ ตอนนี้ผมก็ออกจากงาน มาทำงานเน็ตอย่างเดียว ตอนนี้ก็พออยู่ได้อะนะ เอาใจช่วยครับ :-* หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: memorry ที่ 17 มกราคม 2009, 15:59:45 สู้ ๆ นะคะ เราก็อยากออกเหมือนกัน แต่ก็ต้องทนต่อไป
ค่อย ๆ หาทางแก้ไขนะคะ ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็ออกค่ะ คับที่อยู่ง่าย คับใจอยู่ยาก :) หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: สมถะมหาทรัพย์ ที่ 17 มกราคม 2009, 16:17:06 อ้างถึง ถ้ามีลู่ทางอื่นๆ ก็ออกเถอะค่ะ คนเราเกิดมาเด๋วก็ตาย จะอยู่อย่างเครียดๆไปทำไม ยิ่งถ้ามีสามีที่พอจะมีบารมี แสดงว่าก็ยังมีรายได้จากทางสามีจุนเจือครอบครัวอยู่ ถ้าเราไม่ต้องเครียด ได้ทำงานที่ใจเราเป็นสุข มีเวลาเอาใจใส่สามี รับรองว่าชีวิตจะมีความสุขกว่าเดิมแน่ๆ อิอิ โดนจายยยยยยยยย ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: khun9.com ที่ 17 มกราคม 2009, 16:18:18 ขอบคุณทุก ๆ คำตอบมาก ๆ ค่ะ
อ่านแล้วก็คิดอะไรได้เยอะ (กลายเป็นคิดหนักกว่าเดิม ;D ) ที่บอกว่าได้งานมาเพราะบารมีสามี จริง ๆ แล้วคือสามีทำงานอยู่ที่นี่ด้วยค่ะ ไม่ได้มีปัญหากับเพื่อนร่วมงานใด ๆ นะคะ ลำพังเงินเดือนสามีก็อยู่ได้ค่ะ มีเก็บ ตอนย้ายมาตอนแรก ก็ตั้งใจจะมาเป็นแม่บ้านค่ะ แต่พอทางที่ทำงานแฟนเสนองานมาให้ เราก็เลยรับ อยากทำค่ะ อยากเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ทำมาสักพัก ทำได้ค่ะ งานไม่หนัก ไม่เหนื่อย ปัญหาของเราคือ เรารู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งพอ และยังมีจุดด้อย ซึ้งจุดด้อยที่เราว่า ก็คือตัวตนของเรา ความเป็นเราด้วยส่วนหนึ่ง มันเหมือนกับการที่เราพยายามจะพูดภาษาอังกฤษให้เหมือนเจ้าของภาษา แต่ยังไงมันก็คงไม่มีทางเหมือนได้ในสองสามเดือน หรือแม้กระทั่งปีหนึ่ง เผลอ ๆ นานกว่านั้น ก็ยังไม่ได้ เราเลยมองว่ามันไม่แฟร์ ในเมื่อเราทำได้ไม่ดีพอ หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: I~Beau ที่ 17 มกราคม 2009, 16:19:44 "ขี้แพ้" คือความคิดของเราทั้งนั้น ถ้าเราตัดคำนี้ออกไปได้ อะไรก็ง่ายขึ้นค่ะ
เมื่อก่อนป้าก็คิดแบบนี้ และดันทุรังสู้ไป สุดท้ายเราก็เองนั่นแหละที่เหนื่อย ทุกข์ และอื่นๆอีกเยอะแยะ :'( สุดท้ายก็เลยตัดสินใจลาออกเพื่อออกมาทำสิ่งที่ใจเราเป็นสุข และผลลัพท์ที่ออกมาคือ สุดยอด (รู้งี้ออกนานล่ะ ไม่เสียเวลาไปรบกับหัวหน้าหรอก ;D ;D) "คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยากส์" คำๆนี้ใช้ได้เสมอค่ะ :) :) :) สู้ๆ น่ะค่ะ จขกท หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: khun9.com ที่ 17 มกราคม 2009, 16:24:21 "ขี้แพ้" คือความคิดของเราทั้งนั้น ถ้าเราตัดคำนี้ออกไปได้ อะไรก็ง่ายขึ้นค่ะ เมื่อก่อนป้าก็คิดแบบนี้ และดันทุรังสู้ไป สุดท้ายเราก็เองนั่นแหละที่เหนื่อย ทุกข์ และอื่นๆอีกเยอะแยะ :'( สุดท้ายก็เลยตัดสินใจลาออกเพื่อออกมาทำสิ่งที่ใจเราเป็นสุข และผลลัพท์ที่ออกมาคือ สุดยอด (รู้งี้ออกนานล่ะ ไม่เสียเวลาไปรบกับหัวหน้าหรอก ;D ;D) "คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยากส์" คำๆนี้ใช้ได้เสมอค่ะ :) :) :) สู้ๆ น่ะค่ะ จขกท ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ขอบคุณทุก ๆ คนที่ไม่ได้ quote ด้วยนะคะ หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: richly ที่ 17 มกราคม 2009, 16:30:57 ออกจากงานไม่ได้หมายความเราแพ้นี้ครับ คิดได้ไง
มันอยู่ที่ว่าเราออกเพราะอะไร งานไม่เหมาะกับเรา ไม่ใช้สิ่งที่เราชอบ เราออกเปลี่ยนไปทำอย่างอื่น ไม่ได้หมายความว่าเราแพ้นี้ครับ เราต้องหาสิ่งที่เหมาะกับตัวเราทำในสิ่งที่ชอบ อย่างทำเพื่อเงิน จริงอยุ่เงินสำคัญสำหรับทุกคน แต่ถ้าคุณหวังแต่จะทำงานหาเงิน คุณจะได้งานที่คุณไม่ชอบ ไม่สนุกแต่ทำเพราะเงิน วันหนึ่งเราก็จะทนไม่ได้ ต้องทำงานที่เราฃอบ เราสนุกกับมัน แม้จะได้เงินน้อยกว่า แต่เรามีความสุข แล้วถ้าเราเก่งในสาขาอาชีพนั้นๆที่เราชอบ วันหนึ่งเราจะสามารถทำรายได้ได้เยอะเอง อาชีพไม่ว่าอาชีพไหนก็แล้วแต่ถ้าเราเก่งในอาชีพนั้นจริงๆ วันหนึ่งรายได้จะมากเอง อาชีพอะไรก็รวยได้ครับ แม้แต่อาชีพเก็บขยะขาย ผมเคยเห็นคนเก็บขยะ รายได้ 5 หมื่น มาแล้วครับ มีประโยคหนึ่งเป้นของฝรั่ง แต่จำไม่ได้ว่าฝรั่งคนไหนเคยพูดไว้ว่า เมื่อใดที่พอถึงเย็นวันศุกร์แล้วคุณดีใจที่จะได้หยุดพัก เสาร์ อาทิตย์ แล้วพอเช้าวันจันทร์เหมือนนรกสำหรับคุณที่ต้องไปทำงาน ให้คุณเปลี่ยนงานนั้นซะแสดงว่างานนั้นำไม่เหมาะกับคุณ หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: Himalayan ที่ 17 มกราคม 2009, 16:30:57 ถ้ามีลู่ทางอื่นๆ ก็ออกเถอะค่ะ คนเราเกิดมาเด๋วก็ตาย จะอยู่อย่างเครียดๆไปทำไม อ่านมาก็คิดว่ามัยตูคิดไม่เหมือนกันหว่า จนมาเจอความเห็นคุณหยิน ใช่เลย คนเราเกิดมาเดี๋ยวนี้มีชีวิตไม่นานก็ตาย อยู่แล้วเครียด อยู่แล้วต้องทน อยู่แล้วไม่มีความสุขอยู่มัยอ่ะ เข้าใจว่าต้องทนมันเป็นยังไง ตอนแฟน ผมก็บ่นอย่างนี้ ผมบอกให้ออก แฟนก็ออก ดูมีความสุขดีถึงจะเงินหายไปบ้าง แต่ชีวิตก็มีความสุขขึ้น แต่ตอนนี้ก็กลับไปทำงานใหม่เพราะบ่นเบื่อ ก็ไปครับไม่ว่ากัน..ยิ่งถ้ามีสามีที่พอจะมีบารมี แสดงว่าก็ยังมีรายได้จากทางสามีจุนเจือครอบครัวอยู่ ถ้าเราไม่ต้องเครียด ได้ทำงานที่ใจเราเป็นสุข มีเวลาเอาใจใส่สามี รับรองว่าชีวิตจะมีความสุขกว่าเดิมแน่ๆ ตัดสินใจเถอะครับไม่ว่าจะตัดสินยังไงไม่ผิดทั้งนั้น ถูกหมด เพราะตัดสินด้วยตัวเอง อย่างคุณหยินว่้าออกมามีลู่ทาง สามีพอเลี้ยงไหว ก็ออกครับ ยิ่งสามีเป็นให้ออกได้ก็ไม่น่ามีปัญหา่ครับ แต่ดูจากความเห็นหลังเกี่ยวกับภาษาผมว่าน่าจะสู้ต่ออีกอย่างน้อย 3-5 เดือนให้ได้ภาษามาด้วยจะดีมากเลย แต่ก็แล้วแต่ตัดสินใจครับ สู้ๆ ครับ หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: ผีหัวโล้นผมยาว ที่ 17 มกราคม 2009, 16:42:29 ค่อยๆ ใจเย็นๆ ก่อนนะครับ อารมณ์อยากจะออกจากงานผมก็เป็นเหมือนกัน
ถ้าดูแล้วเราออกมาแล้วไม่ลำบาก ก็ดีครับ แต่จะเหงาหรือเปล่า คุณต้องลองถามตัวเองดูครับ :) หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: kittiwong ที่ 17 มกราคม 2009, 16:58:55 ผมอ่านข้อความคุณidangแล้วจริงๆคุณเป็นคนจริงจังและสมบูรณ์แบบ แถมมีความยุติธรรมสูง
เพราะประโยคนี้"เราก็ไม่ได้อยากได้ชื่อว่า แพ้หรือล้มเหลวหรอกนะ แต่รู้สึกว่าทักษะในการทำงานเรามันยังไม่ถึงขึ้น".....ถ้าคิดแบบคนรักสบายแบบผมล่ะก็ คงเกาะงานไปเรื่อยๆ บารมีเราก็มี ทำก็พอไปได้แล้วจะออกไปทำไม.... ผมแนะนำกลับมาทบทวนเรื่องตั้งแต่แรกเริ่ม...ในเมื่อตอนแรกที่สามีเข้ามาเสนองานรู้อยู่แล้วว่า...งานนั้นไม่ใช่สายที่คุณถนัด แต่คุณidangรับงานนี้ด้วยเหตุผลอะไร...ถ้าเป็นเหตุผลว่าจะได้ไม่เหงา แต่คุณก็คงคิดเสร็จสรรพแล้วว่า คุณน่าจะปรับตัวได้ถึงรับปากสามีใช่ไหม สามีก็น่าจะไกด์ให้แล้วว่างานนี้ต้องทำอะไร ปรับตัวไปแนวไหน ซึ่งคุณจะน่าจะพอรู้แนวทางอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าถ้าคุณไม่มั่นใจคงไม่กล้ารับปาก....ถ้าคุณรับปากสามีไปแล้ว แสดงว่าคุณก็มั่นใจตัวเองในระดับหนึ่ง...ถ้าคุณไม่มั่นใจในตัวเองแล้วใครจะมั่นใจในตัวคุณล่ะครับ ดังนั้นประเด็นเรื่องการรับงาน ผมเชื่อว่าคุณประเมินแล้วว่า คุณมีความสามารถ ดังนั้นจงเชื่อเถอะว่า"คุณมีความสามารถตามที่คุณเชื่อมั่น"...อย่าเขว้กับแค่ปัญหาเล็กน้อย ถ้าคุณเขว้แสดงว่า คุณไม่มั่นใจในความสามารถของตัวเอง ...ประเด็นที่สองเรื่องลักษณะของงาน คุณidangบอกว่า"ทักษะในการทำงานเรามันยังไม่ถึงขึ้น" แสดงว่าคุณยังพัฒนาได้ เพียงคุณกดดันตัวเองด้วยเงื่อนไขเวลา คุณน่าจะลองให้เวลากับตัวเองอีกหน่อย หรือเข้าไปคุยกับฝ่ายHRถึงปัญหานี้แล้วหาCoachingที่จะช่วยคุณปรับตัวให้ได้ ผมว่าถ้าผมเป็นเจ้านาย เจอลูกน้องแบบนี้น่ะ ปลื้มใจครับ ลูกน้องเข้ามาขอให้ช่วยแบบนี้แสดงว่า เขาไม่พยายามทำตัวเป็นกาฝากองค์กร คนอย่างนี้น่าสนับสนุน. ...สุดท้าย ผมขออนุญาตถามหน่อยเถอะครับว่า...กดดัน เครียดเรื่องอะไรครับ ในเมื่อบอกว่าทำก็ทำได้ ...สำหรับผม ผมถือว่า การแพ้หรือล้มเหลวนั้น ในเรื่องนี้ คือการเดินหนีไปโดยไม่ได้เข้าใจจริงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วไม่ลองทุ่มเทแบบสุดๆ ถึงเป็นการยอมแพ้ แพ้โดยไม่คิดสู้ แพ้โดยไม่ได้อะไรติดตัว ...ใช้วิกฤตเป็นโอกาส..ได้เรียนรู้ตัวเองเถอะครับ และจะได้รู้ว่ายามลำบากแบบนี้ มิตรแท้สำหรับเรามีกี่คนครับ โดยเฉพาะสามีอ่ะครับ หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: siamman ที่ 17 มกราคม 2009, 17:01:48 ผมไห้แฟนออกจากงานก็เรื่องเครียดนี่แหละครับ แฟนเครียด เราก็เครียดมากกว่า
อายุคนเรามันสั้นมาก หาที่เราชอบและทำมันไห้ดีที่สุดแค่นั้นก็พอแล้ว หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: kittiwong ที่ 17 มกราคม 2009, 17:08:21 เท่าที่อ่านมาก็ไม่เห็นว่า...ไม่ชอบงานที่ทำอยู่เลย
ก็คงเครียดเพราะทำได้ไม่ดีอย่างที่ตัวเองหวังไว้หรือเปล่า ;) ;) ;) หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: BB ที่ 17 มกราคม 2009, 17:09:41 เคยอ่านเรื่องลิงกับกะปิ มั๊ยครับ ลองอ่านดู
อ้างถึง การยึดติด VS การปล่อยวาง ลิง ซึ่งถือว่าเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์เราเพราะรูปร่าง การเคลื่อนที่ และที่สำคัญคือความฉลาดใกล้เคียงมนุษย์เรา นักมนุษย์วิทยาและนักวิทยาศาสตร์ก็มักใช้ลิงเป็นตัวแทนมนุษย์เพื่อศึกษา พฤติกรรม ต่างๆ ในทำนองเดียวกันเราสามารถเรียนรู้เรื่องของจิตใจของเราได้มากมายจากพฤติกรรม ของลิง หรือพูดได้ว่า “จิตของคนเรานั้นเหมือนกับลิง” ยก ตัวอย่างเช่นลิงนั้นเกลียดกะปิ ถ้ากะปิถูกมือมันเมื่อไหร่ มันจะถูนิ้วกับพื้นจนเลือดไหลเต็มมือจนกว่ากลิ่นกะปิจะหายในที่สุดจนกลาย เป็นว่า "กะปิ" ถึงจะร้ายก็ไม่ร้ายเท่า”ความเกลียดกะปิ” ที่มือลิงเป็นแผลเหวอะหวะ ไม่ใช่เพราะกะปิหากเป็นเพราะความจงเกลียดจงชังกะปิต่างหาก สิ่ง ที่เราเกลียดนั้นบ่อยครั้งไม่น่ากลัวเท่ากับความพยาบาท และ ความเกลียดชังในจิตใจเราความเกลียดชังหรือพูดให้ถูกก็คือ ความรู้สึกอยากผลักไสซึ่งรวมทั้งความโกรธและความกลัว ทั้ง 2 อย่างนี้เป็นเสมือนเจ้าตัวร้ายที่เราต้องระวังให้มากๆ แต่นั่นเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของความจริงเท่านั้น เพราะอีกครึ่งหนึ่งก็คือความยึดติดเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องระวังไม่แพ้ กัน เราลองกลับมาที่ลิงจอมซนอีกที ....ในอินเดียลิงเป็นไม้เบื่อไม้เมากับชาวบ้านเพราะชอบขโมยผลไม้ในสวน ชาวบ้านจึงคิดวิธีจับลิงโดยใช้กล่องไม้ซึ่งมีฝาด้านหนึ่งเจาะรูเล็กๆ พอให้ลิงสอดมือเข้าไปได้ ในกล่องมีถั่วซึ่งเป็นของโปรดของลิงวางไว้เป็นเหยื่อล่อวันดีคืนดีลิงมาที่ สวนเห็นถั่วอยู่ในกล่องก็เอามือล้วงเข้าไปหยิบถั่ว แต่พอถอนมือออกมาก็ติดฝากล่องเพราะกำมือของลิงนั้นใหญ่กว่าฝากล่องที่เจาะ ไว้ ลิงพยายามดึงมือเท่าไหร่ก็ไม่ออก พอชาวบ้านมาจับก็ปีนหนีขึ้นต้นไม้ไม่ได้เพราะมีมือเปล่าอยู่ข้างเดียวสุด ท้ายก็ถูกคนจับได้ ลิงหาได้เฉลียวใจไม่ว่าเพียงแค่มันคลายมือออกเท่านั้นมันก็เอาตัวรอดได้ แต่เพราะยึดถั่วไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยจึงต้องเอาชีวิตเข้าแลก มี หลายอย่างที่เราอยากได้ใฝ่ฝันจึงถึงกับยึดไว้อย่างเหนียวแน่นเวลาประสบปัญหา เพียงแค่คลายสิ่งที่ติดยึดนั้นเสียบ้างปัญหาก็คลี่คลายแต่เป็นเพราะเราไม่ ยอมปล่อยจึงเกิดผลเสียตามมามากมายไม่คุ้มกับสิ่งที่ติดยึดจะชอบหรือพึงใจกับ อะไรก็ตามอย่าถึงกับยึดติดจนเหนียวแน่นเกินไปเพราะโอกาสที่หน้ามืดตามัวนั้น มีสูงจนหาทางออกไม่เจอ ปัญหาทั้งหลายในชีวิตนั้นถ้าเรารู้จักปล่อยวางบางสิ่งเสียบ้างมันก็จะบรรเทา ไปได้เยอะ บ่อยครั้งการปล่อยวาง ไม่เพียงแต่เป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาเท่านั้นหากเป็นทางออกจากปัญหาเลย ที่เดียว ความจริง การอยากผลักไสอะไรสักอย่างก็เป็นการติดยึดอีกแบบหนึ่งนั่นเองทั้งๆ ที่ลิงพยายามถูกำจัดกลิ่นกะปิไปจากมือก็อดไม่ได้ที่จะดึงมือมาดมหากลิ่นกะปิ ซ้ำแล้วซ้ำเล่ารู้ทั้งรู้ว่ากลิ่นกะปินั้นเหม็นแต่ก็ดมมือไม่ยอมเลิกง่ายๆ ใน ทำนองเดียวกันไม่ว่าเราจะโกรธอะไรหรือเกลียดใครก็มักดึงสิ่งนั้นหรือคนนั้น เข้ามาในจิตใจให้ครุ่นคิดเสมอ ไม่ยอมปล่อยไม่ยอมวางเสียทีทั้งๆ ที่ยิ่งคิดก็ยิ่งทุกข์ ปล่อยวางเสียเถิดแล้วใจเราจะเบาขึ้นเป็นกองความทุกข์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น เพราะพลัดพรากจากสิ่งที่รักหรือประสบกับสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาที่มันบีบคั้น กดทับจิตใจเราไม่หยุดหย่อนเสียทีก็เป็นเพราะเราไปยึดไปแบกมันเข้าไว้ ทั้งวันทั้งคืน ในหลายกรณีความทุกข์ ก็ไม่ได้มาจากไหนหากมาจากการยึดติดไม่ยอมปล่อยดังเช่นเจ้าลิงหวงถั่ว นั่นเอง หากคนในสังคมเราไม่ว่าจะเป็นสังคมที่เล็กที่สุดคือครอบครัว ถ้าสมาชิกในครอบครัวรู้จักการปล่อยวาง ครอบครัวก็จะเป็นสุข ในสถาบันต่างๆ เช่นสถาบันการศึกษา หากนักเรียนไม่มีความพยาบาท และยึดติดในศักดิ์ศรีก็คงไม่ต้องมีการตีกัน และในระดับประเทศชาติหากผู้ที่มีอำนาจ มีกฏหมายอยู่ในมือ ไม่ยึดติดในความอยากได้ใคร่มี ก็คงไม่มีการโกงกิน ราษฎรก็จะเป็นสุข เราจะได้อยู่ถึงจนได้เห็นการปล่อยวาง เกิดขึ้นในสังคมบ้านเราหรือเปล่าครับ หากเราไม่ช่วยกันผมเชื่อว่าคงไม่มีโอกาสได้เห็นแน่ครับ บท ความข้างต้นนี้ผมไม่ทราบว่าใครเป็นผู้เขียนจึ่งไม่ได้มีการขออนุญาติจากเจ้า ของโดยตรงผมจึงขออภัยไว้ ณ ที่นี้ ด้วยผมมีเจตนาเพียงต้องการแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ความรู้สึกดีๆ ข้อคิดดีๆให้กับเพื่อน ๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้กันและกันเท่านั้นครับ และผมขอขอบคุณท่านผู้เขียนบทความนี้ไว้ณ ที่นี้ด้วยครับ ที่มา: [url]http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=zeri&date=13-01-2008&group=5&gblog=45[/url] หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: จับกัง ที่ 17 มกราคม 2009, 17:19:05 ขอเป็นกำลีงให้ จขกท สู้ๆ นะครับ
อย่าท้อ เราต้องสู้ๆๆ นะคร้าบ :-* หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: bugmai ที่ 17 มกราคม 2009, 17:26:04 จากที่เล่ามาไม่มีปัญหาที่น่ากดดันเลยนี่ครับ คิดไปเองทั้งนั้นเลย :P :P :P
อยู่ที่อยากทำหรือไม่อยากทำเท่านั้นครับ ถ้าอยากทำก็มองให้มีความสุข มันก็อยู่ได้ เรื่องความสามมารถ มันพัฒนาตามกันได้ครับ ถ้าสู้จริงๆ เรื่องภาษาจะให้เหมือนเจ้าของภาษาเลย อันนั้นก็ดีครับที่หวังไว้ แต่ทุกวันนี้คงเก่งกว่าหลายคน รวมทั้งผมแล้ว :) :) :) :) สู้ๆครับ หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: ก้ามปู ที่ 17 มกราคม 2009, 17:29:24 "ขี้แพ้" คือความคิดของเราทั้งนั้น ถ้าเราตัดคำนี้ออกไปได้ อะไรก็ง่ายขึ้นค่ะ เมื่อก่อนป้าก็คิดแบบนี้ และดันทุรังสู้ไป สุดท้ายเราก็เองนั่นแหละที่เหนื่อย ทุกข์ และอื่นๆอีกเยอะแยะ :'( สุดท้ายก็เลยตัดสินใจลาออกเพื่อออกมาทำสิ่งที่ใจเราเป็นสุข และผลลัพท์ที่ออกมาคือ สุดยอด (รู้งี้ออกนานล่ะ ไม่เสียเวลาไปรบกับหัวหน้าหรอก ;D ;D) "คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยากส์" คำๆนี้ใช้ได้เสมอค่ะ :) :) :) สู้ๆ น่ะค่ะ จขกท ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ขอบคุณทุก ๆ คนที่ไม่ได้ quote ด้วยนะคะ ออกเถอะครับ อย่าไปเดือดร้อนในสิ่งที่ไม่จำเป็นเลย เดี๋ยวถ้าพี่แดงออก ผมจะยุ bugmai ให้อกมาอยูชมรมคนตกงานด้วยกัน ;D หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: khun9.com ที่ 17 มกราคม 2009, 18:58:08 :) :)
คงใช้เวลาตัดสินใจอีกสักอาทิตย์ หรือสิ้นเดือนนี้ค่ะ ถ้าลาออกจากงานเมื่อไหร่ จะมาติดหนึบบอร์ดนี้ทันทีเลยค่ะ รู้สึกว่า สาว ๆ หนุ่ม ๆ บอร์ดนี้น่ารัก เป็นมิตรดีจังเลยค่ะ ขอบคุณทุกคนมาก ๆ เลยค่ะ หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: Nongkhai_tong ที่ 17 มกราคม 2009, 19:56:17 ถ้ามีทางที่ดีกว่า เลือกได้ หรือทำอันอื่นแล้วสบายใจกว่าแล้วผมคิดว่าน่าจะไปได้นะคับ
หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: MrWebmonster ที่ 17 มกราคม 2009, 22:48:14 สู้ๆครับ มีงาน ดีกว่าไม่มีครับ ผมคิดว่าให้ Adsense เป็นตัวช่วยเสริมดีกว่านะครับ อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นตัวช่วยหลัก
หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: ITAXIz ที่ 17 มกราคม 2009, 23:01:06 อยากมีงานประจำ
:D หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: khun9.com ที่ 17 มกราคม 2009, 23:01:50 แวะมาขอบคุณทุก ๆ กำลังใจค่ะ
หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: bestpositionno.1 ที่ 17 มกราคม 2009, 23:12:35 คนในอยากออก คนนอกอยากเข้าคับ เห็นด้วยคับมีงานดีกว่าไม่มี
ออกงานมาถ้าไม่ได้ทำอะไรก็เกิดค่าใช้จ่ายขึ้นเรื่อยๆ ด้วย ส่วนนี้ต้องคิดนิดสะนึง ถ้าจะลาออกต้องมีงานรองรับ เเสดงว่าเจอที่ทำงานที่มีภาวะการเเข่งขันสูงในที่ทำงานเเน่ ๆ เลยเครียดเพราะเราคิดไปเองว่าเราด้อยกว่าคนอื่น ตรงนี้ไม่ต้องไปคิดนะคับ ::) หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: cute ที่ 17 มกราคม 2009, 23:25:48 ช่วงนี้งานหายาก คนตกงานเยอะนะครับ
หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: thongseed ที่ 18 มกราคม 2009, 01:02:18 ยังทำงานอยู่ก็ดีแล้วครับ
ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดีอยู่ :P หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: perng ที่ 18 มกราคม 2009, 01:17:36 ใจเย็น ๆ ครับ สู้ต่อไป
หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: abac401 ที่ 18 มกราคม 2009, 02:18:09 ถ้าออกแล้ว ไม่ลำบาก ออกดีกว่าครับ
อยู่แล้วเสียสุขภาพจิต ยิ่งต้องไปทำงานที่ตัวเองไม่ถนัด และไม่ชอบ ก็ไม่รู้จะฝืนทำไม หรือไม่ก็ทนๆ ไปก่อน ตั้งเป้าไว้ อีก 3 เดือนออก ช่วงนี้ก็หาลู่ทางไปทำส่วนตัวได้เลย แต่ถ้าออกแล้วลำบาก พอสมควรก็ตั้งเป้าไว้ว่า ปีหน้าออก หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: k_sakda ที่ 18 มกราคม 2009, 09:40:44 ตัดสินใจดีๆ หากออกจากงานควรมีอะไรทำทดแทนก่อน จึงค่อยลาออก อย่าออกโดยหวังพึ่งน้ำบ่อหน้าครับ
หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: metoo55 ที่ 18 มกราคม 2009, 09:58:52 ผมเคยเจอสภาพแบบนี้ครับ กดดันมาก...เครียดทุกวัน ทุกวันไม่อยากไปทำงาน
แต่สิ่งที่ได้จากบริษัทนี้คือ ประสบการณ์ จากคนเก่ง และมันจะทำให้เราเก่งขึ้น.....ข้อแนะนำของผมคือ ยื้ออยู่ให้นานที่สุดเท่าที่คุณจะทนได้ เมื่อคุณลาออก แล้วไปอยู่ที่ใหม่....ผมรับรองได้เลยว่าคุณจะเป็นคนที่ไม่ธรรมดา สำหรับที่ใหม่แน่นอน อดทนหน่อยนะครับ เืพื่อประสบการณ์ ****************************** สำหรับแนวคิดที่บอกว่า ทำแล้วไม่มีความสุขอย่าทำ หรือจงใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เพราะชีวิตเรามันสั้นนัก บางครั้ง...ผมก็ไม่เห็นด้วยครับ หากการกระทำนั้นได้ประโยชน์กลับมา เช่นประสบการณ์ ซึ่งแน่นอนว่าคุณคงไม่ตกนรกตลอดชีวิตแน่ๆ อย่างมากก็ 2-3 ปี แล้วสิ่งที่คุณได้มา...จะมีคุณค่าอีกหลายสิบปีในอนาคต หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: alert ที่ 18 มกราคม 2009, 10:04:38 ผมเป็นคนนึงที่ทำงานอยู่ต่างประเทศเหมือนกันครับ และผมก็เป็นคนนึงที่ยังพูดภาษาอังกิดได้ไม่ดีเท่าไหร่ครับ จุดอ่อนอีกข้อก็คืออ่าน text ไม่ทันฝรั่ง(มันอ่านกันเร็วมาก):P
แต่การที่เราได้ทำงานกับฝรั่ง ภาษาเราก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ เอง เชื่อสิครับ ยิ่งถ้ากลับไปอยู่บ้าน ภาษายิ่งถอยหลัง คุณยิ่งรู้สึกว่าแพ้ ถึงแม้ว่าสามีคุณแดงเป็นฝรั่ง การที่เราได้ทำงานกับคนที่พูดแต่ภาษาอังกิดทั้งวัน มันย่อมดีกว่าการที่พูดกับสามีคุณเฉพาะตอนเช้าหรือเย็นแน่ๆ เดี๋ยวแก้ไขปัญหานี้ได้ก็สบายแล้วครับ หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: khun9.com ที่ 18 มกราคม 2009, 10:56:20 ผมเป็นคนนึงที่ทำงานอยู่ต่างประเทศเหมือนกันครับ และผมก็เป็นคนนึงที่ยังพูดภาษาอังกิดได้ไม่ดีเท่าไหร่ครับ จุดอ่อนอีกข้อก็คืออ่าน text ไม่ทันฝรั่ง(มันอ่านกันเร็วมาก):P แต่การที่เราได้ทำงานกับฝรั่ง ภาษาเราก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ เอง เชื่อสิครับ ยิ่งถ้ากลับไปอยู่บ้าน ภาษายิ่งถอยหลัง คุณยิ่งรู้สึกว่าแพ้ ถึงแม้ว่าสามีคุณแดงเป็นฝรั่ง การที่เราได้ทำงานกับคนที่พูดแต่ภาษาอังกิดทั้งวัน มันย่อมดีกว่าการที่พูดกับสามีคุณเฉพาะตอนเช้าหรือเย็นแน่ๆ เดี๋ยวแก้ไขปัญหานี้ได้ก็สบายแล้วครับ เราอยู่ประเทศที่สามค่ะ ไม่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก ผู้คนออกจะเหยียด ๆ คนไทยนิด ๆ (แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะคะ) หัวข้อ: Re: เห้ออ อยากลาออกจากงาน เริ่มหัวข้อโดย: kittiwong ที่ 18 มกราคม 2009, 11:22:10 ผมเคยเจอสภาพแบบนี้ครับ กดดันมาก...เครียดทุกวัน ทุกวันไม่อยากไปทำงาน แต่สิ่งที่ได้จากบริษัทนี้คือ ประสบการณ์ จากคนเก่ง และมันจะทำให้เราเก่งขึ้น.....ข้อแนะนำของผมคือ ยื้ออยู่ให้นานที่สุดเท่าที่คุณจะทนได้ เมื่อคุณลาออก แล้วไปอยู่ที่ใหม่....ผมรับรองได้เลยว่าคุณจะเป็นคนที่ไม่ธรรมดา สำหรับที่ใหม่แน่นอน อดทนหน่อยนะครับ เืพื่อประสบการณ์ ****************************** สำหรับแนวคิดที่บอกว่า ทำแล้วไม่มีความสุขอย่าทำ หรือจงใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เพราะชีวิตเรามันสั้นนัก บางครั้ง...ผมก็ไม่เห็นด้วยครับ หากการกระทำนั้นได้ประโยชน์กลับมา เช่นประสบการณ์ ซึ่งแน่นอนว่าคุณคงไม่ตกนรกตลอดชีวิตแน่ๆ อย่างมากก็ 2-3 ปี แล้วสิ่งที่คุณได้มา...จะมีคุณค่าอีกหลายสิบปีในอนาคต ชอบแนวคิดของคุณmetoo55....ถ้าเคยอ่านกำลังภายใน กว่าพระเอกจะได้วิชา ถูกเคี่ยวแล้วเคี่ยวอีก พระเอกเราตอนนั้นก็น้อยใจอาจารย์ หาว่าอาจารย์เอาแต่แกล้ง ทรมาณ นับวันมีแต่เกลียดอาจารย์ แต่ดีที่ยังอดทนฝืนฝึกต่อไป แล้วในที่สุด อาจารย์ถึงมาบอกว่า นี่เป็นแบบทดสอบ และเป็นการฝึกพื้นฐานให้แน่น เพราะวิชาที่จะถ่ายทอดให้ต่อไปนี้เป็นวิชาสุดยอด ถ้าไม่อดทนและมีพื้นฐานที่ดีจะเรียนไม่ได้...สุดท้ายพระเอกเรายอมอดทนฝึกหนักจนได้ยอดวิชามา เหมือนเพื่อนรักผมคนหนึ่งที่ผมเคยเล่าไว้นานแล้ว...คนโคตรอึด...เรียนมัธยมแบบกลางๆ เรียนจบเทคนิคการแพทย์แล้วไปเรียนต่อ ป.โทซึ่งขึ้นชื่อว่า จากเรียน 20 คนเหลือจบแค่ 4คน...เห็นชัดๆว่าโอกาสสำเร็จแค่ 20%....แต่เพื่อนผมคนนี้มันไม่ยอมแพ้ ยิ่งลำบาก ยิ่งขยัน เคยเห็นมันนั่งในห้องสมุดตั้งแต่ 8โมงเช้าถึง 2ทุ่ม...เห็นบ่อยมาก ถามมันว่าทำอะไรกันนักหนา...มันก็บอกว่า ถ้าไม่ทำแบบนี้ รับรองมีแต่แพ้ คือถูกคัดออก เบื่อไหมนั่งแบบนี้บ่อย ตอนแรกก็เบื่อ เพราะทำอะไรก็ยังไม่คล่องติดๆขัดๆ งานก็ยังไม่เห็นผล แต่เมื่อเวลาผ่านไปหกเดือน มันบอกว่าไม่เบื่อแล้ว เพราะเริ่มทำอะไรคล่องขึ้น งานที่ส่งอาจารย์ก็ถูกตีกลับมาแก้น้อยลง กลับสนุกกับงานค้นคว้า งานอ่านหนังสือมากขึ้น และมันบอกผมว่า ไม่สู้ก็แพ้แน่นอน ถ้าสู้ก็ยังมีโอกาสสำเร็จแม้จะน้อยก็ตาม...เป้าหมายชัดเจนตลอดคือ...เรียนจบ เป็น 1 ใน 4 คนที่รอด ..ผมเคยอ่านที่เอดิสันเคยบอกไว้ว่า ถ้าเมื่อไหร่เราเริ่มบ่นว่าเบื่องาน รู้สึกท้อกับงาน นั่นแสดงว่าเรายังทุ่มเทไม่เต็มที่ เพราะคนที่ทุ่มเทเต็มที่แล้ว เขาจะไม่มีเวลาหรือแรงมาบ่นว่าเบื่อหรือท้อ.... |