ThaiSEOBoard.com

เรื่อง FB มีบั๊ก ผมเชื่อว่าคนที่ทำเพจมาคงเจอมาทุกคน แถมร้องเรียนไปทางช่องทาง help หรือรายงานปัญหา ? ก็ไม่ค่อยได้รับการแก้ไขเลย มีแต่บอทตอบกลับมาว่า "ปัญหาได้รับแก้ไขแล้ว" ซ้ำซาก ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้มีการแก้ไขใดๆ จนเราเหนื่อยเลิกแจ้งไปเอง แต่ที่ผมเจอนี่น่าหนักสุด หรือไม่เคยมีมาก่อน ก็ขอลงไว้เป็นเคสตัวอย่างการทำงานของ FB ละกันครับ ไม่หวังว่าจะได้อะไรนอกจากตีแผ่ การทำธุรกิจที่ "ชุ่ยและมักง่าย" การบริการที่ "ห่วย" "มุ่งหวังแต่กำไร" สร้างภาพว่าเชื่อมสังคมให้ดูดี แต่ปล่อยปละละเลยไม่ดูแลคนใช้งานมากที่สุดแล้ว ในกลุ่มโซเชียลด้วยกัน

ที่จริงมีบั๊กหลายตัวที่เกิดกับเพจมาก แต่อันอื่นยังพอทนๆ ทำมองข้ามไปได้ แต่กรณีนี้คือทำเอา "ธุรกิจล่ม" ได้เลย คือ Reach จากโพสต์หายลดจนเหลือ 0 ย้ำนะครับ 0 จริงๆ หลายคนอาจจะคิดว่าก็ทำเพจไม่ดีเอง แต่ลองดูเรื่องก่อนละกัน

เพจนี้เป็นเพจข่าวของบริษัท ตั้งมาเพื่อรายงานข่าวท้องถิ่นจากที่ต่างๆ เริ่มงานจริงจังตอนเดือนมกราคม 2018 (ครีเอทเดือน 8 ปีก่อน) ก็จังหวะที่ FB ประกาศลด reach (การเข้าถึงการเห็นผู้ติดตาม) ซึ่งก็ปกติโดนกันถ้วนหน้า เราก็ทำมาปกติก็ถือว่าเพจสุขภาพปกติดี ถึงไม่ได้ดีมาก แต่ก็เรื่อยๆ คนตอนนี้ 12,xxx คน ยอดปกติก่อนมีปัญหาก็ตามนี้ (ขอเซ็นเซอร์บางส่วนเพราะมีชื่อแอดมินหลายคน) วันที่ 31 กค กับ 1 สค
(https://f.ptcdn.info/229/059/000/pdlktb1p25Yo5O0ahp-o.jpg)

หลังจากวันนั้นแล้วยอด reach ปกติก็ลดวูบเหลือแบบแทบไม่มีคนเห็น จนถึงขนาด 0 ทุกวันแล้ว คือมองๆ ดูอาจจะเพราะทำเพจไม่ดี ไม่มีส่วนร่วมเอง (engagment) แต่ที่ผิดปกติคือ ถ้ากดแชร์ข่าวมาจากที่อื่น ยอด reach จะปกติเลย ดูจากภาพด้านล่างได้ครับ ที่มีกราฟพุ่งขึ้นมาคือแชร์มา หรือถ้ามีการแชร์ไปก็จะปกติมียอดมาตามเดิมเหมือนกัน
(https://f.ptcdn.info/229/059/000/pdll2w39ZYDsgU6Qxi-o.jpg)
ตั้งแต่เกิดเรื่องนี้แรกๆ ก็ได้มีการแจ้งไปครับ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบมา คือจริงๆ เคยแจ้งบักอื่นๆ ก็เจอบอทตอบมาตลอด ภาพที่ลงให้ดูนี่คือแรกๆ ที่ยังงงๆ ไม่แน่ใจว่าเป็นอะไรกันแน่ครับ (จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีตอบมา)
(https://f.ptcdn.info/229/059/000/pdll6n2pllkia30sz0F-o.jpg)

จากนั้นก็เลยทดสอบซื้อบูสโพสต์ดูว่าใช่ BUG จริงๆ มั้ย (ก่อนนี้ก็เคยซื้อปกติมียอดครับ) ลองไป 4 ครั้ง ระยะเวลาต่างกัน รวมถึงงบด้วย (จริงๆ ตอนกำหนดเป้าหมายก็มีบั๊ก กดบันทึกไม่ได้เลย ไม่งั้นจะเอาให้แคบกว่าที่ลงไว้) ผลที่ได้ก็ตามนี้ครับ ไม่มีการเข้าถึงใดๆ เกิดขึ้นเลยทั้ง 4 โพสต์
(https://f.ptcdn.info/229/059/000/pdllb16feflm4dfHe3J-o.jpg)

ถึงตอนนี้ก็ว่าสุดทนแล้วก็ได้ บริษัทได้เมลติดต่อมาว่าเป็นคนของ FB ก็ติดต่อไป ช่องทางไหนแจ้งได้เพิ่มอีกก็แจ้งไปหมด อย่างช่องทางนี้เป็นการแก้ปัญหาลงโฆษณาโดยตรง https://www.facebook.com/business/form/chat แต่สิ่งที่ CC ตอบมาคือแบบนี้ครับ (จริงๆ ตอนแจ้งไปก็มีปัญหารอข้ามวันแล้วตัด ไม่มีการติดต่อมาเหมือนกัน ทั้งๆ ที่ให้เบอร์กับเมลไว้) นี่คือใช้เวลา 2 วันถึงมี CC มาตอบ
(https://f.ptcdn.info/229/059/000/pdllgy19lp3fOd99MH-o.jpg)
(https://f.ptcdn.info/229/059/000/pdllh830DCkw0DvH1r-o.jpg)

ส่วนอันนี้ที่สำนักงาน FB Thailand ที่เกษรพลาซ่า ทางหัวหน้าการตลาดของบริษัทไปติดต่อเอง ผลคือไม่ให้ขึ้นไป ได้แต่เจอฟร้อนท์ด้านล่างไล่ให้ไปแจ้งทาง https://www.facebook.com/help นี้ ซึ่งทุกคนก็คงเคยเข้าไปดู มีแต่ขยะปัญหาหมักหมม แถมมีการหลอกลูกโซ่ว่าให้ก็อปปี้ข้อความไปแปะ FB จะไถ่โทษให้ (อันนี้มีคนเชื่อน่าจะเป็นล้านๆ คน ถึงมีแต่คนตอบแบบนี้ในนั้น)
(https://f.ptcdn.info/229/059/000/pdlloi7a7H2nHEJrPJz-o.jpg)
(https://f.ptcdn.info/229/059/000/pdllxp9tje5D4YFqoa3-o.jpg)

การทำงานของ FB เรียกได้ว่าไร้ความรับผิดชอบต่อลูกค้ามาก จริงๆ มีเคสส่วนตัวกับคนรู้จักหนักๆ เลยก็คือคนอื่นเอาคลิปตัวเขารีวิวสินค้า ไปตัดต่อใหม่เป็นสินค้าหลอกลวง แล้วซื้อโฆษณากับ FB ก็ยังลงได้ แจ้งเรื่องร้องเรียนไปก็เงียบ ไม่มีการจัดการ ซึ่ง FB แจ้งว่าขอตรวจสอบเนื้อหาที่ซื้อโฆษณาก่อน ซึ่งถ้าทำจริงคงไม่เกิดแบบนี้ กรณีแบบนี้จะเห็นกันมากมายในตอนนี้ พวกขายของหลอกลวงแล้วยิงโฆษณาขึ้นไป ซึ่งระบบตรวจสอบดูแลห่วยไม่พอ ยังสร้างปัญหาสังคมอีกมากมาย ข่าวปลอมก็เกิดจาก FBIA ไม่ตรวจสอบ ทำให้พวกนี้หาเงินเข้ากระเป๋าไปได้สบายๆ อย่างที่เป็นข่าวจับหนุ่มเขมรทำข่าวปลอมหลอกคนไทยนั่นแหละครับ

สุดท้ายนี้ไม่ได้หวังว่าจะได้การแก้ไข ซึ่งถึงแก้ไขตอนหลัง เพจก็เหมือนนับ 1 ใหม่เพราะขาดการมีส่วนร่วมกับสมาชิกมานาน หรือทำๆ ไปก็เจอปัญหาบั๊กแบบอื่นๆ ได้อีกมากมาย (จริงๆ มีเก็บรายงานบั๊กไว้มากกว่านี้ แต่ลงแล้วคงยาวไป) ใครที่ฝากความหวังไว้กับเพจ FB นี่ดูกรณีนี้ไว้ครับ กรณีที่ผมเจอนี่ถ้าเป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ชคงจุกตั้งแต่เกิดเรื่องแล้วครับ FB ใหญ่มากจนไม่ต้องมาง้อใคร เพจเล็กๆ นี้ก็คงต้องขอเลิกทำครับ หันไปโฟกัสอย่างอื่นแทน ซึ่งจริงๆ ก็พยายามทำอยู่ แต่บริษัทจะคิดว่า FB สำคัญมากสุดเสมอ จนตอนนี้ก็คงเห็นแล้วว่าเป็นยังไงครับ

ิอันนี้อัพเดทเมื่อวาน 0 เกือบหมดเหมืิอนเดิม เอวัง...  :-X
(https://f.ptcdn.info/229/059/000/pdlmeo2v4DB1T6kRu7-o.jpg)
 

โห๊...อย่างนี้ก็ต้องหันไปใช้เพลตฟอร์มอย่างอื่นอย่างจริงจังแล้วแหละครับ แต่อย่างไรก็ขอขอบคุณด้วยครับ  :wanwan017:

คือผมเคยบอกบริษัทหลายทีแล้วว่าไปผลักดันทำ youtube ดีกว่าไหม ได้ตังด้วย แต่บริษัทก็มอง FB สำคัญสุดเสมอ  จนมาเจอเรื่องนี้แหละครับ ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนความคิดได้ยัง นี่ขนาดในรูปบริษัทจดทะเบียนยังไม่ได้รับการดูแลเลยครับ ถ้าคนค้าขายเล็กๆ ทั่วไปนี่คงหมดทาง

ใช้แพล็ตฟอร์มคนอื่นก็แบบนี้แหละครับ มีเว็บไซต์ตัวเองยั่งยืนสุด ส่วนทางอื่นก็เป็นช่องทางสำหรับโฆษณาเว็บเราเท่านั้นเอง

 :wanwan003: ใช่ครับ

ที่เห็นก็แชร์จากเว็บครับ ส่วนตัวผมเชื่อถือกับมาตรฐานเว็บและกูเกิลมากกว่าอยู่แล้ว SEO มันเช็คได้ ไม่เหมือน FB ที่อะไรๆ ก็คลุมเคลือ แต่จากเรื่องบั๊กนี่ทำให้ผมได้รู้อัลกอรึทึมบางอย่างของ FB เพิ่มครับ
ค่า reach ต่อประเภทโพสต์ถูกกำหนดไว้ต่างกัน อย่างกรณีผมแชร์มาจะขึ้นปกติ ลงวิดีโอก็มียอดครับ อันนี้ผมไม่ได้ลงไว้เพราะขี้เกียจมานั่งอธิบายทั้งหมด ค่าที่ FB ตั้งไว้มีปัญหากับการ "แชร์ลิ้งจากเว็บ" ไม่ใช่แชร์ลิ้งจาก FB ด้วยกันครับ มันคง BUG คอนฟิกค่าเป็น 0 ครับ
แล้วก็การเห็นไม่นับคนเข้ามาที่เพจหรือแอดมิน เพราะผมทดสอบแล้วไม่มียอดเกิดขึ้น สัดส่วนการเห็นของ reach ที่ผมแชร์มาอยู่ที่ 0.6 ครับ ที่รู้เพราะบางแชร์ที่ทดสอบไม่มีคลิ๊ก engage แล้วยอด reach มันเลยค้างอยู่เดิมแน่นอน ใกล้เคียงกันเสมอ แต่ถ้ามีคลิ๊กถูกใจอะไรมาแน่ยอด reach มันจะเพิ่มครับ  พอมันบั๊กก็เลยได้ทดลองอะไรๆ หลายอย่างไปด้วยครับ

ผมเห็นด้วยเลยในหลายๆ เรื่อง Facebook ทำงาน/ให้บริการแบบไม่มีความเป็นมืออาชีพมากๆ เห็นง่ายๆ คือ เรื่องการอัพเดตเปลี่ยนแปลงอะไร มักจะไม่มีการแจ้งใดๆ ไม่มี Beta คิดจะปรับก็ปรับคิดจะทำก็ทำ ผู้ใช้รับผลกระทบกันไปเต็มๆ เพื่อนผมคนหนึงรับทำ Marketing ทำสัญญากับลูกค้าไว้ จะบูทโพสต์ตามวันเวลา กลับทำอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ๆ ระบบก็เฮงๆ มันเครียดไมเกรนขึ้นเอาเลย

ผมมองว่าการทำงานกับ Facebook มันเหมือนจะดีกับกรณีโกยระยะเวลาสั้น แต่ไม่เหมาะหรือเรียกว่าไม่คุ้มค่าเลยในการลงทุนในระยะยาว นอกจากจะไม่ได้ไม่แบบระยะยาวแล้ว หลายๆ อย่างผมว่ามันไม่แฟร์กับผู้ใช้บริการ ยกตัวอย่างเมื่อก่อนคงจำกัดได้ ตอนแรกๆ ที่มีเพจ แล้วมีบูทเพจเพื่อทำยอด Like Page คือคนจ่ายเงินก็หวังผลระยะยาว คิดว่าการมีคนไลค์เพจเยอะ ก็จะส่งผลดีต่อการโพสต์ แต่ที่ไหนได้อยู่ๆ Facebook ก็มาลด Reach ทำให้โพสต์จากเพจแสดงผลน้อยลงทั้งผู้กับผู้ใช้ปกติ และคนที่ Like Page มันเหมือนโดนปล้น โดนโกงเลยนะ คือที่ลงทุนไปเท่ากับศูนย์เปล่า ได้ผลลัพธ์เไม่ต่างกับคนที่ไม่ลงทุน

การลด Reach ก็เพื่อจะให้คนส่วนใหญ่ หันไปใช้โฆษณาจ่ายเงินกับ Facebok เพิ่มขึ้น บางคนก็ยังฝืนกัดฟันบูทโพสต์ต่อ แต่ก็ถูกลด Reach ลงเรื่อยๆ แถมค่าโฆษณาก็แพงขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับผมตอนนี้นะ ไม่มีการลงทุนกับ Facebook แล้วครับ เอาไว้เล่น ส่องโน่นนี่ ทำเรื่องไรสาระก็พอ ถ้าจะลงทุนจ่ายเงิน ผมว่า Google Ads ยังคุ้มค่า คือมันแฟร์กับคนลงโฆษณา แล้วคือดูทำงานแบบมืออาชีพ ไม่น่าเงิน ดูง่ายๆ คือ Google รักษาผลประโยชน์ของทั้งคนลงโฆษณา และรวมถึงคนที่ค้นหาข้อมูล ผมว่าเค้าฉลาดนะคือการรักษาฐานการใช้งานในระยะยาว เพราะไม่ว่าคนใช้บริการประเภทไหน ก็ล้วนเป็นผู้ที่ช่วยสนับสนุนให้บริการของเค้าอยู่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ต่างจาก Facebook ที่ผมมองว่าเค้ามองแต่ตัวเอง หาผลประโยชน์โดยไม่มองผู้ใช้บริการเลย

การทำงานถ้าเทียบกัน Google ดูเป็นผู้ใหญ่ครับ มีเหตุมีผล ยอมรับได้ จะอัพเดตเปลี่ยนแปลงอะไร ก็เพื่อสิ่งที่ดีขึ้น อันไหนที่เป็นฟีเจอร์ฟังก์ชั่นใหม่ ก็มี Beta มาให้ลองก่อน รับฟังความคิดเห็นของผู้ใช้มากกว่า ส่วน Facebook มันเหมือนเด็กน้อย เอาแต่ใจอ่ะ คิดจะทำไรก็ทำ

ส่วนเรื่องเว็บผมมาเน้น SEO สายขาวๆ เอาครับ ต่อให้ Google ปรับโน่นนี่ ก็ไม่กระทบเท่าไหร่ โตช้าบ้าง แต่มั่นคงในระยะยาวครับ

ลืมกันไปแล้วมั้งครับว่า แรกเริ่มของ facebook เค้าสร้างเพื่ออะไร หันกลับไปมองตรงนีด้วยครับ  :wanwan044:

เรื่องการเปิด beta ผมก็พึ่งนึกได้ FB ไม่เคยบอกหรืออะไรเลย อยากใช้ก็ใช้ อยากลองอะไรก็ลอง คนใช้งานได้รับผลกระทบก็ไม่เยียวยา อย่างกรณีที่แยกเพจในประเทศนึงที่เป็นข่าวครับ
กลับกัน Google ทำอะไรมี beta มาให้ลอง แล้ว survey ดูผล เรายังเลือกย้อนกลับไปได้ จนกว่าเขาจะทำเสร็จ หรือไม่อัพเดทไปเลยก็ได้
FB ขาดความรับผิดชอบต่อสังคมมาก โดยใช้ข้ออ้างว่าคนใช้บริการเยอะมาบังหน้า คือถ้าเขาทำดูแลจริงๆ อาจจะไปได้ช้ากว่านี้ กำไรน้อยกว่านี้ ยกตัวอย่างการจ้างคนเพิ่มดูแลในแต่ละประเทศ
กรณีอย่างโฆษณาขายของหลอกลวงนั่น เจ้าตัวเขาเสียหายหนัก แต่เขาก็ไม่รู้จะทำไง ถ้าเป็นอเมริกาอาจจะฟ้องร้อง FB ไปแล้วก็ได้ครับ เพราะคือคุณรับเงินเขาแล้วไปลงด้วย ไม่ใช่คนโพสต์ลงเอง

อยางที่หลายคนรู้ละครับ ว่าคนใช้เฟสบุค 2,700 ล้านคน เคสเรามันเล็กมาก และคนที่ตอบ
ก็ไม่รู้เรื่องจริงหรอก เพราะทีมพัฒนาเขาซัพพอร์ตภาษาอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ เพราะจำนวนผู้ใช้
เข้าใจภาษาอังกฤษเยอะสุด นั่นคือ ถ้าเราตอบคำถามผ่านบอทแล้วมีปัญหาใหม่ในระบบเขา

เขาถึงจะส่งให้ทีมงานที่พัฒนาและดูแลระบบ มาดูอีกที คาดว่าถ้าดูปัญหารายวันคงไม่ทัน จึงใช้
บอทช่วย บางครั้งก็เหมือนเราซวยอยู่คนเดียว เพราะบางครั้งระบบพวกนี้ เขาอัปเดปเป็นรายชั่วโมง

ถ้ายังเกิดต่อเนื่องและไม่ดีขึ้นเลย น่าจะลองสมัครไอดีใหม่ดูครับ เพราะส่วนใหญ่ที่ผมเจอกับตัว
ก็ไม่มีปัญหาอะไรหนักหนาขนาดนี้ ที่ฟีดและรีดลงลด พอเข้าใจได้ เพราะดูอย่างพวกดาราหนัง
เมืองนอกก็เจอครับ แต่ก็ไม่หนักขนาดนี้ ถ้าอยากสื่อสารกับเขาจริงๆ ต้องผ่านซับพอร์ตเมืองนอกครับ

คนไทยหรือสำนักงานในสิงคโปร์ เป็นแค่นายหน้าหรือพนักงานที่ดูแล เกี่ยวข้องกับธุรกิจสำคัญๆ
ของเขามากว่าจะมาตอบคำถามทางเทคนิค คือ พนักงานสำนักงานอื่นจะไม่รู้ระบบจริงเลย

ถ้าเราจะติดต่อ ร้องเรียนจริงๆ ควรให้เขาบอกคนที่อยู่สำนักงานใหญ่ หรือช่องทางให้ครับ
ผมเคยมีปัญหากูเกิลคลาวด์ ถามกูเกิลในสาขาประเทศไทยเขาก็ตอบได้ไม่ดีพอครับ พอขอช่อง
ทางติดต่อซัพพอร์ตเมืองนอก เราได้รับการแก้ไขและคำแนะนำที่ดีมากเลย

บริษัทข้ามชาติ ปัญหาใหญ่คือ เขาเข้าตลาดหลักทรัพย์มีต้นทุนและค่าดูแลต่างๆ ที่ต้องควบคุม
อย่างดี ไม่ฟุ่มเฟือย อะไรที่ไม่จำเป็นและใช้ทุนมาก มักไม่ทำ เ่ช่นเดียวกับ ส่งคนที่รู้ระบบมา
ยังสาขาประเทศอื่น เป็นการเพิ่มต้นทุนมากกว่าจ้างซัพพอร์ตแบบพอแก้ไขเรื่องง่ายๆ ได้

อย่างเฟสบุคกับไลน์นี้เข้าตลาดหุ้น แนสแด็กซ์ ที่เมกาด้วยกัน แต่ไลน์ของญี่ปุ่น เป็นคนเอเชียใช้เยอะ
บริษัทก็เลยหาคนซัพพอร์ตง่ายกว่า และระบบไลน์ก็เป็นเพียงแอปแชทไม่ซับซ้อนเท่าเฟส และจำ
นวนผู้ใช้ก็ยังน้อยอยู่ การดูแลคนไทย เข้าใจคนไทยจึงดีกว่า เฟส อินสตาแกรม และวอทแอป

ทางเลือกของคนไทยที่ดีคือ หากปัญหาหนักและมีผลต่อเรามาก ถ้าจะติดต่อซัพพอร์ต
พยายามติดต่อทีมงานที่อยู่สำนักงานใหญ่ครับ โซเซียลมีเดีย เป็นช่องทางให้เราสื่อสาร แลกเปลี่ยน
ความคิดเห็น และสร้างสรรค์องค์ควมรู้ใหม่ร่วมกัน การที่จะให้สมบูรณ์แบบในทุกเรื่อง ทุกภาษายาก

ถ้าคิดจะหาแพล็ตฟอร์มที่เหมาะกับตัวเอง สร้างเว็บเองเอาไว้เชื่อมต่อกับแอปอื่นๆ เอาจะดีที่สุด
ถ้าหวังว่าเขาจะดูแลดี เลิกคิดครับ แพล็ตฟอร์มพวกนี้เขาจะเน้นภาษาอังกฤษเป็นหลัก ที่ดีขึ้นมาหน่อย
ก็ไลน์ กับกูเกิล ยูทูป แต่อย่าลืมนะ แพล็ตฟอร์มพวกนี้ก็ลบไอดีทิ้งแบบไม่รู้ตัวมาก่อน ก็มีเยอะนะ

การอยู่บนแพล็ตฟอร์มคนอื่น มีปัญหาจะแก้ไขยากครับ ถ้าไม่ใช่ลูกค้าขนาดใหญ่จริง และภาษาที่เขา
จะสื่อสารกับเรา คือ อังกฤษ อนาคตก็คงดีขึ้นละครับ เพราะบริษัทพวกนี้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์
การขยายตลาด การหากำไรเพิ่มขึ้น ลูกค้าให้สูงขึ้น เป็นแรงกดดันจากผู้ถือหุ้นอยู่แล้ว

อนาคต สำนักงานสาขาก็คงบริการได้ดีขึ้นตามตัวแปรการแข่งขันบนโลกแแห่งความเร็ว แต่คงเร็วสำหรับคนไทยแน่ๆ

เวลาผมแจ้งไป ผมแจ้ง 2 ภาษาครับ ทางช่องทาง ? นั่นแหละ แล้วเมลที่ว่าก็มีครับ ส่งไปหมดแล้ว ก็เงียบหมดเช่นกัน คือที่ไทยนี่จริงๆ ก็รู้ว่าเป็นที่ใหญ่ของ FB ในเอเชียหรือระดับโลกเลย กทม ติดอันดับ 1 แอคทีฟยูสเซอรืต่อประชากรที่ 1 ของโลก ข้อมูลพวกนี้ถ้าใครอยู่สายมาเก็ตติ้งคงทราบครับ ดังนั้นจะบอกว่าไทยเล็กๆ เลยไม่สนใจ คงไม่ใช่ครับ

นี่ตัวอย่างที่เมลไปครับ
   Please help ...there are a lot of bugs on FB ... and they affect to our business...  1..Reach Viewers became zero so we can not ....Why ??? we solve the ploblem by paying to buy more reach for many hundreds but the result "reach" still zero ...What does it mean?? IT means no one can see our post ??? or It is a BUG???   By the way it is used to happen before and we are used to inform you but no one contact and fixed  us ...By the way if we share the posts from others , the ratio of "reach" is normal...but our post are Zero  //// 2. "Notification Bug"  there will show the numbers if notifications all time althrough  we open to read //// 3ฺ ฺ"Bug after edit post"  when we edit post then save ...it will have the message tell ...link out of date...it happens only on browser on computer not  App on mobile...

So please fix the ploblems or tell us what happen and what should we do for these ....we love to do business with FB but these are make us corrupt in our business ...Thanks You

ฝากชีวิตไว้กับ FB มา 2 ปีนับตั้งแต่มาร์คขึ้นศาลปรับอะไรไม่รู้เยอะแยะ ตอนนี้ลาขาดกับ FB มาอยู่กับมืออาชีพอย่าง Google สบายใจขึ้นมากๆ 

แต่ก็ได้เทคนิคอะไรจาก FB มาเยอะเหมือนกันเอาไปใช้กับอย่างอื่นสบาย

ตัวผมก็ลาขาดครับ ผมแนะนำบริษัทไปอย่างนี้ว่า ถ้ายังต้องการให้มียอดในเพจนี้อยู่ ให้แชร์ข่าวจากสำนักข่าวอื่นมาแทน ไม่ต้องมาห่วงแบรนด์อะไรแล้ว เอาแค่รักษายอดแอคทีฟคนติดตามกับเพจเราให้กลับมาก็พอ (แม้จะไม่มีจากโพสต์เราเอง) ในเพจนี้มีกลุ่มครับ กลุ่มยังโอเค แต่ว่ามันก็เหมือนขาเป๋ หน้าเพจ 0 ทำไรก็ทำลำบาก

ส่วนตัวผมเองทำเว็บเองใหม่ แล้วก็ตอนแรกวางเรื่องการแชร์ลง fb ไว้เยอะ พอเจอกับตัวแบบนี้ผมเลยคิดใหม่ทำใหม่ หาทางทำทุกอย่างให้ฐานคนอยู่ที่เว็บมากที่สุดครับ สบายใจกว่าจริงๆ

น่าเห็นใจครับ บางทีบัคเยอะและการแก้ปห.คือไม่ได้ช่วยอะไรเราต้องหาวิธีเอง แต่คาดว่าสักพักน่าจะกลับเป็นปกตินะครับ

อินเดีย มีคนออนไลน์ 250 ล้านคนต่อวันเป็นอย่างต่ำ บราซิลมีคนออน 96 ล้านคนเป็นอย่างต่ำ
เฟสบุค ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญนะครับ
เรามาพูดถึง รายได้หลักของเขา ตลาดในเมกาแคนาดา ยุโรป มีมูลค่าสูงกว่า 65% ครับของราย
ได้ทั้งหมด ยุโรป เฟสบุคก็ไม่ได้มีสาขาใหญ่ลงมาดูแลเชนเดียวกัน ตลาดยุโรปรวมกันไม่เล็กครับ
จำนวนออนไลน์ 170-180 ล้านต่อวัน ใหญ่กว่าไทยมากไทยแค่ 42 ล้านคน

ผมไม่แน่ใจว่ารายได้จากไทยเข้าเฟสบุค และกูเกิลเท่าไร เพราะผมดูในข้อมูลของบลูมเบิร์ก
ตัวเลขไม่มี แม้แต่ในอาเซียน รายได้ของเฟสบุคก็ไม่มีและไตรมาสสามนี้ เฟสบุครายได้ลด
ลงบริษัทไอทีเดียวในสหรัฐที่รายได้ลดลง แตกต่างจากบริษัทอื่นมาก แต่จำนวนผู้ใช้ของเขา
กลับโตขึ้นโดยเฉพาะอินสตราแกรม วอทแอป เปอเซนต์โต 20 กว่าตลอดทุกเดือน

ผมอยากบอกว่า ที่เขาไม่สนใจเราไม่ใช่เราไม่สำคัญ แต่เขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับใครอยู่แล้ว
ขนาดรายได้ช่วงหาเสียงสำคัญๆ ในสหรัฐ ต่อวันมีรายได้เป็นพันล้าน เขาก็ยังมีปัญหาอยู่เลย
และเรื่องจะฟ้องร้องในสหรัฐทำไม่ได้ครับ ถ้าทำได้ป่านนี้ไมโครซอฟต์โดนก่อนเพื่อน และเจ๊ง
ไปนานละ บัคของไมโครซอฟต์มีกี่ตัว และที่เปิดช่องให้แฮกเกอร์เข้ามาได้ มีกี่ครั้ง ทำไม
คนถึงฟ้องร้องไม่ได้ ก็เพราะเราไปกดยอมรับเงื่อนไขต่างๆ ไว้แล้ว ฟ้องไปคงมีข่าวฟ้องไมโคร
ซอฟต์จากคนธรรมดาเยอะแล้วละ เพราะมีช่องโหว่มาตลอด

ที่ฟ้องกันส่วนใหญ่คือ ผูกขาดทางการค้า เท่านั้นละ จะเอาไปเปรียบเทียบกับคุณภาพด้าน
อาหาร ด้านโทรคมนาคม หรือด้านอื่นๆ ไม่ได้ครับ การที่เขาไม่ให้ความสนใจเรา ต้องดูอีกอย่าง
ว่า เราไม่เป็นที่ต้องการของเขาด้วยหรือเปล่า สมัย 5-6 ปีก่อน ผมทำแอฟอเมซอน และถูกแบน
เพราะไปใช้คำโฆษณาเกินจริง หลังจากนั้น ไม่ว่าจะยังไง ถ้าเขาจับได้นิดเดียวเกี่ยวกับเรา เขา
แบนทันที แบบไม่มีเหตุผล เช่นเดียวกัน หากคุณร้องเรียนไปแล้ว เขาไม่แก้ไข เขาอาจจะแบน
คุณไปแล้วก็ได้ครับ อาจจะเป็นระบบแบนเอง หรือเขาปล่อยให้อยู่ในลิสต์การแบนไปเลย

ทางที่ดีก็ย้ายหนีไปอยู่แพลตฟอร์มอื่นดีกว่าครับ อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีปัญหาอะไร
ตามมาอีกหรือไม่ การมาบอกว่าคนไทยเล่นเยอะ รายได้เมืองไทยเยอะ ผมว่าอย่าเอาไป
เทียบกับสหรัฐและยุโรปครับ เพราะถ้าสองตลาดนี้พัง เฟสบุคอยู่ไม่ได้ แต่ถ้าตลาดไทยพัง
เขาอยู่ได้แน่ๆ สำหรับคนไทยส่วนใหญ่ที่ใช้อยู่ผมว่าเขาไม่ได้คาดหวังอะไรกับเฟสบุคมาก
คนส่วนใหญ่เลยไม่ซีเรียส อย่าคิดว่าบริษัทพวกนี้เขาไม่แบนเรานะครับ เขาแบนเราได้เสมอ

ผมว่าคุยกันคนละเรื่องแล้วครับ ฟ้องร้องนั่นคือการปล่อยให้ยอมลงโฆษณาหลอกลวงคนอื่น ในยุโรปก็มีฟ้องร้องครับ ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องบั๊กแล้วไปฟ้อง FB เลยนะครับ ผมรายงานการทำงานแย่ๆ ที่มุ่งแต่เอาผลกำไร ไม่มีหน่วยบริการดูแล หรือจัดการปัญหาต่างๆ อย่างจริงจัง เพื่อให้คนอื่นได้เข้าใจ ไม่ได้โวยวายแล้วบอกว่า FB จะมาแก้ให้ เพราะถ้าแก้ให้มันคงแก้ให้ตั้งแต่บั๊กอย่างแมสเซจค้างที่เป็นกันแทบทุกเพจแล้วครับ

อินเดียกับบราซิลมีคนเยอะ แต่ไม่ได้แอคทีฟเยอะคิดเป็น % เท่ายอดประชากรเราครับ  ไทยใหญ่ครับไม่ใช่ไม่ใหญ่  (แต่รายได้อาจจะไม่ใหญ่ตาม) ถ้าตามเรื่องมาเก็ตติ้งมาก็คงเห็นข่าวพวกนี้บ่อยๆ ว่า FB ทำการทดสอบอย่างอีคอมเมิร์ชก็เริ่มจากไทย ยูนิลีเวอร์ก็ใช้ไทยเป็นแพลตฟอร์มทดสอบการขายสินค้าอีคอมเมิร์ชก่อนที่อื่น เหตุผลเพราะไทยมีคนใช้งานอีคอมเมิร์ชผ่านโซเชียลสูง และมีลักษณะที่แตกต่างจากที่อื่น ส่วนเป้าหมายจริงเขาคือที่อื่นอย่าง อินเดีย นั่นแหละครับ เวียดนามก็ใช้ FB มากกว่าเราเช่นกัน เป็นตลาดใหม่ที่พวกทำอีคอมเมิร์ชผ่านโซเชียลหวังบุกเข้าไป

เชื่อว่าไม่กลับครับ เพราะเขาก็อ้างว่าระบบทำงานเอง เราไปยุ่งไม่ได้ ตอนนี้ผมทิ้งเพจแล้ว ไว้ถ้ากลับจะมารายงานให้ฟัง

1 วันโพสกี่รอบนะครับ

หือ เยอะมากเลยคะ

ลงข่าววันละ 20-30 ครับ มาตรฐานเว็บข่าวเล็กๆ

ไม่ค่อยสนใจอะไรหรอกครับ ผมเคย report รูปโป๊ไปหลายครั้ง ลบแค่ครั้งเดียว  :'(

คุณใช้ของเค้าฟรีแต่ทำเสียงดัง​ ผมขนาดจ่ายโฆษณาวันละหลายหมื่น​ ระบบpage​มีบักแจ้งให้แก้ได้รับแค่คำตอบจะส่งเรื่องให้ทีมวิศวะ​ทุกวันนี้ปัญหาก็ยังอยู่เพิ่มเติมด้วยปัญหาใหม่เรื่อยทำได้แค่หาวิธีเลี่ยงและบรรเทาปัญหาด้วตัวเอง​ ยอมรับว่าขาดเขาไม่ได้จิงๆ​ แต่จะพยามหาวิธีทางเลือกใหม่เพิ่มเติม​เพราะสถิติมีให้ดูว่าอยู่ยากขึ้นเรื่อยๆกับfacebook

ผมว่า กูเกิลแอด ด้วยงบเดือนละแสนสองแสนนี้ ได้ผลมากเลยนะ
ทำไมถึงไปจมปลั๊กกับสิ่งเดิมๆ ไม่เปลี่ยนซะที ในเมื่อเรารู้ว่าเพจเรา
มีปัญหาแล้วเขานิ่งเฉย ต่างจากคนอื่น แสดงว่าเขาอาจจะไม่สนใจเพจ
ของเราแล้ว จะอยู่ทำไมครับ
กูเกิลแอด ก็ไม่ได้ขี้เหร่ในการทำตลาดออนไลน์ ปรับตัวมาใช้อาจจะ
เปลี้องงบน้อยกว่าด้วย ได้ผลดีกว่าด้วย เลิกได้เลิกครับ

ใช้ฟรีตรงไหนครับ - - คือส่วนตัวผมมีทางของผมทำเยอะครับ  SEO ก็ดีกว่ามาทำเพจ แต่อันนี้เพจบริษัทที่ทำงานให้ ซึ่งผมบอกแล้วว่าทำเว็บดีๆ มีทางดีกว่า มั่นคงกว่า แต่บริษัทมักมองแต่ FB ทุ่มทรัพยากรให้กับสิ่งที่การันตีอะไรไมไ่ด้เลย แม้แต่ยอดจากบูสโพสต์
ย้ำนะครับ ไม่ได้มาขอให้ใครแก้หรืออ้อนวอนใครช่วย แค่ลงเป็นตัวอย่างให้คนอื่นเห็นการทำงานของ FB ครับ

กูเกิลดีกว่าเยอะจริงๆ ครับ การทำงานมืออาชีพกว่าเยอะ เครื่องมือที่เขาให้ใช้ด้วย เอาแค่ยอดการค้นหาก็เป็นดาต้าที่ชัวร์กว่า ยอดประเมิณกว้างๆ ของ FB แล้วครับ  มีประโยชน์มาก นำไปต่อยอดทำไรได้อีก

ขอบคุณข้อมูลดีๆครับ  :wanwan017:

 :wanwan021: ทำการตลาดหลายๆที่ หาจุดดีจุดด้อย แล้วคุณจะสำเร็จ

มีสำนักงานที่ไทยแล้วหรอครับ 

ถ้าลงข่าวถี่ไป แล้ว เป็นข่าวก๊อปมาด้วย 
มันจะมี AI ตัวนึงของเฟสบุ๊ค ค่อยจับตาดูอยู่

นิมีรุ่นพี่ ไลย์เป็นล้านกว่า ก็ลงข่าวแบบก๊อป เน้นเยอะๆวันละ 30+ ข่าว
สุดท้ายไม่ถึง เดือน โดนปรับลดเหลือ 0   แต่เขาแจ้งไปทาง สิงคโปร์ให้แก้ให้

ไม่ได้ก๊อปครับ ที่นี่นักข่าวทำลงเองก่อนส่งให้ที่อื่นๆ ถ้าก๊อปนั่นที่อื่นนี่แหละที่ก็อปไปครับ
แล้วที่บอกว่าลงถี่ๆ นี่สำนักข่าวทุกที่ลงวันนึง 70-80 ข่าวทั้งนั้น ที่นี่ผมลง 20-30 เอง ผมว่าหลายคนไม่ได้เข้าใจระบบ FB จริงๆ ชอบคิดว่าลงถี่จะโดนแบน ที่จริงที่ไหนก็ลงครับ อย่างเพจทีนิวส์วันละ 150 ข่าว จาก 4 เว็บไว้ปั๊มเงิน FBIA ถ้าเรื่องพวกนี้โดนแบน สำนักข่าวคงอยู่กันไม่ได้แล้วครับ
ลองดูเว็บก็อปข่าวจริงๆ อย่างพวกสแปมดีกว่า พวกนี้อยู่ดีมีสุขทั้งก็อปทั้งหากินเลย topicza เป็นต้นครับ

มันเป็นบั๊กครับ ลองดู อันนี้ผมทดลองให้เห็นเลยว่ามันบั๊กยังไง ถ้าเป็นลิ้งค์มาจากที่อื่นมันไม่นับทั้งหมด แม้แต่ยูทูป แต่ถ้าไม่มีลิ้งหรือแชร์มาจาก FB เอง (ที่ไม่ได้แชร์ข่าวมา) มันจะปกติครับ ถ้าบอกว่าโดนแบนสแปมลิ้งค์ ก็ต้องสงสัยล่ะว่าทำไม แล้วก็ไม่มีแจ้งมา และก็ไม่เคยไปโปรยแจกลงกลุ่มไหนอยู่แล้ว (การโดนบล็อกสแปมลิ้งมันจะมี notice แจ้งมาแล้วล็อกไว้) และที่นี่นักข่าวก็ทำงานจากต้นทางลงเองตรง ไม่มีใครไปก็อปมาหรอกครับ เป็นสตริงเกอร์จากพื้นที่เลย ลองตามเข้าไปดูเพจหรือเว็บก็ได้ครับ ที่ปิดไว้ตอนแรกเพราะบริษัทกลัวมีปัญหากับ FB แค่นั้นแหละครับ
(https://uppic.cc/d/h1W)

อีกตัวอย่างอันนี้คือแบบลงข่าวแปะบนเพจเอง ตอนนี้คือทำแบบนี้อยู่ครับ
(https://uppic.cc/d/h17)
ข่าวเดียวกับในรูปบนที่แชร์มาจากยูทูป แต่อันนี้อยู่ในกลุ่มของเพจนี้ แชร์จากเว็บที่ลงไว้ครับ กลุ่มยังปกติ (อย่างข่าวนี้จะเห็นคนกดอิโมในภาพ) แชร์ลิ้งค์จากเว็บจากที่ไหนก็ปกติครับ แต่กับเพจจะไม่ได้เลย ไอดีที่ใช้กี่คนเป็นเหมือนกันหมด
(https://uppic.cc/d/hVb)

ส่วนเรื่องลงข่าวถี่ลองลองดูสถิติพวกนี้ครับ นี่แค่วันอังคาร (21/8/61) แต่ละที่ล่อไปจะเต็มโควต้าที่ fb แสดงผลที่ 250 แล้ว การลงข่าวเยอะแค่ไหนก็ไม่โดนแบนครับ เพราะ FB ลด reach การแสดงผลต่อหน้าฟีดไว้อยู่แล้ว  จะลงเยอะแค่ไหนมันก็ไม่ได้ไปกวนยูสเซอร์ได้หรอกครับ
(https://uppic.cc/d/h18)
(https://uppic.cc/d/h1B)

ให้ดูบั๊กที่เป็นก่อนหน้าเรื่องนี้หลายเดือนแล้วครับ คือแจ้งไปมันก็ตอบมาว่าแก้แล้วๆ แต่ไม่เคยแก้จริงสักครั้ง จริงๆ นี่ยังเจอเพิ่มอีก 2 อย่าง แต่พอแหละ ไม่แจ้งแล้วครับ ทนๆ ทำไปตามที่บอกด้านบนครับ แปะเนื้อเท็กลงเพจแทน ระบบ FB มีแต่บั๊กครับ ทำๆ ไปสักวันท่านก็จะเจอเอง แค่จะโดนแบบไหน แล้วทนได้หรือไม่เท่านั้นครับ
(https://uppic.cc/d/hV4)
(https://uppic.cc/d/hVZ)

ผมเคยเป็นครับ คนเห็นเหลือไม่กี่คนแบบหาสาเหตุไม่ได้

ความจริงแล้วก็คือ ''Facebook กาก !!'' คำเดียวสั้นๆ

มันมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมากๆ อาการนี้ผมเคยเป็นมาก่อน ไปหาตามบอร์ดนอกก็เป็นกันหลายคน และแก้ไม่ได้ เพจไหนโชคดีก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

บริษัทใหญ่ทั่วโลกไม่รู้เป็นห่าเหวอะไร ''โง่'' กันมาก ซัพพอร์ตไม่รู้เรื่อง แค่พิมพ์มายังไม่ค่อยจะรู้เรื่องกับลูกค้าเลย

ไม่ว่าผมจะเช่า โฮสทำเว็บ หรือพวก Line ซัพพอร์ต ตลอดไปจนถึง Google Facebook เจอแต่คนซัพพอร์ตตอบคำถามประมาณนี้แหละ ไม่รู้เอาสมองไปไว้ไหน

การได้รับความช่วยเหลือ แล้วแต่ความฟลุคครับ บางครั้งเจอแอดมินที่ไม่รู้ บางครั้งเจอแอดมินที่รู้และแก้ปัญหาให้เราได้ครับ แอดมินที่ผมเจอเป็นคนไทย โดยส่วนตัวที่สังเกตครับ fb มันไม่ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ภายนอก กล่าวคือ อะไรที่เชื่อมต่อออกนอก fb มันไม่สนใจครับ แต่อะไรที่ทำอยู่ภายใต้ fb สบายทั้งหมดครับ เช่น ยิงแอดขายของให้จบอยู่ใน fb อันนี้ความเห็นส่วนตัวที่เจอมานะครับ ของท่านอื่น ๆ มีแตกต่างกันมากกว่านี้อยู่แล้ว

ถ้าบริษัทยักษ์ใหญ่ขนาดนี้ กาก ก็ทำแข่งกับเขาครับ บริษัทเหล่านี้จะได้เจ๊งซะที
บริษัทเหล่านี้อยู่ในวอลสตรีท การทำงานของเขาต้องมีผลงานอย่างชัดเจน ผล
กำไรจับต้องได้ อีรอน มัค เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า เทสล่า เพิ่งจะประกาศถอนตัวจาก
ตลาดหุ้น เพราะเขาเบื่อนักลงทุนที่กดดันเรื่องผลงานและผลกำไร อันเนื่องจากความ
ผิดพลาดในการลงทุนซื้อ บริษัทสตาร์ทอัพทำโปรแกรม AI เกี่ยวกับโรงงานอัฉริยะ
ทำให้ช่วงแรกในการผลิต รุ่น 3 ล่าช้าผลกำไรไม่เข้าเป้า และสตาร์ทอัพที่ซื้อมายัง
เพิ่งทดสอบยังมีความเสี่ยงที่จะผิดพลาดได้อีก สุดท้ายก็คือก็ต้องถอนตัวออกจากตลาด

ถ้าบริษัทไหน กาก เข้าตลาดหุ้นวอลสตรีทแล้วมีแต่คนสนใจและพูดถึงตลอด ถ้าเรียกว่า
กากรองยกตัวอย่างบริษัทที่เก่งๆ มาให้ดูหน่อยครับ ลองเข้าไปอยู่ในตลาดหุ้นวอลสตรีท
บ้าง ที่นั่นต้องวัดผลงานได้ ผลกำไรต้องดีขึ้นทุกไตรมาส ไม่มีนักลงทุนคนไหนจะยอมให้ผู้
บริหารทำเรื่่องแย่ๆ

ผมก็ใช้ เฟสบุค มาสิบกว่าปี ไม่เคยเจอที่เลวร้ายเท่าไรครับ มีบางช่วงที่เขาปรับ ก็กระทบบ้าง
แต่ไม่ได้แย่อะไร ลง Ads มา 6-7 ปีต่อเนื่องก็ไม่ได้มีปัญหา ดูคนที่ทำ Shopify Ebay Amazon
ลง Ads เดือนละพันล้านบาท ผมเมล์ถามการลง Ads ใช้ทูลอะไรวัดบ้าง ก็ยังไม่เคยเขาบ่นอะไร

ผมเห็นสื่อออนไลน์ยักษ์ อย่าง Metro.com กลุ่ม Vice Media กลุ่ม 20 Fox หรือดาราฮอลลีวูด
หลายคน กลุ่มนี้เขาลงต่อเนื่องและไม่เห็นมีผลกระทบอะไรเลย Ads ต่อวันกลุ่มนี้หลายพันล้านบาท
ต่อวัน ถ้ากระทบทำไมกลุ่มสื่อพวกนี้ไม่โดนด้วย ต้องย้อนกลับมาดูตัวเองครับ
ว่าเขาแบนแล้ว จะอยู่ในระบบเขาทำไมอีก ยังจะมาขอความเห็นใจทำไม ในเมื่อเขาไล่แล้ว

ถึงแม้เขาจะรู้ว่า เกิดเรื่องแบบนี้อีกกี่ครั้ง เขาก็ยังแบนคุณอย่างต่อเนื่องละครับ ถึงจะแก้ไขให้แต่
ก็คงไม่นานหรอก เพราะคุณไม่ได้ทำให้เขารวยขึ้นหรือเจ๊งเลย เขาแบนแล้วก็ปล่อยให้คูณคิดเอง
ว่าจะยังทนอยู่ในระบบเขาได้อีกนานเท่าไร ทนได้ก็ทนไป ประสาทเสียได้ก็เสียไป เขาไม่สนใจอยู่แล้ว

ระบบฝรั่งไม่มีคำว่าอะลุ่มอะล่วยแบบบ้านเราครับ เขาตัดสินใจแล้ว มีข้อยุติแล้ว จะเหมือนเดิมทุกครั้ง

ต้องจ้างเพจดัง ๆ โพสให้แล้วล่ะผมว่า หรือไม่ก็ต้องให้เพจนั้น ๆ แชร์ไป

ของผมเคยเจอเพจ สินค้าที่ประกาศขายในเพจ รายการสินค้าหายทั้งร้านเลยครับ

จะมาโชวฉลาด ????? ตลกไปไหมครับ ยกเหตุผลบลาๆมาทำเพื่อ

หรืออ่านไม่แตกฉาน ว่ามันคือคำวิจารณ์

1.เพจบัค
2.คนที่ได้รับผลกระทบวิจารณ์ จบ

มีแค่นี้ ยกตัวอย่างห่าเหวอะไรมาเต็มไปหมด ยกตัวอย่างบริษัทนู้นบริษัทนี้มาเพื่อ กระทู้นี้พูดถึงเรื่อง Facebook มันบัค และออกมาวิจารณ์กัน หรือคนทำเพจทั่วโลกวิจารณ์ Facebook ไม่ได้ ? .....ตลก ทั่วโลกกี่ล้านคนแล้วที่วิจารณ์ Facebook ไม่เห็นจะต้องมาทำเว็บแข่งกับ Facebook ไร้สาระ แล้วพิมพ์อะไรมาไม่รู้นอกเรื่อง เขาพูดถึงบัคของเฟซบุคกัน สมองมีปัญหารึครับ ? ทำเว็บแข่งให้บริษัทเขาเจ๊งอะไรของคุณ ปยอ.

ผมก็แค่ผู้ใช้คนหนึ่งที่โดนความพิดพลาดนี้เล่นงาน แล้วออกมาวิจารณ์ จบ มันก็มีแค่นี้ มายกตัวอย่างบ้าบอคอแตกอะไร ปยอ. ?

บ่นอะไรไม่รู้นอกเรื่อง เหอะๆ ตลก  :wanwan005: :wanwan005: :wanwan005:

ลองเว้นซัก2 วัน แล้วโพสตอนเที่ยง 1 รอบดูครับ ว่ามีคนดูปกติไหม ถ้าโพสถี่ๆจะเปนแบบนีแหละครับ อาจโดนข้อหาสแปมครับ ผมเดาเอานะ ลองทดสอบดูครับ