ThaiSEOBoard.com

เพื่อน ๆ หลายคนคงได้ยินชื่อของ shopify กันมาบ้างพอสมควร รวมถึงเทคนิคการทำ e-commerce แบบ dropshipping ที่โด่งดังในบ้านเราเมื่อหลายมีก่อนได้ดีนะครับ ช่วงนั้นอยากได้ของอะไรที่ไม่มีขายในบ้านเราก็เจอแต่ของ dropship dropship ทั้งนั้น wanwan044

สำหรับ shopify แล้วหากใครที่ยังงงอยู่ว่ามันคืออะไร ผมขออธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ว่ามันคือแพลตฟอร์ม ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำ e-commerce แพลตฟอร์มหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในต่างประเทศรวมถึงในระดับโลก เหมือนเว็ปขายของสำเร็จรูป คล้ายๆ กับ wordpress + woocommerce แต่ในที่นี้เราไม่ต้องเช่าโฮสและจดโดเมนเอง นอกจากนั้นยังมี plug-in หรือแอฟเสริมอีกมากมายที่ช่วยอำนวยความสะดวก จนเรียกได้ว่าระบบจัดการสินค้าใน store ของเราทำงานอัตโนมัติเกือบทุกขั้นตอนเลยทีเดียว ฟังแค่นี้ก็ดูเหมือนว่าระบบมันดีทุกอย่าง มันน่าใช้ใช่มั้ยล่ะครับ

แต่เดี๋ยวก่อน! มีร้านอย่างเดียวแต่ไม่มีสินค้า แล้วจะขายยังไง?

จะให้ผลิตสินค้าเองแล้วยัดเข้าไปขาย หรือตั้งหน้าตั้งตาสร้าง brand สร้าง product ด้วยตัวเองก็ดูเหมือนว่าจะใช้งบประมาณจะบานปลาย จะได้กำไรหรือจะขาดทุนก็ยังไม่แน่  :wanwan006:

internet marketer หัวใสก็เลยจัดการนำสินค้าของคนอื่นจากทั่วโลก ยัดเข้าไปใน shopify store ของตัวเองซะเลยแค่นี้ก็ตัดปัญหาด้านเงินทุนในการผลิตสินค้าแล้ว

อย่างที่รู้ ๆ กันครับว่าการทำ dropshipping นั้นก็เหมือนการเป็นพ่อค้าคนกลาง นำสินค้าไปนำเสนอ ถ้ามีคนซื้อ เราจ่ายเงินให้ร้านขายส่งราคาทุน แล้วก็ฝากเค้าส่งด้วย ส่วนต่างก็คือกำไรของเรา :wanwan019:

หน้าที่ของเราคือตามหาคนซื้อ เรียกง่ายๆ ว่าโปรโมทสินค้าของเราให้เข้าถึงผู้ซื้อหรือผู้ที่กำลังต้องการสินค้าของเรา ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีช่องทางการโปรโมทมากมายทั้ง facebook ทั้ง stagram

shopify dropshipping โดยสรุปก็คือการสร้างร้านค้าออนไลน์ด้วย shopify แล้วนำสินค้าของคนอื่นมาขายในร้านของเราโดยเราเป็นคนที่กำหนดราคาขายเอง

แล้วทำไมต้อง shopify ด้วย?

ก็อย่างที่บอกไปข้างต้นแหละครับ ว่ามันมีความสะดวกครบครัน ทั้งระบบการจัดการ ระบบการชำระเงินที่ปลอดภัยซึ่งตรงนี้ช่วยให้เพิ่มโอกาสในการซื้อของลูกค้าเป็นอย่างมาก รวมถึงการใช้งานที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ทำให้คนที่ไม่ค่อยมีพื้นฐานด้านการสร้างเวปเท่าไร สามารถเค้าถึงและใช้งานได้ ไม่แพ้คนที่มีประสบการณ์การทำเวป e-commerce มาก่อนขอแค่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษนิดๆหน่อย ๆ ที่สำคัญเราสามารถขายให้ใครก็ได้ทั่วโลกแล้วแต่ว่าเราจะไปนำเสนอสินค้าที่ไหน

เล่ามาทั้งหมดดูเหมือนทุกอย่างมันดีนะครับ ผมก็ว่ามันดี และถือเป็นช่องทางการทำเงินออนไลน์ที่น่าสนเป็นอย่างมาก แต่ทำมั้ยทำไมไม่ค่อยเห็นมีใครพูดถึงกัน

หากใครที่สนใจลองทำ global e-commerce แนวนี้ดู ลองเสิจจากอากู๋ว่า shopify dropshipping ดูนะครับมีบทความและแนวทางที่น่าสนใจเยอะเลย ครึกครื้นเป็นอย่างมาก :wanwan020:

หวังว่าที่เขียนมาตั้งนาน คงจะช่วยให้เพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาแนวทางการทำเงินออนไลน์ ได้ไอเดียใหม่ให้ลองศึกษาและลองทำดูนะครับ บางทีอาจเป็นทางของคุณก็ได้ครับ

สวัสดีปีใหม่ครับ
ครึ่งควบลูก!

ขอบคุณครับ  :wanwan017:

มันอิ่มตัวแล้วครับ กลยุทธ์นี้ มันมีมาหลายปีแล้วครับ บนyoutubeมีแต่คนขายคอร์สเรื่องนี้ อาจจะใหม่ในไทย(หรือเปล่าผมไม่แน่ใจ) แต่ที่ต่างประเทศ มันอิ่มตัวไปนานแล้วครับ เพราะมันทำง่าย คนแห่ทำและcopyกันเป็นแถว free+shipping แล้วใส่ up-sell ลงไปด้วย ที่เคยทำเงินให้ผมอยู่พักใหญ่ๆ ตอนนี้ก็เริ่มหวังผลอะไรไม่ได้แล้ว คนซื้อฉลาดขึ้น ไม่คุ้มค่าโฆษณา หันมาสร้างแบร์นสินค้าของตัวเองดีกว่าครับ แล้วทุกอย่างจะดีเอง  :wanwan013:

ที่บริษัทผมก็ทำอยู่ครับ ใช้ Shopify + Dropship เป็นบริษัท Agency ครับ แต่ส่วนมากนำสินค้ามาทำการตลาดเอง ส่วนขายได้ไม่ได้นั้น ก็ที่รู้มาคือ ยอดขายได้เป็นล้านต่อเดือนเลยครับ แต่ว่าเขาไม่ได้ขายในไทยครับ เขาทำขายทั่วโลกเลย มีหลายภาษาเลยครับ ส่วนใครที่อยากลองทำ ลองทำได้ครับ แต่บอกเลยว่า ทุนต้องหนานิดนึงครับ ถึงจะเห็นผล  :P

ขอบคุครับ

จริงครับ ทุนทำการตลาด ต้องมีเยอะพอสมควร เริ่มต้นง่ายจริง แต่เกิดยาก ถ้าเป็นช่วงสัก2ปีก่อน ทำสนุกมากๆ ลงfacebook ads /ใช้ instagram influencer/ แล้วก็เปิดaffiliateด้วย ขายอย่างสนุกสนาน มีความสุขทุกครั้งที่ตื่นมาเห็นอีเมลออเดอร์จากลูกค้า มีrefundอยู่ประมาณ10%ต่อเดือน แต่ให้ทำตอนนี้ ไม่ไหวละครับ ไม่คุ้มค่าโฆษณา แต่ถ้าขายคอร์สแบบฝรั่ง น่าจะยังพอไปได้อยู่ 555

ถูกแล้วครับวิธี free+shipping แบบนั้นมันเก่าไปแล้ว มันแค่เอาไว้เก็บ e-mail list เฉย ๆ ไม่ได้หวังกำไรกับมัน มันคือเทคนิคยุคเก่ามากกก ไม่มีใครเค้าทำถูกต้องละครับ แต่เดี๋ยวนี้มันค่อนข้างต่างจากสองปีก่อนเยอะครับ ทั้งตัว product เองที่มีออกมาเรื่อย ๆ ทุกวัน คงไม่มีใครเอาสินค้าจากสองปีก่อนมาขายถูกไหมละครับ ถ้าใช้คำว่าอิ่มตัว แสดงว่า supplier ต่าง ๆ ใน amazon, aliexpress, alibaba เค้าหยุดผลิตสินค้าตั้งแต่ตอนนั้นถูกมั้ยครับ เพราะกำลังซื้อไม่มี แต่มันตรงกันข้ามเลยนะครับลองดูดี ๆ เปอร์เซ็นการซื้อสนค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นทุกเดือน ทุกๆ เดือน มีสินค้าใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ ยิ่งตอนี้มี POD หลายเจ้า ไหนจะแอฟขายเสื้ออีกหลายสำนักให้เลือกใช้อีก ไม่ต้องไปยึดติดกับเจ้าใหญ่ๆ เหมือนเมื่อก่อนอย่าง teespring viralstyle teechip etc... อีกต่อไป ปริ้นได้หมดละคับเดี๋ยวนี้ไม่ใช่แค่เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ซึ่งต้นทุนในการทำใน shopify ต่ำกว่ากันเยอะ

โดยส่วนสำหรับผมแล้ว e-commerce ผมว่ามันไม่มีคำว่าอื่มตัวหรอกครับ ไม่งั้นเวป e-commerce เจ้าใหญ่ๆ อย่าง amazon, aliexpress, alibaba ไม่กำไรโตขึ้นทุกๆ ปีหรอก มันสะท้อนให้เห็นเห็นว่าตลาด e-commerce มันกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ครับ ไม่ใช่อิ่มตัว การทำ dropify + dropship ก็เปนเพียงเครื่องมีและวิธีในการหาเงินจากตลาด e-commerce เท่านั้นเองครับ ซึ่งหากพูดถึงเรื่องการสร้าง brand เอง shopify ก็สามารถสร้าง brand ให้เป็นที่จดจำได้ครับทั้งตัว store เอง การใช้ POD ถึงการ contact กับ supplier โดยตรง ซึ่งตอนนี้สะดวกกว่าเมื่อก่อนเยอะครับ

 :wanwan017: :wanwan017: :wanwan017:

ฝรั่งสอนเพียบเลยครับ ผมมียี่สิบกว่าคอร์สแล้วมั้ง มันสอนเป็นตัวสินค้าเลยก็มีครับ ชี้เป้าให้เลยว่าสินค้าตัวไหน + ลงโฆษณา facebook กลุ่มไหนด้วยครับ จริงๆแพทฟอร์มแบบนี้ ยังมีเจ้าอื่นอีกครับ ไม่ใช่เฉพาะเจ้านี้

แต่เจ้านี้ก็ใช้ง่ายนะครับ ดีระดับหนึ่งเลยละ

น่าสนใจ นะเนี่ย :wanwan013:

ไม่อิ่มครับ ยังไงก็ไม่อิ่ม ยืนยัน
เจ้าของกระทู้เขาตอบได้ถูกต้องนะ
ตลาดนี้ดูเป็นงานที่มี Value กว่า Aff อีก .

อิ่มตัวแล้วจริงๆครับ อย่าทำเลย

ความต้องการคนเรามันไม่มีสิ้นสุด
คำว่าตัน ในมุมของสินค้าคิดว่า ไม่ตันหรอกครับ
ที่มันตัน คือตันด้วยวิธีการทำตลาดมากกว่า
ถ้ายึดติดกับวิธีเดิมๆ ซึ่งแน่นอนว่ามันใช้ไม่ได้ตลอดอยู่แล้ว
แบบนี้เรียกตัน(จากตัวนักการตลาดเอง)ครับ
ไม่ปรับตัว ก็ต้องออกจากเกม

เห็นด้วยค่ะ คนเข้ามาในตลาดมากขึ้น อะไรก็มันก็ต้องยากมากขึ้น ที่เราต้องพัฒนาตัวเองให้มาก ต้อง คิดต่าง  สร้างสรรค์ marketing campaign ใหม่ๆ ดึงดูดลูกค้าค่ะ 

เห็นด้วยครับ ถ้าตัน ก็ตันจากตัวนักการตลาดเอง

เป็นเจ้าของร้านเองย่อมดีกว่าไปเป็นลูกจ้างเค้าครับ  :'(