ThaiSEOBoard.com

ช่วงนี้ค่าเงิน USD สูงถึง 36 บาท ต่อ 1 USD เลยเหรอครับ เข้าไปดูที่หน้าเว็บธนาคารกรุงเทพมาเมื่อกี้ ว่าจะสั่งซื้อสินค้าจากเว็บนอกซ่ะหน่อย คิดหนักเลย  :P

หื้มมม 36 แล้วหรอครับ มะอาทิตย์ก่อนเห็น 35.40 อยู่เลย
 :o

ทำไม aud ตกเหลือ 24.97 เองครับบบ  :P :P

เช็คใน xe.com เลยครับ ผมเข้าดูทุกวัน ระทึกสุดๆ

http://www.xe.com/currencyconverter/convert/?Amount=1&From=USD&To=THB

รับจดโดเมนผมนี่งานเข้าเหมือนกันครับ รับเท่าเดิม จ่ายมากขึ้น

คนที่ซื้อของ ตปท เหนื่อยแน่นอนครับ และเหนื่อยยาว

เพิ่มเติมนะครับ

USD Futures สำหรับบางท่านที่อยากดูแนวโน้ม ค่าเงินครับ

http://www.tfex.co.th/th/products/usd-mktdata.html

 :wanwan017:

จ่ายค่าสินค้านอก งานเข้าเลย

ตอนนี้ใครจะซื้อของจาก ตปท ต้องคิดหนักๆเลย  :wanwan031: :wanwan044:

ใครที่ขายของไปต่างประเทศ หรือพวกที่ทำ Affiliate แล้วได้เงินดอลล่าห์ยิ้มเลยครับ :wanwan011:

ใครรับเงินโอนเป็น $ ยิ้มไม่หุบเลยงานนี้  :-[ :'(

คงสวิงขึ้นลงเป็นบางช่วง แต่มีแนวโน้มอ่อนค่าลงไปเกือบถึง 40 นะ

ตุนอย่างเดียวครับตอนนี้    :wanwan020:

ส่งออกยิ้ม นำเข้าเหงื่อตก 

มีขึ้นก็มีลง  เหมือนดีดกีตาร์แหล่ะ  ลง ลง ขึ้นขึ้น ลงลง ขึ้น

ไม่ได้สั่งเองก็เหงื่อตกไปด้วยนะนี่
กระทบไปด้วย

จ้ามีแนวโน้มที่จะเป็น 37 บาท ต่อ 1 USD คนที่ขายของบน eBay AMazon ถ้าอยู่ได้ ช่วงนี้รับทรัพย์หนักเลย
ทำให้ มีกำลังใจที่จะขายของมากขึ้น

บางคนตุนเงินไว้ใน PayPal ค่อยถอนออกในระยะเวลาที่เหมาะสม

พี่ดู www.xe.com (http://www.xe.com) ทุกเช้าเย็นอัตราแลกเปลี่ยน มันเป็น Real time

บางวัน ตอนเช้าและตอนเย็นมันมีเท่ากัน บางวันมันไม่เท่ากัน

ถ้าน้องจดสถิติ เช้า เย็น เจ็ดวันไว้ น้องจะรู้ว่ามันจะอ่อนวันไหนบา่งทีธนาคารแห่งประเทศไทย เขาก็ไปจัดการไม่ให้มันอ่อนลงไปกว่านี้ แต่ยังคงเป็นไปตามกลไกตลาด :wanwan016:

ผมสมัคร VPS นอกอยู่ครับ
ผูกกับ Paypal ตัดเงินผ่านบัตร
กำลังโดนสดๆวันนี้เลย $10.68 หมดไป 397.23
ตีเป็นค่าเฉลี่ยๆ ก็ 37.19  :wanwan031:
เข้าใจว่าไม่ใช่เรทกลาง แต่เป็นเรทของ PP แต่มันก็แพงจริงๆแหละ :wanwan006:

ต้องจ่ายแพงขึ้นครับ
ผมเองก็ต้องจ่าย ค่าโดเมน ค่าโฮสต์ เหมือนกันครับ
 :'(

นำเข้าน้ำตาไหลเลยแหละครับ

ส่งออกได้ราคา
แต่นำเข้าเหงื่อตกกันเลยทีเดียว  :wanwan035: :wanwan035:

อิจฉาคนที่ได้ adesense เยอะ ๆ นะ  แลกเงินไทยก็ได้หลายตังเลย..

ใช่คร๊าาา
เศร้ามาก จะเดินทางช่วงเดือนพฤศจิกา ตอนนี้เริ่มทะยอยแลกเงินแล้ว

 :P

ผมไม่ทันช่วง 40 บาท ตอนที่หาเงินได้ รู้สึกมันจะลงไปประมาณนี้ 35 กว่า ๆ ตอนรายได้รุ่งสุด ๆ ตอนนั้นประมาณ 33 กว่า ๆ

คิดเงินง่ายดี ถ้าทำเงินวันละ 10 เหรียญ จะได้เดือนละหมื่น ถ้า 100 เหรียญ ก็จะได้เดือนละแสน

แต่ตอนนี้ไม่มีผลทั้งสิ้น รายได้เมืองนอกหายหมด  :'(

ตั้งใจจะซื้อดอลเก็บตั้งนานละ มัวแต่ลังเล เสียดาย  :'(

น้ำตาตกเหมือนกันค่ะ เวลาโอนเงินที  :wanwan031:

นานๆได้สั่งของ ตกใจเลยพอแปลงเป็นไทยพึ่งเห็นตอนจ่ายเสร็จ
แต่มีใน paypal อยู่ แปดร้อยกว่าเอง ยังไม่เคยถอนอีก ตุนๆๆไว้ก่อนดีกว่า

รอจะถึง40$ ต่อบาท :P มั้ย

พ่อค้าแม่ค้าส่งออกต่างประเทศจะชอบครับ  :wanwan016:

มีคนกลุ่มนึงได้ และมีคนกลุ่มนึงเสีย ส่วนคนที่ไม่จับเงินดอล จะเฉยๆ

แพงมาก แต่ก่อน 30 เซ็งเลย

ถ้าเงินบาทอ่อนไปเรื่อยๆแบบนี้ ก็อาจจะถึง 40 บาทอีกครั้งก็ได้ครับ
ไม่รู้ว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำร้อยไหม อาจจะไม่ก็ได้ครับ

หวังว่าพี่จีน ท่านจะไม่ลดค่าเงินหยวนอีกนะครับ
เพราะถ้าจีนลดอีก ค่าเงินบาทก็น่าจะอ่อนลงอีกครับ

ถ้าเป็นแบบนั้น คนที่จ่ายค่าโดเมน กันค่าโฮสต์ต่างประเทศ คงต้องจ่ายแพงขึ้นครับ

ความเห็นส่วนตัว ผิดถูกขอภัย ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

 :wanwan008:

กอด $ ไว้แน่นๆ ยาวไปเลยค่า ป้ายหน้า ขอซัก 39 40 บาท

 :P เมื่อถึง 40 แล้วจะเกิดภาวะอะไรครับ ....ขอความรู้หน่อย

อีกเรื่องที่สงสัย ถ้าค่าเงินเราอ่อนมากๆ ต่างชาติที่เข้ามาลงทุนนี่จะทำให้ธุรกิจมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วยหรือป่าวครับ

แนวโน้มเงินบาทน่าจะอ่อนค่าต่อไปเรื่อยๆครับ อาจจะได้เห็น 38 บาท ภายใน 2 เดือนนี้ก็เป็นไปได้ครับ
ถ้าค่าเงินบาทอ่อนที่ได้ประโยชน์น่าจะเป็นส่งออกนะครับเพราะได้เงินเยอะกว่าเดิม ส่วนนำเข้าต้องใช้เงินบาทมากขึ้นในการซื้อสินค้า ถ้าซื้อเข้ามาตอนเงินบาท 36 บาท ผลิตเสร็จส่งออกกลับไปถ้าเงินบาทอ่อนกว่า 36 อาจจะเป็น 38 บาท ยังถือว่าได้กำไร แต่ถ้าเงินบาทแข็งค่ามาเป็น 35 บาท ก็ขาดทุนครับไหนจะค่าผลิตอีก

ฟ้องสบู่แตกครับ   ยกกรณี 40 มาให้ชมกันนะครับ


เศรษฐกิจฟองสบู่แตก" กับ "วิกฤติต้มยำกุ้ง" เป็นฝาแฝดกัน เกิดในประเทศไทยปี 2540 รัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประสบภาวะวิกฤติค่าเงินบาท เศรษฐกิจไทยตกต่ำอย่างรุนแรง ค่าเงินบาทตกต่ำเหมือนตกเหว จากเดิมดอลลาร์ละ 25 บาทกลายเป็น 50 บาท

"เศรษฐกิจฟองสบู่" คือ "Bubble Economy" อธิบายได้ว่า สภาวการณ์ที่ราคาสินค้าต่างๆ สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากการเก็งราคาอสังหาริมทรัพย์ ในตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้น เนื่องจากคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตอย่างรวดเร็ว อาจส่งผลให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างเร็วในชั่วระยะหนึ่ง เรียกว่า เป็นภาพลวงในทางการเงิน (Money Illusion)

ดังนั้น การเก็งกำไรในสินค้าตัวอื่นๆ จึงพลอยเกิดตามมาด้วย และเมื่อความเจริญเติบโตในภาคเศรษฐกิจแท้จริง (Real Sector) ไม่สัมพันธ์กับระดับราคาที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ในที่สุดราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ขึ้นไปอย่างรวดเร็วแบบฟองสบู่ ก็จะอยู่ไม่ได้

และแล้ว...ภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่แตกจึงเกิดเป็นปรากฏการณ์ขึ้นด้วยประการฉะนี้



คือภาวะที่ราคาของสินทรัพย์ เช่นอสังหาริมทรัพย์หรือหน่วยลงทุนต่าง ๆ เพิ่มขึ้นสูงเกินกว่าราคาตามความเป็นจริง จนเกิดอุปสงค์เทียมจากการเก็งกำไรที่ทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ เป็นวงจร และขยายตัวเหมือนฟองสบู่ โดยส่วนใหญ่ภาวะฟองสบู่นี้จะจบลงเมื่อเกิดเหตุที่ทำให้นักลงทุนเลิกคาดหวังว่าราคาจะเพิ่มขึ้นอีก หรือรัฐบาลออกนโยบายเพื่อดึงราคาลงสู่ภาวะปกติ (เช่นการขึ้นอัตราดอกเบี้ย) จึงทำให้การเก็งกำไรและราคาที่สูงกว่าความเป็นจริงลดลง

ราคาสินทรัพย์ในภาวะฟองสบู่ตั้งอยู่บนสมมติฐานว่าราคาจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น เมื่อราคาเริ่มลดลงภาวะฟองสบู่ก็จะหดตัวลงอย่างรวดเร็ว จนทำให้เกิดภาวะฟองสบู่แตก ซึ่งมักจะทำให้เกิดปัญหาหนี้เสียเกิดขึ้นตามมา

ปีแรกที่เริ่มขายออนไลน์ตอนนั้นค่าเงิน 42 บาท/$ แล้วมันก็แข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ ตอนนั้นยังอยู่ที่อเมริกา ขายได้ก็เก็บเป็น $ แล้วค่าเงิน $ ก็อ่อนลงเรื่อยๆ ปีที่ย้ายกลับไทย ค่าเงินอยู่ราวๆ 34 บาท เจ็บแบบลืมไม่ลง

ช่วงแรกๆที่ค่าเงินบาทเริ่มแข็ง 38-39 บาท/$ ตอนนั้นก็เริ่มเครียดแล้วนะ เพราะต้องขายของแพงขึ้น แต่ค่าเงินบาทก็แข็งได้อีก จนกระทั่ง 30-31 บาท/$ ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าเรายังสามารถขายของกันได้ ถ้ามันกลับไปที่ 39-40 บาท/$ อีกครั้งพวกเราคงจะฟินกันสุดๆ