ThaiSEOBoard.com

อ่านข้อมูลล่าสุดจากกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่รวมรวบประเภทของเว็บที่ต้องยื่นภาษีแล้วปวดจิต...  :P
เว็บ 10 ประเภทนี้ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีครับ

1. เว็บไซต์แสดงรูป และราคาสินค้า

2. เว็บไซต์เพื่อการขายสินค้า

3. การขายสินค้าบนชุมชนเว็บบอร์ดโดยผู้ขายไม่มีเว็บไซต์เป็นของตนเอง

4. เว็บไซต์เพื่อการประมูลขายสินค้า

5. เว็บไซต์ห้างสรรพสินค้าออนไลน์

6. เว็บไซต์แหล่งซื้อขายภาพถ่ายดิจิตอล

7. การรับโฆษณาจากเว็บไซต์Google

8. การทำให้ผลการค้นหาบนกูเกิ้ลติดลำดับแรกๆ

9. เว็บไซต์นายหน้าการขายสินค้าและบริการ

10. การเล่นเกมผ่านระบบเครือข่ายออนไลน์


 :wanwan009: :wanwan009: :wanwan009:

รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านได้จากเว็บ กรรมสรรพากร www.rd.go.th (http://www.rd.go.th)
Donottellmyboss (http://donottellmyboss.com/update-ecommerce-tax/)

ข้อ 8. นี่ก็โดนด้วยเหรอ  :P

สรุปบอกให้ยื่นทุกเว็บก็จบ

เว็บไม่มีรายได้จักบาท ยังจะให้เสียหรอ ครับ

เรื่องภาษีรามมาถึงแล้วเหรอเนี่ย แต่จริงๆก็ยังตรวจสอบยากอยู่ดี  :wanwan004:

เข้าข่ายข้อไหนบ้าง http://www.rd.go.th/publish/26215.0.html

ดูจากรายละเอียด เค้าน่าจะหมายถึงบริษัทที่รับทำ seo หรือ บุคคล ที่รับทำ seo น่ะ

โดนกันทั่วหน้า :wanwan009:

ครอบคลุมชัดเจนมากเลยพี่สรร

อ้าว งานนี้ เว็บพนันบอลรอดเว้ย เฮ้ย เป็นไปได้ไงอะ เงินสะพัดเลยนะนั่น

คนที่โดนคือคนอย่างเราๆ ที่รายได้ไม่มากแต่ทำหลายๆ อย่างไปพร้อมกันทำหลายแนวนี้ตอนยื่นคงวุ่นวายน่าดู การเสียภาษีนั่นเป็นเรื่องที่ต้องทำกันแต่ควรเริ่มต้นจากที่มีบัญชีทางการเงินชัดเจนก่อน แล้วค่อยขยับไปทาง aff เรื่องจริงพวกขาใหญ่ทุกวงการไม่ว่ามีสี ธุรกิจ หรืออื่นๆ หลบเลี่ยได้ตลอด เคยเจอคนหนึ่งทำธุรกิจอะไรไม่รู้ธุรกิจเล็กมาก ชอบเข้าบ่อนประเทศเพื่อนบ้านตลอดและรวยขึ้นตลอดจนทุกวันนี้ เพราะมีแบ็คดีคอยช่วย

พูดให้ง่าย รายได้ทุกชนิดที่เกี่ยวกับเว็บไซต์ ต้องยื่นแสดงรายการเพื่อเสียภาษีด้วย ส่วนรายได้เหล่านั้นถึงเกณฑ์ต้องจ่ายหรือไม่ก็ไปดูตามขั้นบันไดที่พี่สรรพกำหนดไว้ คนทำงานกินเงินเดือน อาชีพอิสระต่างๆเขาก็จ่ายภาษีกันทั้งนั้น เมื่อเรามีรายได้ ก็ต้องยื่นเช่นกันครับ ไม่ใช่เรื่องแปลก

ส่วนที่บอกว่ารายได้น้อยๆต้องเสียด้วยเหรอ ต้องไปศึกษาเพิ่มเติมครับ เขามีหลักอยู่ว่ายังงัยบ้าง

หลักคร่าวๆทั่วไปนะครับ เอารายได้รวมทั้งปี มาหักลบรายจ่ายส่วนตัวต่างๆที่เขากำหนดไว้ เหลือเท่าไหร่ก็เอามาคำนวณภาษี โดยที่ยอดคงเหลือที่ไม่เกิน 150,000 บาท จะไม่ต้องเสียภาษีแม้แต่บาทเดียว สูงกว่านั้นก็เสีย 5%, 10%,... เป็นขั้นบันไดไป

สรุปง่ายๆ ถ้ารายได้ไม่ถึง 20,000 บาทต่อเดือน แทบไม่ต้องกังวลอะไรเลยครับ ยื่นไปตามปกติ แต่ไม่ต้องจ่ายภาษี

 :'( :'(

 :wanwan017: :wanwan017:

หลักการง่ายๆ ของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามีแค่ข้อเดียวครับ

" มีรายได้ ก็ต้องยื่นภาษี "

จบ

เว็บผมไม่เข้าข่าย โชคดีไป

เห็นแล้วเหมือนกันครับ
อิอิ ทำได้ก็ทำๆไปเลยครับ
 :wanwan003: :wanwan003: :wanwan003:

เริ่มเมื่อไร แล้วใครไปยื่นมาแล้วบ้างครับ

ความจริง ที่ไม่แน่ว่า พี่ๆหลายคนทราบหรือไม่
-ตอนนี้สรรพากร ตั้งแต่เปลี่ยนหัวขบวน ต้องการเงินด่วนเพื่อสนองนโยบาย
-ตอนนี้ต้องการ ฐานภาษีเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะที่มีอยู่เดิม รีดลำบากแล้ว
-ธุรกิจที่ไม่ค่อยโดนคือ ธุรกิจที่มี auditor 5 ยักษ์ใหม่ ประทับตรา เพราะมันยุ่งยากเกิน ไปเก็บ sme รีดไขมันง่ายกว่าเยอะ
-จริงอยู่ รายได้ ไม่เกิน 20000-24000 ต่อเดือน ไม่ต้องเสีย แต่ความเป็นจริงคือ ฐานข้อมูลภาาีมันขึ้นแล้ว ถ้าเมื่อไหร่ต้องการภาษี ง่ายๆคือ ติดต่อพี่ๆทุกท่าน ให้ไปคุย คุยเสร็จ ง่ายๆคือ จะจ่าย(เพิ่ม)ไหม หลักการคือ สุ่มเจอคนไหน ต้องได้(สถายเดียว) ไม้ตายตอนนี้ มี 2อย่างใหญ่ๆ คือ 1.ระบบบัญชี คือ สามารถระงับบัญชี สั่งตรวจสอบบัญชี ที่มีชื่อพี่ๆอยู่ทั้งหมด(ธนาคารทุกแห่งยินยอมหมด แค่คลิ๊กชื่อ print ออกมาก็จบ) ตะก่อนทำลำบาก เพราะกฏหมาย แต่ตอนนี้เปลี่ยนกฏหมายใหม่(สมัย รัฐคคืนความสุขนี่แหละ) พี่สรร ทำได้หมดไม่ต้องรอตำรวจ หรือหมายเลย ดังนั้นต้องเตรียมคำตอบนะ ว่า เงินนี้ท่านได้แต่ใดมา...ต้องจำให้ได้ทุกตัวนะคะ ไม่งั้นเชิญบวกย้อนหลังได้เลย(มีผลอย่างไร ค่าปรับมหาศาลคะ)
2.ขึ้นศาลภาษี ง่ายพี่สรรกับสาน คือ กลุ่มราชการเดียวกัน โอกาสที่ ปชช ชนะไม่ถึง 1% ตามที่บันทึกกันมา นอกนั้นเต็มเหนี่ยว ยิ่งกว่าตอนเจรจาพี่สรร นั่นเป็นสาเหตุหน่งที่ ปชช กลัวการขึ้นศาลภาษีมาก โดนแบบมีใบเสร็จโคตรมหาศาลให้มา หลายๆคนจึงจำใจยอมตอนเจรจาพี่สรรดีกว่า
-โดนย้อนหลัง จากบันทึกกรรม ถึงแม้จะมีทะเบียนหรือไม่มี ถ้าโดนโทรหรือเจอเมื่อไหร่ เชิญมาเมื่อไหร่ กล่าวคือ โอกาสต้องเสียตัง(ถึงแม้จะถูก)มีมากถึง 80% ที่เหลือ คือ ดื้อแพ่ง ซึ่งจะโดนblacklist โดนทุกปี(ในฐานะไม่ให้ความร่วมมือโดยดี) นี่คือ ข้อสรุปคร่าวของพี่สรร อยากให้คิดให้ดีๆคะ  :wanwan007: :wanwan007: :wanwan007:

9. เว็บไซต์นายหน้าการขายสินค้าและบริการ

หมายถึง Affiliate Program  เหรอเปล่าครับ

ผมทำเว็บจองโรงแรมยังไม่ได้ตังสักบาท ยังจะเอาอีกเหรอ...

555 ใช่ครับ(ผมสำลักน้ำเลยครับผม)

เวป ไม่หวังผลประโยชน์ไม่โดนนะครับ
เชา่น รับบริจาค
หรือ เวปแหล่งความรู้

มีหลายเว็บซะด้วย :P

ก็ยืนไปครับ ไม่กลังเพราะรายได้ไม่ถึงก็ไม่ต้องเสีย  :wanwan002:

หาเรื่องมาขัดขากันได้ทุกวันหน้อ  :'(

ตีความข้อ 3 ให้หน่อยครับ

เจ้าของเว็บยื่น หรือคนมาโพสขายยื่น ในเมื่อเจ้าของเว็บเขาเปิดให้ลงขายกันฟรีๆ เจ้าของเว็บต้องยื่นด้วยหรือเปล่าครับ  :(

สรุปคือเอาหมดเลยใช่ไหม ดักทุกทาง

รัฐกำลังต้องการเงินด่วน  เท่าที่ดู หนี้ครัวเรือนเพิ่ม การส่งออกไปยุโรปก็ยังเป็นปัญหาอยู่ ชาวนาไม่มีรายได้ ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ในขณะค่าครองชีพสูงขึ้นเรื่อยๆ การจับจ่ายใช้สอยในประเทศน่าจะลดลง ทำให้รายได้จาก VAT ก็พลอยลดไปด้วย รัฐต้องเก็บรายได้จากภาษีเงินได้ให้ได้มากขึ้น

่การไปยื่นข้อมูลให้สรรพากร แม้ตอนนี้จะไม่ต้องเสียภาษี แต่ถ้ามีข้อมูลในระบบแล้วก็ต้องยื่นทุกปี ปีต่อๆมายังไม่มีรายได้พอเสียภาษีอีก ก็ต้องถูกสุ่มตรวจ ระวังจะเจอย้อนหลัง แน่นอนว่าถ้าเวบไม่มีรายได้ เวบก็ต้องปิดตัวลง แต่ถ้าเวลาผ่านไปแจ้งว่าไม่มีรายได้ แต่เวบยังเปิดให้บริการอยู่ ก็ต้องโดน

ขอถามครับ ถ้าเรายื่นขอภาษีแล้วจะต้องเสียทุกปีหรือเปล่าครับ ถ้าสมมุติ ปีนี้เข้าเกณฑ์ต้องเสียภาษี ปีหน้ารายได้ลดลงไม่ถึงเกณฑ์ จะต้องเสียหรือเปล่าครับ

ข้อ 8 คงหมายถึงเว็บที่รับทำ SEO แล้วเรียกค่าจัด

บอกว่ายื่นทุกเว็บไม่ได้หรอก  มีหลายเว็บที่ไม่มีรายได้  ไม่การขายของ  ไม่มีการเรียกเก็บเงิน

หน้าที่อีกอย่างหนึ่งของคนไทย ถ้ามีรายได้ต้องยื่นภาษีครับ

เว็บขายของ จดมาเป็นสิบปีละ แต่หลังๆ ไม่มีคนซื้อ เพราะเจอสินค้าจากจีนตีตลาดไปหมดละ มีแต่คนจีน เข้ามาเสนอส่งของให้เรา เออ ต้องเสียด้วยเหรอครับภาษีเนี่ย เอาเป็นว่า ไปขอคืนภาษีได้ปะ  :wanwan019: ไม่มีรายได้เนี่ย

เฮ้อ..บอกให้ยื่นทุกเว็บเหอะๆ... :wanwan044: :wanwan044: :wanwan044: :wanwan044: :wanwan044: :wanwan044:

แหงะ ไม่มีบัญชี ไม่มีอะไรเลย รายได้ก็ไม่ถึงต้องยื่นด้วยเรอะ เอาอะไรไปยื่นล่ะเนี่ย

ปิดเว็บไปขายในเฟซอย่างเดียวยังง่ายกว่าเลย

ยื่นคร่าวๆ ครับ ถ้าไม่ถึงขอคืนภาษีได้ด้วยนะ...

ข้อ 7 นี่มัน google adsense ใช่ไหมครับ  :wanwan006:

แล้วพวกขายตามเว็ปบอร์ดไม่มีเว็ปยืนยังไงครับ

ถ้าสะดวกยื่นได้ยื่นเลยครับถ้าจะเสียก็เสียไม่มาก ดีกว่าต้องมาโดนเรียกย้อนหลังและเป็นคดีความกันอีกครับ  :wanwan017: :wanwan017:

 ปัจจุบัน กิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นกิจการที่การเจริญเติบโตมาก แต่ผู้ประกอบการบางส่วนยังไม่มีความเข้าใจเรื่องภาษีอากร ดังนั้นกรมสรรพากรจึงรวบรวมประเภท "ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์รูปแบบใหม่" ที่มีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี แสดงให้ผู้ประกอบการทราบเพื่อจักได้ดำเนินการอย่างถูกต้องต่อไป


1.เว็บไซต์แสดงรูป และราคาสินค้า

Catalog Website หมายถึง เว็บไซต์ที่ผู้ประกอบการจัดทำขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่เป็นห้องแสดงสินค้า รายการราคาสินค้า ประชาสัมพันธ์รายการสินค้าโปรโมชั่น ณ ช่วงเวลานั้น ทั้งนี้อาจเน้นไปทางโฆษณาสินค้าตัวใหม่ๆ แต่ไม่ได้มีการซื้อขาย สินค้าออนไลน์แต่อย่างใด หากผู้ซื้อสินค้าสนใจจะซื้อสินค้าจะต้องโทรศัพท์เพื่อสั่งสินค้า ส่วนการชำระราคาค่าสินค้า จะเกิดขึ้นทันทีที่รับมอบสินค้าจากพนักงานส่งสินค้า ข้อสังเกต เว็บไซต์ประเภทนี้จะไม่มีระบบ ไม่มีตะกร้าในการซื้อขาย แต่จะมีเพียงรูปภาพ หรือรายการสินค้าพร้อมราคาเท่านั้น

สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี คือ ผู้ประกอบการที่มีรายได้จากการให้บริการ หรือขายสินค้าผ่านเว็บไซต์
 


2.เว็บไซต์เพื่อการขายสินค้า

e-Shopping หมายถึง เว็บไซต์ที่ผู้ประกอบการสร้างขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนของกิจการ ส่วนใหญ่จะใช้ชื่อกิจการเป็นชื่อเว็บไซต์โดยไม่มีคำอื่นต่อท้าย กิจการจะสร้างกิจกรรมบนเว็บไซต์แบบเต็มรูปแบบ โดยจะมีกิจกรรมต่างๆ มีการเคลื่อนไหวปรับปรุง เปลี่ยนแปลงเว็บไซต์ให้ทันสมัยตลอดเวลา มีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก ในส่วนของการขายสินค้า จะมีระบบการรับชำระ ค่าสินค้า มีตะกร้าให้เลือกสินค้า มีระบบการตรวจสอบการส่งของ มีระบบต่างๆ อีกมากมาย เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า

สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี คือ ผู้ประกอบการที่มีรายได้จากการให้บริการ หรือขายสินค้าผ่านเว็บไซต์
 


3.การขายสินค้าบนชุมชนเว็บบอร์ดโดยผู้ขายไม่มีเว็บไซต์เป็นของตนเอง

Community Web หมายถึง ชุมชนเว็บบอร์ดซึ่งเป็นที่รวมตัวของคนที่มีความสนใจคล้ายๆ กัน โดยทางเว็บไซต์ ได้จัดทำเว็บบอร์ดแล้วอนุญาตให้ สมาชิกนำสินค้าต่างๆมาโพสต์ขายได้ด้วย ซึ่งปัจจุบันจะมีเว็บไซต์แบบนี้อยู่เป็นจำนวนมาก เช่น เว็บสำหรับคนชอบมือถือ กล้องถ่ายรูป อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เป็นต้น ซึ่งการทำเว็บไซต์ให้มีสินค้าตรงกับความต้องการ ของกลุ่มเป้าหมาย จะช่วยให้การขายสินค้าได้ง่าย และรวดเร็วขึ้น
การขายสินค้าบนเว็บบอร์ดของ Community Web เป็นการซื้อขายที่ผู้ซื้อ ส่วนใหญ่จะติดต่อกันทางโทรศัพท์หรือ e-mail ที่ให้ไว้บนเว็บบอร์ด แล้วคุยกันนอกรอบเพื่อตกลงเรื่องราคา ซึ่งมักจะใช้การชำระราคาค่าสินค้าด้วยวิธีการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร และรับสินค้าทางไปรษณีย์

สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี คือ ผู้ประกอบการที่มีรายได้จากการให้บริการ หรือขายสินค้าผ่านเว็บไซต์


4.เว็บไซต์เพื่อการประมูลขายสินค้า

e-Auction (electronic auction) หรือที่เรียกว่า online auction, e-bidding, online bidding หรือ การประมูลออนไลน์ คือการประมูลสินค้าและบริการผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายเห็นความเคลื่อนไหวของราคาขณะประมูลในแบบเรียลไทม์ (real time) โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องของเวลา และสถานที่เข้ามาเกี่ยวข้อง

สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี คือ ผู้ประกอบการที่มีรายได้จากการให้บริการ หรือขายสินค้าผ่านเว็บไซต์
 

5.เว็บไซต์ห้างสรรพสินค้าออนไลน์

e-Market Place หรือ Shopping Mall หมายถึง ห้างสรรพสินค้าออนไลน์ ทำหน้าที่เหมือนห้างสรรพสินค้าปกติโดยทั่วไป คือ แบ่งเนื้อที่ในเว็บไซต์ออกเป็นขนาดเล็กๆ อาจจะจัดเป็นหมวดหมู่ โซนต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการที่สนใจมาเช่าหน้าร้านเพื่อประกอบธุรกิจโดย e-Market Place จะมีระบบจัดการเว็บไซต์ร้านค้าไว้บริการผู้ประกอบการ เช่น ระบบตะกร้าสั่งซื้อสินค้า ระบบรับชำระเงิน ระบบการตรวจเช็คสต็อก ระบบช่วยร้านค้าประชาสัมพันธ์สินค้า ระบบเว็บบอร์ด เป็นต้น

สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี คือ ผู้ประกอบการที่มีรายได้จากการให้บริการ หรือขายสินค้าผ่านเว็บไซต์


6.เว็บไซต์แหล่งซื้อขายภาพถ่ายดิจิตอล

Stock Photo หมายถึง ที่เก็บรวบรวมภาพถ่ายไว้ด้วยกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขายภาพถ่ายนั้น การขายภาพถ่าย เป็นเพียงคุณยินยอม หรืออนุญาตให้ผู้ซื้อใช้ภาพถ่ายของคุณเท่านั้น โดยคุณไม่ได้ขายขาดสิทธิ์ในภาพถ่ายดังกล่าว ดังนั้น ภาพถ่ายยังคงเป็นลิขสิทธิ์ของคุณ อยู่อย่างสมบูรณ์เช่นเดิม ซึ่งทำให้คุณสามารถ นำภาพถ่ายเดียวกันนี้ไปขายซ้ำแล้วซ้ำอีกจะกี่เว็บไซต์ก็ได้ ส่วนภาพถ่ายที่ซื้อมานั้น ผู้ซื้อสามารถ นำไปใช้ในการพิมพ์หนังสือ การพิมพ์เอกสารในโอกาสพิเศษ นิตยสาร บริษัทโฆษณา การสร้างภาพยนตร์ นักออกแบบเว็บไซต์ ศิลปินด้านภาพ บริษัทรับตกแต่งภายใน และด้านอื่นๆ ตามต้องการ ปัจจุบัน Stock Photo ไม่ได้รับเฉพาะภาพถ่ายเท่านั้น ยังรับภาพ จากนักออกแบบผู้สร้างสรรค์ภาพ จากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่น โปรแกรม Illustrator, Photoshop อีกด้วย
 

7.การรับโฆษณาจากเว็บไซต์Google

Google AdSense หมายถึง โปรแกรมการโฆษณาสินค้าที่ทาง Google เปิดโอกาสให้กับ ผู้ที่มีเว็บไซต์สามารถ สร้างรายได้ด้วยการ นำโฆษณาของ Google มาใส่ไว้ที่เว็บไซต์ โดยรายได้ จะเกิดจากการมีผู้อื่นมาเยี่ยมชม และการคลิกโฆษณานั้น ซึ่งโฆษณาต่างๆ ของ Google จะเป็นโฆษณาที่มีเนื้อหาสอดคล้อง กับเนื้อหาของเว็บไซต์ กรณีที่เว็บไซต์เกี่ยวข้องกับเกมส์ โฆษณาที่ทาง Google จะส่งมาก็จะเป็นเกี่ยวกับเกมส์ เช่นกัน


 
8.การทำให้ผลการค้นหาบนกูเกิ้ลติดลำดับแรกๆ

SEO หรือ Search Engine Optimization หมายถึง การทำให้ผลการค้นหาจาก Google แสดงข้อมูลเว็บไซต์ติดอันดับต้นๆ ของผลการค้นหาปกติ (Natuaral Search) นักคอมพิวเตอร์สามารถทำได้ด้วยการปรับเว็บไซต์ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การให้คะแนนของ Google หรือที่เรียกว่า PageRank เช่น เว็บไซต์ที่เปิดมาเป็นระยะเวลานาน ผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์จำนวนมาก บทความบนเว็บไซต์มีการปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ ไม่มีข้อความที่คัดลอกจากเว็บไซต์อื่น เป็นต้น โดยเว็บไซต์ที่มี PageRank สูงก็จะได้อยู่ในอันดับต้นๆ ของผลการค้นหาปกติ ผู้ประกอบการที่ต้องการให้ผลการค้นหาของ Search engine ปรากฏบนหน้าแรกของการค้นหาซึ่งจะไม่เกี่ยวข้องกับ Google Adwords / Google Adsense การโฆษณาแบบนี้ผู้ประกอบการต้องว่าจ้างนักคอมพิวเตอร์ที่มีความชำนาญเฉพาะด้านเป็นผู้ดำเนินการ
 

9.เว็บไซต์นายหน้าการขายสินค้าและบริการ

Affiliate Marketing หมายถึง ธุรกิจที่ใช้ระบบการขาย และชำระเงินของผู้ขาย โดยผู้ประกอบการจะชักชวนให้ซื้อสินค้าด้วยการโฆษณาข้อมูลสินค้าผ่านเว็บไซต์ของตนเองแล้วผู้ซื้อทำการคลิกผ่าน Banner หรือ Link ID เพื่อเข้าไปซื้อสินค้า/บริการ จากเว็บไซต์นั้นๆ จึงและจะได้รับผลตอบแทนค่าธรรมเนียมภายหลังการขายประสบผลสำเร็จ
             ผู้ประกอบการในการทำ Affiliate Marketing
                 1. บริษัทหรือเว็บไซต์ที่ต้องการทำการโฆษณาสินค้า/บริการของตนเอง
                 2. Affiliate Network หรือ Affiliate Program Providers หมายถึง เว็บไซต์ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมของบริษัทหรือเว็บไซต์ต่างๆ ที่ต้องการทำการโฆษณาสินค้า/บริการของตนบนอินเทอร์เน็ต โดยผู้เป็น Affiliate Network มีหน้าที่เก็บข้อมูลและดูแลระบบจ่ายเงินค่าตอบแทนให้กับตัวแทนโฆษณา
                 3. Affiliate หมายถึง ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนโฆษณาสินค้า/บริการให้กับเว็บไซต์ต่างๆ
 
10.การเล่นเกมผ่านระบบเครือข่ายออนไลน์

Game Online หมายถึง การเล่นเกมผ่านระบบเครือข่ายออนไลน์ โดยผู้เล่นเกมออนไลน์จะต้องติดตั้งโปรแกรมClient เพื่อเชื่อมโยง กับบริษัทผู้ให้บริการเกมออนไลน์ซึ่งทำหน้าที่เป็น Server ทั้งนี้ข้อมูลต่างๆ ของผู้เล่นเกมออนไลน์จะถูกเก็บไว้ในเครื่อง Server ซึ่งทำให้ผู้เล่นเกมออนไลน์สามารถแข่งขัน และสนทนา (Chart) กับผู้เล่นรายอื่นที่อยู่ในเกมออนไลน์ได้ทันที ทั้งนี้ผู้เล่นเกมออนไลน์ จะต้องเสียค่าบริการ สำหรับการเล่นเกมออนไลน์ตามอัตราและเงื่อนไขที่บริษัทผู้ให้บริการกำหนดไว้           
ประเภทของเกมออนไลน์ มี 2 ประเภท ดังนี้
               1. Massively Multiplayer Online Role-Playing Game (MMORPG) คือ เกมออนไลน์ที่สามารถรองรับ ผู้เล่นเกมได้พร้อมกัน เป็นจำนวนมาก โดยผู้เล่นทุกคนสามารถ มีปฏิสัมพันธ์กันในโลกของเกมได้พร้อมกัน (Real Time Interaction) ซึ่งเปิดโอกาส ให้ผู้เล่นสามารถแข่งขัน หรือผูกมิตรกันได้เสมือนอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง โดยเนื้อหาของเกมส่วนใหญ่ จะเกี่ยวกับการต่อสู้ผจญภัย เพื่อป้องกันตัวหรือในภาวะสงคราม โดยมีลักษณะทั่วไปดังนี้

    ผู้เล่นเกมจะเล่นเป็นตัวละครหนึ่งๆ หรือหลายตัวในเวลาเดียวกัน โดยใช้ระบบการควบคุมตัวละครหลายตัว (Multi Character Control System: MCC) ซึ่งแต่ละตัวจะมีบทบาทต่อเนื่อง และมีจุดเด่น / จุดด้อยที่แตกต่างกันไป
    ผู้เล่นเกมสามารถเพิ่มประสบการณ์ (Level) และเก็บสะสมอุปกรณ์ ต่างๆ (Item) เช่นอาวุธ หรือคะแนน เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง ของตัวละครทำให้มีลักษณะ ที่แตกต่างจากตัวละครตัวอื่นๆ และสามารถแลกเปลี่ยน / ซื้อ ขาย Item ในเกมได้
    ลักษณะการดำเนินชีวิตของตัวละคร จะอ้างอิงเหตุการณ์และการใช้ชีวิตเสมือนสังคมในชีวิตจริง เช่น การแต่งงาน การรับตัวละครอื่นๆ เป็นลูกศิษย์หรืออาจารย์ การรวมกลุ่มกันเพื่อต่อสู้กับฝ่ายตรงข้าม เป็นต้น
    การเล่นเกมจะไม่มีผลแพ้หรือชนะ โดยการเล่นเกมจะต่อเนื่องไปตามเนื้อเรื่องของเกมที่ไม่มีวันสิ้นสุด
    ผู้เล่นเกมโดยส่วนใหญ่จะมีความภักดีต่อเกม ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากลักษณะของเกม ที่กระตุ้นให้เกิดการแข่งขันระหว่างผู้เล่น โดยจะใช้เวลาในการเล่นเกมค่อนข้างนาน เพื่อเก็บประสบการณ์ / Level ในเกม

               2. Casual Game คือ เกมออนไลน์ที่มีตัวการ์ตูนน่ารักสีสันสดใส มักเป็นเกมเล่นง่าย ที่ผู้เล่นเกมไม่ต้องใช้เวลา หรือทักษะในการเล่นมากนัก และสามารถเล่นจบในเวลาอันสั้น ซึ่งเหมาะสำหรับการเล่นเพื่อผ่อนคลาย
           
การคิดค่าบริการเกมออนไลน์
               การคิดค่าบริการเกมออนไลน์ สำหรับเกมออนไลน์นั้นผู้เล่นจะต้องเสียค่าบริการให้กับบริษัทผู้เปิดเซิร์ฟเวอร์เกมออนไลน์ โดยรูปแบบ การเก็บค่าบริการในปัจจุบันจะมีอยู่ทั้งหมด 2 แบบคือ Air time และ Item Selling
               1. Air Time เป็นการซื้อบัตรเติมเวลาเพื่อเล่นเกมออนไลน์ เปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดๆ ก็เหมือนๆ กับบัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือ โดยหากเราไม่ได้เสียค่า Air Time ก็จะ ไม่สามารถเข้าเล่นเกมออนไลน์ได้ รูปแบบของบัตรเติม Airtime ก็จะมีอยู่ 2 ประเภท คือ เติมเป็นเป็นชั่วโมง และเติมเป็นวัน ส่วนใหญ่การเก็บค่าบริการแบบนี้จะเจอในเกมออนไลน์ประเภท MMORPG ตัวอย่างเช่น Ragnarok, LineageII, Mu Online เป็นต้น
               2. Item Selling การเก็บค่าบริการแบบนี้ผู้เล่นสามารถเข้าเล่นเกมได้ฟรี แต่หากต้องการซื้อ item บางอย่างมาใช้ในเกม จะต้องทำการเติมแต้มด้วยเงินจริง เพื่อนำแต้มเหล่านั้นไปใช้ซื้อ item ต่างๆ ส่วนใหญ่การเก็บค่าบริการแบบนี้จะเห็นในเกมออนไลน์ประเภท Casual Game เช่น Pangya, O2Jam, Last Chaos เป็นต้น

ประเภทของบัตรเติมเงิน
               บัตรเติมเงินมี 3 ประเภท คือ
               1. บัตรเติมเงินที่ออกโดยบริษัทผู้นำเข้า
               2. เกมออนไลน์ใช้ได้เฉพาะเกมออนไลน์ที่บริษัทผู้ออกบัตรเป็นผู้ให้บริการเท่านั้น
               3. บัตรเติมเงินทั่วไปใช้ในการซื้อสินค้า/บริการ ทางอินเทอร์เน็ตได้ทั่วไปในประเทศไทย เช่น บัตรเติมเงิน True Money, mPay เป็นต้น



-----------------
โดนข้อ 9. จนได้  :-X

ทุกเว็บจบ!! ง่ายดี  :wanwan031:

เขามุ่งกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นสำคัญ   เห็นตั้งกระทู้กันบ่อย   เปลี่ยนประเด็นไปเรื่อยแต่ละท่าน

เฮ้อ เพลียอะไรจะเยอะแยะไปหมด  :wanwan031:

ผมว่าพี่ท่านนึงตอบไว้ดี ที่ว่า หน้าที่เรา(คนไทย) คือมีรายได้ต้องยื่นภาษีจะเสียหรือไม่เสียก็ค่อยว่ากัน
แต่ประเด็นสำหรับคนทำเว็บอย่างเราก็คือ ยื่นแล้วมันระแวง  :-[

 :'( :'(

เว็บหื่น ด้วยไหม

7. การรับโฆษณาจากเว็บไซต์Google

ถ้าเป็นลักษณะเดียวกันแต่ไม่ใช่ Google จะเข้าข่ายเดียวกันมั้ยครับ ทำไมเค้าไม่พูดแบบรวมๆไปเลย ทำไมต้องเจาะจง Google AdSense

 :wanwan004: :wanwan004:

โอ้ววววว ครอบคลุมอย่างแรง ถ้วนหน้าเลยครับแบบนี้

ถ้ายอดไม่เยอะ ไม่ทำหลายๆ อย่าง ไม่ต้องกังวลครับ ยื่นแล้วคงไม่มีอะไรโอกาสถูกเรียกไปสอบถามเพิ่มน้อยมาก ถ้าใครมีวงเงินเยอะหมุนเวียนบ่อย ทำธุรกรรมตลอดก็ต้องเก็บหลักฐาน รายรับ รายจ่ายไว้ให้ดีครับ

ภาษีไม่กลัว เพราะยื่นตามยอดเต็มตลอด
ที่กลัวคือ รายได้ถึงเกณฑ์จด VAT ค่ะ

  เท่าที่ทราบเรื่องของการเสียภาษีในส่วนของสรรพกรตัวนี้ ยังไม่ออกละเอียดและชัดเจนลึกขนาดนั้นครับ
  โดยรวมแล้วท่านในที่ รับทำSEO หรือ เสียภาษีอยู่และแจ้งรายได้ในนามนิติบุคคลอยู่แล้ว ก็อาจจะไม่ค่อยมีผลกระทบมาก

  ส่วนใหญ่ที่มีผลเห็นได้ชัดเจนคือ ในส่วนของ บุคคละธรรมดาครับ ที่มีเลขบัญชีหรือรายละเอียดอยู่ด้านหน้าเว็บอยู่แล้ว
  สรรพกรจะเพ็งเล็งในส่วนนี้เป็นกรณีแรก  เมื่อเก็บภาษีย้อนหลังได้เยอะแล้ว จะมาเล็งในส่วนของคนที่ทำเว็บและอื่นๆที่ไมไ่ด้ลงชื่อและรายละเอียดไว้ที่หลัง
    ยังไงๆก็ระวังกันด้วยนะครับ ทางที่ดีก็เสียภาษีให้ถูกต้องตามช่องทางที่มีให้ อาจจะซิกแซกบ้างไรบ้างก็ว่ากันไปนะครับ :wanwan003:

ที่จริงสรรพากรก็พยายามจัดเก็บภาษีให้ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยมาตลอด
คนที่เสียภาษีเต็มก็คือคนที่ทำงานเป็นพนักงาน รับเงินเดือน

ปี 55 56 สรรพกรพยายามรีดภาษีจากกลุ่มวิชาชีพอิสระ เช่น ดารา หมอ วิศวกร นักวิชาการ ปัจจุบันอนุญาตให้จัดตั้งคณะบุคคลได้เพียงแค่หนึ่งคณะบุคคล/หนึ่งคน เห็นว่าตอนนี้จะชงเรื่องยกเลิกการจัดตั้งคณะบุคคล  ซึ่งเดิมผู้ประกอบวิชาชีพอิสระมักจะเลี่ยงภาษีด้วยการจัดตั้งคณะบุคคลหลายๆคณะบุคคล เพื่อกระจายรายได้ ทำให้เสียภาษีอัตราต่ำ ทำให้เสียภาษีแค่ 5-15% แทนที่จะเป็น 30-35%

สรรพากรทำแบบนี้ แทนที่จะจัดเก็บรายได้ได้มากขึ้น กลับจัดเก็บได้ลดลง กลุ่มหมอ วิศวกร นักวิชาการต่างๆ ก็เลี่ยงภาษีด้วยการรับงานผ่านหน่วยงานที่รัฐยกเว้นภาษี เช่นสถาบันวิจัย มหาวิทยาลัย โครงการออกแบบก่อสร้างใหญ่ๆที่เป็นของรัฐ เดิมบริษัทเอกชนจะต้องเป็นผู้ยื่นข้อเสนอ ปัจจุบันหลายโครงการก็ใช้หน่วยงานเหล่านี้เป็นผู้ยื่นข้อเสนอโครงการ แล้วจึงส่งงานต่อให้บริษัท หรือเหล่า freelance อีกที ทำให้สรรพากรจัดเก็บภาษีไม่ได้ เดิมสรรพากรยังพอที่จะจัดเก็บได้บ้างในอัตรา 5-15% 

ส่วนกิจการที่ประกอบการทั่วๆไป ทั้งที่ขายออนไลน์และออฟไลน์ ก็คาดว่าไม่เสียภาษีเต็มอยู่แล้ว จากการที่เราเคยสั่งซื้อของ มักจะได้แค่บิลเงินสด ใบส่งของ ไม่เคยได้ใบกำกับภาษี

สำหรับบริษัทนำเข้าส่งออก แม้ว่ามีหลักฐานการนำเข้าส่งออกชัดเจน แต่ก็เลี่ยงภาษีกันได้สบายๆ บริษัทที่รับทำเอกสารก็รับเคลียร์ภาษีไปด้วย การรับ/จ่ายเงินค่าสินค้าก็ใช้วิธีการแลกผ่านคนกลาง เท่าที่เห็นนะ เสียภาษีกันน้อยมาก ส่วนใหญ่จ่ายค่าจ้างให้บริษัทที่รับเคลียร์ ตู้ละไม่กี่พัน ก็จบกันไป ก็ไม่รู้เค้าไปเคลียร์ภาษีกันยังไง

รัฐและสรรพากร น่าจะปรับปรุงการทำงาน ปรับปรุงการให้บริการของรัฐ ปรับปรุงสวัสดิการของรัฐ และทำการส่งเสริม สร้างแรงจูงใจให้ประชาชนเสียภาษี ตามรีดตามเก็บ ถ้าคนจะเลี่ยง ยังไงก็เลี่ยงได้อยู่ดี

ปัญหา คือ คนจะเลี่ยงได้ต้องมีผู้อุปถัมป์ดีหรือมีเพาเวอร์สูงพอสมควร ประเภทธรรมดาแบบคนในเว็บคงไม่มีหรอก และในบอร์ดนี้ดูแล้วเขาก็เต็มใจเสียกันโดยส่วนใหญ่ เพียงแต่ที่ว่านั่นละ ทำไมไม่ทำกับคนที่รายไดสูงๆ ก่อน ให้ตรงไปตรงมาไม่โกง แต่ทุกวันยังเหมือนเดิมแล้วเหมือนว่านแห่เอา พวกทำด้าน aff ด้าน ads บางที่ต้นทุนและเงินส่วนใหญ่ไม่ค่อยชัดเจนปนกันทำให้มีความวุ่นวายพอสมควร บางทีรู้สึกผิดหวังคือทำไมไม่มีระบบการจัดเก็บที่มีประสิทธิภาพและไม่ให้พวกตัวใหญ่ๆ หยุดโกงได้ซะที เราๆ ท่านๆ คงไม่มีใครอยากเลี่ยงหรอกก็ยื่นเสียกันทั้งนั้น เพราะทุกคนก็อยากให้ถูกต้องและไม่มีปัญหาอื่นตามมา ที่มาบ่นๆ เนี่ยเพราะอยากบอกว่าควรมีวิธีที่จะจัดการกับคนเลี่ยงภาษี หรือพวกขี้โกงทั้งหลายได้ที่มักจะมีเงินมีอำนาจในสังคมก่อน ก็คือการทำระบบให้ดีมีขั้นตอนรายละเอียดชัดเจน

มีรายได้ก็ต้องเสียภาษี
ถูกต้องแล้วครับ

เสียภาษีถูกต้อง จะกู้แบงค์ก็ง่ายขึ้นนะครับ  :wanwan003: :wanwan003:

น่ากลัวจุง
เอกสารต้นทุนสินค้าก็ไม่มี จะเอาไปบอกว่ากำไรได้กี่บาท จากไหนเนี๋ย
ต้นทุนกระจุกกระจิก ค่าวินมอไซต์ส่งของงี้

 :wanwan016:

อีกหน่อยนั่งมอไซค์
ก็คงต้องขอใบเสร็จ
จะได้มีหลักฐาน
เพื่อเอามาหักค่าใช้จ่าย

หรือจะใช้บัตรเครดิตจ่ายค่ามอไซค์ดี