ThaiSEOBoard.com

คนเข้ามาขายของออนไลน์เยอะมาก ใครๆ ก็ขายกันหมด แม้แต่เด็ก ม.ต้น ก็หันมาขายของออนไลน์ รู้สึกว่าตอนนี้พ่อค้าแม่ค้าน่าจะมากกว่าลูกค้าด้วยซ้ำ
การตลาดโดนแชร์ไปมากเหลือเกิน หันกลบมาพัฒนาเว็บไซต์ โปรโมท ลงโฆษณา ส่งของไวมากกว่าเดิม ลดราคาให้เท่าร้านที่ตัดราคา ปรับปรุงเว็บให้สวยกว่าเดิมแต่ก่อน ทำทุกอย่าง บลาๆๆๆๆ  แต่ก็วิ่งไม่ทัน เพราะคนอื่นที่เข้ามาแชร์ก็แข่งกันพัฒนาไปมากขึ้นอีก เป็นแดงเดือด ทำเท่าไหร่ก็ได้เท่าเดิมและเริ่มลดลงๆ เพราะมีตัวเลือกมากกว่ามากมายยย  รู้สึก เหนื่อยยย...เหลือเกิน รู้สึกเหมือน เริ่มไม่คุ้ม รู้สึกเหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตน ทำงานประจำ ได้เงินมากกว่านี้ มีเวลาส่วนตัวมากกว่า สุขภาพจิตดีกว่านี้มากเลย คิดไปคิดมา ไม่น่าลาออกมาเลย พอสมัครงานใหม่ก็ยากแล้ว ติดตรงอายุๆๆๆๆ เกิน 30 บ. แทบทุกที่เลย

และเบื่อการตามสินค้าและการด่าทอจากลูกค้าว่าได้รับของล่าช้า (ส่งลงทะเบียน) 2-3 วัน บางทีก็เลยไป 4 วัน จะส่ง ems ก็แพงกว่าเยอะเลย พอขอขึ้นค่่า ems เค้าก็ไม่สั่งของกันอีก เบื่อหน่ายกับลูกค้าออนไลน์เหลือเกินจ้า คนต่างชาติเขาจะนิสัยเหมือนอย่างคนไทยไหมหนอ..เริ่มอยากเปลี่ยนอาชีพแล้วสิ

ก็ไม่รู้จะช่วยไงอ่ะ แต่ก็ต้องปรับตัวล่ะนะ

จะส่ง ems ก็แพงกว่าเยอะเลย พอขอขึ้นค่่า ems เค้าก็ไม่สั่งของกันอีก

แสดงว่าลูกค้าไม่ยอมรับ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่ม

อีกแง่นึงคือเค้าเข้าใจว่าไม่ต้องจ่ายเพราะ คุณค่าที่เค้าได้รับมันต่ำกว่าที่เค้าคิด

ลองหาวิธีทำให้คุณค่าของสินค้าเรามากขึ้นครับ

ผมไม่เคยทำ e commerce นะครับ แต่ผมว่าการเลือกสินค้าเป็นสิ่งสำคัญ การเลือกสินค้าที่มีคนขายน้อยและมีคนต้องการสินค้านั้นๆอยู่บ้าง ก็น่าจะพอไปได้นะครับ

ของเราทั้งโดนตัดราคา อันดับตกสารพัดก็ต้องหาทางทำอย่างอื่นให้เอาตัวเองให้รอด

คนขายเยอะกว่าคนซื้อ เดี๋ยวพอเวลาผ่านไปสักพัก คนขายก็จะลดลงเอง แล้วก็จะมีลดลง เพิ่มขึ้น ลดลงเพิ่มขึ้น แบบนี้ไปเรื่อยๆ
ตามระบบเศรษฐฏิจที่มันปรับตัวเองไปเรื่อยๆ เพราะเมื่อคนขายของออนไลน์เยอะ แต่คนซื้อน้อย
= อุปทาน มากกว่า อุปสงค์ และเมื่ออุปทานมากกว่าอุปสงค์ ผู้ขายทุกรายก็คงไม่ดั้นดนขายมันไปเรื่อยๆ ทั้งที่ขายไม่ได้หรอกครับ ก็ต้องมีคนเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นบ้าง
แล้วทีนี้พอผู้ขายสินค้าออนไลน์หลายๆคนเขาเปลี่ยนไปทำอย่างอื่น ทำให้ผู้ขายที่มีอยู่ลดลง ความสมดุลของผู้ซื้อ กับผู้ขายก็จะเกิดขึ้น
หรือบางทีความต้องการขายก็อาจมีน้อยกว่าความต้องการซื้อ ก็จะทำให้ผู้ขายออนไลน์ขายสินค้าได้ดี แล้วทีนี้พอคนเห็นว่า อ้าว ตอนนี้ขายของออไนลน์เขาขายกันดีมากแล้วนิ
คนก็เทกลับมาขายสินค้าออนไลน์เยอะอีก ปัญหาเดิมก็กลับมา แต่กลไกทางเศรษฐกิจก็จะแก้ไขปัญหาด้วยตัวมันเองแบบเดิม

ฉะันั้นคงไม่มีอะไรแนะนำครับ นอกจากพยายามปรับตัวเองให้ขายได้ในทุกๆสถานการณ์นะครับ

ทุกตลาดมีการแข่งขันครับ

ใครอ่อนแอก็ต้องยอมแพ้ไป ยังไงสู้ต่อไปต้องมีวันของเราสักวันครับ

รู้สึกว่ากำลังเริ่มต้นนะ อะไรจะล่มสลายแล้วหรอ

เริ่มหวั่นใจตั้งแต่ช่วงที่เห็นหนังสือเกี่ยวกับการเปิดร้านออนไลน์เต็มร้านหนังสือแล้ว คิดว่าต่อไปคู่แข่งคงเกิดขึ้นมหาศาล
แต่คู่แข่งที่เกิดขึ้น น่าจะมีมากกว่า 80% ที่ล้มหายตายจากไปภายใน 1 ปี ขณะเดียวกันก็มีคู่แข่งรายใหม่เพิ่มขึ้นมาทดแทน
การที่คนขายออนไลน์เพิ่มมากขึ้น อาจเป็นผลดีกับคนทำ AdSense นะ

เรียกว่าล่มสลายเลยรึ

ทั้งบ้าน ทั้งรถ ที่ผมผ่อนอยู่ก็เจ๊งสิครับแบบนี้  :wanwan004: :wanwan004:

ผมว่าไม่ใช่ยุคล่มสลายหรอก ทุกอย่างต้องปรับตามยุคสมัย

วันนี้วันหยุดผมยังขายได้เยอะเลยนะครับ
เฉพาะ e commerce  > ดูโพสต์ล่าสุด https://plus.google.com/115646125291852563967/posts

1.ต้องหาจุดขาย (ลดราคา เปลี่ยนสี เปลี่ยนแบบ)
2. SEO ค้นดูว่าเว็บเราอยู่หน้าไหน (ถ้าอยู่หน้าแรก 1#) มันต้องขายได้อยู่แล้ว
3. พัฒนาระบบ Shop ให้ซื้อง่าย แจ้งโอนเงินง่าย ไม่ใช่พอลูกค้าเข้ามาซื้อแล้วแล้วทำต่อไปไม่เป็น

ส่วนคำตอบที่ว่าถึงยุคล่มสลาย บอกได้เลยว่า "ผิด" เพราะคุณภาวุธ tarad.com พึ่งบอกผ่าน youtube ว่าประเทศไทยเพิ่งจะเริ่มต้น e commerce
เมื่อทุกอย่างถึงจุดๆ หนึ่งที่เราว่าแข่งขัน (สำหรับไทยอีกหลายปี) คนก็จะเข้าสู่การโฆษณา  > อันนี้เจ้าของเว็บเรา อิอิ  adyim.com ของมองไว้แล้ว

 ถ้าเพียงเท่านี้ ก็รู้สึกท้อซะแล้ว แนะนำให้กลับไปหางานประจำทำเหอะครับ ธุรกิจส่วนตัว อาจไม่เหมาะกับ จขกท.

มันอยู่ที่ว่าขายอะไรมากกว่าครับ

คงจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จริง ๆ ครับ

ใช่ครับ การขายเป็นสิ่งสำคัญของธุรกิจครับ
เราก็ต้องพัฒนาการขายไปเรื่อย ๆ ครับ
ถ้าเราขายไม่ได้ธุรกิจเราก็อยู่ไม่ได้ครับ
 :P

ผมยังไม่เริ่มเลย จะล่มสลายไม่ได้นะครับ อิอิ

เปลี่ยนสินค้าครับ แสดงว่าสินค้าที่คุณทำอยู่ ใครๆก็ขายได้ มันง่ายไป
ถ้าสู้ต่อ คุณก็ต้องเจออะไรแบบนี้ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เดียวนี้ช่องทางการค้าขายออนไลน์ มีหลายช่องทางมาก
โดยเฉพาะ facebook มีอิทธิพลต่อการค้าออนไลน์มาก
และการเผยแพร่ข้อมูลที่แม้แต่เด็กยังรู้ ถ้าไม่ปรับตัวอยู่ยากครับ
การขายก็ต้องปรับตัว ต่อให้คนขายกันเยอะถ้าเรามีฐานลูกค้าเยอะอยู่แล้วก็ไม่มีปัญหา
สาเหตุเดียวที่ลูกค้าจะหนีคุณไปคือ ราคา เพราะลูกค้ามีทางเลือกเยอะ

เข้าใจความรู้สึกเจ้าของกระทู้ค่ะ มาให้กำลังใจนะค่ะ ปีใหม่แล้ว อย่าท้อถอยนะค่ะ ถึงท้อไปก็ไม่ได้ช่วยไร ปล่อยวางค่ะ แล้วก็ลองทำอะไรที่เราถนัดดีมั้ยค่ะ คนเรามีความถนัดไม่เหมือนกัน กว่าจะหาจุดนั้นเจอ คงไม่มีใครทำครั้งเดียวแล้วเจอหรอกค่ะ ลองทำจากสิ่งเล็กๆ ก่อน พอทำได้ประสบความสำเร็จ ก็จะทำให้เรามีกำลังใจขึ้นค่ะ ไม่รู้คนอื่นเป็นเหมือนเราหรือเปล่า เราเป็นคนทำอะไรอย่างเดียวไม่เป็น เป็นประเภทชอบทำ โน่น นี่ นั่น แล้วก็มานั่งบ่นอยุ่คนเดียว แต่เลือกทำแต่สิ่งที่ชอบและสนุก โลกนี้มีอะไรให้ทำอีกเยอะค่ะ ลองเปิดใจรับดู เราอาจไม่ถนัดด้านนี้ แต่อีกด้านเราอาจจะถนัด สิ่งที่ทำไปถึงแม้จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่คิดว่าได้ความรู้แล้วประสบการณ์กลับมาแล้วกันค่ะ อย่ามัวแต่เสียใจหรือท้อถอยกับสิ่งที่ไม่ได้ดังใจเลยนะค่ะ   :-[

หากเวลารู้สึกท้อ ลองนำวิธีของเราไปใช้นะค่ะ คือ เจ้าลายเซ็นต์ด้านล่าง 555+ ต้องมีใครซักคนที่เขายังให้กำลังใจเราอยู่ คนแรกเลยก็คือครอบครัวค่ะ และคนที่เขารักเราค่ะ

มีแต่จะพัฒนาครับ ปัญหาของคุณคือ คุณจับตลาดไม่ถูกครับ

แล้วคุณก็เลยพาลอารมณ์เสีย ผมเห็นคนอื่นเค้าก็ทำแล้ว รวยขึ้นๆ คุณลองศึกษาคนเหล่านั้นดูนะครับ

ทุกปัญหาของคุณนั้นเล็กนิดเดียว สำหรับคนคิดใหญ่

ท้อได้ แต่ห้ามถอยครับ ถ้าจะอยู่ วงการนี้ ต้องปรับตัว แล้วอย่าหยุดคิดและพัฒนาตัวเอง ไม่งั้นเราตามคนอื่นไม่ทันแน่ๆ  :wanwan003: หา หา หา แล้วก็หา ช่องว่างให้เจอ แล้วเสียบตัวเองเข้าไป ขายแต่สินค้าเดิมๆ ที่คนส่วนใหญ่ก็ทำ ก็เหมือน พายเรือรั่วๆครับ.....  :wanwan017: สู้ๆนะครับ

ในโลกนี้ เฉพาะประเทศไทย ผมว่ามีสินค้าให้ขายอีกเยอะ สู้ต่อไปครับ :wanwan003:

หันมาทำอย่างอื่น amazon adsense >:(

เพื่อนที่ทำงานผมยังเห็นเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมาขายได้หลายหมื่นเลย

คนที่เจ๊งกับ ecom มีเยอะครับ แต่คนที่ประสบความสำเร็จกับ ecom ก็มีไม่น้อยเหมือนกัน

ขอแค่ไม่ทำมั่ว วางแผนโปรโมทให้ดี คอยวิเคราะห์และปรับปรุงแก้ไขตลอดเวลา ยังไงก็ขายได้ครับ

ถึงยุคขยายอณาเขต ของ Ecommerce ต่างหากล่ะ

มันคือยุคของการแข่งขัน ต้องยอมรับนะว่ายากกว่าแต่ก่อนเยอะ ถ้าคุณใส่ใจมันทำมันจริงๆเหมือนงานประจำเชื่อว่าต้องเจอช่องทางของตัวเองแน่ๆ ไม่ว่าจะวงการนี้หรือวงการไหนมีการแข่งขันตลอดอยู่แล้ว เสื้อนอนกินไม่มีแล้วจ้า..

เพิ่งเป็นยุคเริ่มต้นเท่านั้นครับสำหรับวงการ e-commerce บ้านเรา ต้องรู้จักวางแผนดีดีอยู่ลอดแน่นอนครับ  :wanwan003:

e-commerce ยังไม่ถึงยุคล่มสลายค่ะ ถึงแม้จะมีพ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่เกิดขึ้นทุกวันก็จริง แต่ถ้าสินค้าของเราดีจริง ขายของแบบจริงจังและจริงใจ บริการและอัธยาศัยดี ขายแบบมืออาชีพอยู่ได้ค่ะ แต่ต้องใช้เวลาพอสมควรไม่มาไว-ไปไวแบบคนที่ขายของแบบมือสมัครเล่นค่ะ

ตลาดออนไลน์เพิ่งจะเริ่ม โดยเฉพาะประเทศไทย
คนเพิ่งเริ่มซื้อกันมากขึ้น กล้าซื้อมากขึ้น

สำหรับคนที่ขายได้อยู่แล้ว มีกลุ่มลูกค้าอยู่แล้ว ก็ถือว่าพอใจกับตลาดนี้
แต่คนที่ยังขายไม่ได้ หรือลูกค้าน้อยอาจท้อแท้ได้

งานออนไลน์ หนักหรือเบากว่างานประจำ
สำหรับผมงานประจำได้ชัวร์ ได้ทุกเดือน ได้ตรงเวลา อย่างช้าก็ไม่เกิน 5 วัน (แต่ส่วนมากก็ตรงเวลา)
แต่ได้น้อย ทำงานเต็มเวลา พักหยุด นอน เที่ยวไม่ได้เลย ต้องวันหยุดเท่านั้น

เรื่องค่าส่ง ยิ่งส่งธรรมดา ผมว่า อยู่ที่ความพอใจครับ คุณให้ลูกค้าเลือกดีกว่า
ส่งฟรี ส่งถูก ส่งธรรมดา หรือส่งเร็ว ส่ง ems

หากใครอยากได้ไว ก็ส่ง ems ใครไม่รีบ ก็รอได้

ระวังสินค้าที่ได้รับแล้วจะซื้อครั้งเดียวเลิก หากได้ช้าแล้วไม่ได้คุณภาพที่ดี ก็อาจเลิกซื้อได้

ต้องถามตัวเองครับว่า งานประจำได้เดือนละ? ขายออนไลน์ควรได้มากกว่า หรือเท่ากันแต่ทำงานน้อยกว่า
แต่หากได้น้อยกว่างานประจำ เปลี่ยนอาชีพ ตอนนี้ยังไม่สายครับ ที่จะเริ่มใหม่ เพราะอายุงานยังอีกไกล

หรือยังไม่ถึงกับเลิกก็ได้ หางานประจำทำเป็นแหล่งทุนหลัก ส่วนออนไลน์เป็นแหล่งสำรองหรือเสริม

ผมไม่ทราบว่า จขกท เริ่มขายมานานแค่ไหน ที่เริ่มท้อแล้ว ผมทำไม่น้อยกว่า 1 เกือบ 2 ปีเลยมั้งครับกว่าจะขายชิ้นแรกได้
และนับแต่วันนั้น จนวันนี้ ขายได้ไม่มีหยุด

อย่าเพิ่งรีบล่มดิครับ ผมเพิ่งเริ่มทำเอง :-X

หาแนวทาง ปรับเปลี่ยนรูปแบบ มองในมุมต่างๆให้มากขึ้น ผมเชื่อว่ามันยังมีช่องทางรายได้อีกหลายทางครับ ท้อได้แต่อย่าถอยนะครับ :wanwan019:

เห็นหัวเรื่องแทบช็อค  :wanwan035: :wanwan035:

ถามว่าอีคอมเมิร์สถึงยุคล่มสลายหรือยัง กระผมขอตอบว่ายังครับเพราะโลกดิจิติลพัฒนาไปเรื่อยๆ เด็กยุกใหม่ใช้เน็ตเป็นหมด โอกาสที่อีก10ปีข้างหน้า ยอดคนเข้าทรูฮิตอาจนับได้เพิ่มเป็น2เท่าครับ นั่นคือวันละ16ล้านคน เพราะถึงตอนนั้นมือถือเครื่องละพันบาทคงเล่นเน็ตได้กันแล้ว ไอโฟน5คงราคาแค่1000-2000บาท เด็กประถมคงพกไอโฟนไปเรียนหนังสือแทนโทรศัพท์และมันคงโทรได้ด้วย ใครจะคิดว่าเมื่อ10ปีที่แล้วเด็กประถมจะพกมือถือไปโรงเรียน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่อีก10ปีเด็กประถมจะพกไอโฟนไปโรงเรียน

คาดว่าตลาดเกมส์ในตอนนั้นคงสามารถทำเงินได้มหาศาล ใครครองตลาดเกมส์คงเป็นมหาเศษรฐีได้เลย

ปล.ส่วนตลาดเว็บฟุตบอลอันนี้ไม่แน่ใจว่าจะรวยหรือเปล่า

เป็นการแข่งขันที่ต้องทำใจยอมรับให้ได้ และคนที่จะยืนอยู่เป็นคนสุดท้ายคือคนที่มีทุนมากกว่า เพื่อรอให้รายเล็ก ๆ ย่อย ๆ ตายกันไปก่อนจากการแข่งขันตัดราคา

เว็บใหม่ทำโปร แรง ราคาจัดได้อยู่ แล้วก็ บริการพอๆ กับเรา ดังนั้น้ลูกค้า สมัยนี้ จะหาข้อมูลผ่านเว็บสำคัญก่อนเลย
เจอคู่เปรียบเทียบก็ตัดเราทิ้ง

สวดยอดชอบความเห็นนี้มาก ผมก็เปนอีกคนหนึ่งที่กำลังจะก้าวเข้ามาสู่วงการนี้ ผมว่ามันกำลังเข้าสู่ยุคทองของวงการนี้ซะอีก
จากที่เห็นตอนนี้บางเว็บก็เริ่มมีการโฆษณาผ่านทางทีวีให้เห็น ถึงเราจะไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่าเค้าแต่ผมว่าเราก็พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเลี้ยงครอบครัวได้มันก็โอเคนะคับ  :wanwan003:

ตอนนี่เป็นยุคทองมากกว่าครับ
มีเว็บที่โฆษณาทางทีวีทำให้คนสนใจมาหาซื้อของทางเน็ตมากขึ้นมากนะครับ
ผมดูแล้วยังอยากเข้ามาซื้อเลย *0*
เข้าไปก็ไม่รู้จะซื้ออะไร เหอๆ

ไม่มีวันล่มหรอก ยกเว้นโลกแตก  :wanwan019: :wanwan019:

ตอนนี้ก็มองหาจุดเด่นให้สินค้าอยู่ แต่หายากเหมือนกัน  :wanwan035:

เห็นด้วยครับ  ทุกตลาดมีการแข่งขัน  ไม่ว่าคุณจะหันมาทำอเมซอนหรือclickbankฯลฯ ต่างก็มีการแข่งขันดุเดือดไม่แพ้กัน  คุณต้องปรับตัวตาม  ถึงจะอยู่รอด

คงยังไม่ถึงขั้น  เรียกว่าล่มสลายครับ

สงสัย จขกท จะท้อครับ เอายันกันท้อไปครับ  :wanwan004:

คนเราทำอะไรใจอย่าท้อ
ถ้าท้อก็อย่าถอย
ถ้าถอยก็อย่าถอน
ถ้าถอนก็ปักหลักสู้ใหม่
ทำมันจนกว่าจะสำเร็จ

เอามาจากยันกันท้อที่ไหนหว่าจำไม่ได้แล้ว

เป็นน้องใหม่เพิ่งหย่อนเท้าเข้าวงการนี้
คิดว่าการแข่งขันดุเดือด คนซื้อเยอะ แต่คนขายก็เยอะ
สรุปว่าต้องปรับตัว ไม่งั้นเราเองเป็นฝ่ายล่ม(จมและฝัน)สลาย

 :wanwan020:

ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไปเพื่อหาหนทางรอดละนะ สู้ๆ  :'(

ล่มสลายกันเลยทีเดียว  :D

มันเพิ่งรุ่งสางเองอ่ะ ผมว่านะ  ;D

ก็ถูกแล้วอย่างคุณว่าครับ นิสัยแบบคุณทำงานประจำความสุขจะเยอะกว่าอยู่แล้วครับ ทำธุรกิจไม่มีอะไรสบายสักอย่างครับ มันต้องฆ่าฟันกันตลอดเวลาอยู่แล้ว  :-[ มีคนตายก็ต้องมีคนอยู่รอดครับ

คนที่รู้จักปรับตัวเท่านั้นที่จะอยู่รอดได้  สิ่งหนีงที่คนทำงานประจำไม่มีคือความกล้าที่จะสู้กับปัญหา  โลกธุรกิจคือโลกแห่งการแข่งขัน ถ้าคุณเก่งกว่าคุณเหนือกว่าคนอื่นคุณก็อยู่รอดได้

โลกอินเตอร์เนคไม่มีทางล่มสลายหรอกครับ มันเป็นทางออกที่ดีที่สุดของคนทำธุรกิจ

อีคอมไทยยังไม่ทันเกิดเลย
อย่าเพิ่งรีบล่มสิ

 :wanwan019:

ประเทศไทยพึ่งแจ้งเกิดไม่กี่ปีเองครับ รีบไปไหน

ในชีวิตจริง ดราม่ายิ่งกว่าขายออนไลน์อีกครับ

ไม่คิดหรอว่าการขายในโลกจริงยากกว่านี้เยอะ ค่าที่ ค่าต่างๆนาๆ

คู่แข่งก็เยอะกว่า ถ้าในโลกออนไลน์ยังไม่ไหว ก็อย่าคิดจะมาทำโลกจริงนะครับ

ไปดูที่ท่องเที่ยวสิครับ เค้าขายเสื้อเหมือนกันเป็นร้อยๆร้าน ตลาดนัด ขายร้ำเหมือนกันเป็นสิบๆร้าน

มันอยู่ที่ทำเล สินค้า และการบริการครับ

ทำเล=seo
สินค้า ต้องมีความแตกต่าง หรือโปรโมชั่น
บริการ ต้องส่งเร็ว คุยดี แนะนำสินค้าที่เหมาะกับลูกค้าได้ดี

แค่นี้เค้าก็ bookmark เว็บคุณแล้วครับ

การแข่งขันในโลกธุรกิจนะครับ สำหรับผมยึดสองแนวคือ

1.ชื่อเว็บ (โดเมน) เด่น   
 :wanwan003:2. สินค้าเด่น (ราคา คุณภาพ ไม่ซ้ำ)

มันมีเกิดมีล่มสลายทุกที่ทุกวงการครับ
ในดีมีร้าย ในร้ายมีดี
แค่เรามองเห็นโอกาสมันก็มีโอกาสเสมอครับ

อ่านและก็เครียดตามเลยอ่า

คนเข้าสู่วงการนี้เยอะมากครับ

ทุกอย่างจะอยู่รอดไม่รอดขึ้นอยู่กับการปรับตัวครับ  :wanwan019:

ทุกวงการก็มีการแข่งขัน แม้แต่ตลาดสด ก็มี การแข่งขันกันตลอดครับ

ทำไมตลาดสด ยังอยู่ได้ ?

เราก็ต้องหาจุดที่เราสามารถอยู่ได้ครับ

ถ้าเราลองเดินเข้าไปในตลาด เราก็จะเห็นร้านค้า ขายของซ้ำ ๆ กัน อยู่มากมาย ร้านขายหมู เหมือน ๆ กัน ร้านขายผักซ้ำ ๆ กัน

การจัดส่งเป็นปัญหาหลักจริงๆ ครับ
สินค้าผมเป็นขวดแก้วด้วย เจอปัญหามาเยอะมากครับ
ลองใช้บริการของเอกชนดูครับ
เขาส่งให้ได้ภายใน 24 ชั่วโมงครับ

E-commerce เมืองไทยยังไม่เป็นตัวอ่อนเลยมั้งครับ ยุโรปหรือเมกาเค้าไปไกลแล้ว ถ้าอยากจะเอาชีวิตรอดในตลาดนี้คุณต้องนำคู่แข่งของคุณทุกๆคน อย่างน้อย 1 ก้าวครับ

หลายคนคิดเหมือนคุณที่ลาออกจากงานประจำมาแล้วจะทำขายออนไลน์เต็มตัว

รับแต่ด้านบวกมาคิดว่า เงินดีกว่า มีเวลามากกว่า เหนื่อยน้อยกว่า ทำงานของตัวเองดีกว่าไม่ต้องฟังเจ้านายด่า และเหตุผลอื่นที่ดีอีกสารพัด

และลืมคิดอีกด้านนึงคือปัญหาที่ต้องเจอ  เช่นร้านอื่นที่คิดขายเหมือนกัน(คู่แข่ง) ทำยังไงให้มีคนเข้ามาดู โปรโมทแบบไหนจะขายของได้ ตัวสินค้า การขนส่ง ลูกค้า ฯลฯ

พ่อค้าแม่ค้าขายของออนไลน์ ยังวนเวียนเก่าไป ใหม่มาอยู่ตลอดค่ะ งานทุกอย่างมันมีปัญหาทั้งนั้น อยู่ที่ว่ากลยุทธ์ต่างๆ เอามาปรับใช้ได้แค่ไหน
คำว่า อึด ถึก ทน ยังใช้ได้อยู่เสมอค่ะ :wanwan003:

ชีวิตจริง ยิ่งกว่าละคร
ผมขอซาร่าแผงหนึ่งครับ

มันอยู่ที่ กลยุทธ์ ครับ

ไม่ล่มนะครับผมว่า หากเราพัฒนาและปรับตัวให้ได้ ยังไงผมว่าต้นทุนก็ยังถูกกว่าoffline ต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้มากๆครับ

มันขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจด้วยอ่ะครับ

ช่วงนี้กำลังเฟื่องฟูสุดๆ ด้วยซ้ำ    ประเทศเราก็กำลังจะโตเรื่องพวกนี้ครับ

คงต้องรอดูมี  3G  อะ   :wanwan013: :wanwan013:

เจ้าของกระทู้ไปไหนแล้วเนี้ย
วงการ e-commerce เฟื่องฟูสุดๆการันตี จากกระทู้นี้ได้  :wanwan016:

กำลังเริ่มตังหากครับ :o

เล่าให้ฟังเฉยๆครับ
ที่บ้านผมเปิดร้านขายคอมพิวเตอร์ อยู่ในจังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน มาได้ 25 ปีแล้ว
ย้อนเวลากลับไปตั้งแต่ยังไม่มี internet
คอมพิวเตอร์เครื่องเท้าห้อง
สมัยเปิดร้านมีเจ้าเดียวในจังหวัด ขายกำไรกระจุย เป็นยุคบุคเบิก คุณพ่อผมเคยได้จับมือกับ บิลเกต ยังมีรูปถ่ายอยู่เลย
วันเวลาผ่านไป คอมพิวเตอร์ เริ่มบูมขึ้น ห้าง IT เกิดขึ้นในจังหวัด
บูมสุดๆ ใครๆก็หันมาขายคอมพิวเตอร์ คนขายเยอะมากๆ
ธุรกิจทุกอย่างย่อมมีคู่แข่ง แล้วธุรกิจทุกอย่างมันก็ไม่ง่าย คนเข้ามาทำเยอะมากมาย
วันเวลาผ่านไป ตลาดเริ่มอิ่มตัว ยอดขายไม่บูม ร้านเยอะๆ มีอยู่รอดบ้าง ปิดตัวบ้าง
สุดท้าย ก็เหลือไม่กี่ร้าน ย้ายไปทำอย่างอื่นกันหมด
เพราะฉะนั้น มันไม่ใช่ยุคล่มสลายหรอกคับ มันเป็นยุครุ่งเรืองที่ใครๆ ก็หันมาทำทางนี้
ผลประโยชน์มันล่อ ค่าเช่าที่ก็ไม่ต้องเสีย จ้างพนักงานก็ไม่ต้อง
ยืนยัดต่อไปให้ได้ เดียวมันก็ลดลงเองโดยธรรมชาติครับ

ปล.อันนี้คือสิ่งที่พ่อผมสอนมาตลอดครับ ธุรกิจทุกอย่างย่อมมีคู่แข่ง

สู้ๆครับ  :wanwan003:

เป็นกำลังใจให้ จขกท ก็แล้วกัน
วันนี้อาจเหนื่อยจนทำให้ท้อ ก็ปิดคอมฯ ปล่อยมันไป
นอนหลับคืนนึง พรุ่งนี้เริ่มสร้างกำลังใจที่จะลุยใหม่
ถ้ายังไม่ดีขึ้น ก็ไปเที่ยว 2-3 วัน ชาร์ตแบต
ค่อยๆ แก้ปัญหาไป

1.เป้าหมาย
2.วิธีคิด (ต้องคิดบวกอยู่เสมอ)
3.การตลาด
4.การวางแผน

4 ข้อนี้ถ้าตอบได้ก็หวานครับ และที่สำคัญคุณรู้ "จุดอ่อน จุดแข็ง" ของธุรกิจของคุณและคู่แข่งหรือเปล่าครับ (อ่านจากหนังสือคุณตัน) ข้อนี้ต้องตอบให้ได้
เรื่องราคาใครขายถูกกว่าแพงกว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ ยกตัวอย่าง Apple ที่มีสินค้าราคาแพงแต่ทำไมมีแต่คนอยากได้อยากซื้อ

ยังไงก็สู้ครับ...อารมณ์แบบท่านผมผ่านมันมาแล้ว ถ้าคุณผ่านได้คุณจะพบกับความสำเร็จแน่นอน  :wanwan003:

ผมว่าทำe-commerce ในไทยอะเวิร์คละครับ คนติดคอมกันงอมแงมเลย :wanwan017:

มันมีหลายปัจจัยที่ทำให้ E-commerce สำเร็จครับ เช่น ตัวสินค้า ราคา ความน่าเชื่อถือ การโปรโมททางไหนบ้าง และอีกหลายอย่างครับ  :wanwan003:

รู้สึกว่ากำลังเริ่มต้น นะครับ

เห็นหัวข้อแล้วรีบปาดเข้ามาอ่านเลยค่ะ  เราก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เริ่มทำ e-commerce ไม่ถึงปีน่ะค่ะ ก็ประมาณ พฤษภา 2555 ถึงวันนี้เกือบปีแล้ว ทั้งที่เรียนมาทางด้านคอมมาตลอดชีวิต โปรเจ็คตรีก็ทำ e-commerce แต่โทหันไปในแนว search engine แต่ก็ไม่เคยคิดทำเพิ่งมาทำ เพราะเห็นการแข่งขันสูงเลยทำงานประจำ  พอทำงานประจำ  แล้วมันเหนื่อยเริ่มตัน ก็หนีไม่พ้นสิ่งใกล้ตัวเลยทำ e-commerce แต่เลือกที่จะทำสินค้าแบรนตัวเอง เบื่อการแข่งขันกันทางด้านราคาแล้วก็ตัดราคากันเอง  ถ้าคุณคิดว่าเบื่อลูกค้า เบื่อการตัดราคา ลองหันมาทำอะไรเป็นของตัวเองสิคะ  ผลิตเพื่อขายส่ง ไม่ต้องยุ่งมากกับลูกค้าเรื่องมาก  แต่ก็การขายทางเน็ต เวลาลูกค้าวีนลูกค้าบ่น เราโมโหก็เดินหนีจากคอมไป แล้วกับมาตอบด้วยข้อความที่นิ่มนวล ใครจะผิดหรือถุก เราเป็นผู้ขายก็ต้องอ่อนน้อมเสมอ   ลองหาจุดยืนเป็นของตัวเองค่ะ  แล้วคุณจะอยู่ในวงการนี้ได้ค่ะ ใครจะวิ่งไปทางไหนไม่ต้องวิ่งตาม  สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

อย่าสู้ต่อเลยครับมันเหนื่อย                 



















ให้ผมทำต่อดีกว่า  :wanwan003:

ผมจัดต่อให้ไม่ต้องกังวลนะครับ  :wanwan007:

ตรงไหนหว่า  :P

ผมว่าระบบในไทยยังไม่ไปไหนย่ำอยู่กับที่นะครับ

เปิดร้านมามากก็จริง แต่ใช่ว่าทุกร้านจะขายได้ เเบบยุครุ่งเรืองของทุกธุรกิจเช่นยุคทองเฟื่องฟูใครๆก็เข้าไปเล่นแต่ว่าใช่ทุกคนที่กำไร


ทุกวันนี้บ้านเรายังยึดระบบ ความน่าเชื่อถือของร้านอยู่  และใช่ว่าทุกร้านนั้นดูน่าเชื่อถือครับตราบใดที่ระบบการจับจ่ายออนไลน์ไม่เหมือนของ ตปท.หรือ ebay บ้านเราก็ยังไม่น่าจะวายวอดครับ และคิดว่าอีกนาน :P

ยังอีกยาวครับ มันแค่เริ่มต้น เดี๋ยวก็อยู่กันไม่ได้เอง ไม้ยืนต้นเท่านั้นที่อยู่ได้

ผมว่า  e-commerce กำลังเดินหน้าอยู่นะ

ถ้าคิดถึงตอนทำงานประจำ กับทำ e-commerce ผมเป็นคนละคนเลย

ไม่อยากคิดถึงตอนเป็นลูกจ้างเลย เหนื่อยมาก เงินก้น้อย อีกทั้งไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง  :-X

ยังไม่ล่มสลายง่ายๆครับ ดูจากการเติบโตของธุรกิจด้านนี้แล้วยังไปได้อีกไกล

ปัญหาน่าจะอยู่ที่สินค้าหรือเปล่าครับ ลองหาสินค้าตัวอื่นๆมาลองขายดู
อาจจะเจอตัวที่ใช่ก็ได้ สินค้ามีอยู่เยอะในตลาดอยู่ที่เราเลือกมาขาย

ยังไงขอให้เจ้าของกระทู้ ลองคิดทบทวน ค่อยๆแก้ปัญหา ผมเชื่อว่าคุณทำได้ครับ

ทำงานทุกอย่างต้องมีอุปสรรค เสมอ เอาใจช่วยคร้าบบ  :wanwan019:

ผมว่ามันกำลังเริ่มมากกว่าครับ เจ้าใหญ่ๆกำลังขยับลงมาลุยเต็มตัวหลายเจ้าเลย

สู้ๆครับ  :wanwan003:

เป็นกำลังใจให้เช่นกันคะ
ส่วนตัวมองว่า e com  ยังไปได้อีกไกล ยิ่งสินค้าบางอย่าง หาซื้อตามท้องตลาดไม่ได้
 ซื้อสั่งทางเน็ตอย่างเดียว

เอ่อ.... คือ

คนที่เปิดร้านขายเสื้อผ้า มีทั้งเจ๊งและไม่เจ๊งใช่ไหม

หรือคนที่เปิดร้านอื่นๆก็มีทั้งเจ๊งและไม่เจ๊งใช่ไหม ???

ecommerce ก็คือการขายของบนอินเตอร์เนต มันก็ต้องมีเจ๊งและไม่เจ๊งอะครับ

แต่ปกติ  ถ้าคุณ หาของมาขายได้ และของนั้นไม่มีตลาดนั้นมาก่อน

หรือมีตลาดมาก่อนแต่ของคุณมีจุดที่ของชิ้นเก่าไม่มีก็ จะำทำให้ขายได้แน่นอน หรือไม่ก็ราคาถูกกว่าคนอื่น


ส่วนเรื่อง pr นั้นสำคัญครับ  โฆษณาเดือนนึงทุ่มไปเลย 10000+ รับรองคุณขายได้แน่ๆ  ถ้าคุณได้ 10001  คุณก็กำไรแล้วครับ 1 บาท  สู้ๆๆ

 :P

ยังขายได้อยู่ทุกๆวัน

ใจเย็นๆ ค่อยๆหาตลาดใหม่ดีกว่า

ตลาดไหนแข่งกันเดือด เราอย่าไปยุ่งเลย

เจ็บตัวเปล่าๆ

 :P จะรีบล่มไปไหน

พานิชยภูมิประดุจสมรภูมิ แค่นั้นแหละครับ ไม่มีอะไรสบายหรอก

อย่างเพิ่งท้อครับ ของผมยอดตกมากตั้งแต่เพ้นควิ้น แพนด้า แต่พอลองปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ทำโฆษณาเพิ่มขึ้น  ยอดขายก็ดีขึ้นอีก

 :wanwan011: เค้าอยู่ได้เราก็ต้องอยู่ได้ครับ

สงครามราคาครับ ต้องสร้างแบรนด์ตังเองแต่ก็ไม่ง่ายเลย

อย่าเพิ่งล่มสิ ผมเพิ่งจะเริ่ม  :-X

ถึงเวลาที่ online เป็นแค่อีกหนึงช่องทาง ต้องใช้ปัจจัยหลายๆอย่างมา control ครับ

เอาใจช่วยน่ะค่ะ  :wanwan003:

เข้ามาเพราะหัวข้อ ต๊กใจหมดเลย

แนะนำเจ้าของกระทู้
1.ให้หาสินค้าที่แตกต่างและดีกว่าคู่แข่ง สินค้าที่เหมือนกันจะขายได้ยากขึ้น และถึงวันหนึ่ง คนขายก็จะอยู่กันยาก เพราะการตัดราคา
2.สร้างแบรนด์ หากแบรนด์ติดแล้ว อะไรจะง่ายขึ้นเยอะ
3.ควรขายสินค้า 2 อย่างขึ้นไป (2เว็บไซต์)เผื่อตัวหนึ่งขายไม่ดี อีกตัวหนึ่งจะได้ทดแทนกันได้
4.ศึกษาเรื่องการตลาด อย่างลึกซึ้ง ให้เก่งกว่าคู่แข่ง
5.เก็บเงินเอาไปลงทุน ให้เงินทำงานแทน วันข้างหน้าจะได้สบาย

โชคดีปีใหม่ครับ

เหล่าพ่อค้า แม่ค่า เขาก็เป็นลูกค้าในตัวเหมือนกันนะ ^^

ยังไม่ล่มสลายหรอก มีแต่รุ่งกับรุ่ง เพียงแต่คุณเริ่มเบื่อหน่ายเท่านั้น ลองตั้งสติแล้วหาสินค้าดีๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นสินค้าหายากก้อได้ เป็นสินค้าที่แชร์ตลาดได้ก้อขายได้เหมือนกัน สู้ๆๆครับ เป็นกำลังใจให้ :'(

มันพึ่งเริ่มต้นต่างหากล่ะ

ไม่ล่มหรอกครับ ผมขาย หัวน้ำหอม บนเน็ตมา 6 ปีกว่าแล้ว การแข่งขันสูง แต่ไม่เคยลดราคาลงไปแข่ง กับเว็บอื่นๆ เพราะ เราเอาใจใส่ คุณภาพ สินค้า และ บริการ ตามนั้นครับ

ถูกครับ ประเทศไทย มีเน็ตใช้ไม่กี่ปีเองนะครับ !  :wanwan031:

มันกำลังเริ่มบูมครับ   Boom Boom Boom

อย่าเพิ่งเลิกครับ ถ้ายังไม่ได้ลองทำมันอย่างสุดความสามารถของเราแล้ว  :wanwan003: :wanwan003:

5555555555+

คือ..........  ไม่รู้จะพูดอะไร  ประสบการณฺ์จะสอนตัวคุณเองครับ ^^

ผมมั่นใจว่าตอนนี้คุณคงจะเริ่มมีความมั่นใจขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ หลังจากที่ได้อ่านคำตอบของเพื่อนๆ ไทยเสียวแห่งนี้
ผมก็ยืนยันอีกเสียงครับ
มันยังไม่ได้เริ่มเลยครับ  แต่อีกประมาณ 3-5 ปี อันนี้สิจะเห็นได้ชัด
เพราะมันเป็นยุคที่เด็กติดเกมเริ่มมีรายได้  ทำไมหรอครับ
เด็กติดเกมมีพฤติกรรมในการจ่ายเงิน โอนเงิน ซื้อขายแลกเปลี่ยนของบนอินเตอร์เนตอย่างสบายใจ ไม่กังวลครับ
จะทำให้ยุคที่จะถึงมีการซื้อของบนอินเตอร์เนตมากกว่าออกไปซื้อเอง

มันเพิ่งจะเริ่มขึ้นต่างหาก 55+

 :wanwan010:

สู้ต่อไป

อีคอมเมิช  ต้องดูอย่างอเมริกาครับ  ที่นั่นน่าจะเรียกว่า อีคอมเมิชได้
แต่ว่าประเทศไทย  น่าจะยังกึ่งๆอีคอมเมิช     ยังไม่เข้าสู่อีคอมเมิชเต็มตัว     เพราะฉนั้นจึงยังล่มสลายไม่ได้   :wanwan012:  เพราะยังไม่เข้าอีคอมเมิชนั่นเอง   พูดไป งงไป  :wanwan012:

ผู้เข้มแข็งเท่านั้นที่อยู่ได้ค่ะ :-[

มันกำลังโตขึ้นเรื่อยๆครับ

ชนะกันที่การตลาดมากกว่าครับว่าจะเล่นกันยังไงกับยุคสมัย

แต่ Ecom กำลังโตขึ้นเรื่อยๆ และจะขึ้นไปตลอดครับ กว่ากราฟจะตก คงจะตายไปก่อนละ ^^

พูดถึงเรื่องอายุเกิน 30 แล้วหางานไมไ่ด้ ผม 29 เลยรีบเปลี่ยนที่ทำงานเลยกลัวอายุเกิน haha

ส่วนเรื่องขายของผมเก็บเงินค่า EMS แพงกว่า ส่งลงทะเบียนธรรมดาแค่ 20 บาท เข้าเนื้อก็บ่อย ต้องยอมครับ เพราะใจจริงอยากให้เค้าเลือกแบบ EMS มากกว่าได้เร็ว และมันติดตามได้ง่าย แต่แฟนขายพวกเสื้อผ้าแฟชั่น ก็จะเลิกขายแล้วเหมือนกัน เพราะมันแข่งขันกันเว่อร์เกิน แถมกำไรก็น้อย อยากขายของให้ต่างประเทศ ผมลองไปศึกษา eBay อยู่พักนึงแล้วก็หมดไฟ เจอค่าส่งก็หนาวแล้ว เลยขายของในไทยเหมือนเดิมดีกว่า

ตอนแรกผมเข้ามาลองจับตลาดดูก็คู่แข่งไม่เยอะครับ แต่ตอนนี้เพียบเป็น Red Ocean ไปเลย

...ต้องคิดบวกแบบนี้แหละ จะได้มีกำลังใจ  :wanwan013:

ตลาดโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ผู้ขายก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ วงการนี้ไม่สลายครับ แต่การต่อสู้กันจะรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ใครทุนหนา ปัญญาดี มีความสามารถก็รอด ใครทุนน้อยก็อย่าเิพิ่งท้อครับ เราใช้สติปัญญาและความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานให้เป็นที่เชื่อมั่นของลูกค้า เราก็รอดได้เช่นกันครับ ^_^

ตามท่านนี้พูดเลยครับ เมื่อสินค้าได้รับความนิยม คู่แข่งก็สูงและเคี่ยวลากดินเป็นธรรมดา

สินค้าของ จขกท. เป็นสินค้าในทะเลเลือดหรือเปล่าหล่ะครับ
ลองหาสินค้าใหม่ มาทดสอบดูซิครับ

ขอบคุณทุก comment ทุกคำแนะนำ และทุกกำลังใจค่ะ จะพยายามอดทนสู้ต่อไปค่ะ

หาแนวทางใหม่  อย่ายึดติดกับรูปแบบเดิมๆ :wanwan013:

ยังไม่ล่มสลายค่ะ เป็นไปตามกลไกการตลาดค่ะ

ประเด็นของ จขกท. คือการอยุดอยู่กับที่ และไม่รู้จักการเปิดโอกาสให้ตนเองได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ทำให้เวลาเราเจออุปสรรค + ภาวะทางการเงิน ก็ท้อและขาดกำลังใจครับ จากความรู้ส่วนตัว ผมจะอยู่รอดใน IM หรือ ไม่ ต้้องไม่ใช่การฝากความหวังของเราไว้กับธุรกิจใดเพียงธุรกิจเดียว และต้องพัฒนาไม่อยุด ไม่มีคำว่าถอยหลัง และยอมแพ้ ครับ คุณถึงจะเห็นทางออก ... เชื่อผมไหมละ ผมผ่านจุดนั้นมาแล้ว เราทุกคนต้องเจอความยากลำบากทุกๆ งาน ทุกๆ ธุรกิจ แต่สิ่งไหนที่เราทำแล้วภูมิใจและเป็นของเราได้จริงๆ ก็ลองคิดดูครับ

ค้นหาต่อไป อย่าเพิ่งท้อ แต่ต้องมองให้ขาดว่าจะทำอะไร ต้องศึกษาให้เข้าใจในธรรมชาติ

ของสินค้านั้น อาจต้องใช้เวลา อดทนๆๆๆๆๆๆๆ

ต้องบอกว่าถึงยุคล่มสลายของการขายสินค้าที่โดนคู่แข่งเลียนแบบง่ายครับ

ลองหาตำราพวกการตลาด หลัก4 P
มาอ่านดูครับ

1 Product คือสินค้า/บริการ ที่เราทำธุริจส่วนตัวและต้องการขายให้แก่ลูกค้า ถือได้ว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด โดยเราต้องพิจารณาว่าลูกค้าของเราต้องการอะไร และเราควรที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้านั้น เช่น ถ้าเราต้องการขายอาหารในสถานที่ท่องเที่ยว
แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะขายอาหารอะไร เราก็อาจจะพิจารณาขายอาหารที่หากินทั่วไปไม่ได้ เนื่องจากว่าลูกค้าที่มาสถานที่ท่องเที่ยวน่าจะอยากกินอะไรที่แปลกไปจากชีวิตประจำวัน หรือในทางกลับกันก็อาจจะทำอาหารทั่วไป แต่มีรสชาติที่อร่อยจนโดดเด่นก็ได้
โดยในกรณีที่เรามี Product ที่ไม่เหมือนใครหรือสินค้าเรามีความโดดเด่นจากคู่แข่ง เราก็สามารถที่จะขายราคาแพงได้ (เพราะไม่มีสินค้าคู่แข่งมาเปรียบเทียบราคา)

2 Price คือราคา สินค้า/บริการ โดยทั่วไปลูกค้ามักจะชอบสินค้าที่ราคาถูก แต่ก็ไม่เสมอไป ขึ้นอยู่ว่าเราวางตำแหน่งผลิตภัณท์ของธุรกิจส่วนตัวของเราและกลุ่มลูกค้าอย่างไรด้วย
ยกตัวอย่างเช่น เราต้องการวางขายเครื่องสำอางในห้างหรู แต่เราไปขายเครื่องสำอางราคาถูก กลุ่มลูกค้าก็อาจจะไม่ซื้อเครื่องสำอางราคาถูกเพราะไม่ถูกกับรสนิยมลูกค้า หรือกังวลว่าเครื่องสำอางราคาถูกอาจจะใช้แล้วไม่ปลอดภัยก็เป็นได้
แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าเราเอาเครื่องสำอางราคาถูกนั้นไปขายที่ตลาดนัด อาจจะขายได้มากกว่า ลูกค้าที่ตลาดนัดน่าจะซื้อเครื่องสำอางโดยเน้นที่ราคาไม่แพง
นอกจากนี้การตั้งราคาของธุรกิจ SME ควรดูว่าคู่แข่งในตลาดของเราขายสินค้าชนิดเดียวกับเราหรือสินค้าใกล้เคียงกัน ตั้งราคาเท่าไหร่ เราควรตั้งราคาที่สามารถแข่งกับคู่แข่งได้ด้วย
ดังนั้นการตั้งราคา ควรตั้งราคาสินค้า เราควรพิจารณาถึง ลูกค้า + ภาพลักษณ์สินค้า + คู่แข่งในตลาด

3 Place คือสถานที่ขายสินค้า ควรพิจารณาว่าสินค้าของธุรกิจส่วนตัวเราจะมีกลุ่มลูกค้าอยู่ที่บริเวณไหนจำนวนมาก
เช่น ถ้าเราต้องการขายอาหารพวกนม+ขนมปัง ถ้าเราขายบริเวณโรงเรียนก็มีโอกาสที่จะขายได้ดี (แต่ต้องพิจารณาด้วยว่ามีคู่แข่งแถวนั้นมากไหม)
และถ้าเราเลือกสถานที่ขายสินค้าได้ ควรเลือกที่จะเป็นทำเลเปิด เช่น ตลาด , ห้างสรรพสินค้า,บริเวณรอบมหาวิทยาลัย
เพราะจะมีคนผ่านไปผ่านมามากมาย ที่สามารถเป็นลูกค้าของเราได้
เราไม่ควรเลือกสถานที่ที่เป็นทำเลปิด คนผ่านไปมาน้อย เช่น เปิดร้านภายในหมู่บ้าน เพราะลูกค้าของเราจะเป็นหน้าเดิมๆ เช่น ในหมู่บ้านมีคน 500 คน ลูกค้าของเราก็จะหาได้จากแค่คนภายในหมู่บ้านเท่านั้น
และถ้ามีคู่แข่งมาเปิดร้านที่ขายสินค้าเดียวกับเรา เราก็อาจจะโดนแบ่งลูกค้าของร้านเราไปด้วย

4 Promotion คือการจัดกิจกรรมเพื่อช่วยในการส่งเสริมการขายสินค้า ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณา , การจัดกิจกรรมการตลาด
โดยควรจัดกิจกรรมให้เหมาะสมกับสินค้าของเรา เช่น ชาเขียวญี่ปุ่นมักจะจัดกิจกรรมให้ส่งฝาขวดเพื่อชิงโชคไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น , ร้านขายกาแฟ อาจจะทำบัตรสมาชิก ถ้าซื้อกาแฟครบ 7 แก้ว อาจจะแถมให้ฟรี 1 แก้ว
เพื่อเป็นการจูงใจให้ลูกค้าซื้อกาแฟจากร้านเรา ร้านเดียวเพื่อจะได้ส่วนลด

Back to the BASIC ดีที่สุดครับ
พิจราณาตามทฤษฏีเลย

ขอบคุณครับ
คำพูดนี้จุดประกายได้หลายๆอย่างเลยทีเดียว +1 ให้เลย

โดยส่วนตัวคิดว่า น่าจะเป็นยุคทองมากกว่านะค่ะ เพราะออกจากบ้านก็น้ำมันแพง  :P นอนช๊อปที่บ้านประหยัดกว่าเยอะ  :wanwan044:
เพียงแต่การแข่งขันในสินค้าประเภทเดียวกันอาจจะสูงขึ้นกว่าเดิมมาก

แต่หากคุณจำหน่ายสินค้าแปลกๆ โดนใจในกลุ่มกำลังซื้อสูง หรือสินค้าเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) ก็สามารถสร้างรายได้เช่นกัน 
ลองอ่านบทความนี้ดูค่ะ เผื่อเป็นประโยชน์  http://www.oknation.net/blog/iTrendy360/2012/12/14/entry-1
หรือบล็อกนี้ก็ได้ค่ะ แนะนำสินค้านำมาจำหน่ายหรือร้านที่น่าสั่งมาจำหน่าย http://itrendy360.exteen.com/

เป็นกำลังใจให้ค่ะ งานนี้ต้องลองค่ะ และนำประสบการณ์มาตกผลึกเองค่ะ บอกได้แต่สอนไม่ได้  เพราะทุกวันก็ลองผิดลองถูกเหมือนกันค่ะ ง๊าบๆ :P

เข้ามาเก็บความรู้ครับ :wanwan008:

ปัญหาคือผมยังหาไม่เจอเลยครับ ไอสินค้าแปลกๆเนี่ย :P :P

น่าจะเป็นใกล้ถึงเวลาล่มสลายของ Seller ไทยที่อยากรวยเร็วและไม่ยอมปรับตีวดีกว่าคะ :wanwan005:
1 ชอบขายของตามกัน ไม่อยากคิดมาก :wanwan016:
   ใครชายสืนค้าอะไรดีในเดือนนี้ก็ขายของตาม
    นาย a ขายสืนค้า A คนแรกได้ 300 ชิ้นต่อเดือน   
     นาย a จะได้ลด 50% ถ้าซื้อของ 300 ชิ่นในราคาผู้ผลิต
    นาย b ขายสืนค้า A คนที่สอง ได้ 100 ชิ้นในเดือนที่ 2
    นาย a จะได้ลด 50% ถ้าซื้อของ 300 ชิ่นในราคาผู้ผลิต
      นาย c –z ขายสืนค้า A ได้ Average 10-40 ชิ้นในเดือนที่ 3
     นาย c-z จะได้ลด 50% ถ้าซื้อของ 300 ชิ่นในราคาผู้ผลิต
      ถ้าเกิดสินค้าที่มาขายเป็นยา อาหารเสริม หรือ เครื่องสำอาง มันต้องมีวันหมดอายุ ตอนนี้ สินค้า มีใน Stock 6000 ชิ่น แต่ demand,มี เดือนละ 300
หรือเศรษฐกิจไม่ดี
    ผู้ขาย a –z จะเป็นอย่างไร
ทำสงครามราคาบ้าเลือด ตายเป็น แภบ
2 เห็นเขาว่า Dropship ดี ไม่เสียอะไรมาก :wanwan016:
 ผู้ขายไทย ในอีเบย์ ที่แห่กันทำ Dropship สินค้าประเภทเดียวกันใน ebay
สุดท้าย ผลประโยน์ตกแก่ลูกค้า Seller ใหม่ๆ ตายเป็นแภบๆ :'( :'(
สงครามราคาบ้าเลือด

ปัญหาของจขกท น่าจะมาจากการขายตัดราคาและวิธีจัดการปัญหากับลูกค้า  

เราเลือกขายของแปลก วิเคราะห์โดยใช้ tool ที่เขาให้มา สินค้าแบบนี้ควรจะประมูลวันไหน ราคาตั้งค้น เท่าไหร่ ราคาสูงสุด วิเคราะห์เศรษฐกิจ

ค่าเงินบาท และเราก็หันไปชายลูกค้าในจีน แทนลูกค้ายุโรปที่ไม่มีกำลังซื้อ :wanwan044: :wanwan044:
เมื่อลูกค้าไว้ใจละเชื่อใจในบริการ เขาก็จะถามเราว่าเธอทำไมไม่สินค้าตัวนี้มาขาย :wanwan005:
เราลองคิดว่าเราควรจะขายได้เท่าไหร่ใน 1 เดือน
เราขายหมดไป ไป 100 กว่าPack Pack แน่นอนย่อมมีคนตาม
เราก็หยุดขายไปในเดือนหน้า เพราะ ลูกค้า 1 ตน จะใช้ในสินค้าเราหมด ใน 6 เดือน :wanwan019: :wanwan019:
ถ้าบ้านไหนมีสมาชืก 3 คนอาจใช้ของชิ้นนี้หมด ใน 3 เดือน

 :wanwan007: :wanwan007:

ของแปลกที่เรานำเสนอ :wanwan019: :wanwan019:
ตอนนั้นอีเบย์มีหมวด Fantasy อยู่ตอนนี้ไม่มีหมวดนี้แล้ว
เตรียดกับงานประจำเลยไปขายหมวดนี้
ชื่อสินค้า โอ่งสีเงิน โอ่งสีทอง  สำหรับคนที่เก็บเงินไม่ได้ แถมข้าวสารซองเล็กกับเกลือซองเล็กฟรี  :wanwan013:

คนไทยสมัยก่อนถ้ามีลูกหลานที่ใช้เงินอย่างเทน้ำเทท่า เชาจะเอาข้าวสารแห้งใส่โอ่งสีทอง เอาเกลือใส่โอ่งสีเงืน
เอาน้ำเปล่าใส่โอ่งสีทองแล้วไปวางไว้ที่หัวเตียงของลูกหลาน เพื่อจะได้ถือเคล็ดไม่ให้ลูกหลานอดตาย
ลูกหรือหลานก่อนนอนต้องสวดมนต์ แล้วต้องหมั่นคอยเติมน้าให้เต็มโอ่ง ไม่อย่างนั้นคัวเองอาจอดตายได้
มันเป็นโอ่งดินที่เอาสีทองกับสีเงินมาทา  Size 7 cm x 6 cm ใบละ 10 บาท
น้ำมันต้องหายไปเร็วอยู่แล้วเพราะมันเป็นโอ่งดิน ตือเรามีโอ่งสามใบวางอยู่บนหัวเตียงเรา
โดนหลอกมาตั้งแต่เด็ก ถ้าน้ำในโอ่งหายตัวเราจะอดตาย 2 ชมน้ำมันก็แห้งแล้ว แม่กับยายคงไม่อยากให้เราออกไปเที่ยว
เอาเงืนไปซื้อขนมที่ใส่สีไม่มีประโบชน์ ต่อร่างกาย
เรามี slogan ด้วยนะ  Give a tiny silver Jar and 2 tiny gold jars to your nieces or your nephews , Give Love Forever.
 คล้ายกับถ้ายายคายไป หลานเห็นโอ่งอยู่บนหัวเตียง ก็นึกถึงหน่ายายที่คอยเป็นห่วงเป็นใย

คงเป็นสินค้ารายการนั้ที่เราขายแล้วรู่สึกภูมิใจ เพราะมีคนมา บิด เยอะ แต่ละคนก็ฮามาก เช่น 
ฉันเป็นคนใช้เงืนฟุ่มเพื่อยมาก โอ่งแต่นี้คงไม่พอกับกิเสลของฉัน ฉันค้องเพิ่มจำนวนโอ่งหรือขนาดของโอ่งหรือเปล่า
ผ้าที่ถักโคเชร์ที่รองโอ่งสวยมาก เธอมีขายอีกไหม

ขายโอ่งราคา 30 บาท รวมข้าวสาร เกลือ หักค่าใข้จ่ายได้กำไร 490 บาท 
วันนี้ลูกค้าที่ประมูลโอ่งชนะส่ง Chocolate timtam จากออสเตรเลียมาให้ ซึ่งรสชาตืต่างกับของที่เมืองไทย

 :wanwan007: :wanwan007:

เห็นกระทู้แล้วโดนใจสุด ๆ เพราะเจอปัญหาเดียวกัน ก็ท้อมาหลายรอบเหมือนกัน
ตอนนี้ก็ยังหาทางออกไม่เจอะ แต่ไม่ถอยค่ะ... (ถอยไม่ได้แล้วด้วยมั้ง.... :wanwan002:)

วันนี้เหนื่อย ท้อ ก็ไปนอน พักผ่อน ฟังเพลง หรือไม่ก็หาอะไรที่ชอบ กิน..กิน (อาจจะอ้วนก่อน..ฮา ๆ)
แต่พอพรุ่งนี้ มันอาจจะคิดอะไรออกก็ได้ หรือถ้ายังคิดไม่ออก ก็ทำไปเรื่อยๆ ก่อน

เราอยู่ตลาดนี้มาจะเจ็ดปีแล้ว ทำตั้งแต่ยังมีคนทำจริงจังไม่เยอะ จนเริ่มเยอะขึ้น ๆ ๆ ๆ แล้วตอนนี้ก็ล้นจ้า
จะเลิกหลายรอบแล้ว แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะหาสินค้าอะไรมาขายที่แตกต่าง
ดังนั้น ยังไงเราก็ต้องทำต่อไป สู้ต่อไป ท้อได้แต่ถอดยไม่ได้ ให้มันรู้ไปว่าจะไม่มีที่ยืน..

สู้ ๆ นะคะ ยังมีคนอยู่ในสภาพเดียวกับคุณเยอะค่ะ  :wanwan019:

ผมว่ายังไปได้สวยนะครับ

ขายของสินค้ามันเยอะมากครับ ที่จะสร้างรายได้เป็นแสนๆต่อเดือน บางทีเราอาจไม่รู้ หรือคิดไม่ถึงก็ได้

ลองหากุนซือสักคนมาคอยปรึกษาครับ บางทีเราก็เดินไปถูกทางแล้ว แต่กลับเลิกไปก่อนที่มันจะถึงจุดหมาย

เห็นด้วยค่ะ

ไม่ล้มหรอกค่ะ แต่อาจจะต้องใส่ความคิดความเอาใจใส่ไปเยอะๆ ถ้าอยากทำงานสบายๆต้องสมัครข้าราชการแล้วล่ะค่ะ

ตราบใดที่มีคนใช้งานอินเตอร์เน็ตมากขึ้น E commerce ก้ยังอยู่ได้

ยังขายได้เรื่อยๆ ครับ เพราะไม่ต้องลงทุนสูง ไม่ต้องมีหน้าร้าน ไม่ต้องดูแลมากมาย

ระวังภาษี 7 %

ความคิดส่วนตัวนะครับ ต่อไปโทรศัพท์นี่แหละตัวดีที่จะทำให้การซื้อผ่าน อีคอม ง่ายขึ้น  :wanwan020: :wanwan004:

ผมนะครับ ------> ล่ม แล้ว ครับ คู่แข่ง เพียบ กดราคาด้วย
คนที่ขายของได้ -------> ยังไม่ล่มเลย ผมยังขายได้วันละ 10000 ขึ้น
 มีหลายมุมมองครับ เราขายดี มันก็ไม่ล่ม
ขายไม่ดี ก็ล่ม กี่ปีๆ ก็จะเป็นอย่างนี้ครับ
ฉะนั้น ทำงาน หนักๆๆครับ   :P