หัวข้อ: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: jass ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 14:06:13 ดูแลสุขภาพด้วย เห็นว่ามีประโยชน์ เอามาฝาก
วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เนื่องด้วยปัจจุบันได้มีร้านอินเตอร์เน็ตหรือร้านเกมส์เยอะและมีคนเล่นเกมส์และเน็ตเป็นเวลานานรวมถึงคนที่ทำงานที่ต้องอยู่หน้าคอมเป็นเวลานานควรพึงระวังไว้เกี่ยวกับโรคภัยที่จะตามมากับการอยู่หน้าคอมเป็นระยะเวลานานๆ เตือนคนที่ใช้คอมพิวเตอร์บ่อย ไม่ว่าจะใช้เล่นเกมส์ หรือใช้ว่าทำงานลองอ่านดูนะ แล้วก็ดูแลตัวเองด้วย ตอนนี้ในประเทศไทยมีคนเป็นโรค 'วุ้นในลูกตาเสื่อม' ถึง14 ล้านคนแล้วครับจากข้อมูลทางหนังสือพิมพ์??นี่เฉพาะแค่ที่มีข้อมูลบันทึกไว้นะครับคนที่ไม่รู้ตัวเองว่าตัวเองก็เป็นจะมากขนาดไหน ผมคิดว่า ในขณะที่คุณอ่านข้อความของผมนี้จากทางเนตบางคนก็เป็นแต่ไม่รู้ตัวครับ อาการก็คือ :คุณจะเห็นเป็นคราบดำๆ เหมือนยักใย่ ลอยไปลอยมาเหมือนคราบที่ติดกระจกน่ะครับ จะเห็นชัดก็ต่อเมื่อคุณมองไปยังภาพแบล็คกราวนด์ที่มีสีสว่าง เช่น ท้องฟ้าขาวๆ ฝาห้องขาวๆฝาห้องน้ำขาวๆ จะเห็นเป็นคราบดำๆ ลอยไปลอยมา ถ้าอาการมากกว่านั้นก้อคือประสาทตาฉีกขาด คุณจะมองเห็นแสงแฟลชในที่มืด ไม่ว่าหลับตาหรือลืมตา(น่ากลัวมากๆ) และถึงขั้นนี้จะต้องผ่าตัด(ซึ่งไม่มีอะไรรับประกันว่าจะดีเหมือนเดิม จะตาบอดหรือไม่ ?) สาเหตุของโรคนี้คือ : การใช้สายตามากเกินไป (เล่นคอม) แต่ก่อนโรคนี้จะเกิดกับผู้สูงอายุหรือ คนที่มีอาชีพใช้สายตามากๆ เช่น ช่างเจียรไนเพชรพลอยที่ต้องใช้สายตาเพ่งมากๆแต่เดี๋ยวนี้คนเป็นโรควุ้นในลูกตาเสื่อมกันมากเพราะ เล่นเนต หรือ เล่นคอม คุณฟังไม่ผิดหรอกครับ เดี๋ยวนี้คนเป็นโรคนี้กันมากเพราะเล่นคอมนี่แหละ ถามว่าทำไมคนเล่นเนต เล่นคอม ถึงเป็นกันมาก?ไม่ว่าคุณจะเล่นเนต,เล่นเกมส์,อ่านไดอารี่,อ่านบทความ,อ่านหนังสือหรืออะไรก็ตาม ที่อยู่บนจอคอมพิวเตอร์ ล้วนทำให้สายตาคุณเสียได้ทั้งสิ้นเพราะว่า ถ้าคุณอ่านหนังสือที่เป็นแผ่นกระดาษธรรมดาๆ ระยะห่างระหว่างลูกตา กับ ตัวหนังสือ จะคงที่แน่นอน เพราะขอบของตัวหนังสือจะคมชัดทำให้สมองกะระยะโฟกัสได้ถูกต้องแน่นอน กล้ามเนื้อและประสาทตาจึงทำงานค่อนข้างคงที่ แต่ !ตัวหนังสือบนจอคอมพิวเตอร์นั้น มีลักษณะเป็นจุดๆ ประกอบกันเหมือนแขวนลอยบนจอ ขอบของตัวหนังสือไม่ชัด สมองจะสับสนในการปรับระยะโฟกัส(เพราะจอแก้ว จะมีความหนาของแก้ว แต่เรามองผ่านมันไป และจอ LCDเราก้อต้องมองผ่านเข้าไปเหมือนกันตัวหนังสือมันไม่ได้ติดอยู่ด้านบนเหมือนอยู่บนแผ่นกระดาษการปรับระยะโฟกัสจึงไม่แน่นอน ) บวกกับลักษณะการอ่านหน้าหนังสือในคอมนั้นจะต้องใช้เม้าส์จิ้ม ลากแถบด้านข้างจอ เพื่อเลื่อนบรรทัดหนังสือขึ้นลงเพื่อจะอ่านบรรทัดด้านล่างได้ หรือไม่ก็ใช้ลูกหมุนที่อยู่บนเม้าส์หมุนเพื่อเลื่อนบรรทัดหนังสือ แต่การเลื่อนบรรทัดนี้มันไม่เหมือนกับการอ่านหนังสือจากแผ่นกระดาษที่แขนกับคอจะปรับการมองขึ้นลงโดยอัตโนมัติ มีระยะที่แน่นอน สัมพันธ์กัน แต่ว่าการเลื่ อนบรรทัดด้วยแถบด้านข้างหรือลูกกลิ้งบนเม้าส์นั้นมันจะมีลักษณะการเลื่อนแบบกระตุกๆ (คุณสังเกตุดู) มันจึงทำให้ปวดตามากๆเพราะลูกตาจะต้องลากลูกตา เลื่อนตามบรรทัดที่กระตุกๆ นั้นไปตลอด บวกกับการพิมพ์ตัวหนังสือนั้นบางทีคุณต้องก้มเพื่อมองนิ้วว่ากดตำแหน่งบนแป้มพิมพ์ถูกตัวอักษรหรือไม่ทำให้เดี๋ยวก้ม เดี๋ยวเงย ลูกตาปรับโฟกัสบ่อยเกิน ทำให้ลูกตาทำงานหนักกว่าจะพิมพ์งานเสร็จคุณจะปวดตามากๆ อย่างเด็กนักศึกษา เร่งพิมพ์รายงานส่งอาจารย์ ติดต่อกันข้ามคืน สองสามวันตาจะปวดมากๆ รวมทั้งเวลาการเปิดโปรแกรม wordในการพิมพ์ตัวหนังสือมักจะมีสีพื้นที่เป็นสีสว่าง (ที่นิยมก็คือตัวหนังสือดำ พื้นสีขาว ) สีพื้นที่สว่างขาวจ้า นี่เองทำให้ตาคุณจะเกิดอาการแพ้แสง ถ้ามีการพิมพ์ติดต่อกันนานๆเพราะจ้องจอสีขาวนานเกินไป หรือไม่ก็ในคนที่ชอบเล่นเกมส์บ่อยๆมักจะมีการปรับแสงสว่างให้จ้าที่สุด เพราะเวล าเล่นเกมส์ภาพพื้นหลังของเกมส์มักจะมืดๆ เป็นสีกำแพง เป็นสีปราสาท มันจะให้สีสวยสดดีแต่การทำแบบนี้มีข้อเสียคือบางทีคุณหรือพี่น้องของคุณมาใช้คอมเครื่องนั้นต่อจะทำให้บางครั้งลืมปรับความสว่างกลับมาให้มืดเหมือนเดิมจากที่แค่สว่างพอที่จะพิมพ์รายงาน กลายเป็นจ้องจอสว่างจ้าตลอดคืนไม่รู้ตัวสรุปก็คือ 1. การมองตัวหนังสือที่แขวนลอยอยู่ในจอ โฟกัสไม่แน่นอน กล้ามเนื้อลูกตาทำงานหนัก 'ทำให้สายตาเสีย' 2. การเลื่อนตัวหนังสือและแถบบรรทัดในหน้าคอม หรือ หน้าเนต มันจะเลื่อนแบบเป็นกระตุกๆ ทำให้สายตาเสียการกระตุกๆ ของแถบบรรทัดนี่เองที่ทำให้สายตาเสียถ้าคุณอ่านหนังสือจากเวปมากๆ คุณจะติดนิสัยเสียอย่างนึงติดตัวไปคือคุณจะติดนิสัย มองอะไรก็ตาม ไม่ว่าใกล้ไกล จะปรับโฟกัสมองเพ่งอยู่เสมอผลก็คือ กล้ามเนื้อตาทำงานหนัก คุณจะเริ่มมองของที่อยู่ไกลๆ เบลอๆคุณจะไม่สามารถปรับโฟกัส มองของใกล้ แล้วมองไกล ได้ทันทีเหมือนเคย (กล้ามเนื้อประสาทลูกตาจะล้า การปรับโฟกัสลูกตาเริ่มช้าลง) 3. การก้มๆ เงยๆ มองแป้นพิมพ์ และมองจอคอม กลับไปกลับมา 'ทำให้สายตาเสีย' 4. การปรับจอภาพที่มีแสงสว่างจ้า มากเกินไปโดยไม่รู้ตัว 'ทำให้สายตาเสีย' ข้อนี้คล้ายๆ กับการเปิดดูทีวีในห้องมืดๆ เป็นประจำ แล้วทำให้สายตาเสียน่ะเอง อย่างเดียวกัน 5. การใช้จอคอม ที่มีความกว้างมากเกินจอคอมกว้างๆ นั้น เหมาะสำหรับการดูภาพดูหนังแต่ไม่เหมาะกับการดูตัวหนังสือ เพราะว่าสายตาคนเรานั้นมีระยะการมองตัวอักษรที่ 1 ฟุต (12 นิ้ว) แต่จอคอมสมัยใหม่กลับมีความกว้าง 17 นิ้ว 19 นิ้ว หรือมากกว่านั้นซึ่งมันกว้างเกินระยะกวาดสายตามอง จากขอบหนึ่งไปสู่อีกขอบหนึ่ง (ทำให้ปวดทั้งคอ ทั้งลูกตา )แค่คุณนั่งอ่านหนังสือบนจอกว้างแบบนี้หนึ่งชั่วโมงลูกตาคุณจะทำงานปรับโฟกัส กลับไปกลับมาเป็นพันๆ ครั้ง และถ้าเป็นปี หรือหลายปี ติดต่อกัน สายตาคุณเสียแน่นอน เพราะฉะนั้นถ้าคุณจะอ่านหนังสือจากจอคอมขนาดของจอคอมของคุณต้องไม่เกิน 15 นิ้ว ถามกลับไปว่าทำไม กระดาษเอกสารที่ใช้ในการอ่าน การเขียนทั่วไป จึงมีขนาด A4 ? (คำตอบก็คือ ความกว้างของกระดาษ A4 ไม่กว้างเกินไป กำลังพอดี ในการกวาดสายตามองยังไงล่ะครับ) และเป็นคำตอบเดียวกับที่ว่าทำไมขนาดของจอคอมคุณที่จะเอามาอ่านหนังสือ ไม่ควรเกิน 15 นิ้ว นั่นเองส่วนมากคนทั่วไป มักจะคิดไม่ถึงว่า การเล่นคอมทุกวัน ง่ายๆ นั้นจะเป็นสาเหตุ ที่สามารถทำให้ตาบอดได้ ถ้าเกิดรุนแรงเพราะกว่าจะรู้ตัวไปหาหมอ หมอก็อาจจะบอกว่าคุณไม่สามารถรักษาหายได้แล้วและต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้น!!!& nbsp; ผมจึงอยากจะฝากประโยคเอาไว้ให้คนที่เล่นคอมทุกคนว่าคอมพิวเตอร์นั้น มีไว้สำหรับการค้นหาข้อมูลไม่ได้มีไว้สำหรับการอ่านเป็นประจำ โดยเฉพาะการอ่าน อะไรก็ตามที่ยาวๆเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นไดอารี่ หนังสือบนเนต คุณเสี่ยงทั้งนั้นเพราะฉะนั้น เราควรจะกลับมาอ่านหนังสือกระดาษกันเหมือนเดิมลืมเรื่องเล่นเนต เล่นคอมซะ เพื่อสุขภาพตา ปกติที่เห็นใยแมงมุมดำๆ(เรียกว่า Floaters)เป็นผลจากการเสื่อมสลายของวุ้นในลูกตาจนเกิดเป็นตะกอนข้างในไม่ได้เป็นอันตรายครับ เมื่อเวลาผ่านไปตะกอนจะค่อยๆลอยออกจากลานสายตาไปอยู่บริเวณขอบๆ มากขึ้นจนเราจะไม่สังเกตเห็นมันไปเองแต่คนที่เริ่มมีอาการเห็นแสงกระพริบ (Flashing)นั้นน่าสงสัยว่าอาจมีจอประสาทตาลอก (Retinal detachment) หรือวุ้นลูกตาลอก(Posterior vitreous detachment) ; คนที่เพิ่งจะเริ่มสังเกตเห็นอาการนี้เป็นครั้งแรกแนะนำให้ไปพบจักษุแพทย์ครับเพื่อตรวจดูว่าเริ่มมีจอประสาทตาลอก/วุ้นลูกตาลอกแล้วหรือยังถ้าแพทย์บอกว่ายังไม่มี เป็นแค่วุ้นลูกตาเสื่อมธรรมดา ก็สบายใจได้แต่ไม่ใช่สบายจนลืมระวังตัวนะครับ ต้องคอยสังเกตตัวเองด้วยว่าถ้าเห็นFlashing กับ Floater ปริมาณมากกว่าเดิมแบบเฉียบพลันควรกลับไปพบแพทย์อีกครั้งครับ ในคนปกติจะมีการเสื่อมสลายของวุ้นลูกตาอย่างช้าๆ อยู่ตลอดเวลาครับ แต่จะมีอาการเร็วหรือช้าก็ขึ้นกับปัจจัยเสี่ยงของแต่ละคนอีก คนที่มีสายตาสั้นมากๆ เคยมีประวัติกระทบกระเทือนลูกตาอย่างรุนแรง เคยมีการอักเสบหรือติดเชื้อภายในลูกตา เคยได้รับการผ่าตัดต้อกระจก คนที่มีวุ้นลูกตาลอกหรือจอประสาทตาลอกมาแล้วข้างหนึ่ง คนที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรควุ้นลูกตาเสื่อมหรือจอประสาทตาลอก & nbsp; คนเหล่านี้ก็จะมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดการเสื่อมสลายของวุ้นลูกตาได้เร็วกว่าคนทั่วไป การป้องกัน จากที่ได้อ่านที่ดอสโพสไว้การใช้สายตาให้น้อยลงก็อาจเป็นหนทางหนึ่งที่ป้องกันการเกิดได้นะแต่ว่าในบทความของต่างประเทศส่วนใหญ่จะไม่ได้กล่าวถึงส่วนนี้การป้องกันที่ดีที่สุดคือ การรู้จักอาการของโรค และระวังตัวเองอยู่เสมอเมื่อเริ่มสังเกตเห็น Flashing หรือ Floatersก็ควรพบจักษุแพทย์ทันทีเพื่อตรวจให้แน่ใจว่าไม่มีจอประสาทตาหรือวุ้นลูกตาลอกเกิดขึ้นเป็นการป้องกันไม่ให้โรคดำเนินไปถึงจุดที่อันตรายนั่นเอง การเห็นFloater ถือเป็นความผ ิดปกติ นะครับ แต่การที่เพิ่งมองเห็นเป็นครั้งแรกปริมาณไม่มากนักและได้พบจักษุแพทย์เพื่อยืนยันแล้วว่าไม่มีการเกิดจอประสาทตาหรือวุ้นลูกตาลอกเป็นเพียงแค่วุ้นลูกตาเสื่อม นี่คือไม่อันตรายครับ แต่ถ้าเห็นFloaterหรือ Flashing ปริมาณมากขึ้นกว่าเดิมอันนี้ต้องเริ่มสงสัยครับว่าโรคได้ดำเนินต่อไปถึงขั้นที่มีการลอกแล้วหรือเปล่าถ้าปล่อยไว้นานโดยไม่ใส่ใจถึงปริมาณที่เพิ่มขึ้นอยู่ อาจเป็นอันตรายได้ซึ่งต้องรีบพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจครับ การป้องกันปัญหาสุขภาพจากการใช้คอมพิวเตอร์ จากการที่เราๆท่านๆ ต้องทำงานเกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์เวลานานๆ แน่นอนย่อมมีผลเสียกับสุขภาพซึ่งมักจะมีอาการปวดตาและเมื่อยล้าของนัยน์ตาก็คงจะเคยเกิดกับผู้ที่ทำงาน หรือใช้งานคอมพิวเตอร์ ซึ่งจักษุแพทย์ได้พบว่ามีหลายๆสาเหตุที่ทำให้นัยน์ตาต้องเสี่ยงภัยจากเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นผลทำให้เกิดอาการปวดตา ฉะนั้นจึงขอแนะนำการป้องกันปัญหาสุขภาพจากการใช้คอมพิวเตอร์ ดังนี้ 1. นั่งในท่าที่เหมาะสม และห่างจากจอคอมพิวเตอร์ประมาณ 20-30 นิ้ว 2. จอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 20-26 องศา 3.จัดเอกสารที่ต้องใช้ดูประกอบไว้ใกล้กับจอเครื่องคอมพิวเตอร์จะได้ลดการส่ายศีรษะไปมามากและลดการเปลี่ยนระยะการดูของสายตาในระยะที่ต่างกันมาก 4. จัดแสง และแสงสะท้อนจากจอให้ลดลงในระดับที่ตาเรารู้สึกสบาย 5. อย่าให้มีฝุ่นเกาะจอคอมพิวเตอร์ ควรทำความสะอาดเสมอ 6. พักสายตา พักอิริยาบถทุกๆ 20 นาที เพื่อป้องกันตาเมื่อย 7. กะพริบตาบ้าง ถ้ารู้สึกแสบตา หรือใช้น้ำตาเทียมหยดเป็นครั้งคราว 8. จอภาพคอมพิวเตอร์ต้องโฟกัสชัดเจน ตัวหนังสือภาพในจอให้ปรับให้ชัดเสมอ 9. ผู้ที่มีอายุเกิน40 ปี และจำเป็นต้องใช้แว่นอ่านหนังสือ ควรใช้แว่นอ่านหนังสือที่เหมาะสมและไม่ควรใช้แว่น 2 ชั้น หรือแว่นไม่มีชั้นเพราะจะทำให้ต้องเงยหน้าอ่านข้อความในจอตลอดซึ่งจะเป็นสาเหตุให้ปวดต้นคอเพิ่มขึ้น การทำงานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ล้วนแล้วแต่ส่งผลเสียหายให้กับดวงตาของเรา ฉะนั้นนัยน์ตาของคนเรานับว่ามีค่ายิ่งควรแก่การทนุถนอมไว้โดยการหลีกเลี่ยงต้นเหตุ และป้องกันปัญหาสุขภาพไว้ในระหว่างทำงานอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือวิธีการอื่นๆเพื่อช่วยให้ดวงตาอยู่กับเราตราบนานเท่านานตลอดไป หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: guy852 ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 14:08:15 ถ้าเป็นแล้วรักษาได้ไหมครับ?
หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: บอท! ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 14:10:33 พักสายตานี้พักกี่วิ ครับ
หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: คุณป้าขา ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 14:10:42 แงๆๆๆ เหมือนจาเป็นขั้นที่ 1 :P
หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: asshur ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 14:15:04 ความเสี่ยงสูงมากเลย ไอ้คราบดำๆ ลอยไปลอยมา
กับแสงแฟรชนี่เคยเห็นแล้วด้วย หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: tikanaht ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 14:21:57 ช่วงนี้รู้สึกตาแห้งๆ แสบๆ ตาเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: nutthadej ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 14:23:26 ผมกำลังกลุ้มเลยครับเป็นอย่างที่ว่าทั้งหมดเลยตรงกับตัวเองเลย
และเริ่มเป็นมากเมื่อปีสองปีนี้เอง เหมือนมีใยแมงมุมลอยไปมาน่าลำคานอย่างแรง ไม่รู้ว่ารักษาจะหายไหมครับเนี่ย สงสัยต้องไปหาหมอสะแล้ว :-* หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: ~อุอุ~ ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 14:27:35 แงๆๆๆ เหมือนจาเป็นขั้นที่ 1 :P สายตายาวหรือเปล่าครับ mod :Dหัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: kengointer ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 14:28:22 เป็นเหมือนกันเลย อาการนี้มันมักจะมาตอนเล่นคอมติดต่อกันประมาณ 12 ช.ม.
วันนี้หลับ 10 โมงแน่ะ :P หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: win ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 14:33:43 ขอบคุณมากครับ จะได้ระวังตัวไ้ว้
ตอนนี้เวลาจะ scroll หน้าจอ จะหลับตาระยะหนึ่งระหว่าง scroll หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: barbies55 ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 14:40:06 ขอบคุณมากค่ะ ตอนนี้รู้สึกว่าหลายๆอย่างในร่างกายมันเสื่อมถอย(ยกเว้นสมรรถภาพ)
สงสัยจะไม่ได้แก่ตายซะแล้วเรา หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: ฉันไม่มีตัวตน ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 14:47:40 นึกว่าลูกสาวตาเสื่อมข้างบ้าน เลยรีบเข้ามา ;D
หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: win ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 14:56:41 หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: Dezem ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 15:00:52 ช่วงนี้รู้สึกตาแห้งๆ แสบๆ ตาเหมือนกัน ผมก็เริ่มมีอาการนี้เช่นกัน :P ระวังเป็นโรคตาแห้งนะครับ เคยอ่านเจอ ::) อาการก็ประมาณว่า เคืองตา ตาแห้ง ตอนเช้าเวลาตื่นนอนจะลืมตาลำบากและเคืองตา สาเหตุหลักๆ ก็มาจากการใช้สายตานานเกินไป โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ !! ลองซื้อน้ำตาเทียมมาหยอดตาจะช่วยได้ครับ ลองถามเภสัชกรดูนะครับ หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: win ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 15:09:14 สรุปแล้วชาวเสียวกับคอมพ์นี่ต้องระวังดังนี้
1. น้องวุ้น ลูกตาเสื่อม 2. ปวดหลัง แบบคุณล่า 3. เลือดลงขา ไหลเวียนไม่สะดวก 4. เส้นเอ็นข้อมืออักเสบ 5. อ่านกระทู้คาเฟ่มากไปจนขำตายเหมือนสุมาเจียว หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: whitebmw ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 16:20:20 เหอๆ ผมเป็นแล้วครับ เป็นมาประมาณ 7 ปีแล้วมั๊ง ตอนแรกคิดว่าเป็นต้อ พอไปถามพยาบาลเกี่ยวกับตา เค้าบอกว่าวุ้นในตาเสื่อม
เดี๋ยวผมจะลองหาวิธีรักษานะครับ คนที่เป็นแล้วไม่ต้องซีเรียส วงการแพทย์ทุกวันนี้พัฒนาไกลเกินกว่าที่เราคิดครับ หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: ChickenVRs ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 19:07:11 เรียบร้อยล่ะเรา :'(
หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: Finish ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 20:51:46 :P เข้าขั้นแล้วเหมือนกัน
น้ำตาไม่ค่อยจะมี หลับตาแล้วเฟื่อนๆ แสบๆ ตา สงสารตาจัง ตาเสียไปหลายปีแล้ว :P หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: nutthadej ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 21:12:57 สงสัยในนี้เป็นกันหลายคน ;D ผมก็เพิ่งรู้ว่ามันผิดปรกติ ตอนแรกนึกว่าแก่แล้วถึงจะเป็น :P ดันเป็นเยอะด้วย :-X
หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: ~สายลม~ ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 21:24:30 แงๆๆๆ เหมือนจาเป็นขั้นที่ 1 :P เหมือนผมจะเป็นด้วย เหมือนใยดำๆลอยไปมา :o :o หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: ก้ามปู ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 21:26:28 รู้สึกจะเป็นทุกคนละ ถ้ามจำนวนที่ว่าเนี่ย :P
รวมถึงคนที่ไม่ได้เล่นเนตเล่นคอมด้วย :-X หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: RahXephon ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 21:49:51 คิดในแง่ดี เราก็ไม่ได้เป็นโรคนี้คนเดียว มีในบอร์ดเป็นเพื่อนอีกเพียบ :'( :'(
หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: ก้ามปู ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 21:53:49 ผมอาจจะหรือเป็นแล้วก็ไม่รู้ หรือ ;D กำลังเป็น แต่สายตาพร่ามัวมาก เวลาเงยหน้าจะมองไกล ๆ ต้องใช้เวลาปรับสายตาจึงมองเห็น ??? :-X ผมเป็นตั้งแต่เล่มคอมสัปดาละ 3-4 ชั่วโมง หรือพูดง่ายๆคือตั้งแต่ก่อนเล่นคอมครับแบบนั้นอ่ะ ตอนอยู่กลางแดดทีไรเป็นทุกที ;D หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: visavavit ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 21:56:53 ไอ้ตอนอ่านเนี่ย ปวดตาชะมัด ..
หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: pakyaudio ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 23:00:23 ตอนขี่รถกลางคืนลำบากมาก ๆ เหมือนจะมองไม่ค่อยเห็นถนนเลยอ่ะ :P ลำบาก
หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: ~สายลม~ ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 23:07:32 คิดในแง่ดี เราก็ไม่ได้เป็นโรคนี้คนเดียว มีในบอร์ดเป็นเพื่อนอีกเพียบ :'( :'( แบบนี้ต้องมี มิตติ้งครับ :D จัดไปแผนกจักษุแพทย์ รพ ไหนดี ;D ;D หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: tenzamak ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 23:10:21 คิดในแง่ดี เราก็ไม่ได้เป็นโรคนี้คนเดียว มีในบอร์ดเป็นเพื่อนอีกเพียบ :'( :'( แบบนี้ต้องมี มิตติ้งครับ :D จัดไปแผนกจักษุแพทย์ รพ ไหนดี ;D ;D หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: คุณป้าขา ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 23:10:49 คิดในแง่ดี เราก็ไม่ได้เป็นโรคนี้คนเดียว มีในบอร์ดเป็นเพื่อนอีกเพียบ :'( :'( แบบนี้ต้องมี มิตติ้งครับ :D จัดไปแผนกจักษุแพทย์ รพ ไหนดี ;D ;D โอ๊ยย งานนี้ป้าม่ายป๊ายยยยยยยยยยยยยยยยย หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: ~สายลม~ ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 23:15:48 คิดในแง่ดี เราก็ไม่ได้เป็นโรคนี้คนเดียว มีในบอร์ดเป็นเพื่อนอีกเพียบ :'( :'( แบบนี้ต้องมี มิตติ้งครับ :D จัดไปแผนกจักษุแพทย์ รพ ไหนดี ;D ;D โอ๊ยย งานนี้ป้าม่ายป๊ายยยยยยยยยยยยยยยยย มิตติ้ง แนวสุขภาพไงครับ ;D ;D หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: banban ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 23:52:39 เป็นบทความที่มีประโยชน์มากครับ
ตอนนี้ใช้ note book จอ LCD ไม่ค่อยปวดตา แต่พอกลับไปมองจอแบบเก่า จะปวดตาเร็วมากเลย หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: Gu[PoW-HoD] ที่ 27 พฤษภาคม 2008, 23:55:47 ผมอาจจะหรือเป็นแล้วก็ไม่รู้ หรือ ;D กำลังเป็น แต่สายตาพร่ามัวมาก เวลาเงยหน้าจะมองไกล ๆ ต้องใช้เวลาปรับสายตาจึงมองเห็น ??? :-X :'(มีเพื่อนแหะอาการเดียวกันเลย ต้องปรับระยะนานหน่อยกว่าจะมองเห็นไกลๆ แต่ รางกายมันก็แบบนี้ เสือมโทรมตลอดเวลา....ช้าหรือเร็วแค่นั้น ปลง.. :-X หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: whitebmw ที่ 28 พฤษภาคม 2008, 09:32:24 ผมอาจจะหรือเป็นแล้วก็ไม่รู้ หรือ ;D กำลังเป็น แต่สายตาพร่ามัวมาก เวลาเงยหน้าจะมองไกล ๆ ต้องใช้เวลาปรับสายตาจึงมองเห็น ??? :-X :'(มีเพื่อนแหะอาการเดียวกันเลย ต้องปรับระยะนานหน่อยกว่าจะมองเห็นไกลๆ แต่ รางกายมันก็แบบนี้ เสือมโทรมตลอดเวลา....ช้าหรือเร็วแค่นั้น ปลง.. :-X ยกมือเข้าสมาคมด้วยคนครับ แล้วก็ตอนเย็นๆค่ำๆ จะพร่าๆ เหมือนคนเพิ่งตื่นอะไรทำนองนั้น หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: sabb ที่ 29 พฤษภาคม 2008, 03:23:26 เป็นอยู่เหมือนกันไม่ได้รู้สึกรำคาญอะไร ไปตรวจกับหมอ หมอตรวจละเอียดบอกว่าไม่เป็นไร :)
หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: tonnum ที่ 13 กรกฎาคม 2008, 10:09:41 สงสัยจะขั้นที่ 1 :P
หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: donut ที่ 13 กรกฎาคม 2008, 10:16:56 ไม่เกี่ยวนะครับ กับการใช้คอม
โค๊ด: http://thaifittips.com/blog/?p=161 เกิดจากเมื่อมีอายุมากขึ้นโมเลกุลของกรด hyaluronicเริ่มแตกสลาย และทำให้น้ำแตกตัวออกมาต่างหากครับ ยืนยันครับ ไม่เกี่ยวกับการใช้คอม เอาข้อมูลอีกแหล่งหนึ่งมายืนยัน โค๊ด:
หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: forever ที่ 13 กรกฎาคม 2008, 10:49:14 ผม ใกล้จะเป็นแล้ว มั่งเนีย
หัวข้อ: Re: วุ้นลูกตาเสื่อม (Vitreous degeneration) เริ่มหัวข้อโดย: I~Beau ที่ 13 กรกฎาคม 2008, 11:51:20 ไม่ว่าจากสาเหตุไหน
ตอนนี้ก็เกือบระยะสุดท้ายล่ะ :P :P :P |